นางสาวสุรางค์ มงคลอารีย์พงษ์ (กลาง) ผู้บริหารสูงสุดสายงานบริหารช่องทางการขาย “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) นำทีมบริหารจัดงานสัมมนาใหญ่ปี 2023 "Work Life Harmony เสริมไอที สุขภาพดี พลิกชีวีให้ดีขึ้น" ให้กับผู้แนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินเคทีซี (อิสระ) ที่ผ่านการคัดเลือกจากทั่วประเทศรวมกว่า 300 คน โดยในงานมี 2 วิทยากรที่มาแชร์ความรู้และประสบการณ์ทางด้านดิจิทัลและการมีสุขภาพที่ดี “ครูทิป” มัณฑิตา จินดา (ที่ 2 จากซ้าย) ร่วมพูดคุยในหัวข้อ "อัพสกิลดิจิทัล แบบไม่ตกเทรนด์กับครูทิป" และ “หมอเพื่อน” แพทย์หญิงกอบกุลยา จึงประเสริฐศรี (ที่ 2 จากขวา) แบ่งปันความรู้ในหัวข้อ "สมดุลชีวิตสร้างได้ด้วยตัวเรา" ณ โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค สุขุมวิท 22 เมื่อเร็วๆ นี้

ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีการคาดการณ์ว่าจะขยายตัวเฉลี่ยปีละ 13% ในช่วงปี 2022 - 2025 จนมีมูลค่าราว 32,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ ก้าวเข้าสู่โลกอีคอมเมิร์ซเพื่อหาโอกาสใหม่ ๆ ทั้งยังมีผู้ประกอบการรายใหม่เกิดขึ้นมากมาย ทั้งนี้ ผู้ค้าออนไลน์รายใหม่อาจจะยังขาดความรู้และประสบการณ์ ทั้งด้านการบริหารร้านค้าออนไลน์ การคำนวณต้นทุน การตั้งราคาขาย การบริหารคลังสินค้า และความรู้ด้านภาษี แม้ขายดีก็อาจจะขาดทุนได้

ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ Sea (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มชั้นนำ ได้แก่ การีนา (Garena) ช้อปปี้ (Shopee) และซีมันนี่ (SeaMoney) จึงผสานความเชี่ยวชาญ จัดทำวิดีโอสั้น (video series) ชุด ‘Smart E-commerce Entrepreneur’ จำนวน 5 ตอน เพื่อเติมเต็มความรู้ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการออนไลน์ ผ่านเนื้อหาที่ถูกย่อยให้กระชับ เข้าใจง่าย และนำไปใช้ได้จริง ทั้งด้าน ‘การทำธุรกิจบนอีคอมเมิร์ซ’ และ ‘การเงินเพื่อธุรกิจออนไลน์’ (Financial literacy for online sellers)

นางพรรณวดี ลดาวัลย์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ โดยมุ่งมั่นพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน ภายใต้วิสัยทัศน์ “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone” โดยภารกิจหนึ่งที่สำคัญในด้านการส่งเสริมความรู้ผู้ประกอบการ คือ การพัฒนาองค์ความรู้และทักษะความเป็นผู้ประกอบการ ตลอดจนการเผยแพร่ความรู้เหล่านี้ไปยังกลุ่มเป้าหมาย ภายใต้แบรนด์ “ห้องเรียนผู้ประกอบการ” ผ่านสื่อความรู้ดิจิทัล e-Learning คลิปความรู้ วีดีโอซีรีส์ บทความและ Infographic กว่า 600 ชิ้น ซึ่งการได้ร่วมมือกับ Sea (ประเทศไทย) ในครั้งนี้ จะเป็นการผนึกกำลังความแข็งแกร่งของแต่ละองค์กร มาต่อยอดและขยายผลไปยังกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการออนไลน์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง”

ดร.ศรุต วานิชพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส Sea (ประเทศไทย) กล่าวถึงการยกระดับความสามารถผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ (Shopee) ว่า “การเริ่มทำธุรกิจบนอีคอมเมิร์ซเป็นเรื่องง่าย ทั้งยังใช้ต้นทุนต่ำ ทำให้คนไทยหันมาเป็นผู้ประกอบการออนไลน์กันมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้น Sea (ประเทศไทย) และช้อปปี้ (Shopee) ซึ่งเป็นธุรกิจ อีคอมเมิร์ซภายในเครือ จึงมุ่งให้ความรู้และส่งเสริมทักษะผู้ประกอบการให้กับผู้ค้าช้อปปี้มาโดยตลอด ปฏิเสธไม่ได้ว่า การทำธุรกิจในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง และผู้ค้ารายใหม่อาจจะยังขาดความรู้ โดยเฉพาะในด้านการจัดการร้านค้า การคำนวณและบริหารต้นทุน การตั้งราคา การบริหารคลังสินค้า และภาษี ดังนั้น การร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้ จึงเป็นการผสานความเชี่ยวชาญ เพื่อตอบโจทย์ Pain Point ของผู้ประกอบการออนไลน์อย่างแท้จริง”

เนื้อหา 5 ตอน ประกอบไปด้วย

· EP1 โอกาสการขายผ่าน e-commerce

· EP2 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ประสบความสำเร็จ

· EP3 ตั้งราคาสินค้าอย่างไรให้เหมาะสมและไม่ขาดทุน

· EP4 จัดการ Stock สินค้าให้ดีทุนไม่จม

· EP5 ขายออนไลน์ต้องรู้ เสียภาษีอย่างไร

ผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปที่มีความสนใจ สามารถรับชม วิดีโอสั้นชุด ‘Smart E-commerce Entrepreneur’ ทั้ง 5 ตอน ได้ทาง Shopee University, SeaAcademy.co และ LiVE Platform by SET

 ธุรกิจ Business Analytics & Development บริษัท เอ้ก ดิจิทัล ให้บริการโซลูชันที่ปรึกษาด้านข้อมูลและวิเคราะห์บิ๊กดาต้าครบวงจรที่ขับเคลื่อนด้วย AI “Business Analytics as a Service - Powered by AI Engine” รุกชิงส่วนแบ่งตลาดบิ๊กดาต้ามูลค่า 14,000 ล้าน เดินหน้าให้บริการใน 5 อุตสาหกรรมหลัก “ค้าปลีก-ธุรกิจสื่อ-การเงิน-ประกัน-ยานยนต์” ซึ่ง Data Science และเทคโนโลยี AI, Machine Learning ขั้นสูงของ EGG Digital จะเป็นขุมพลังที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรธุรกิจนั้นๆ อย่างตรงจุด โดยพร้อมดูแลและจัดการข้อมูลได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ มอบบริการแบบ End-to-End มีความยืดหยุ่นสูง วางแผน กำหนดกลยุทธ์ และออกแบบจัดการข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงลึกได้หลากหลายมิติ ตอบอินไซต์และการดำเนินงานตามโจทย์ทางธุรกิจ เสริมศักยภาพความแข็งแกร่งการแข่งขันให้กับองค์กรต่างๆ ช่วยเพิ่มรายได้-ลดต้นทุน-ลดความเสี่ยง โดย EGG Digital ตั้งเป้ารายได้เติบโตก้าวกระโดด 30% ในปี 2566 นี้

 

นายวรภัทร งามเจตวรกุล ผู้จัดการทั่วไปธุรกิจ Business Analytics & Development บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “ธุรกิจยุคใหม่ต่างหันมาให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลและมีความต้องการขับเคลื่อนธุรกิจด้วย Data-Driven Analytics โดยใช้ประโยชน์จากบิ๊กดาต้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเอ้ก ดิจิทัล ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์เชิงลึกจากข้อมูลขนาดใหญ่และ ผู้ให้บริการที่ปรึกษาทางธุรกิจ ได้นำเสนอบริการให้คำปรึกษาด้านข้อมูลและวิเคราะห์บิ๊กดาต้าครบวงจรที่ขับเคลื่อนด้วย AI หรือ Business Analytics as a Service - Powered by AI Engine เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจตลอดเส้นทางให้กับองค์กรธุรกิจ เพิ่มรายได้ ลดต้นทุน และลดความเสี่ยง โดยที่ผ่านมาเอ้ก ดิจิทัล ได้เข้าไปช่วยจัดการข้อมูลในด้านต่าง ๆ ให้กับหลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจรีเทลชั้นนำขนาดใหญ่ และ FMCG รวมกว่า 200 แบรนด์ ซึ่งเราได้นำผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีขั้นสูงเข้าไปช่วยจัดการกับข้อมูล พร้อมสร้างคุณค่าในหลากหลายมิติ อาทิ เพิ่มอัตราเติบโตเฉลี่ย (Growth), อัตราส่วนยอดขายต่อค่าใช้จ่าย (Sales to Cost Ratio), ค่าเฉลี่ยอัตราตอบรับการตลาดจากลูกค้า (Conversion) ให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”

ธุรกิจ Business Analytics & Development ภายใต้เอ้ก ดิจิทัล ดำเนินงานโดยวางจุดยืนเป็นพาร์ทเนอร์คู่คิดของทุกธุรกิจในทุกสเกล มีบริการครอบคลุมทั้งด้านให้คำปรึกษาทางธุรกิจ (Business Consult) และด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) โดยใช้หลักการ “Always-on Power of Two” เป็นหัวใจสำคัญในการให้บริการคือ ผสานความเข้าใจ การวิเคราะห์ บริบททางธุรกิจ (Business Context) และการใช้ศาสตร์ด้านข้อมูลขั้นสูง (Advanced Data Science) ทั้ง Cloud Computing, AI ซึ่งรวมถึงการใช้ Generative AI, และ Machine Learning ที่สามารถออกแบบบริการและ Customize ให้ตอบโจทย์แต่ละธุรกิจอย่างเหมาะสมด้วยรูปแบบ Business Analytics as a Service - Powered by AI Engine พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญดูแลแบบ End-to-End ตั้งแต่การสำรวจปัญหาและความต้องการ นำดาต้าของลูกค้าผนวกกับบิ๊กดาต้าของเอ้ก ดิจิทัล เพื่อวิเคราะห์เชิงลึกเป็นอินไซต์ทางธุรกิจ รวมถึงสามารถออกแบบกลยุทธ์และข้อเสนอแนะที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวกที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าด้วยอัตราค่าบริการที่เหมาะสม

โดยบริการ Business Analytics as a Service – Powered by AI Engine ของเอ้ก ดิจิทัล ประกอบด้วย 5 บริการหลัก ได้แก่ 1. Data Management as a Service – บริการดูแลจัดการข้อมูลครบวงจร (Data Discovery, Cleansing, Consolidation, Cloud, Query, Visualization) 2. Data Platform & Enrichment as a Service – บริการ Data Mart, Customer Data Platform (CDP),

Analytics Platform ทั้งแบบมาตรฐานและแบบ customize, Data Enrichment บริการข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์รอบด้าน (Customer 360/720 องศา) 3. Data Analytics as a Service – บริการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกทุกมิติ ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน เชิงบรรยาย (Descriptive), เชิงการพยากรณ์แนวโน้ม (Predictive), และขั้นสูงแบบให้คำแนะนำ เชิงการประมวลฉากทัศน์และผลลัพธ์ในแง่มุมต่าง ๆ (Prescriptive) ด้วยเทคโนโลยี AI และ ML 4. Business Consulting as a Service – บริการให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีข้อมูลที่เชื่อมโยงกับกลยุทธ์และการดำเนินธุรกิจโดยผู้ที่มีประสบการณ์ตรงกับธุรกิจต่าง ๆ 5. Customer Experience Enhancement as a Service – บริการให้คำปรึกษา วางแผนกลยุทธ์ และดำเนินการด้านการพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า (CX/CI) รวมถึงเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และ Touchpoints ต่าง ๆ

 

นายวรภัทร กล่าวต่อว่า “จากผลสำรวจพบว่า ตลาด Big Data Analytics มีอัตราการเติบโต 12-15% ต่อปี* โดยคาดการณ์ว่า ในปีนี้ตลาดจะมีมูลค่าประมาณกว่า 14,000 ล้านบาท ซึ่งมองว่า ตลาดบิ๊กดาต้าในประเทศไทยยังมีโอกาสทางการตลาดอยู่อีกมาก เมื่อเทียบกับตลาดในเอเชียและตลาดโลก ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนที่จะขยายการให้บริการในธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น โดยมุ่งเป้าไปที่ 5 ธุรกิจหลักที่มีความต้องการใช้บิ๊กดาต้าในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมาก ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก หลังจากช่วงโควิด-19 ธุรกิจรีเทลแบบออฟไลน์เริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้น การใช้บิ๊กดาต้าจะเข้าไปช่วยกำหนดโมเดลทางการตลาดไม่ว่าจะเป็น 4Rs (Recognize, Remember, Recommend, Relevance) และ 4Ps เพื่อทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง ตอบอินไซต์ผู้บริโภคได้มากขึ้น ธุรกิจสื่อ กลับมาฟื้นตัวได้อย่างน่าสนใจโดยเฉพาะการใช้สื่อแบบ O2O2O ที่เกิดจากการวิเคราะห์ บิ๊กดาต้าและวัดผลการใช้สื่อได้อย่างครบลูป ธุรกิจการเงิน มีการนำบิ๊กดาต้ามาใช้มากที่สุดผ่าน FinTech อาทิ การวิเคราะห์ Credit Scoring และการประมวลผลเพื่อการดำเนินงานที่ดีที่สุด พร้อมทั้งการลดความเสี่ยงของธนาคารและสถาบันการเงิน เพื่อธุรกิจรายย่อยจนถึงรายใหญ่ ธุรกิจประกัน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างโดดเด่น มีการนำบิ๊กดาต้ามาใช้เพื่อนำเสนอบริการและเบี้ยประกันที่หลากหลาย ตรงตามพฤติกรรมลูกค้ากรมธรรม์ที่เปลี่ยนไปได้อย่างดี และธุรกิจยานยนต์ ซึ่งคำนึงถึงการมอบประสบการณ์ตั้งแต่ก่อนขาย ระหว่างการขาย และหลังการขายด้วยการใช้บิ๊กดาต้า”

“บริษัทฯ มั่นใจว่าบริการ Business Analytics as a Service - Powered by AI Engine จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพลิกธุรกิจลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ สู่ Data-driven เพื่อสามารถเพิ่มยอดขาย ลดค่าใช้จ่าย และลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ โดยบริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลข้อมูลของลูกค้าด้วยมาตรฐาน 3 ชั้น เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าข้อมูลจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีที่สุด ทั้งการกำกับดูแลข้อมูลภายในให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับสูง การกำกับดูแลข้อมูลตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พรบ. การแข่งขันทางการค้า และมาตรฐานทางกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและสถาปัตยกรรมขั้นสูงเพื่อป้องกันการรั่วไหลและรักษาความปลอดภัยของข้อมูล โดยตั้งเป้าปีนี้ เพิ่มรายได้ธุรกิจ Business Analytics & Development เติบโต 30% ปีนี้ ขยายจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 10% และช่วยดันตลาดบิ๊กดาต้าไทยเติบโตต่อเนื่อง” นายวรภัทร กล่าวทิ้งท้าย

 

ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประชาสัมพันธ์แนวทางการอนุญาตให้จัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ที่คาดว่าจะเริ่มให้บริการในปี 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของลูกค้าบุคคลและธุรกิจรายย่อย หลายๆ ท่านอาจสงสัยว่า ลูกค้ารายย่อยที่ธนาคารแบบดั้งเดิมยังไม่ให้กู้ แล้วธนาคารไร้สาขาที่ไม่รู้จักลูกค้าเลยจะให้กู้ได้อย่างไร

เงื่อนไขหนึ่งในหลักเกณฑ์การขอจัดตั้ง Virtual Bank คือ ความสามารถในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่หลากหลาย โดยวิธีการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวต้องชัดเจนและเป็นไปได้ เราจะเห็นผู้ที่มีข้อมูลลูกค้าจำนวนมาก มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี จับมือกับสถาบันการเงิน ลงมาเล่นในสนามนี้ เพื่อให้บริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ทุกฝ่าย โดยทำการพิจารณาความน่าเชื่อถือของผู้ขอกู้เงินผ่านปัจจัยแวดล้อมที่สะท้อนแบบแผนการดำเนินชีวิต หรือเรียกว่าข้อมูลทางเลือก (Alternative data) เช่นความสม่ำเสมอในการชำระค่าโทรศัพท์ พฤติกรรมและประเภทของสินค้าที่ซื้อบ่อย หรือการใช้แบบสอบถามด้านจิตวิทยา (Psychometrics)

แบบสอบถามด้านทางจิตวิทยา เป็นชุดคำถามที่ค้นหาพฤติกรรมทางการเงินจากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การตัดสินใจด้านการเงิน ความยับยั้งช่างใจในการจำกัดรายจ่าย คำถามเกี่ยวกับวินัยในการใช้ชีวิตและการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความวิตกกังวล โดยแบบสอบถามดังกล่าวจะต้องพิจารณาปัจจัยด้านสังคมและวัฒนธรรมต่างๆ เพื่อเฟ้นหาลักษณะนิสัยที่บ่งชี้พฤติกรรมการชำระหนี้ได้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด

มีการศึกษาในประเทศมองโกเลียที่ให้ผู้เข้าร่วมการศึกษาพิจารณาภาพโต๊ะทำงานต่างๆ ตั้งแต่โต๊ะทำงานที่มีข้าวของรกมาก จนถึงโต๊ะทำงานที่เป็นระเบียบ ผู้เข้าร่วมการทดลองต้องตอบคำถามว่า ท่านสามารถปล่อยให้โต๊ะทำงานของท่านรกถึงระดับใด ก่อนทำการลุกขึ้นมาจัดระเบียบ ผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่ชอบความเป็นระเบียบของโต๊ะ มักจะมีวินัยทางการเงินที่ดีกว่าผู้ที่ตอบว่าสามารถปล่อยให้โต๊ะทำงานรกได้มากกว่า หรืออีกการศึกษาหนึ่ง

ในรัฐอุตตรประเทศและรัฐมหาราษฏระของประเทศอินเดียพบว่า ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีพฤติกรรมวัตถุนิยมมักจะมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้สูงกว่าปกติอย่างมีนัยสำคัญ

จุดอ่อนที่ธนาคารควรระวังในการอาศัยแบบสอบถามด้านทางจิตวิทยาเพียงอย่างเดียวคือผู้ตอบแบบสอบถามอาจจะเลือกตอบแบบสอบถามเข้าข้างตัวเอง โดยประเมินวินัยของตนเองดีกว่าความเป็นจริง ซึ่งธนาคารมีแนวโน้มที่จะชื่นชอบคุณสมบัติดังกล่าวและพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น หรือผู้ตอบแบบสอบถามอาจจะตอบตามสิ่งที่คิดว่าเป็นคำตอบที่ดูดี ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองเป็นจริงๆ

วิธีหนึ่งในการปิดจุดอ่อนนี้คือการทำการทดสอบซ้ำเพื่อค้นหาความคงเส้นคงวาและอาจจะพิจารณานำข้อมูลทางเลือก มาใช้ประกอบกับข้อมูลทางด้านจิตวิทยา เพื่อให้ผลการประเมินที่ได้ครอบคลุมในหลายมิติและสะท้อนพฤติกรรมตัวบุคคลออกมาดียิ่งขึ้น เช่น สถาบันการเงินแห่งหนี่งในประเทศแคนาดาพบว่าลูกค้าที่นำบัตรเครดิตไปซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด พรมกันลื่น หรืออุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยในบ้านในสัดส่วนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยและมีการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง มักจะมีพฤติกรรมการชำระเงินที่ดีกว่าลูกค้าที่มักนำบัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยในสัดส่วนที่สูง

อีกการศึกษาหนึ่งในประเทศจีนพบว่า ผู้ที่เป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือที่เปิดมานานและมีการโทรหาครอบครัวอย่างสม่ำเสมอมีความสัมพันธ์กับการจ่ายชำระหนี้ที่ดีกว่าบุคคลทั่วไป นอกจากนั้นอาจจะมีการพิจารณาจากประวัติการชำระค่าบริการและสาธารณูปโภคประกอบด้วย

นักวิจัยในเมืองบันดุง ประเทศอินโดนีเซีย พบว่าการนำข้อมูลโซเชียลมีเดียมาใช้พยากรณ์ความน่าเชื่อถือของลูกหนี้ สามารถเพิ่มความแม่นยำของแบบจำลองได้ถึงร้อยละ 7 ปัจจัยที่น่าสนใจจากการศึกษานี้คือ ผู้ที่โพสโซเชียลมีเดียบ่อยมักมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้สูงกว่าปกติ แต่ผู้ที่เปิดบัญชีโซเชียลมีเดียมานาน จะมีโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำกว่าปกติปัจจุบันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้อนุญาตให้สถาบันการเงินบางรายให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและข้อมูลทางเลือก มาใช้ในการให้บริการสินเชื่อในขั้นตอนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาสินเชื่อแล้ว ดังนั้น Virtual Bank ซึ่งถือเป็น “ธนาคารดิจิทัลพันธุ์แท้” ที่มีข้อมูลพร้อมในมือทั้งจากตัวธนาคารเองและพันธมิตรต่างๆ ย่อมที่จะหันมาใช้ทั้งข้อมูลทางเลือกและข้อมูลทางด้านจิตวิทยาควบคู่กันเป็นหัวใจหลักในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่ออย่างแน่นอน

ธนาคารจึงควรสื่อสารถึงความโปร่งใสในการจัดเก็บและนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อให้ผู้ใช้งานเกิดความสบายใจว่าการพิจารณาสินเชื่อยังเป็นไปอย่างยุติธรรมตามกรอบการบริหารความเสี่ยงที่ดี อีกทั้งข้อมูลที่นำมาใช้จะต้องเป็นข้อมูลที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลเท่านั้น ในขณะที่สำหรับผู้กู้รายย่อย การมีเครดิตที่ดีอาจไม่ได้หมายถึงการมีรายได้หรือหลักประกันจำนวนมากอีกต่อไป แต่อาจเป็นเพียงการปรับพฤติกรรมเล็กน้อยในชีวิตประจำวันของท่านอยู่แล้วเท่านั้นเอง

ศรัณย์  บุญชลากุลโกศล

ผู้อำนวยการ ที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางกาารเงิน / ดีลอยท์  ประเทศไทย

 

 

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย มุ่งสร้างอนาคตเด็กไทยด้วยทักษะความรู้และภูมิคุ้มกันด้านการเงินให้กับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษา ผ่านหลักสูตรการเงินออนไลน์ “UOB Money 101: Teen Edition วัยรุ่นเก่งการเงิน” โดยร่วมกับโครงการร้อยพลังการศึกษา ดำเนินงานมาแล้ว 2 ปีนับตั้งแต่ปี 2564 มีนักเรียนมากกว่า 2,300 คน จาก 39 โรงเรียน ได้เข้าเรียนและรับความรู้เรื่องการเงินจากหลักสูตรการเงินทั้งจากห้องเรียนออนไลน์และห้องเรียนในโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมเดินหน้าสานต่อในปี 2566

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีพิธีมอบเกียรติบัตรให้กับตัวแทนคุณครูและนักเรียนที่จบหลักสูตร UOB Money 101: Teen Edition วัยรุ่นเก่งการเงิน ปีการศึกษา 2565 ทั้งสิ้น 1,223 คน ณ อาคารยูโอบี พลาซา กรุงเทพ สำนักงานใหญ่ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย โดยมีผู้บริหารจากธนาคารยูโอบี ประเทศไทยและพันธมิตรโครงการเข้าร่วมในงาน

หลักสูตรการเงินออนไลน์ UOB Money 101: Teen Edition วัยรุ่นเก่งการเงิน ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นสำหรับเยาวชนโดยเฉพาะจากสถาบันความรู้การเงินมันนี่คลาส เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้วิธีจัดการเงินให้มีประสิทธิภาพ และเข้าใจถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถเริ่มต้นวางแผนและตั้งเป้าหมายการเงินได้ตั้งแต่วัยรุ่น โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ UOB My Digital Space ซึ่งมีแผนดำเนินโครงการในระยะยาวเพื่อลดช่องว่างทางการศึกษาของเด็กที่ด้อยโอกาสทั่วทั้งภูมิภาคให้เข้าถึงโอกาสในการเรียนรู้ผ่านช่องทางดิจิทัล และเชื่อมโยงพวกเขาสู่โลกแห่งโอกาสการเรียนรู้ดิจิทัล

Page 1 of 5
X

Right Click

No right click