ซีพี แอ็กซ์ตร้า” ผู้นำในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก เตรียมเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 4 รุ่น อายุ 1 ปี 6 เดือน ถึงอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยเบื้องต้นระหว่าง 3.00-3.95% ต่อปี โดยเสนอขายเป็นครั้งแรกให้กับประชาชนทั่วไป ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 8 แห่ง และช่องทางทรู มันนี่ วอลเล็ต คาดว่าจะเสนอขายในระหว่างวันที่ 8 และ 11-12 กันยายน 2566 เผยจุดเด่นหุ้นกู้ นอกจากจะออกและเสนอขายโดยบริษัทที่เป็นผู้นำในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ที่มีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคเอเชียแล้ว หุ้นกู้ยังได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A+” แนวโน้ม “บวก” (Positive) จากทริสเรทติ้ง สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจและผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมกว่า 2.41 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.17 หมื่นล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนที่แสวงหาหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ มีโอกาสเติบโต ภายใต้ความเสี่ยงของหุ้นกู้เพียงระดับ 3

นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโครและประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่งภายใต้ชื่อ “แม็คโคร” (Makro) และธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าภายใต้ชื่อ “โลตัส” (Lotus’s) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้รุ่นอายุ 1 ปี 6 เดือน รุ่นอายุ 3 ปี รุ่นอายุ 5 ปี และรุ่นอายุ 7 ปี กำหนดอัตราดอกเบี้ยระหว่าง 3.00-3.95% ต่อปี ซึ่งจะแจ้งอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนอีกครั้ง โดยจะเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 8 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารยูโอบี และ บล.เกียรตินาคินภัทร รวมถึงเสนอขายผ่านช่องทาง ทรูมันนี่ วอลเล็ต คาดว่าจะเสนอขายได้ในระหว่างวันที่ 8 และ 11-12 กันยายน 2566

ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ “A+” เช่นเดียวกับอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรที่ระดับ “A+” แนวโน้ม “บวก” (Positive) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 สะท้อนสถานะของบริษัทฯ ในการเป็นบริษัทย่อยหลัก (Core Subsidiary) ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) และการเป็นผู้นำในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ด้วยความแข็งแกร่งของผลการดำเนินงานที่ฐานรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 (มกราคม-มิถุนายน 2566) บริษัทฯ มีรายได้รวม 241,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,746 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากธุรกิจค้าส่งแม็คโคร 130,875 ล้านบาท และธุรกิจค้าปลีกโลตัส 110,959 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 3,682 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (Core Net Profit) ที่ไม่รวมรายการพิเศษในครึ่งแรกของปี 2566 อยู่ที่ 3,781 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

“การเติบโตในครึ่งปีแรกของปี 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเดินหน้าขยายสาขาและเพิ่มประสิทธิภาพแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ รวมถึงการผสานช่องทางการขายออนไลน์และสาขาอย่างไร้รอยต่อ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ

ยังมีเป้าหมายในการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งในระดับภูมิภาคเอเชีย รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ (Omni channel) ภายใต้การดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักบรรษัทภิบาล เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเชื่อว่าด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้จะทำให้หุ้นกู้ของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนที่แสวงหาหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ภายใต้ความเสี่ยงของหุ้นกู้เพียงระดับ 3 (ต่ำสุดอยู่ที่ระดับ 1 สูงสุดระดับ 8) และธุรกิจมีศักยภาพในการเติบโตสูง” นางเสาวลักษณ์กล่าว

ทั้งนี้ ธุรกิจของ บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า ในปัจจุบัน แบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจค้าส่ง ภายใต้ชื่อ “แม็คโคร” (Makro) ในประเทศไทยและอีกหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้แก่ลูกค้าผู้ประกอบการมืออาชีพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้แก่ ร้านค้าปลีกรายย่อย กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และจัดเลี้ยง (HoReCa) ตลอดจนกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระและสถาบันต่างๆ ธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าภายใต้ชื่อ “โลตัส” (Lotus’s) ในประเทศไทยและมาเลเซีย โดยบริษัทฯ มุ่งที่จะเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งอาหารสดและสินค้าอุปโภคบริโภคในระดับภูมิภาคในเอเชีย และขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้ ด้วยช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายทั้งในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ (Omni channel) นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพของร้านค้า ต่อยอดธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และการปรับโฉมร้านค้าแบบไฮบริดซึ่งดึงจุดเด่นของ 2 กลุ่มธุรกิจค้าส่งค้าปลีกแบบไร้รอยต่อ เพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

นอกจากนี้ บมจ. ซีพี แอ็กซ์ตร้า ยังได้รับคัดเลือกให้ติดอันดับบริษัทด้านความยั่งยืน โดยเข้าเป็นสมาชิกของดัชนี S&P Global The Sustainability Yearbook 2023 ในกลุ่ม Food & Staples Retailing ซึ่งเป็นดัชนีชั้นนำของโลกที่ใช้วัดผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอกย้ำการเป็นบริษัทที่มุ่งสร้างการเติบโตไปพร้อมกับคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการจากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัท (IOD) ในระดับ 5 ดาวหรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Score) ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 อีกด้วย

ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ซีพี แอ็กซ์ตร้า สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Bualuang mBanking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)* โทร. 02-888-8888 กด 819 หรือจองซื้อผ่านเว็บไซต์ K-My Invest (www.kasikornbank.com/kmyinvest) สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โทร. 1572 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Krungsri Mobile App (“KMA”) สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)** โทร. 02-777-6784 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น SCB EASY สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Krungthai NEXT สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) โทร. 02-285-1555

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร.02-626-7777 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น CIMB Thai Digital Banking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)*** โทร. 02-165-5555 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Dime! สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

* ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

** ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

***ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)

นอกจากนี้ ผู้ลงทุนยังสามารถจองซื้อหุ้นกู้ “ซีพี แอ็กซ์ตร้า” ผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่ วอลเล็ท ได้อีกด้วย โดยสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ท ได้ที่ App Store และ Play Store ดูรายละเอียดวิธีการสมัครแอปฯ และวิธีการจองซื้อได้ที่ www.truemoney.com หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 1240 กด 6

 

สิงหา 2566

 บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ 2 รุ่น ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ได้แก่ รุ่นอายุ 1 ปี 10 เดือน 5 วัน อัตราดอกเบี้ย [4.50 - 4.70]% ต่อปี และรุ่นอายุ 2 ปี 10 เดือน 5 วัน อัตราดอกเบี้ย [5.70 – 5.90]% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน

คาดเปิดจองระหว่างวันที่ [7 – 9] มีนาคม 2566 โดยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในกลุ่ม “ระดับลงทุน” จากทริสเรทติ้ง ที่ระดับ “BBB-” พร้อมแต่งตั้ง 7 สถาบันการเงินเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย ประกอบด้วย ธ.กรุงไทย ธ.กสิกรไทย ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย บล.เอเซีย พลัส บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง บล.ดาโอ (ประเทศไทย) และบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ทริสเรทติ้งเผยอันดับเครดิตสะท้อนสถานะทางการตลาดของบริษัทฯ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในกลุ่มสินค้าคอนโดมิเนียม ตลอดจนสัดส่วนรายได้ที่มีนัยสำคัญจากโครงการร่วมทุน ด้านผู้บริหารมั่นใจหุ้นกู้ได้รับการตอบรับ หลังธุรกิจอสังหาฯ รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศของจีนส่งผลให้กำลังซื้อกลับมาคึกคัก

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นข้อมูลเพื่อเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 1 ปี 10 เดือน 5 วัน อัตราดอกเบี้ย [4.50 - 4.70]% ต่อปี และรุ่นอายุ 2 ปี 10 เดือน 5 วัน อัตราดอกเบี้ย [5.70 - 5.90]% ต่อปี โดยบริษัทฯ จะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนให้ทราบอีกครั้ง กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน (เว้นแต่ดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะมีระยะเวลา 1 เดือน 5 วัน) ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 ที่ระดับ “BBB-” และมีแนวโน้ม “คงที่” (Stable) เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กร

หุ้นกู้ชุดดังกล่าวจะเสนอขายผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 7 แห่งที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โดยคาดว่าจะเสนอขายในระหว่างวันที่ [7 - 9] มีนาคม 2566

บริษัทฯ มั่นใจว่า หุ้นกู้ ‘อนันดา’ จะยังคงได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากอันดับความน่าเชื่อถือจากทริสเรทติ้งในระดับลงทุน (Investment grade) รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่จูงใจ ตลอดจนอายุของหุ้นกู้ที่ไม่ยาวเกินไป และส่วนสำคัญที่ทำให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้นมาจากแนวโน้มของธุรกิจ ซึ่งในขณะนี้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวโดยมีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าปี 2565 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากรัฐบาลจีนตัดสินใจเปิดประเทศเร็วกว่าที่คาดไว้ ทำให้คาดว่าจะมีชาวจีนเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้น และส่งผลให้กำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มลูกค้าต่างชาติจะเริ่มกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ความต้องการที่อยู่อาศัยของลูกค้าคนไทยยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อนันดาฯ กล่าว

ขณะที่ทริสเรทติ้ง ระบุว่า อันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้สะท้อนถึงสถานะทางการตลาดของบริษัทฯ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในกลุ่มสินค้าคอนโดมิเนียม ตลอดจนสัดส่วนรายได้ที่มีนัยสำคัญจากโครงการร่วมทุน โดยทริสเรทติ้งคาดว่า ในช่วงปี 2566 - 2568 กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ซึ่งรวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากโครงการร่วมทุนน่าจะอยู่ที่ระดับ 1.5-2.0 พันล้านบาทต่อปี และบริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป

อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยโครงการคอนโดมิเนียมจะเน้นพัฒนาบนทำเลศักยภาพใกล้สถานีรถไฟฟ้า เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของผู้พักอาศัย ส่วนโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม เน้นแนวคิดและการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในเซกเม้นท์ต่างๆ โดยในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค. - ก.ย. 2565) บริษัทฯ มียอดโอนทั้งสิ้น 9,306 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อประสบการณ์การทำงานของอนันดาฯ ที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าคนเมืองทั้งตลาดคอนโดมิเนียมและแนวราบในเมืองได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้อนันดาฯ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 7 แห่ง ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดังนี้

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-888-8888 ต่อ 819 โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่านhttps://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน CIMB Thai Digital Banking

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร. 02-695-5000

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-351-1800 กด 1

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-56

X

Right Click

No right click