

ธนาคารออมสิน ครองแชมป์ธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยแห่งปี 2568 Best Retail Bank of the Year 2025 ควบธนาคารยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อบุคคล ธนาคารยอดเยี่ยมด้านเงินฝาก และธนาคารที่มีความโดดเด่นด้าน ESG, ธอส.- ธนาคารยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อบ้าน, ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม - ธนาคารยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อเอสเอ็มอี, ธนาคารกสิกรไทย - ธนาคารยอดเยี่ยมด้านบัตรเครดิต และธนาคารที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมทางการเงิน, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา - ธนาคารยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อรถและสินเชื่อจำนำทะเบียน, บมจ.ไทยประกันชีวิต - บริษัทยอดเยี่ยมด้านประกันชีวิต, บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต - บริษัทยอดเยี่ยมด้านประกันสุขภาพ, บมจ.ทิพยประกันภัย - บริษัทยอดเยี่ยมด้านประกันวินาศภัย, KPLUS - แอปฯ ขวัญใจผู้เข้าชมงาน จากผลโหวตของประชาชนผู้เข้าชมงานมหกรรมการเงิน Money Expo 7 แห่ง ทั่วประเทศ
วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนมิถุนายน 2568 เผยผลการสำรวจความคิดเห็นผู้เข้าชมงานมหกรรมการเงิน Money Expo ประจำปี 2568 ว่า ธนาคารออมสิน ได้ครองตำแหน่ง ธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยแห่งปี 2568 Best Retail Bank of The Year 2025 โดยเป็นการครองตำแหน่งติดต่อกันเป็นปีที่ 10 แล้ว
สำหรับการจัดอันดับดังกล่าว วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ทำการสำรวจความคิดเห็นผู้เข้าชมงานมหกรรมการเงิน Money Expo ทั้งในกรุงเทพฯและภูมิภาค ระหว่างปี 2567-2568 รวม 7 งาน ซึ่งผลปรากฏว่า ธนาคารออมสินเป็นธนาคารที่ผู้เข้าชมงานชื่นชอบและตัดสินใจเลือกใช้บริการมากที่สุด ด้วยเหตุผลว่า ชื่นชอบผลิตภัณฑ์และบริการ มีโปรโมชั่นและข้อเสนอที่ดีน่าสนใจ จัดระบบให้บริการได้ดี ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ในบูธเป็นอย่างดี รวมทั้งธนาคารออมสินเป็นธนาคารที่มีชื่อเสียง ได้รับความน่าเชื่อถือจึงมั่นใจในการใช้บริการ
นอกจากนี้ ยังมีธนาคารที่มีความยอดเยี่ยมในแต่ละบริการแห่งปี 2568 ที่ผู้เข้าชมงานมีความพึงพอใจและตัดสินใจใช้บริการในแต่ละด้าน โดยธนาคารที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านเงินฝาก ได้แก่ ธนาคารออมสิน, ธนาคารที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อบ้าน ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.), ธนาคารที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อเอสเอ็มอี ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME D Bank)
ธนาคารที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อบุคคล ได้แก่ ธนาคารออมสิน, ธนาคารที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านบัตรเครดิต ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อรถและสินเชื่อจำนำทะเบียน ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, บริษัทที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านประกันชีวิต ได้แก่ บมจ.ไทยประกันชีวิต, บริษัทที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านประกันสุขภาพ ได้แก่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต, บริษัทที่มีบริการยอดเยี่ยมด้านประกันวินาศภัย ได้แก่ บมจ.ทิพยประกันภัย รวมทั้ง ยังได้ทำการสำรวจความคิดเห็นผู้เข้าชมงานถึงความโดดเด่นในด้านต่างๆ ของธนาคารและสถาบันการเงิน โดยธนาคารที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมทางการเงิน ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมมาภิบาล (ESG) ได้แก่ ธนาคารออมสิน และ K PLUS ของธนาคารกสิกรไทย เป็นแอปพลิเคชั่นทางการเงินขวัญใจผู้เข้าชมงานมหกรรมการเงิน Money Expo
![]()
เปิดอาณาจักรบูธธนาคารออมสิน
“มาร่วมสร้างสังคมที่ดีไปด้วยกัน”
ธนาคารออมสิน เข้าร่วมงาน Money Expo 2025 Bangkok โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ภายใต้แนวคิด “มาร่วมสร้างสังคมที่ดีไปด้วยกัน” ในฐานะ “ธนาคารเพื่อสังคม” (Social Bank) สะท้อนบทบาทของการเป็นแหล่งทุน แหล่งโอกาส และแรงสนับสนุนให้แก่คนไทยทุกกลุ่ม ทั้งรายย่อย ผู้ประกอบการและชุมชน เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษเพื่อสร้างสังคมที่ดีไปด้วยกัน เริ่มต้นจากการสร้างการออมกับ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 99 วัน รับอัตราดอกเบี้ยแบบ Step up เฉลี่ย 2.55% ต่อปี หรือเทียบเท่าเงินฝากประจำ 3.00% ต่อปี จองสิทธิ์ภายในงาน จำนวนจำกัด วันละ 200 สิทธิ์ และ 1 คนต่อ 1 สิทธิ์ เปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 บาท ฝากสูงสุด 500,000 บาทต่อราย ระยะเวลาฝากเงินระหว่างวันที่ 15 พ.ค.-24 พ.ค. 68 ผู้ที่เปิดบัญชีรับกระปุกออมสิน GSB Green Power และโค้งสุดท้ายกับการลุ้นรางวัลใหญ่ครั้งแรกในแคมเปญแห่งปี “ออมร้อย ชิงร้อยล้าน” รางวัลพิเศษ มูลค่า 1 ล้านบาท งวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 จำนวน 30 รางวัล และรางวัลพิเศษ มูลค่า 70 ล้านบาท งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 เพียง 1 รางวัลเท่านั้น มูลค่ารางวัลพิเศษรวม 100 ล้านบาท สำหรับผู้ฝากสลากออมสินพิเศษ 1 ปี ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป ระหว่างวันที่ 1 เมษายน-15 กรกฎาคม 2568
ส่วนผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ทั้งการซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม ไฮไลต์ด้วย สินเชื่อเคหะ Refinance ดอกเบี้ยคงที่ปีแรก เริ่มต้น 1.45% ต่อปี (สำหรับวงเงินกู้สินเชื่อตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป และผู้กู้ประสงค์ทำประกันฯ) เฉลี่ย 3 ปีต่ำสุด 2.85% ต่อปี ลงทะเบียนจองสิทธิ์ภายในงาน วงเงินกู้ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป อนุมัติและทำนิติกรรมสัญญาแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 สำหรับลูกค้า 99 รายแรก รับบัตรของขวัญ Central Gift Card มูลค่า 3,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อสร้างธุรกิจ กับ สินเชื่อ GSB D-VERs เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ ลงทุนในสินทรัพย์ถาวร หรือไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น ให้กู้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว วงเงินเริ่มต้นตั้งแต่ 1 บาท สูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ วงเงินกู้ไม่เกิน 20 ล้านบาท สำหรับกรณีทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อและค้ำประกันเต็มวงเงินกู้ คิดอัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก = MOR/MLR-0.50% ปีที่ 3 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ย = MOR/MLR+0.25% แต่หากกู้ในวงเงินมากกว่า 20-100 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก = MOR/MLR-0.75% ปีที่ 3 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ย = MOR/MLR (ปัจจุบัน MOR ของธนาคาร = 6.345% และ MLR = 6.575%)
“ธนาคารออมสิน” และ “เอ้ก ดิจิทัล” ผู้นำธุรกิจด้านวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และการตลาดดิจิทัล โชว์ความสำเร็จการยกระดับเตือนภัยมิจฉาชีพทางการเงินให้กับประชาชนทุกเพศทุกวัย ผ่านแคมเปญ "จับไต๋ภัยมิจฯ" ใช้พลังดาต้าและเทคโนโนโลยี AI จับอินไซต์ผู้บริโภคแต่ละเจเนอเรชัน วิเคราะห์กลลวงและช่องทางที่มิจฉาชีพหรือมิจจี้ยุคดิจิทัลนิยมใช้ พร้อมนำไปประมวลผลและสร้างสรรค์เป็นหนังสั้นออนไลน์ชุด #จับไต๋ภัยมิจฯ ที่รวมเล่ห์เหลี่ยมและวิธีป้องกันมิจจี้ในรูปแบบที่สนุกสนาน เข้าใจง่าย และจดจำได้เร็ว รวม 20 เวอร์ชัน โดยเผยแพร่ผ่านช่องทาง TikTok GSB Society เพื่อกระตุ้นประชาชนให้ตื่นตัว รู้เท่าทันทุกกลโกง และป้องกันตัวเองด้วยเทคนิคง่ายๆ ไม่คุย ไม่คอล ไม่กด ไม่ส่ง ไม่โอน! รวมตลอดทั้งแคมเปญมียอดชมหนังสั้นรวมกว่า 27 ล้านวิว
ธนาคารออมสิน เล็งเห็งความสำคัญของภัยมิจฉาชีพทางการเงินที่ยังคงระบาดและลุกลามอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาทางธนาคารได้เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุภัยมิจฉาชีพทางการเงิน GSB Contact Center 1115 กด 6 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งเหตุภัยมิจฉาชีพผ่านช่องทาง LINE: GSB NOW ซึ่งจากรายงานของศูนย์รับแจ้งเหตุภัยมิจฉาชีพทางการเงินของออมสิน พบว่าตั้งแต่ต้นปี 2566 นับจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 มีผู้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพและโทรแจ้งเหตุกับศูนย์ฯ สูงถึงกว่า 56,000 เคส โดยถูกหลอกลวงด้วยกลโกงหลากหลายรูปแบบและหลากหลายช่องทาง ทำให้กลุ่มลูกค้าของธนาคารสูญเสียเงินจำนวนมากและยังตกอยู่ในสภาวะเครียดทางจิตใจ ธนาคารออมสินจึงต้องการเดินหน้าส่งเสริมความรู้และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนไทยทุกคนผ่านแคมแปญ ‘จับไต๋ภัยมิจฯ’ จัดทำคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอสั้นและภาพเนื้อหาที่เข้าใจง่าย ช่วยชี้ให้เห็นตัวอย่างกลโกงของมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเก่าและใหม่ เช่น หลอกให้กลัว, หลอกให้ถ่ายรูป หรือถ่ายวิดีโอใบหน้า, หลอกให้บอกรหัส PIN หรือ OTP, หลอกส่ง SMS, หลอกให้กดลิงก์ เป็นต้น พร้อมแนะนำวิธีป้องกัน หรือระมัดระวังไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเมื่อต้องเผชิญกับมิจฉาชีพในสถานการณ์เหล่านั้น
![]()
โดยธนาคารออมสินได้ร่วมมือกับเอ้ก ดิจิทัล ยกระดับประสิทธิภาพในการสื่อสารของแคมเปญ โดยเอ้ก ดิจิทัลรับหน้าที่ในการนำความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์บิ๊กดาต้า พลัง AI และ MarTech Solution มาสนับสนุนแคมเปญในทุกมิติ ทั้งการวางแผนและสร้างสรรค์หนังสั้นในรูปแบบ Edutainment ที่น่าสนใจและตรงใจกลุ่มเป้าหมาย โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ประชาชนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มที่มีรายได้น้อย ซึ่งมักตกเป็นเหยื่อได้ง่าย และกลุ่มเป้าหมายรองที่เป็นกลุ่มเยาวชนและคนทำงาน จำนวน 20 เวอร์ชัน วางกลยุทธ์การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพตลอดแคมเปญ ซึ่งธนาคารออมสินหวังว่าแคมเปญนี้จะเป็นอีกหนึ่งพลังที่ช่วยลดปัญหามิจฉาชีพทางการเงิน พร้อมช่วยให้คนไทยรู้ทันทุกกลโกง ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพทุกรูปแบบ โดยตลอดระยะเวลาการจัดแคมเปญตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม – 31 ธันวาคม มียอดชมหนังสั้นทุกเวอร์ชันรวมกว่า 37 ล้านวิว เกินเป้าหมายไปกว่า 3,000% และสามารถเข้าถึงคนไทยได้มากกว่า 34 ล้านคน (Reach) เกินเป้าหมายไปกว่า 2,000% นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มจำนวนผู้ติดตามถึง109,000 Followers สูงกว่าเป้าหมายถึง 100%
นางสาวรัฐธีร์ เจริญรัตน์วรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ MarTech Solution บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันมิจฉาชีพพัฒนารูปแบบการหลอกลวงอยู่ตลอดเวลาและเข้าหาเป้าหมายจากหลายช่องทาง ซึ่งกลุ่มเป้าหมายในการหลอกลวงไม่ได้เจาะเฉพาะคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่ขยายวงกว้างสู่กลุ่มคนทุกเพศทุกวัย นี่ถือเป็นความท้าทายในการร่วมกันแก้ปัญหา ซึ่งเอ้ก ดิจิทัลรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญนี้ เราได้นำ First-Party Data ของธนาคารออมสินและ TikTok มาจัดระเบียบข้อมูลและกำหนดกลุ่มเป้าหมายโดยแบ่งตามพฤติกรรม (Behavioral Segmentation) จากนั้นใช้ศักยภาพ AI ในการหาอินไซต์เชิงลึกเกี่ยวกับประเภทของมิจฉาชีพที่เกิดขึ้นบ่อย, กลุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อ, ช่องทางที่มิจฉาชีพใช้ และเทรนด์คอนเทนต์ที่ผู้บริโภคแต่ละกลุ่มสนใจ พร้อมนำผลลัพธ์ไป Customize สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม
นอกจากนี้ยังใช้ MarTech Solution ในการวางแผนการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์ม TikTok ซึ่งถือเป็นชุมชนออนไลน์ขนาดใหญ่ที่เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มแมส โดยบริษัทฯ ผสานความร่วมมือกับ TikTok Creator ที่มีฐานแฟนคลับตรงกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างหนังสั้นที่ตรงใจแต่ละกลุ่ม โดยเรื่องราวของหนังแต่ละเวอร์ชันจะสอดแทรกความรู้ในรูปแบบที่สนุกสนาน กระชับ ใช้ภาษาที่คนทุกเพศทุกวัยเข้าใจและจดจำได้ง่าย อีกทั้งยังใช้ AI ช่วยวิเคราะห์และวางกลยุทธ์การสื่อสาร กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงและกำหนดเวลาที่เหมาะสมในเผยแพร่ ตลอดจนติดตามผลการตอบรับของผู้ชมอย่างต่อเนื่องผ่านเครื่องมือวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงคอนเทนต์ให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นตามการตอบรับของผู้ชม โดยแคมเปญนี้ตั้งเป้าหมายมียอดการชมหนังสั้นไม่ต่ำกว่า 3 ล้านวิว ซึ่งบริษัทฯ สามารถผลักดันยอดวิวให้บรรลุเป้าหมายได้ตั้งแต่เปิดตัวหนังสั้นได้เพียงหนึ่งเดือน”
ธนาคารออมสินและเอ้ก ดิจิทัล อยากให้ทุกคนตั้งสติ หยุดคิด และนำข้อปฎิบัติดี ๆ จากแคมเปญนี้ไปป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพทางการเงิน หากพบเจอสถานการณ์น่าสงสัย อย่าลืม! ไม่คุย ไม่คอล ไม่กด ไม่ส่ง ไม่โอน
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน มอบรางวัลทองคำแท่งหนัก 10 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 26.5 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่ 23 เมษายน 2567) ให้แก่ คุณกานดา กาญจนเพิ่มพูน ลูกค้าธนาคารออมสิน สาขาด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี โดยเป็นผู้โชคดีจากการถูกรางวัลสลากออมสินพิเศษ 1 ปี งวดที่ 606 หมวดอักษร G หมายเลขสลาก 8178397 เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 111 ปี ซึ่งมีการออกรางวัลไปเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา

โดยคุณกานดา เป็นลูกค้าธนาคารออมสิน และมีการออมเงินกับธนาคารมาอย่างต่อเนื่อง แต่ได้มีการฝากสลากออมสินเพียง 4 ปี หลังทราบข่าวว่ามีการลุ้นรางวัลใหญ่ และเป็นการเก็บออมเงินด้วย จึงอยากเชิญชวนประชาชนให้มาออมเงินด้วยการฝากสลากออมสิน นอกจากจะได้ลุ้นรางวัลแล้ว การเป็นลูกค้าธนาคารออมสินเท่ากับเราได้ช่วยสังคม ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 สำหรับสลากออมสินพิเศษ 1 ปี หน่วยละ 100 บาท ไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด เมื่อฝากครบกำหนด 1 ปี จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 0.25 บาท และยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท และรางวัลอื่น ๆ ได้ทุกวันที่ 16 ของทุกเดือน รวม 12 ครั้ง ผู้สนใจสามารถฝากสลากออมสินได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ และแอป MyMo
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการศูนย์กลางการเงิน (Financial Hub) ภายใต้หัวข้อ “Ignite Finance: Thailand’s Vision for a Global Financial Hub เปิดทางนำไทยสู่ศูนย์กลางการเงินโลก” ซึ่งกระทรวงการคลังจัดขึ้น ภายใต้วิสัยทัศน์ “Ignite Thailand” ของนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลาง 8 อุตสาหกรรมหลัก โดย “Ignite Finance” มีเป้าหมายเพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการเงินระดับโลก

โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดตัวโครงการ และมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ผู้นำจากสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ และภาคเอกชน ร่วมงานแถลงข่าว ณ ห้องกำปั่นทอง อาคาร 150 ปี กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้สั่งการให้ธนาคารออมสินเพิ่มมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของลูกหนี้กลุ่มครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นไปตามแนวนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือของหลายหน่วยงาน อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และสถาบันการเงินต่าง ๆ ตามที่ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันแล้วนั้น
ล่าสุดธนาคารออมสิน ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมตามข้อสั่งการของรัฐบาล ประกาศลดดอกเบี้ยสินเชื่อกลุ่มครูเป็น 1% ต่อปี สำหรับลูกหนี้ผ่อนชำระดีของสินเชื่อโครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิก ช.พ.ค. - ช.พ.ส. และโครงการเกื้อกูลผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา เป็นระยะเวลา 6 เดือน (ก.ค. - ธ.ค. 2567) โดยเป็นการลดดอกเบี้ยอัตโนมัติไม่ต้องลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ และดอกเบี้ยส่วนที่ได้ลดเพิ่มเติมจะถูกนำไปตัดเงินต้นทำให้หมดหนี้เร็วขึ้น ทั้งนี้ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกหนี้กลุ่มครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นลูกหนี้ประวัติการผ่อนชำระดี มีสถานะลูกหนี้ปกติ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ธนาคารได้ปรับลดดอกเบี้ยของแต่ละโครงการลง 0.5%, 0.75% และ 1% ต่อปีตามเงื่อนไข โดยคาดว่าจะมีลูกหนี้ได้รับประโยชน์จากการปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ จำนวนกว่า 230,000 ราย และลดดอกเบี้ยรวมปีละ 1,600 ล้านบาท
อนึ่ง ธนาคารออมสิน เป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหาหนี้ครูผ่านโครงการต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2542 อาทิ โครงการจัดหาแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้แบบเบ็ดเสร็จ โดยการรวมหนี้ข้าราชการครูทั้งหมดมาอยู่ที่ธนาคารออมสินเพียงแห่งเดียว ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อบุคคลทั่วไปตามนโยบายรัฐ และไม่ได้มีการให้สินเชื่อสวัสดิการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพิ่มอีกตั้งแต่ปี 2558 แต่เน้นดำเนินการแก้ไขหนี้อย่างยั่งยืนแก่ลูกหนี้ อาทิ มาตรการ 4 ไม่ (ไม่ฟ้องแพ่ง ไม่บังคับ ไม่ยึดทรัพย์ ไม่ขายทอดตลาด) และการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการครูเพื่อนำเงินไปรีไฟแนนซ์สินเชื่อครูที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงจากสถาบันการเงินอื่น เป็นต้น