November 05, 2024

อีริคสันประเทศไทยเปิดตัว 5G Innovation & Experience Studio ในโครงการ Thailand Digital Valley ยกระดับนวัตกรรม 5G และขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย

อีริคสันประเทศไทย เปิดตัว 5G Innovation & Experience Studio ภายในโครงการ Thailand Digital Valley อย่างเป็นทางการ โดยสตูดิโอนี้ถูกออกแบบเพื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี 5G ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสถาบันการศึกษา เพื่อสร้างกรณีศึกษายูสเคสใหม่ ๆ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย ด้วยเครือข่าย 5G ที่ทันสมัยและยั่งยืน

ความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) นี้จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการพัฒนาโซลูชันที่ล้ำสมัย อาทิ หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR) และเทคโนโลยีกล้อง CCTV 360 องศา เพื่อแสดงศักยภาพของ 5G ที่จะเปลี่ยนแปลงภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจในอนาคต

มร.แอนเดอร์ส เรียน ประธานอีริคสันประเทศไทย กล่าวถึงความสำคัญของ 5G ในการสร้างสรรค์บริการใหม่ ๆ สำหรับทั้งผู้บริโภคและองค์กร โดยมุ่งมั่นทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงข่าย 5G

ทั้งนี้ อีริคสันยังคาดการณ์ว่าในปี 2572 ผู้ใช้ 5G จะเติบโตถึง 60% ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลก พร้อมกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง

บริษัท รินไน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำร้อน รวมถึงเครื่องใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรมคุณภาพมาตรฐานระดับสากล เตรียมนำเสนอเครื่องดูดควัน นวัตกรรมและเทคโนโลยี พลาสม่า (Plasma) มาประยุกต์ใช้แบรนด์แรกของไทย ช่วยให้ขจัดกลิ่นควันจากการทำอาหาร แบคทีเรีย ไวรัส และฝุ่นระดับ PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อม G-Line series ซีรีส์ชุดครัวระดับไฮเอนด์ที่ผลิตและพัฒนาโดย รินไน ประเทศญี่ปุ่น ร่วมโชว์ในงานสถาปนิก’ 67 ครั้งที่ 36 ระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2567 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

รินไน (Rinnai) มุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้ชีวิตมีความสะดวกมากขึ้น ซึ่งเครื่องดูดควัน นวัตกรรมและเทคโนโลยี พลาสม่า มีการออกแบบที่ทันสมัย สามารถขจัดได้ทั้งกลิ่นควันจากการทำอาหาร กำจัดเชื้อแบคทีเรียและไวรัส และฝุ่นระดับ PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังมีการนำเสนอ G-Line series ซีรีส์ชุดครัวระดับไฮเอนด์ที่ผลิตและพัฒนาโดย รินไน ประเทศญี่ปุ่น ที่เน้นไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งานและเสริมความแข็งแกร่งด้วยสีดำและการออกแบบอันประณีต จนเป็นซีรีส์ชุดครัวระดับไฮเอนด์ที่ขับเคลื่อนความรู้สึกและไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ให้เหนือชั้นและน่าหลงใหล ซึ่งความหมายของ G คือ ตัวอักษรตัวแรกของคำหลายๆ คำที่มีความหมายสื่อถึงความยิ่งใหญ่และความประณีต อาทิ gland , great , Gold , Grace, Glamorous โดยใช้สีดำที่เป็นองค์ประกอบหลักเพื่อสะท้อนและสื่อถึงความแข็งแกร่ง พร้อมแสดงให้เห็นถึงการออกแบบที่ประณีต สำหรับความนิยมของ G-Line ในประเทศญี่ปุ่นนั้น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากบรรดาศิลปินและสไตล์ลิสที่มีชื่อเสียง

รินไน เป็นแบรนด์สินค้าจากประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องครัวประเภทเตาฝัง เครื่องดูดควัน เครื่องทำน้ำอุ่น-เครื่องทำน้ำร้อน ซึ่งมีกำลังการผลิตสูงและเปี่ยมไปด้วยคุณภาพเป็นลำดับต้นของไทยในราคาที่จับต้องได้ โดยในการผลิตมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้ใช้งาน ซึ่ง รินไน เชื่อว่าทั้งหมดนี่ คือ การสร้างสิ่งความยั่งยืนให้แก่แบรนด์ นอกจากนั้น รินไน ยังเป็นแบรนด์ที่มีเครือข่ายทั่วโลก การพัฒนาแบรนด์และผลิตภัณฑ์นั้น มีการดำเนินการอย่างสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละภูมิภาค ภายใต้แนวคิด ‘Good for Person, Good for Region’

สำหรับผู้สนใจเครื่องดูดควัน นวัตกรรมและเทคโนโลยี พลาสม่า พร้อม G-Line series ซีรีส์ชุดครัวระดับไฮเอนด์จากประเทศญี่ปุ่น และผลิตภัณฑ์อื่นๆ จาก รินไน สามารถเยี่ยมชมได้ที่งานสถาปนิก’ 67 ที่บูธหมายเลข L106 ระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2567 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นักลงทุนจองหุ้น BPS 120 ล้านหุ้นเกลี้ยง พร้อมเทรด 3 เมษายนนี้ สะท้อนความเชื่อมั่นของธุรกิจ ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมและโซลูชั่นด้านไฟฟ้าและสื่อสาร เพื่อก้าวสู่ SMART HOME ในอนาคต

นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น BPS เปิดเผยว่า การเสนอหุ้น IPO ของบริษัท บีพีเอส เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ BPS จำนวน 120 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 27-29 มีนาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่านักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นและให้การตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจและเชื่อมั่นในศักยภาพของ BPS ที่จะเป็นหนึ่งในหุ้นมีโอกาสเติบโตในอนาคต ด้วยภาพลักษณ์ของธุรกิจ ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมและโซลูชั่นเพื่อการอยู่อาศัยครบวงจร และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน

นายสุรพงษ์ สาเรชพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีพีเอส เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะสร้างให้ BPS เป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและคู่ค้าเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท พร้อมทั้งจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถพัฒนานวัตกรรมและโซลูชั่นต่างๆ ด้านไฟฟ้า การประหยัดพลังงาน และการสื่อสาร เพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าให้กับสินค้าและบริการของบริษัทต่อไปในอนาคต

สำหรับเงินระดมทุนในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ด้วยการลงทุนด้านอุปกรณ์และการติดตั้งงานเดินโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกเพื่อการสื่อสาร (Fiber to the Home : FTTx) สำหรับคอนโดมิเนียมและอาคารสูง ซึ่งมีโอกาสขยายตัวอย่างมากในอนาคต นอกจากนี้จะนำเงินไปใช้สำหรับก่อสร้างศูนย์การเรียนรู้สำหรับช่างและบุคคลทั่วไป ทั้งในด้านการติดตั้งโซลาร์เซลบนหลังคา และระบบ Edge Data Center Facilities 24x7 Monitoring ซึ่งจะทำให้บุคลากรของ BPS มีความรู้ความเชี่ยวชาญในงานด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพทำงานให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ในปี 2567 บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา ทั้งแนวราบและแนวสูง โดยตั้งเป้าผลิตไฟฟ้าจำนวน 30 เมกะวัตต์ นอกจากนี้บริษัทจะนำเสนอนวัตกรรม Green Home Solution เพื่อตอบสนองในเรื่องของบ้านอยู่สบาย บ้าน Internet ความเร็วสูง บ้านประหยัดพลังงาน เป็น One Stop Service ในเรื่องอุปกรณ์ และงานติดตั้ง ซึ่งบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้าน Supply Chain Management โดยจะเน้นไปยังตลาดบ้านมือสอง และกลุ่มประชากรสูงอายุมีความต้องการซ่อมแซม แก้ไข ปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน พร้อมทั้งมองถึงการขยายโอกาส ให้สอดคล้องกับแนวคิด SMART HOME เช่น การติดตั้งโรงรถ พร้อมระบบ Solar roof-top (Garage Roof) การติดตั้งระบบระบายอากาศ (Airflow) และการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้า (EV Charger) อีกด้วย

กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ภายใต้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ KKP AUTO และบริการการลงทุน EDGE by KKP มอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้าที่สนใจนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ผนึกกำลังกับ 2 พันธมิตรสำคัญ ได้แก่ บริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผู้ผลิตรถไฟฟ้าชั้นนำของโลก และ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย จัดกิจกรรม “Nature meets Future” พาลูกค้า EDGE by KKP เยี่ยมชมโครงการ The Forestias by MQDC เมกะโปรเจคที่อยู่อาศัยยักษ์ใหญ่บนพื้นที่สีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมย่านบางนา-ตราด และทดลองขับรถไฟฟ้าเทสลา เมื่อวันที่ 7 – 8 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา

นายธงผา ศรีนาม รองผู้อำนวยการ หัวหน้าทีมพัฒนาการตลาดและความสัมพันธ์คู่ค้ารถยนต์ใหม่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า KKP AUTO เล็งเห็นความสำคัญของเทรนด์ ESG และนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยอ้างอิงจากบทวิเคราะห์ของ KKP Research ที่มองการเติบโตตลาดรถ EV กลุ่ม passenger ในประเทศไทยว่าจะเร่งตัวขึ้นจากเกือบ 0 ถึง 15% ภายในช่วงกลางปี 2568 KKP AUTO ในฐานะผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ จึงได้ร่วมมือกับ เทสลา (ประเทศไทย) และ MQDC ผู้ริเริ่มโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นำลูกค้าของบริการ EDGE by KKP กว่า 30 ท่าน เยี่ยมชมห้องตัวอย่างภายในโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ หรือ ‘อาณาจักรป่ากลางเมือง’ ซึ่งมีพื้นที่โครงการ 398 ไร่ โครงการเมืองที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้มีชีวิตที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ตลอดจนได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนมาใช้ในการพัฒนาโครงการ ทั้งนี้ มีไฮไลท์คือการให้ลูกค้าเปิดประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ผู้นำระดับโลกอย่างเทสลา ภายในพื้นที่โครงการด้วย

“เราพบว่ากลุ่มลูกค้าและนักลงทุนของ EDGE by KKP ให้ความสนใจเกี่ยวกับพัฒนาการของนวัตกรรมรถ EV ตลอดจนเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนอื่นๆ ตามเทรนด์ ESG เป็นอย่างมาก กิจกรรม Nature meets Future ในครั้งนี้จึงเป็นการผสมผสานประสบการณ์พิเศษ ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับนวัตกรรมยานยนต์ล้ำสมัย และแนวคิดการอยู่อาศัยที่ยั่งยืนในคราวเดียวกัน ตามความมุ่งมั่นของ KKP ที่จะนำเสนอบริการทางการเงินที่ครอบคลุมไร้รอยต่อ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ และใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้กับลูกค้า

นายธนัท มนัญญภัทร์ ผู้จัดการฝ่ายขาย เทสลา ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดรถ EV ในไทยถือว่ามีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมาจากมาตรการภาครัฐที่สนับสนุนผ่านส่วนลดภาษีและเงินอุดหนุน และเติบโตได้เร็วกว่าหลายประเทศในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวการขยายตลาดรถยนต์ EV ของเทสลาเอง ก็มีแผนเปิดตัวโมเดลใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำเรื่องนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมและสมรรถนะที่ตอบโจทย์การขับขี่สำหรับคนไทย

นายอัษฎา แก้วเขียว ประธานเจ้าหน้าที่ประสบการณ์ลูกค้า MQDC กล่าวว่า โครงการ The Forestias by MQDC เป็น Theme Project ที่เราเนรมิตผืนป่าขึ้นมาให้ “คน สัตว์ และธรรมชาติ” ได้อยู่ร่วมกัน ผสานกับความงามของสถาปัตยกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยมาสร้างสรรค์นวัตกรรมแห่งสังคมของคนทุกเจนเนเรชั่นให้มีความสุขและสุขภาพดี

EDGE by KKP เป็นบริการการลงทุนที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงโลกการลงทุนจาก บล.เกียรตินาคินภัทร เริ่มต้นได้บนแอป KKP MOBILE โดยลูกค้าสามารถสร้างความเติบโตให้กับการลงทุนพร้อมมีผู้ดูแลการลงทุนส่วนตัว ให้คำแนะนำ และวางแผนการเงินได้ผ่านบริการการลงทุนของ EDGE by KKP

APCO ส่งผลงานนวัตกรรม ByeByeHIV 50 รายแรกของโลก กำจัดเซลล์ติดเชื้อ HIV ไร้ผลข้างเคียง สุขภาพดีขึ้นต่อเนื่อง เผยแพร่ในวารสาร Clinical Immunology & Research ตอกย้ำความเชื่อมั่นผู้บริโภค สร้างโอกาสความร่วมมือพันธมิตรใหม่ ตั้งเป้าช่วยเหลือผู้ติดเชื้อทั่วโลก

ศ. ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงาม ด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิตและจัดจำหน่ายครบวงจร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เปิดเผยว่า นวัตกรรม ByeByeHIV จาก APCO ได้รับการยอมรับและเผยแพร่ในวารสาร Clinical Immunology & Research ซึ่งเป็นวารสารวิชาการแบบออนไลน์ ชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ที่บรรจุเนื้อหาทางวิทยาศาสตร์ทั่วโลกอย่างเป็นกลาง และได้รับการทบทวนโดยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่เกี่ยวข้อง (Peer-Review) จึงสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างชาติ และถือเป็นโอกาสที่ดีในการทำธุรกิจของ APCO รวมถึงส่งเสริมให้พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทสามารถสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เชื้อ HIV ซึ่งจะกลายเป็นโรค AIDS ระยะลุกลาม เกิดขึ้นตั้งแต่ 40 ปีที่แล้ว จนบัดนี้ ยังไม่มียาใดที่สามารถจัดการโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย อีกทั้งความพยายามในการพัฒนาวัคซีนยังไม่ประสบความสำเร็จ จนถึงปัจจุบัน ByeByeHIV จึงเป็นถือเป็นนวัตกรรมของชาติไทยที่สร้างประวัติศาสตร์ของการจัดการกับเชื้อ HIV/AIDS ของโลก

คณะนักวิจัย Operation BIM ประสบความสำเร็จในการใช้สูตร ByeByeHIV ซึ่งเกิดขึ้นจากสูตรเสริมฤทธิ์ของสารสกัด มังคุด งาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่ง และบัวบก จัดการกับปัญหานี้ได้อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว สามารถทำให้ผู้ที่ติดเชื้อตรวจไม่พบเชื้อ และมีคุณภาพชีวิตเป็นปกติ รวมทั้งสิ้น 24 ราย นานที่สุด 8 ปี แม้ว่าจะหยุดใช้สูตร ByeByeHIV แล้วก็ยังมีสุขภาพดีอย่างต่อเนื่อง โดยตรวจไม่พบเชื้อ นับเป็นความสำเร็จที่ไม่มีนักวิทยาศาสตร์จากประเทศใดทำได้สำเร็จเลย

ขณะเดียวกัน สูตร ByeByeHIV ได้ช่วยให้ผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS 26 ราย ซึ่งอยู่ในระหว่างการรักษาด้วยยารักษาเอดส์ แต่ต้องทรมานจากผลข้างเคียงของยา สามารถหยุดการใช้ยาได้และมีคุณภาพชีวิตเหมือนคนปกติ แม้จะหยุดใช้สูตร ByeByeHIV ก็ยังมีสุขภาพที่แข็งแรงและตรวจไม่พบเชื้ออย่างต่อเนื่อง ในจำนวนนี้มีผู้ที่ติดเชื้อจากมารดา รวมทั้งผู้ที่เป็นมะเร็งร่วมที่สมอง ช่องท้อง และไขสันหลัง ซึ่งแพทย์ให้ความเห็นว่าจะเสียชีวิต ภายใน 3 เดือน แต่ก็สามารถกลับมีคุณภาพชีวิตเป็นปกติต่อเนื่องแล้วเป็นเวลากว่า 8 ปี โดยไม่ต้องใช้เคมีบำบัด และรังสีบำบัดจัดการกับมะเร็งเลย

จากประสบการณ์ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ที่เป็นทั้งเอดส์และมะเร็ง ให้กลับเป็นปกติ ทำให้คณะนักวิจัยฯ สามารถใช้ความรู้นี้ในการพัฒนาสูตรที่จัดการกับมะเร็งทุกๆ ระยะ ตลอดจนอยู่ในระหว่างการพัฒนาสูตรป้องกันมะเร็งที่ใช้ได้อย่างสะดวกในราคาที่เหมาะสม ซึ่งควรจะทำให้ APCO มีผลประกอบการที่เพิ่มมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา

Page 1 of 6
X

Right Click

No right click