

เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศความร่วมมือกับ AirAsia MOVE แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการเดินทางครบวงจร เพื่อตอบรับเทรนด์การจองเที่ยวบินและที่พักผ่านช่องทางออนไลน์ที่เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ OTA (Online Travel Agency) ซึ่งขณะนี้มีสัดส่วนกว่า 55% ของนักท่องเที่ยวไทย และกว่า 98% เปิดรับการใช้เทคโนโลยีและ AI เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง
นางสาววริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” เปิดเผยว่า “ในปี 2568 มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในกลุ่ม OTA รวมกว่า 4,073 ล้านบาท เติบโตถึง 22% สะท้อนพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของนักเดินทางรุ่นใหม่ เคทีซีจึงเดินหน้าสร้างพันธมิตรกับแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง MOVE เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและมอบสิทธิพิเศษที่คุ้มค่ายิ่งขึ้นให้กับสมาชิก ผ่านสิทธิประโยชน์ อาทิ การแลกคะแนน KTC FOREVER เป็นส่วนลดสูงสุด 1,400 บาท หรือรับเครดิตเงินคืน 13% เมื่อใช้คะแนนเท่ายอดซื้อ”
ภายใต้แนวคิด “เดินทางได้มากขึ้น ในราคาน้อยลง” แพลตฟอร์ม MOVE ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักเดินทางยุคดิจิทัล ให้สามารถจองเที่ยวบิน โรงแรม บริการเสริม และยกเลิกการเดินทางได้อย่างคล่องตัว โดยสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก KTC ผ่านแอป MOVE ที่เข้าร่วมแคมเปญระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม – 15 สิงหาคม 2568 ได้แก่:
· ส่วนลดบริการเสริม (ค่าน้ำหนักสัมภาระและอาหารบนเครื่อง) สูงสุด 15%
· ส่วนลดค่าจองโรงแรม 230 บาท
· รับคะแนน AirAsia Points
· บริการ EasyCancel สำหรับยกเลิกเที่ยวบิน
· ฟรีค่าธรรมเนียมการจองเที่ยวบินแอร์เอเชียที่ทำรายการผ่าน MOVE
ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนแนวทางของเคทีซีในการยกระดับบริการให้สอดรับกับยุคดิจิทัล โดยใช้คะแนนสะสม KTC FOREVER เป็นเครื่องมือหลักในการมอบประสบการณ์การเดินทางที่ “คล่องตัว คุ้มค่า และเป็นไปได้จริง” สำหรับนักเดินทางทุกกลุ่ม
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE โทรศัพท์ 02 123 5000 หรือติดตาม โปรโมชันของเคทีซีได้ที่ https://www.ktc.co.th สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ
หมายเหตุ : บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิตประจำวัน การเลือกวิธีการชำระเงินที่ทั้งปลอดภัยและ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญ ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยยังคงคุ้นชินกับการใช้เงินสด โดยอาจมองว่าเป็นวิธีที่จับต้องได้และง่ายต่อการควบคุมค่าใช้จ่าย หากแต่ในปัจจุบันบัตรเครดิตไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่เป็นเครื่องมือในการซื้อสินค้าหรือบริการเช่นเดียวกับเงินสดเท่านั้น บัตรเครดิตยังเป็นทางเลือกที่ให้ทั้งความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และสิทธิประโยชน์ที่เงินสดไม่สามารถให้ได้
บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด ( มหาชน ) หรือ เคทีซี ได้รวบรวม 3 ข้อเทคนิตการใช้บัตรเครดิตในชีวิตประจำวัน ที่เหนือกว่าเงินสด ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ความคุ้มค่าที่เหนือกว่า และที่สำคัญคือการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่อย่างแท้จริง โดยเทคนิคเหล่านี้สรุปความได้คือ
1. การป้องกันจากการสูญหายเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
การพกเงินสดจำนวนมากเป็นสิ่งที่หลายคนมักทำซึ่งเป็นพฤติกรรมที่มาพร้อมกับความเสี่ยงที่มองไม่เห็น บางครั้งการไม่ระมัดระวังมากพออาจส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทั้งการสูญหายหรือการถูกโจรกรรม โดยที่โอกาสในการติดตามและนำเงินสดกลับคืนนั้นมีน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย ยกตัวอย่างเช่น หากเกิดเหตุการณ์กระเป๋าสตางค์หายที่ต่างประเทศ การพกเงินสดเพียงอย่างเดียวอาจต้องเผชิญกับภาวะขาดสภาพคล่องโดยทันทีและไม่สามารถติดตามเงินคืนได้ แต่การใช้บัตรเครดิตจะสามารถแจ้งไปยังผู้ออกบัตรฯ เพื่ออายัดบัตรฯ หากใช้บัตรเครดิตเคทีซี จะสามารถอายัดผ่านแอป KTC Mobile ด้วยตัวเองได้ทันที ทำให้ผู้ถือบัตรฯ สามารถระงับความเสียหายตั้งแต่ต้นทางได้ อีกทั้งธนาคารหรือสถาบันทางการเงินที่ออกบัตรเครดิตมักมีนโยบายคุ้มครองผู้ถือบัตรฯ จากรายการที่เกิดจากการทุจริต ทำให้ไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตโดยไม่ได้รับอนุญาต
2. การทำธุรกรรมที่ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
การซื้อสินค้าหรือบริการด้วยเงินสดทำให้ผู้บริโภคมีความเสี่ยงสูงหากเกิดปัญหาต่าง ๆ เนื่องจากไม่มีหลักฐานการชำระเงินที่ชัดเจน ในขณะที่บัตรเครดิตมีการบันทึกรายการใช้จ่ายไว้อย่างเป็นระบบ พร้อมการแจ้งเตือนผ่านข้อความ SMS หรือแอปพลิเคชันทันทีเมื่อมีการทำธุรกรรม ทำให้ผู้ถือบัตรฯ สามารถตรวจสอบรายการใช้จ่ายย้อนหลังได้อย่างละเอียด หากพบรายการที่ไม่คุ้นเคยหรือสงสัยว่าเป็นการทุจริต สามารถติดต่อธนาคารหรือสถาบันทางการเงินเพื่อตรวจสอบและยกเลิกรายการนั้นได้ทันที รวมถึงลดความเสี่ยงจากการทอนเงินผิดพลาด อีกทั้งการใช้บัตรเครดิตยังช่วยให้สามารถติดตามและควบคุมการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้นผ่านแอปพลิเคชันบัตรเครดิต โดยสามารถตรวจสอบวงเงินคงเหลือ รายการใช้จ่าย และชำระเงินได้อย่างสะดวกสบาย
3. สิทธิประโยชน์ที่มากกว่าเงินสด
การชำระเงินด้วยบัตรเครดิตไม่เพียงช่วยเพิ่มความสะดวกในชีวิตประจำวัน แต่ยังมาพร้อมสิทธิพิเศษมากมายที่เหนือกว่าการใช้เงินสด ไม่ว่าจะเป็นการสะสมคะแนนจากยอดใช้จ่าย ซึ่งสามารถแลกรับเป็นส่วนลดสินค้า โรงแรม ที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ หรือบริการห้องรับรองในสนามบินซึ่งเป็นสิทธิพิเศษเพิ่มเติมตามประเภทของบัตรเครดิต โดยเฉพาะผู้ถือบัตรเครดิตเคทีซี จะได้รับคะแนน KTC FOREVER ซึ่งไม่มีวันหมดอายุ ช่วยให้สามารถวางแผนใช้คะแนนได้อย่างยืดหยุ่นตามความต้องการ โดยสามารถตรวจสอบคะแนนสะสมและสิทธิพิเศษต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกผ่านแอป KTC Mobile นอกจากนี้ยังสามารถวางแผนการเงินในระยะยาวด้วยบริการแบ่งชำระ 0% ซึ่งเป็นความคุ้มค่าที่เงินสดไม่สามารถมอบให้ได้
การใช้บัตรเครดิตในชีวิตประจำวัน จึงไม่ใช่เพียงทางเลือกที่สะดวกสบายเท่านั้น หากแต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยในการใช้จ่ายได้อย่างรอบด้าน ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถบริหารจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจในทุกการทำธุรกรรม
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE 02 123 5000 หรือติดตามโปรโมชันของเคทีซีได้ที่ https://www.ktc.co.th สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ
หมายเหตุ : บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
เคยสงสัยหรือไม่? ทำไมคนเราจัดการเรื่องเงินไม่เหมือนกัน บางคนชอบออมทุกบาท ส่วนอีกคนรูดบัตรแบบไม่คิด นั่นเป็นเพราะแต่ละคนมีนิสัยการใช้เงินที่แตกต่างกันไปตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ความเชื่อและทัศนคติ ซึ่งถ้าเข้าใจสไตล์ของตัวเองเราก็จะบริหารเงินได้ง่ายขึ้นเยอะ อย่างเรื่องสำคัญ เช่น การตัดสินใจสมัครบัตรเครดิตให้ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้ดีที่สุด วันนี้ ไม่ได้ fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ จะพาไปรู้จักนิสัยการใช้เงินของตัวเองผ่าน Money Language
รู้จักตัวตนผ่าน Money Language
Money Language คือ นิสัยการใช้เงินที่แตกต่างกันตามไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของแต่ละคน มารู้จักตัวตนผ่าน 5 นิสัยการใช้เงินเพื่อบริหารสุขภาพทางการเงินที่ตรงกับความเป็นตัวเองได้อย่างยั่งยืน เช่น
· เก็บออมและคุมงบการใช้จ่าย
· ตัดสินใจเรื่องเงินทองได้อย่างเข้าใจตัวเอง
· มีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจนกับความเป็นจริง
· รู้ทันการใช้เงินของตัวเอง เลี่ยงปัญหาทางการเงินในอนาคต
· สร้างนิสัยการใช้จ่ายที่ดีให้กับตัวเอง
![]()
5 นิสัยการใช้เงินแต่ละแบบ ต่างกันอย่างไร?
The spend-o-holic
“Spend-o-holic” นักช้อปตัวยง รักการช้อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจ ไม่คิดเยอะ พร้อมใช้เงินซื้อทุกสิ่ง เพราะการช้อปปิ้ง คือ ความสุขหลักทางใจ ซึ่งทำให้ออมเงินเก็บไว้ได้ยาก จนอาจส่งผลต่อสุขภาพทางการเงิน และเกิดวิกฤตจากการใช้เงินเกินตัว ดังนั้น สิ่งที่มนุษย์ Spend-o-holic ควรทำเมื่อมีบัตรเครดิตอยู่ในมือคือการรักษาสุขภาพทางการเงินให้อยู่ในระดับที่ดีต่อใจผ่านวิธีตั้งค่าการใช้งานบัตรเครดิตแบบรู้ทันตัวเอง เช่น
· มีลิมิตการใช้งานบัตรเครดิตต่อวันและต่อครั้งให้อยู่ในระดับที่มั่นใจว่าตัวเองสามารถชำระคืนได้เต็มจำนวนและตรงเวลา
· ติดตามยอดการใช้จ่ายสม่ำเสมอเพื่อเตือนใจตัวเองไม่ให้ใช้เกินลิมิต · ควบคุมวงเงินการใช้บัตรเครดิตด้วยบัตรเครดิต ttb ผ่านแอป ttb touch ซึ่งเป็นผู้ช่วยนักช้อปให้ยั้งใจก่อนใช้อีกแรง
The Entertainer
“Entertainer” ยอดนักเอ็นเทอร์เทน เพราะชีวิตคือการเอ็นจอยกับประสบการณ์ใหม่ ๆ นิสัยใช้เงินของมนุษย์นักสร้างสีสันจึงมักจะให้คุณค่ากับการใช้จ่ายเพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ชอบค้นหาและทดลองกิจกรรมใหม่ ๆ ให้ชีวิตมีสีสัน เนื่องจากเชื่อว่าความทรงจำที่น่าประทับใจคือสิ่งมีค่าในชีวิต ซึ่งสิ่งที่นักเอ็นเทอร์เทนควรทำเมื่อมีบัตรเครดิตอยู่ในมือคือการตั้งงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงการตามใจตัวเองเกินไปจะได้ไม่มีเรื่องเงินมาให้เครียดในภายหลัง เช่น
· การจัดลำดับความสำคัญเพื่อหาสมดุลในการใช้จ่าย
· แบ่งค่าใช้จ่ายเรื่องที่จำเป็น และค่าใช้จ่ายเพื่อความเอ็นเทอร์เทนออกจากกัน
· มีเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวให้ตัวเอง
· การวางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้าหากเป็นรายจ่ายใหญ่ ๆ
· มีเงินสำรองฉุกเฉิน · ใช้สิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตแบบสะสมคะแนนเพื่อแลกเปลี่ยนคะแนนสะสมที่มีเป็นสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์
The Worrywart
“Worrywart” จอมกังวลตัวตึง นึกถึงเรื่องเงินเมื่อไหร่ เป็นต้องรู้สึกกังวลสุดขั้ว ทำให้กลายเป็นคนเคร่งครัดและเข้มงวดในเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ กับตัวเองตลอดเวลา จนไม่กล้าต่อยอดสร้างโอกาสใหม่ ๆ หลีกเลี่ยงการใช้เงินในทุกวิถีทาง โดยสิ่งที่มนุษย์ Worrywart ควรทำคือการหาสมดุลให้ตัวเอง เพราะแม้ความกังวลจะช่วยให้มีสติยั้งคิดและระแวดระวัง แต่สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการอยู่กับความเป็นจริงเพื่อลดทอนความเคร่งเครียดในจิตใจและใช้ชีวิตได้อย่างอิสระมากขึ้น ประโยชน์ที่มนุษย์จอมกังวลจะได้รับจากการมีบัตรเครดิตคือ การเพิ่มเครื่องมือทางการเงินที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น
· สามารถช่วยติดตามการใช้จ่าย เห็นประวัติการใช้เงินของตัวเองที่ตรงความจริง
· สร้างเครดิตทางการเงิน มีหลักฐานความน่าเชื่อถือทางการเงินของตัวเอง เมื่อถึงคราวต้องขอสินเชื่อในอนาคตก็มีวินัยของตัวเองเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน
· เป็นผู้ช่วยในยามจำเป็น เพราะบัตรเครดิตมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย เช่น บัตรเครดิต ttb ที่สามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ปลอดดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 50 วัน นับจากวันแรกของรอบบัญชีไปจนถึงวันกำหนดชำระเงินหากชำระเต็มจำนวนตามวันครบกำหนด หากมีเหตุจำเป็นต้องใช้จ่ายเร่งด่วนก็พึ่งพาได้โดยจะไม่ถูกคิดดอกเบี้ยสำหรับ 50 วันนั้นเพียงชำระคืนแบบเต็มจำนวนและตรงเวลา
The Super Saver
“Super Saver” ตัวจริงเรื่องเก็บออม รักความคุ้มค่า มองหาทุกหนทางเพื่อเพิ่มโอกาสประหยัดรายจ่าย มีจุดหมายในการเก็บเงินเพื่อสร้างความมั่นคงให้ตัวเองอย่างแน่วแน่และสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าสถานะทางการเงินจะมั่นคงในระยะยาว ซึ่งสิ่งที่มนุษย์ Super Saver ควรทำคือการวางแผนเรื่องลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงิน เพื่อต่อยอดด้วยการลงทุนระยะยาว จะช่วยขยายกำไรให้งอกเงยเพิ่มขึ้น แต่ต้องไม่ลืมเรื่องความยืดหยุ่นและการให้รางวัลตัวเองเป็นครั้งคราวเพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเอง ซึ่งบัตรเครดิตประเภทเครดิตเงินคืนจะตอบโจทย์เรื่องความคุ้มค่ามากกว่าเงินสด เช่น บัตรเครดิตเงินคืน บัตรเครดิตสำหรับนักออมเงินเน้นความคุ้มค่า รับเงินคืนทุกการใช้จ่าย 1% เข้าบัญชีเงินฝาก ทีทีบี โนฟิกซ์ สูงสุด 2,000 บาทต่อบัญชีบัตร ต่อรอบบัญชี ทุกร้านค้าตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ไม่ต้องรอโปร ฟรีค่าธรรมเนียมทั้งแรกเข้าและรายปี
The Happy Medium
“Happy Medium” มนุษย์ตรงกลาง บาลานซ์ความต่างหาสมดุลระหว่างโจทย์ทางการเงินและความสุขในชีวิตได้อย่างลงตัว มีแผนสำรองไว้ล่วงหน้า พร้อมสนุกกับชีวิตและมีความรับผิดชอบต่อตัวเองไปพร้อมกัน ทั้งยังรอบคอบกับการใช้จ่ายและการเก็บออม โดยสิ่งที่มนุษย์ Happy Medium ควรทำเพื่อรักษาความแฮปปี้ในจิตใจให้ยั่งยืนนั้น คือ การตั้งเป้าหมายทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพื่อหาสมดุลให้ตัวเองอยู่เสมอ พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทุกเมื่อ เช่น มีเครื่องมือทางการเงินอย่างบัตรเครดิตที่สามารถเพิ่มความยืดหยุ่นให้ไลฟ์สไตล์ได้มากขึ้น มีทางเลือกในการจ่ายเงิน เพราะได้รับสิทธิประโยชน์จากคะแนนสะสมหรือเครดิตเงินคืนที่ตอบโจทย์ความหลากหลาย จัดการรายจ่ายได้อย่างยืดหยุ่นทั้งยังสร้างความน่าเชื่อถือทางการเงินไปพร้อมกัน
รีบสำรวจเลย! เพราะการรู้จักนิสัยการใช้เงินของตัวเองผ่าน Money Language และเลือกบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์กับนิสัยการใช้จ่าย นอกจากจะทำให้ใช้บัตรเครดิตได้อย่างคุ้มค่าและได้สิทธิประโยชน์กลับคืนมามากที่สุดแล้ว ยังช่วยให้เราใช้เงินได้อย่างมีความสุขและฉลาดขึ้น ยิ่งถ้าเราเข้าใจนิสัยการใช้เงินของคนใกล้ตัว ก็จะช่วยลดปัญหาทะเลาะกันเรื่องเงินได้ด้วย
“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเด็กและชุมชนที่ขาดแคลน โดยนางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช (ซ้าย) ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต เป็นตัวแทนส่งมอบเงินบริจาค เพื่อสมทบทุนเข้าโครงการอุปการะเด็กของมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย โดยการบริจาคครั้งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยน้ำใจของสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่ร่วมกันใช้จ่ายผ่านบัตร และใช้คะแนนสะสม KTC FOREVER แลกเปลี่ยนเป็นเงินบริจาค โดยทุก ๆ 1000 คะแนน สามารถแลกเป็นเงินบริจาคมูลค่า 100 บาท ซึ่งมียอดใช้จ่ายบัตรเครดิตที่เข้าร่วมโครงการรวมกว่า 29,625,629 บาท เพื่อนำไปพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก ครอบครัว และชุมชนที่เผชิญความยากลำบาก ช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษา และสนับสนุนการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน โดยมีนางรสลิน โกแวร์ (ขวา) ผู้อำนวยการ มูลนิธิศุภนิมิตฯ เป็นผู้รับมอบ ณ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย
นางสาวสิรีรัตน์ กล่าวว่า "เคทีซีต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาสให้เด็ก ๆ ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น ขอขอบคุณสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่ร่วมแบ่งปันน้ำใจและมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพื่อให้เด็กไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถก้าวสู่อนาคตที่สดใสได้อย่างมั่นคง"
นางรสลิน กล่าว “มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่มุ่งเน้นการพัฒนา และการรณรงค์เพื่อเสริมสร้างความยุติธรรมทางสังคม โดยทำงานร่วมกับครอบครัวและชุมชนในการมีส่วนช่วยขจัดปัญหาความยากจน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเด็ก ๆ ปัจจุบันมูลนิธิฯ มีพื้นที่ดำเนินงานด้านโครงการพัฒนา 56 แห่ง ใน 35 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมดูแลเด็กในโครงการกว่า 38,000 คน โดยไม่มีข้อจำกัดด้านเพศ เชื้อชาติ ภาษา และศาสนา ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังแห่งการให้ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็ก ๆ และชุมชนให้ดีขึ้น ขอขอบคุณสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีทุกท่านที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืนค่ะ”
การเดินทางไปต่างประเทศนอกจากการวางแผนเส้นทาง ที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว การเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ใช้จ่ายได้อย่างสะดวก ประหยัด คุ้มค่า อีกทั้งยังได้รับสิทธิพิเศษมากมาย แต่เมื่อพูดถึงการใช้บัตรเครดิตสำหรับการเดินทางหรือใช้จ่ายในต่างประเทศ หลายคนอาจลังเลว่าควรเลือกใช้บัตรประเภทไหนจึงจะได้สิทธิพิเศษสูงสุด เพราะแต่ละแบรนด์บัตรเครดิตทั้ง Visa Mastercard JCB และ UnionPay ต่างมีข้อดีและความคุ้มค่าที่แตกต่างกัน เคทีซีจึงได้รวบรวม 5 วิธีเลือกบัตรเครดิตสำหรับท่องเที่ยวต่างประเทศให้คุ้มค่าและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายมากที่สุด
1. เลือกบัตรที่ได้รับการยอมรับในประเทศปลายทาง
บัตรเครดิตแต่ละแบรนด์มีความครอบคลุมในประเทศต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน บางประเทศอาจรองรับบัตรบางประเภทมากกว่า ดังนั้นก่อนการเดินทางจึงควรเช็กสถานที่ที่ไปว่ารองรับบัตรประเภทใดเพื่อให้สามารถเลือกบัตรที่ใช้จ่ายได้สะดวกที่สุดในจุดหมายปลายทาง เช่น หากเดินทางไปยุโรปหรืออเมริกา ควรใช้บัตรเครดิต Visa หรือ Mastercard เพราะร้านค้ามักจะรับบัตรสองประเภทนี้มากที่สุด หากเดินทางไปญี่ปุ่น ควรมีบัตรเครดิต JCB ติดตัว เพราะมีส่วนลดพิเศษที่ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำโดยเฉพาะเมื่อใช้จ่ายเป็นสกุลเงินเยน และหากเดินทางไปจีน ควรใช้บัตรเครดิต UnionPay เพราะร้านค้าส่วนใหญ่รองรับและมักไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ซึ่งสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC UNIONPAY PLATINUM ยังได้รับคะแนน KTC FOREVER x2 ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน เป็นสกุลเงินท้องถิ่น HKD/MOP/TWD อีกด้วย
2. เปรียบเทียบอัตราแลกเปลี่ยน ค่าธรรมเนียม และสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิต
เมื่อใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ ระบบจะคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนโดยอิงจากสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งแต่ละแบรนด์อาจมีอัตราที่แตกต่างกัน รวมถึงค่าธรรมเนียมในการแปลงสกุลเงิน สิทธิพิเศษที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทาง เช่น เครดิตเงินคืน ส่วนลดจากการใช้จ่าย คะแนนสะสม หรือการแลกไมล์ เป็นต้น ดังนั้นก่อนออกเดินทางควรหาข้อมูลเพื่อเลือกบัตรที่ให้อัตราแลกเปลี่ยนดีและค่าธรรมเนียมต่ำที่สุด รวมถึงตรวจสอบค่าธรรมเนียมการถอนเงินสดล่วงหน้าหากจำเป็นต้องใช้เงินสดในต่างประเทศ
และสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น บัตรเครดิต Visa และ Mastercard มักมีอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่อนข้างดีเหมาะสำหรับการใช้จ่ายทั่วไป รวมถึงส่วนลดพิเศษสำหรับการจองโรงแรมและร้านอาหารในหลายประเทศ บัตรเครดิต UnionPay มีค่าธรรมเนียมถูกกว่าและมีโปรโมชันส่วนลดหากใช้ในประเทศจีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน หรือสิงคโปร์ และบัตรเครดิต JCB มีโปรโมชันสำหรับการใช้จ่ายในสกุลเงินเยนที่ร้านค้าปลอดภาษี หรือร้านอาหารในญี่ปุ่น โดยเคทีซีมีค่าธรรมเนียมอัตราความเสี่ยงการแปลงสกุลเงินต่างประเทศที่ถูกกว่าเพียง 2% จากปกติอัตราตลาด 2.5%
3. ตรวจสอบสิทธิ์การใช้บริการพิเศษ
หากต้องการความสะดวกสบายระหว่างเดินทาง การมีบัตรเครดิตที่ให้สิทธิ์ใช้บริการเลานจ์สนามบิน บริการ Fast Track หรือบริการรถรับส่งสนามบินเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกบัตร เช่น บัตรเครดิต KTC VISA SIGNATURE บัตรเครดิต KTC WORLD REWARDS MASTERCARD หรือ บัตรเครดิต KTC UNIONPAY DIAMOND ได้สิทธิ์ใช้บริการห้องรับรองพิเศษ MIRACLE LOUNGE ฟรี 2 ครั้งต่อปีที่สนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงบัตรเครดิต KTC JCB ULTIMATE ที่นอกจากจะได้สิทธิ์ห้องรับรองพิเศษทั้ง MIRACLE LOUNGE และ LoungeKey ที่เป็นห้องรับรองสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต JCB แล้วยังมีบริการรถลีมูซีนรับ ส่งสนามบินสุวรรณภูมิหรือสนามบินดอนเมืองอีกด้วย (เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด)
4. เช็กสิทธิ์ประกันการเดินทางที่มาพร้อมกับบัตร
บัตรเครดิตหลายประเภทมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ด้านประกันการเดินทาง ซึ่งสามารถคุ้มครองผู้ถือบัตรจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทั้งอุบัติเหตุ เที่ยวบินล่าช้า หรือกระเป๋าเดินทางสูญหาย จึงควรตรวจสอบสิทธิพิเศษของบัตรเครดิตก่อนเดินทางเสมอเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น เช่น บัตรเครดิต KTC VISA SIGNATURE บัตรเครดิต KTC WORLD REWARDS MASTERCARD บัตรเครดิต KTC JCB ULTIMATE และบัตรเครดิต KTC UNIONPAY DIAMOND มีสิทธิประโยชน์ประกันเดินทางทั้งในและต่างประเทศที่ครอบคลุมความสูญเสียหรือความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง รวมถึงเสียชีวิต หรือเสียอวัยวะ สายตาหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงในขณะโดยสารบนยานพาหนะโดยสารสาธารณะที่วงเงินสูงสุด 20,000,000 บาท
5. เลือกบัตรที่มีระบบความปลอดภัยและบริการฉุกเฉินที่ดี
ควรตรวจสอบระบบความปลอดภัยของบัตรเครดิตล่วงหน้าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างการเดินทาง เช่น บัตรเครดิตสูญหายหรือถูกโจรกรรม โดยควรเลือกบัตรที่มีระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชันหรือข้อความ SMS เมื่อมีการใช้จ่าย พร้อมตรวจสอบว่ามีบริการอายัดบัตรฉุกเฉินหรือไม่ เพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่าการใช้จ่ายในต่างประเทศจะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น หรือเลือกบัตรเครดิต DIGITAL เช่น บัตร
เครดิต KTC DIGITAL PLATINUM VISA และบัตรเครดิต KTC DIGITAL PLATINUM MASTERCARD เป็นบัตรเครดิตดีไซน์โปร่งใส ไม่มีหมายเลขบัตรหรือแถบแม่เหล็กบนบัตร โดยข้อมูลสำคัญจะถูกเก็บไว้ในชิปการ์ดที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านแอปพลิเคชัน KTC Mobile เท่านั้น รหัส Dynamic CVV เปลี่ยนทุกครั้งที่ขอและใช้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง รวมถึงรองรับการชำระเงินแบบ Contactless หากเกิดการสูญหายสามารถแจ้งอายัดบัตรชั่วคราวผ่านแอปพลิเคชัน KTC Mobile ได้ทันที
การเลือกบัตรเครดิตสำหรับเดินทางต่างประเทศไม่ใช่แค่เลือกบัตรที่มีวงเงินสูงสุด แต่ต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความครอบคลุมของบัตรในประเทศที่จะไป ค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยน สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ ความคุ้มค่าของประกันการเดินทาง และระบบความปลอดภัยของบัตรเครดิต หากเลือกบัตรได้เหมาะสมจะช่วยให้การเดินทางสะดวกและคุ้มค่ากว่าที่เคย
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE 02 123 5000 หรือติดตามโปรโมชันของเคทีซีได้ที่ https://www.ktc.co.th สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.cards/apply-pop-jcb หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ
หมายเหตุ : บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี