December 05, 2025
×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 813

ทรู นับถอยหลังการใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง ที่กำหนดให้ชื่อเจ้าของบัญชีต้องตรงกับชื่อเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผู้ที่จำเป็นต้องดำเนินการจะได้รับการแจ้งเตือนในกล่องข้อความของแอปธนาคาร โดยลูกค้าจะต้องติดต่อสาขาธนาคารที่สะดวก เพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตน พร้อมเตรียมเอกสารตามที่ธนาคารกำหนด ภายในวันที่ 30 เมษายน 2568 หรือถ้าลูกค้าต้องการอัปเดตหมายเลขโทรศัพท์ให้ตรงกับชื่อเจ้าของบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง สามารถต่อต่อที่ทรูช้อป หรือดีแทคช้อปทุกสาขา โดยผู้จดทะเบียนซิมเดิมและใหม่ ต้องนำบัตรประชาชนตัวจริง พร้อมซิมการ์ดเลขหมายที่ต้องการเปลี่ยนชื่อผู้ใช้บริการ มาแสดงตนพร้อมกัน

ลูกค้าทรูและดีแทคสามารถตรวจสอบความเป็นเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ได้ง่ายๆด้วยตัวเอง ดังนี้

· ลูกค้าทรูแบบรายเดือน กด *179*หมายเลขบัตรประชาชน#โทรออก

· ลูกค้าทรูแบบเติมเงิน กด *153#โทรออก

· ลูกค้าดีแทคแบบรายเดือนและเติมเงิน กด *120#โทรออก

ทั้งนี้ หากผลการตรวจสอบไม่ตรงกัน แต่ไม่ได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปธนาคาร ยังสามารถใช้งาน โมบายแบงก์กิ้ง ได้ตามปกติ ไม่ต้องดำเนินการใดๆ หรือหากต้องการอัปเดตให้ตรงกัน ก็สามารถทำได้ที่ ทรูช้อปหรือดีแทคช้อปทุกสาขา นอกจากนี้ทรูยังอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าแบบเติมเงิน สามารถอัปเดต ชื่อเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ด้วยตัวเอง ได้ที่แอปพลิเคชันทรู ลูกค้าทรู https://ss.true.th/s/3aCz และลูกค้าดีแทค https://dtac.co.th/s/d3aCz

 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่คอลเซ็นเตอร์ ทรู 1242 หรือดีแทค 1678

ปัจจุบันการทำธุรกรรมผ่าน โมบายแบงก์กิ้ง กลายเป็นทางเลือกหลักในการโอนเงิน จ่ายบิล และทำธุรกรรมต่างๆ แต่เพื่อป้องกัน ซิมผี บัญชีม้า และภัยไซเบอร์ ภาครัฐจึงได้ออกมาตรการยกระดับความปลอดภัยการใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง กำหนดให้ชื่อผู้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้งต้องตรงกับชื่อเจ้าของซิมหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมาตรการนี้ทำให้หลายคนตกใจและสงสัยว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง และต้องทำทุกคนหรือไม่? วันนี้ ทรูพร้อมแนะเคล็ดไม่ลับ! เพื่อให้ทุกคนสบายใจและปลอดภัยในการใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง ได้ต่อเนื่อง

1. ถ้าไม่ได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร ไม่ต้องดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ต้องไปทรูช้อป ไม่ต้องไปธนาคาร ยังสามารถใช้งานโมบายแบงก์กิ้งได้ตามปกติ

2. การแจ้งเตือนของธนาคาร ไม่ใช่เป็นการส่งข้อความ SMS แต่เป็นการส่งข้อความเตือนผ่านแอปพลิเคชันธนาคารที่ใช้บริการ (เป็นpush notifications)

3. หากได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับการยกเว้น และกลุ่มที่ไม่ได้รับการยกเว้น

4. กลุ่มที่ได้รับการยกเว้น (คือชื่อผู้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง ไม่ต้องตรงกับชื่อเจ้าของซิมหมายเลขโทรศัพท์มือถือได้) มี 3 กลุ่มคือ 1. บุคคลในครอบครัวเดียวกัน 2. ผู้ที่ต้องได้รับการดูแลตามกฏหมาย

3. นิติบุคคล

โดย 2 กลุ่มแรก สามารถติดต่อสาขาธนาคารที่สะดวก ภายใน 30 เมษายน 2568 เพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตน พร้อมเตรียมเอกสารตามที่ธนาคารกำหนด ดังนี้

· บุคคลในครอบครัว : เอกสารที่แสดงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน,สำเนาสูติบัตร หรือสำเนาทะเบียนสมรส และใบเสร็จค่าโทรศัพท์ที่แสดงความเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์

· ผู้ที่ต้องได้รับการดูแลตามกฏหมาย : คำสั่งศาลแต่งตั้งผู้อนุบาล, ผู้พิทักษ์, บัตรผู้พิการ หรือเอกสารที่หน่วยงานราชการออกให้

5. สำหรับนิติบุคคล สามารถดำเนินการได้ 2 แนวทาง

o ยื่นแบบฟอร์มยืนยันเลขหมายจดทะเบียน พร้อมลายเซ็นกรรมการผู้มีอำนาจ และตราประทับบริษัท โดยให้ทรูอัปเดตข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

o ออกหนังสือรับรองสำหรับธนาคาร โดยระบุชื่อพนักงาน เลขหมายโทรศัพท์ และอนุญาตให้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง ตามข้อกำหนดของธนาคาร เพื่อนำไปยื่นที่สาขาธนาคาร ดูรายละเอียดและดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ https://truebusiness.truecorp.co.th/th/home

6. กลุ่มที่ได้รับการแจ้งเตือนและไม่ได้รับการยกเว้น สามารถอัปเดตชื่อจดทะเบียนให้ตรงกับชื่อเจ้าของบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง ได้ที่ทรูช้อป (ไม่มีค่าบริการ) ภายใน 30 เมษายน 2568 ถ้าไม่ดำเนินการตามกำหนด ธนาคารอาจระงับบริการโมบายแบงก์กิ้ง

7. การอัปเดตชื่อจดทะเบียนให้ตรงกับชื่อเจ้าของบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง ทั้งลูกค้าระบบรายเดือนและเติมเงิน ต้องเตรียมบัตรประชาชนตัวจริง และซิมการ์ดตัวจริง โดยผู้จดทะเบียนซิมเดิมและใหม่ ต้องแสดงบัตรประชาชนตัวจริง พร้อมซิมการ์ดเลขหมายที่ต้องการเปลี่ยนชื่อผู้ใช้บริการ ติดต่อทำรายการโอนเปลี่ยนเจ้าของได้ที่ ทรูช้อป

8. หากลูกค้าได้รับการแจ้งเตือนและผู้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้งอยู่ต่างประเทศ ซึ่งต้องการอัปเดตชื่อ จดทะเบียนซิม สามารถทำได้โดยให้ผู้อยู่ในประเทศไทยนำเอกสารของผู้จดทะเบียนซิมและผู้รับโอนไปดำเนินการที่ ทรูช้อป เพื่อยืนยันตัวตนพร้อมกันทั้งคู่ผ่าน VDO Call

9. หากผู้ที่ได้รับการแจ้งเตือน ไม่ดำเนินการแก้ไขชื่อผู้จดทะเบียนให้ตรงกับชื่อเจ้าของบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง ภายในเวลาที่ภาครัฐกำหนดคือ 30 เมษายน 2568 ลูกค้าก็จะยังสามารถใช้บริการโทรศัพท์ทั้งโทรและเน็ตได้ตามปกติตลอดไป แต่ภายหลังจากวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 จะไม่สามารถทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงก์กิ้งได้

10. ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะของตัวเองและดำเนินการตามได้ง่ายๆ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่คอลเซ็นเตอร์ ทรู 1242 หรือดีแทค 1678

ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ที่กำหนดให้ชื่อผู้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง ต้องตรงกับชื่อเจ้าของซิมหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นแนวทางในการยกระดับความปลอดภัยการใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง สกัดกั้นบัญชีม้า ที่เป็นเส้นทางก่ออาชญากรรมของมิจฉาชีพ ซึ่งล่าสุด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติที่ประชาชนต้องดำเนินการ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2568

นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้ความสำคัญต่อมาตรการของภาครัฐที่เป็นแนวทางเสริมสร้างความปลอดภัยทางการเงินและป้องกันซิมผี บัญชีม้า ซึ่งเรื่องดังกล่าวแม้จะเป็นเรื่องระหว่างธนาคารผู้ให้บริการกับลูกค้าที่ผูกบริการโมบายแบงก์กิ้งกับธนาคาร แต่ทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะผู้ให้บริการที่เชื่อมต่อระหว่างธนาคารและลูกค้า พร้อมอำนวยความสะดวกลูกค้าผู้ใช้บริการตามหลักเกณฑ์และแนวทางของธนาคารเจ้าของบัญชี โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2568 ธนาคารจะเป็นผู้ส่งข้อความแจ้งเตือนลูกค้าที่ต้องดำเนินการหากชื่อผู้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง ไม่ตรงกับชื่อเจ้าของซิมหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ดังนั้น หากลูกค้าไม่ได้รับการแจ้งเตือน ก็ไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆและสามารถใช้โมบายแบงก์กิ้งได้ตามปกติ ขณะที่หากลูกค้าได้รับการแจ้งเตือนจากธนาคาร สามารถติดต่อสอบถามโดยตรงจากธนาคารเจ้าของบัญชี ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถใช้บริการโมบายแบงก์กิ้งได้ตามปกติ จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2568 กรณีที่ต้องการเปลี่ยนชื่อผู้จดทะเบียนเบอร์มือถือให้ตรงกับชื่อเจ้าของบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง ผู้จดทะเบียนเดิมและใหม่ สามารถนำบัตรประชาชนตัวจริงมาดำเนินการได้ที่ ทรูช้อป หรือศูนย์บริการดีแทค

รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คอลเซ็นเตอร์ ทรู 1242 หรือ ดีแทค 1678

สนับสนุนให้คนไทยสร้างความคุ้มครองให้เพียงพอ ปกป้องความเสี่ยงด้านสุขภาพ

“ธนาคารไทยพาณิชย์” ขานรับนโยบายธปท. เดินเกมบุกอีมาร์เก็ตเพลส (e-Marketplace) หรือการให้บริการผ่านแพลตฟอร์ มอิเล็กทรอนิกส์ อย่างเป็นทางการรายแรกของเมืองไ ทย พร้อมชูแนวคิด “แฮปปี้ ทรานแซคชั่น” (Happy Transaction) มุ่งสร้างความรู้สึกดีๆ ในทุกครั้งที่ทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY

ประเดิมด้วยการผนึกกำลัง “เอส เอฟ” พันธมิตรด้านไลฟ์สไตล์ ส่งมอบ #ตั๋วหนังเพื่อคุณ ให้ลูกค้าผู้ใช้บริการ SCB EASY พร้อมประสบการณ์ใหม่ในการซื้อตั๋วภาพยนตร์ที่ “สะดวก ง่าย รวดเร็ว เดินเข้าโรงได้ทันที” พร้อมโปรโมชั่นตั๋วหนังราคา 80 บาท ทุกรอบที่โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ ทุกสาขา เมื่อซื้อผ่านแอปฯ SCB EASY ตั้งเป้ายึดหัวหาดครองใจลูกค้า ดันยอดผู้ใช้จากปัจจุบัน 6 ล้านราย เป็น 10 ล้านราย ภายในสิ้นปี 2561

ธนา เธียรอัจฉริยะ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส Chief Marketing Officer ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “หลังจากที่ไทยพาณิชย์ได้พัฒนาแ ละปรับโฉม SCB EASY โมบายแบงก์กิ้ง แอปพลิเคชัน แบบยกเครื่องใหม่เมื่อกลางปีที่ ผ่านมา ด้วยรูปแบบของบริการและการทำตลา ดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

ในปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานอยู่ ที่ 6 ล้านราย มียอดใช้งานแอคทีฟ 70 – 75 % ธนาคารไม่หยุดนิ่งที่จะเดินหน้า พัฒนารูปแบบการให้บริการที่ตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์และการเงินของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล และนับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ธนาค ารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกเกณฑ์อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทในกลุ่มธุรกิ จทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ สามารถให้บริการแพลตฟอร์มอิเล็ก ทรอนิกส์ (e-Marketplace Platform) หรืออีมาร์เก็ตเพลส เพื่อเป็นช่องทางให้ลูกค้าซื้อขาย ชำระเงินออนไลน์ได้อย่างครบวงจร

 

 

ไทยพาณิชย์ ในฐานะผู้นำด้านดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ แบงก์กิ้ง จึงไม่รอช้าที่จะขานรับนโยบายดังกล่าว และพร้อมประเดิมเป็นรายแรกในการ เปิดให้บริการอีมาร์เก็ตเพลสอย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เรายึดแนวคิด “แฮปปี้ ทรานแซคชั่น” (Happy Transaction) เป็นแกนหลักในการพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อให้แอปฯ SCB EASY เป็นช่องทางในการเข้าถึงความสุขของลูกค้า โดยเริ่มจากเอนเตอร์เทนเมนท์ และเมื่อพูดถึงเอนเตอร์เทนเมนท์ก็ต้อง “โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ”

ดังนั้นธนาคารจึงได้จับมือ “เอส เอฟ” พันธมิตรด้านไลฟ์สไตล์ เปิดให้บริการซื้อตั๋วหนังผ่านแ อปฯ SCB EASY ซึ่งการชมภาพยนตร์นับเป็นความบันเทิงด้านไลฟ์สไตล์ที่ง่ายต่อกา รเข้าถึง และสามารถสร้างความสุขให้กับผู้ คนได้เป็นอย่างดี”

 สุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอส เอฟ และธนาคารไทยพาณิชย์ มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการเป็นผู้นำด้านดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ ซึ่งการให้บริการเปิดขายตั๋วหนังผ่านโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชัน SCB EASY ในครั้งนี้ จะเป็นอีกส่วนสำคัญในการยกระดับ ประสบการณ์ด้านดิจิทัลและเข้าถึงไลฟ์สไตล์ความต้องการของลูกค้า ยุค 4.0 ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์และมีแนวโน้มในการซื้อตั๋วภาพยนตร์ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และคล่องตัวให้กับลูกค้า โดยไม่ต้องเสียเวลามาเข้าคิวเพื่อซื้อหรือรับตั๋วที่เคาน์เตอร์ จำหน่ายอีกต่อไป เพียงแสดง E-ticket ที่ได้จากการซื้อตั๋วผ่านแอปฯ SCB EASY กับพนักงานที่หน้าโรงภาพยนตร์ ก็สามารถเข้าชมภาพยนตร์เรื่องโป รดได้ทันที นับเป็นการมอบประสบการณ์ที่ช่วย เพิ่มช่วงเวลาแห่งความสุขให้ลูก ค้าอีกด้วย”

นายธนา กล่าวสรุปว่า จากเดิมที่ลูกค้าต้องเปิดแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ ของโรงหนัง แล้วจึงโยงมาชำระเงินที่ช่องทางของธนาคาร แต่จากนี้เพียงลูกค้าเปิดแอปฯ SCB EASY แล้วคลิกที่ไอค่อน “Movies” หรือ “ดูหนัง” เลือกภาพยนตร์ที่ชื่นชอบ เลือกรอบฉาย เลือกที่นั่งและจำนวนที่ต้องการแล้วชำระเงิน ก็สามารถออก E-ticket เพื่อนำไปใช้ดูหนังได้ทันที

นับว่าเป็นการมอบประสบการณ์ใหม่ที่ “สะดวก ง่าย รวดเร็ว เดินเข้าโรงได้ทันที” เข้าถึงลูกค้าครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานยุคดิจิทัล และตอกย้ำความเป็นผู้นำดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ แบงก์กิ้ง และเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้งาน โดยโปรโมชั่น เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคมนี้ พร้อมตั้งเป้ายอดผู้ใช้งาน SCB EASY เพิ่มจาก 6 ล้านรายในปัจจุบัน เป็น 10 ล้านรายภายในสิ้นปี”

X

Right Click

No right click