

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมแบ่งปันน้ำใจบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมาก รวมถึงยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังรอการช่วยเหลือและยังติดอยู่ในพื้นที่
ทิพยประกันภัย ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความห่วงใย เปิดจุดรับบริจาคสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น น้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง ยารักษาโรค เสื้อผ้า และของใช้ประจำวันอื่น ๆ โดยทิพยประกันภัยจะรวบรวมและนำสิ่งของต่างๆ ที่ได้รับบริจาคไปกระจายให้กับพี่น้องที่ได้รับความเดือดร้อนและศูนย์ช่วยเหลือต่างๆต่อไป โดยท่านสามารถนำสิ่งของมาบริจาคที่


นอกจากการเปิดรับบริจาคแล้ว ทิพยประกันภัยยังส่งทีม TIP Smart Assist และหน่วยหนุมานทิพยจิตอาสาลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องในจังหวัดเชียงรายโดยตรง รวมถึงให้บริการยกรถฟรีแก่ลูกค้าและประชาชนที่ประสบภัย อีกทั้งจะเร่งดำเนินการตรวจสอบความเสียหาย และจ่ายค่าสินไหมให้แก่ลูกค้าทิพยประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมนี้ ทั้งที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินอื่นๆ โดยลูกค้าสามารถแจ้งเคลมได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านสายด่วน 1736 กด 1
บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมจัดโครงการสร้างบุญมหากุศล "พลังบุญทิพย 9 เดือน 9 ปีที่ 15" ในวันฤกษ์ดี ณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

คณะผู้บริหารและพนักงาน นำคณะผู้ถือหุ้นและกัลยาณมิตรธรรม กว่า 72 คน ร่วมสร้างบุญมหากุศล โดยนิมนต์ พระธรรมรัตนมงคล ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 2 เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นประธานสงฆ์ และพระเมธีวราภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นรองประธานสงฆ์ พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์อีกจำนวน 7 รูป ร่วมเจริญพระพุทธมนต์ ถวายผ้าห่มองค์พระ “พระพุทธไตรรัตนนายก” รวมถึงถวายภัตตาหารเพล สังฆทานและเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรม แด่พระภิกษุสงฆ์ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันปล่อยปลามหากุศล จำนวน 572 กิโลกรัม ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อส่งเสริมคุณธรรมและความเมตตา รวมถึงยังเป็นการสะท้อนถึงหลักธรรมาภิบาลที่บริษัทฯ ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการทำความดี

บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นในการส่งเสริมคุณธรรม ความกตัญญูต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นหลักการที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนและสืบสานความเป็นไทยให้คงอยู่คู่แผ่นดินสืบไป
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ส่งทีมสำรวจภัย TIP Smart Assist และ หน่วยหนุมานทิพยจิตอาสา ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เขตภาคเหนือ สืบเนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำยม-น่าน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมเข้าบ้านเรือนประชาชนทิพยประกันภัย เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ พร้อมให้บริการยกรถฟรีแก่ลูกค้าและประชาชนในหลายพื้นที่ อาทิ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แพร่ น่าน และพะเยา

ทางทีม TIP Smart Assist และ หน่วยหนุมานทิพยจิตอาสา ได้ลงพื้นที่จังหวัดน่านเป็นพื้นที่แรกเพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยมอบถุงยังชีพ น้ำดื่ม รวมถึงเข้าสำรวจและจ่ายค่าสินไหมทันที กรณีลูกค้าทำประกันได้รับความเสียหาย ทั้งที่อยู่อาศัยและรถยนต์

สำหรับท่านใดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือมาที่สายด่วน 1736 กด1
ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เข้าเยี่ยมคารวะและแสดงความยินดี นายอรุณ บุญชม ที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรีคนที่ 19 แห่งราชอาณาจักรไทย ณ ห้องรับรองสำนักจุฬาราชมนตรี ชั้น 3 ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ

ในโอกาสนี้ทิพยตะกาฟุลยังได้แนะนำคณะกรรมการชะรีอะฮ์ชุดใหม่ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเพื่อสนับสนุนการขยายตลาดด้านตะกาฟุล โดยคณะกรรมการฯ มีเป้าหมายในการพิจารณาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้สอดคล้องกับหลักศาสนาอิสลามอย่างแท้จริง มีจริยธรรม และรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมทั่งมอบหนังสือเพื่อให้ความรู้เรื่องการประกันภัยระบบอิสลาม และสื่อสารผ่านการกระจายความเสี่ยง (ตะกาฟุลและรีตะกาฟุล) ตามข้อกำหนดของ องค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC)
บริษัท ดี พี เซอร์เวย์ แอนด์ลอว์ จำกัด (DP Survey) บริษัทในเครือ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ บริษัท เมคทูวิน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTW เพื่อผลักดันการตลาดและการจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Deco ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด โดยความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นส่งเสริมสวัสดิการพนักงานในเครือและขยายตลาดสู่หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนพลังงานสะอาด สร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนไปด้วยกัน
โดยมีนายกลพัฒน์ รัตนาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ และนายก่องรัฐ พงษ์ยุพินพานิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี พี เซอร์เวย์ แอนด์ลอว์ จำกัด ร่วมกับ นายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมคทูวิน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTW และ บริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด พร้อมด้วย นางสาวฐิดาภรณ์ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้

นายกลพัฒน์ รัตนาภรณ์ กล่าวว่า “DP Survey เป็นบริษัทสำรวจภัยที่อยู่ในเครือบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มีภารกิจหลักในการ บริหารจัดการสินไหมการประกันภัยทุกประเภท แบบครบวงจร ตั้งแต่การสำรวจภัยและประเมินความเสียหายการตรวจสภาพทรัพย์สินก่อนเอาประกันภัย การเรียกร้องคู่กรณีและการดำเนินการทางกฎหมายให้กับบริษัทประกันวินาศภัยโดยใช้เทคโนโลยีที่มีความทันสมัยและทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ โดยการลงนามความร่วมมือครั้งนี้เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะร่วมสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและเป็นส่วนหนึ่งการขยายตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยเราเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะนำมาซึ่งความสำเร็จและเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย”

นายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ กล่าวว่า “จากภาวะโลกร้อนและปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น ทาง MTW จึงได้ผลักดัน Deco บริษัทในกลุ่มที่ดำเนินธุรกิจประกอบ ผลิต และจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของประเทศ เดินหน้าขยายตลาดตอบโจทย์ลูกค้า ด้วยเครือข่ายศูนย์บริการที่มีครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 100 แห่ง ตอบรับแนวโน้มการใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีทิศทางเพิ่มสูงขึ้น และด้วยการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ ซึ่งในปัจจุบัน Deco เป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และมีโรงงานที่ทันสมัย เป็นฐานการผลิตรายใหญ่ที่สุดมีกำลังการผลิตสูงถึง 2 ล้านคัน/ปี ร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต”
การเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดและการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าไม่เพียงช่วยลดการปล่อยมลภาวะทางอากาศ แต่ยังตอบสนองความต้องการของสังคมในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งความร่วมมือของทั้งสองบริษัทนี้ ได้นำแนวคิด ESG (Environmental, Social, and Governance) มาร่วมกันสร้างประโยชน์ทั้งต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน