January 22, 2025

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานประธานในพิธี และเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง การบูรณาการเพื่อการคุ้มครองผู้ใช้พลังงานที่เป็นผู้ป่วย ซึ่งมีความจําเป็นที่จะต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล เพื่อวางกรอบความร่วมมือในการบูรณาการทำงานคุ้มครองสิทธิผู้ใช้พลังงานเชิงรุก ให้ผู้ใช้พลังงานที่มีผู้ป่วยที่อยู่ในความดูแลได้รับการยกเว้นการงดจ่ายไฟฟ้าในทุกกรณี โดยมี นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือดังกล่าว ณ ห้องประชุม 9 ชั้น 15 กระทรวงพลังงาน อาคาร บี ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์

 

ผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ พร้อมตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาล ในการยกเว้นการงดจ่ายไฟฟ้าได้ในกรณีที่ผู้ใช้ไฟฟ้า หรือผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีบุคคลอยู่ในความดูแล หรือมีผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า ในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล ซึ่งนโยบายดังกล่าว MEA ดำเนินการตามประกาศของ สำนักงาน กกพ. มาอย่างต่อเนื่อง โดยการลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการดูแลผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าเพื่อเดินเครื่องมือทางการแพทย์ โดยเปลี่ยนเป็นการทำงานเชิงรุกผ่านการบูรณาการข้อมูลร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้ MEA สามารถเข้าถึง และดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้า เพื่อให้กลุ่มผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์ได้รับพลังงานไฟฟ้าอย่างเพียงพอ และต่อเนื่อง ไม่เป็นอันตรายต่อต่อสุขภาพผู้ป่วย

นอกจากนี้ การบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานดังกล่าว ยังครอบคลุมถึงการร่วมกันพัฒนาฐานข้อมูล หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้ใช้พลังงานที่เป็นผู้ป่วย ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานในแต่ละหน่วยงานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยสะดวก เป็นปัจจุบัน และสามารถนำไปใช้ตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานได้ ตลอดจนสนับสนุน เผยแพร่ข้อมูล และเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนผู้ใช้พลังงานที่หน่วยงานภาครัฐได้ให้ความคุ้มครอง เกี่ยวกับการได้รับสิทธิการยกเว้นการงดจ่ายไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้า หรือผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีบุคคลอยู่ในความดูแล หรือ มีผู้ป่วยที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อการรักษาพยาบาล มิให้ได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการงดจ่ายไฟฟ้า

 

อย่างไรก็ตาม การร่วมมือครั้งนี้ยังแสดงถึงความมุ่งมั่นของ MEA และหน่วยงานพันธมิตรในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน โดยมุ่งหวังให้การคุ้มครองผู้ใช้พลังงานที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้ป่วยที่ต้องพึ่งพาเครื่องมือทางการแพทย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นในระบบบริการด้านพลังงานที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ MEA พร้อมเดินหน้าทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้การจัดการด้านพลังงานเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชนในทุกมิติ อันสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนในอนาคต

“กองทุนพัฒนาไฟฟ้า” สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) มุ่งส่งเสริมการสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพลังงานสะอาด สู่สังคมคาร์บอนต่ำ เดินหน้าโครงการเด็กตื่นไฟ เปลี่ยนพลังงานผ่านตัวเรา (เด็กตื่นไฟปี 3) ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงาน กกพ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 เพื่อผลักดันเยาวชน สร้างสรรค์สื่อภาพยนตร์สั้น แคมเปญการสื่อสารภายใต้หัวข้อ “THE CHANGER เปลี่ยนพลังงานผ่านตัวเรา” ให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ รณรงค์คนรุ่นใหม่ใช้พลังงานสะอาด เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

สำนักงาน กกพ. ให้ความสำคัญต่อการสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก บรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของทุกคน

นายคชภพ สงวนวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คลิงค์ ดา เอเจนซี่ จำกัด ในฐานะผู้จัดการโครงการเด็กตื่นไฟ ปี 3 “THE CHANGER เปลี่ยนพลังงานผ่านตัวเรา” กล่าวว่า โครงการดังกล่าว เป็นความสำเร็จอีกขั้นของการสื่อสารเรื่องพลังงานสะอาด ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเยาวชนและคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยผลงานภาพยนตร์โฆษณาและแคมเปญการสื่อสารที่ได้รับรางวัลจากโครงการเด็กตื่นไฟ ปี 3 ได้แก่

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ทีม Hello Kitty มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ทีม Lemonspace  มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ทีม SHINESIGHT  มหาวิทยาลัยรังสิต

รางวัลชมเชย ทีมบะหมี่เฮียกง  มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ

รางวัลชมเชย ทีม 19TH FLOOR มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ

ทั้งนี้ ผลงานภาพยนตร์โฆษณาและแคมเปญที่ได้รับรางวัลจะถูกนำไปเผยแพร่ และสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายในหลากหลายช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ อาทิ Facebook  YouTube แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ และช่องทางออฟไลน์ เช่น แหล่งชุมชน โรงเรียน มหาวิทยาลัย ย่านอาคารสำนักงาน แหล่งช้อปปิ้ง สถานีขนส่ง เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ตระหนักถึง ปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศและ การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่การหันมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น

กองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงาน กกพ. ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่สดใสให้กับโลก โดยการติดตามและสนับสนุนโครงการ “เด็กตื่นไฟ ปี 3” เพื่อร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสร้างโลกที่น่าอยู่เพื่อคนรุ่นหลัง

โดยสามารถติดตามและร่วมแชร์ผลงานของน้องๆในโครงการเด็กตื่นไฟ ปี 3 ได้ที่ Facebook Fanpage : เด็กตื่นไฟ  https://web.facebook.com/DEKWAKEUP/?locale=th_TH&_rdc=1&_rdr

“กองทุนพัฒนาไฟฟ้า” สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) สานต่อ โครงการเด็กตื่นไฟ เปลี่ยนพลังงานผ่านตัวเรา (เด็กตื่นไฟ ปี 3) สนับสนุนการประกวดแคมเปญการสื่อสาร ที่มีภาพยนตร์โฆษณาเป็นเครื่องมือหลัก ภายใต้หัวข้อ “The Changer เปลี่ยนพลังงานผ่านตัวเรา" ถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจ เรื่องการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่การใช้พลังงานสะอาด  ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 650,000 บาท

นายธรณพงศ์ เล็กสกุลดิลก ผู้อำนวยการฝ่ายกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เปิดเผยว่า ทาง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้พลังงานที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ที่ส่งผลให้ประชาชน ต้องเริ่มหันมาปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในการใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุด

จึงเป็นที่มาของการสนับสนุน โครงการ “เด็กตื่นไฟ ปี 3 ” ผ่านทางกองทุนพัฒนาไฟฟ้า โดยมีบริษัท เวิร์คลิงค์ ดา เอเจนซี่ จำกัด เป็นผู้ดำเนินโครงการ จัดการประกวดแคมเปญการสื่อสาร ที่มีภาพยนตร์โฆษณาเป็นเครื่องมือหลัก ภายใต้หัวข้อ “THE CHANGER เปลี่ยนพลังงานผ่านตัวเรา”

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความตระหนัก ปลูกจิตสำนึก ความเข้าใจ ทัศนคติที่ดี ได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง เรื่องการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่การใช้พลังงานสะอาดให้แก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป รวมไปถึงบทบาทหน้าที่และภารกิจของ กกพ. ในการกำกับดูแลเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานกับการป้องกันแก้ไขปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ทั้งนี้ คาดหวังว่าโครงการนี้จะสามารถส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนทั่วไป มีความรู้ที่ถูกต้อง ตลอดจนถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ความคิดและทัศนคติด้านพลังงานที่ดีขึ้น พร้อมถ่ายทอดผ่านมุมมองความเข้าใจและทัศนคติของตนเองให้แก่บุคคลรอบตัวและสื่อสารในวงกว้าง

“สำนักงาน กกพ. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับความสนใจจากเยาวชนคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศในการเข้าร่วมโครงการ ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักของปัญหาในการใช้พลังงานรูปแบบเดิม หรือพลังงานฟอสซิล การช่วยกันรณรงค์ให้เกิดการปรับตัวเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน จากพลังงานฟอสซิลไปสู่พลังงานสะอาด รับรู้เกี่ยวกับปัญหาโลกร้อน และปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งถือเป็นกระบอกเสียงสำคัญ ในการส่งต่อพลังทางความคิดไปยังประชาชนทั่วไป

ทั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ นักศึกษา ที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับประสบการณ์ที่ดี และสามารถนำความรู้ แนวความคิด ต่อยอดไปสู่กระบวนการที่ก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ อันจะก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติตลอดไป”นายธรณพงศ์ กล่าว

นายคชภพ สงวนวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเวิร์คลิงค์ ดา เอเจนซี่ จำกัด ผู้สร้างสรรค์และบริหารโครงการ “เด็กตื่นไฟปี 3 ” กล่าวว่า เวิร์คลิงค์ ดา เอเจนซี่ มีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับโอกาสจาก กองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงาน กกพ. ให้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อสังคม

โครงการเด็กตื่นไฟ เป็นโครงการที่จัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 มุ่งหวังสร้างความเข้าใจในเรื่องการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่การใช้พลังงานสะอาดให้แก่ประชาชนทั่วไป ได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องจนไปถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ความคิดและทัศนคติด้านพลังงานที่ดีขึ้น ผ่านการประกวดแคมเปญการสื่อสาร ที่มีภาพยนตร์โฆษณาเป็นเครื่องมือหลัก ภายใต้หัวข้อ THE CHANGER เปลี่ยนพลังงานผ่านตัวเรา” เพื่อชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 650,000 บาท

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาสมัครเข้าร่วมกิจกรรม มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 มีผู้ที่สนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศจำนวน 100 ทีม โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบสองจำนวน 40 ทีม ได้เข้าร่วมรับฟังข้อมูลอย่างเข้มข้น ได้เข้าร่วม กิจกรรม Camp "เด็กตื่นไฟ ปี 3"  เพื่อร่วมพูดคุย รับคำปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ วิทยากรด้านไฟฟ้าและผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาการประกวด ที่เข้ามาให้แนวคิดและเทคนิคสำหรับการนำไปจัดทำผลงานส่งประกวด

ปัจจุบันคณะกรรมการได้คัดเลือกทีมที่ผ่านตามเกณฑ์การตัดสินจนเหลือ จำนวน 26 ทีม เพื่อเข้ารอบชิงชนะเลิศในวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 โดยผู้ได้รับรางวัลทั้งหมด 5 รางวัล ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ มูลค่า 300,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 มูลค่า 150,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 มูลค่า 100,000 บาท และ รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล มูลค่ารางวัลละ  50,000 บาท

โดยทั้ง 26 ทีม ได้นำเสนอผลงานต่อหน้าคณะกรรมการการตัดสิน ผู้แทนจากสำนักงาน กกพ. ผู้แทนจากโครงการ และผู้แทนจากผู้สนับสนุนโครงการ เพื่อคัดเลือกผลงาน ที่สามารถนำผลงานไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพ  โดยสามารถติดตามผลการประกาศรางวัลได้ที่ https://www.facebook.com/DEKWAKEUP?locale=th_TH

กกพ. เคาะ ปรับขึ้นค่าเอฟทีปี 2565 แบบขั้นบันได ทยอยเพิ่มค่าเอฟทีประจำงวด ม.ค. - เม.ย. 65ที่ 16.71 สตางค์ รับภาวะราคาพลังงานขาขึ้น หลังตรึงค่าเอฟทีรับมือโควิด-19 นานกว่า 2 ปี ยืนยันยังมุ่งดูแลเสถียรภาพราคาพลังงาน หนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click