

นางสาวพลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวเกมมรดกวัฒนธรรม “ศรีเทพ ผจญภัย” ในโครงการเนรมิตพิพิธวัฒนธรรม SITHEP Cultural Metaverse กรมศิลปากร โดยมี นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกรมศิลปากร ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และนักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมใหญ่ สำนักหอสมุดแห่งชาติ

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม มีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาประเทศชาติอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีมรดกทางวัฒนธรรมล้ำค่าที่สามารถนำมาพัฒนาต่อยอด สร้างสรรค์เป็นพลัง Soft Power โดยมีเกม เป็นอุตสาหกรรมด้านคอนเทนต์ ความสร้างสรรค์ และวัฒนธรรมที่ทรงพลังอย่างมาก เป็นหนึ่งใน Soft Power ที่รัฐบาลผลักดันให้เป็นปัจจัยหลักในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างรายได้สู่ประเทศ

ดังนั้น กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จัดทำเกมมรดกวัฒนธรรม “ศรีเทพ ผจญภัย” ในโครงการเนรมิตพิพิธวัฒนธรรม SITHEP Cultural Metaverse ขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์ด้านมรดกวัฒนธรรมในการสร้างสรรค์ Digital Content ที่นำมาถ่ายทอดผ่านเกม เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนรุ่นใหม่หันมาสนใจมรดกวัฒนธรรม ได้ทั้งความรู้ คู่ความสนุก เปลี่ยนรูปแบบการเข้าถึงข้อมูลให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของศตวรรษใหม่ ไปสู่การเรียนรู้ที่สนุกกว่าเดิม เกิดความภาคภูมิใจในท้องถิ่นและชาติ เกิดสุนทรียะ และพัฒนาต่อยอดสู่การเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้และแหล่งมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ ไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งในระดับบุคคลและระดับสังคมต่อไปได้

กรมศิลปากร ตั้งใจให้เกมเนรมิตพิพิธวัฒนธรรม SiThep Cultural Metaverse ส่งผ่านไปยังโรงเรียน สถานศึกษา สามารถเล่นได้ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน หรืออุปกรณ์ Tablet เป็นเครื่องมือในการศึกษา และเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของไทย โดยผู้เล่นเกมจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาติ และเมืองโบราณศรีเทพ ที่ได้รับการประกาศยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของประเทศไทยได้อย่างสนุกสนาน เป็นการเปิดโลกใบใหม่ให้เด็กและเยาวชน เกิดการเชื่อมโยง และแลกเปลี่ยนกับผู้เล่นเกมอื่นๆ แบ่งปันประสบการณ์และการเรียนรู้ สร้างสัมพันธภาพกับคนในทุกมุมโลก ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตที่เน้นการใช้เทคโนโลยีในการแลกเปลี่ยนแบ่งปันซึ่งกันและกันในศตวรรษที่ 21 นอกจากนี้กรมศิลปากรจะได้ดำเนินโครงการเนรมิตพิพิธวัฒนธรรม ต่อยอดสร้างสรรค์ เนื้อหาเพิ่มเติมไปยังแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมอื่น ๆ ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง โดยมุ่งเน้นการให้ข้อมูลประวัติศาสตร์ มรดกศิลปวัฒนธรรม นำเสนอในรูปแบบ Digital Content และ Soft Power ผ่านเกมที่สนุกสนาน ให้บริการข้อมูลเพื่อสร้างการเรียนรู้แก่ประชาชนแบบไร้ขีดจำกัด ด้วยรูปแบบของข้อมูลที่มีอัตลักษณ์ แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ผู้ที่ได้เรียนรู้จะสามารถใช้ประโยชน์จากทุนทางวัฒนธรรมในการขับเคลื่อนสร้างสรรค์และต่อยอดมูลค่าในด้านต่าง ๆ ทั้งการศึกษา สังคม เศรษฐกิจ เพื่อเป็นฐานในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

สำหรับเกม “ศรีเทพ ผจญภัย” เป็นการสร้างเนื้อหาข้อมูลโดยการถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในรูปแบบเกมแนว Adventure และ Action โดยให้ผู้เล่นรับบทเป็นตัวละครหลัก เพื่อเชื่อมโยงตัวตนเข้าสู่เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ และออกผจญภัยไปในสถานที่และเรื่องราวของเกมที่ถูกวางไว้ ส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถซึมซับเรื่องราวผ่านตัวละครที่มาจากโลกปัจจุบันย้อนกลับไปสู่อดีตในเมืองโบราณศรีเทพ มีปฏิสัมพันธ์กับข้อมูลและตัวละครต่างๆ ตลอดเรื่องราวมีการแก้ไขปริศนา การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ โบราณสถาน โบราณวัตถุ และการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้น มีด่านการแก้ไขปัญหา ค้นหาโบราณวัตถุ และใช้ความรู้ที่ได้จากการเล่นเกม เพื่อผ่านไปยังด่านต่าง ๆ ในเกม ทำให้ผู้เล่นเกมเข้าใจประวัติศาสตร์ศรีเทพได้ง่ายกว่าสื่อประเภทอื่น ๆ ภายในเกมสร้างขึ้นในลักษณะของโลกเสมือนของพื้นที่เมืองโบราณศรีเทพ ผ่านการออกแบบด้วยศิลปะจากวัตถุ 3 มิติของโบราณสถานและโบราณวัตถุที่โดดเด่น มีไอเทมลับเป็นโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ ที่ซ่อนอยู่ในโบราณสถานต่างๆ ในบริเวณเมืองโบราณศรีเทพ ผู้เล่นสามารถใช้งานแผนที่ประกอบการเดินสำรวจเมืองโบราณ และสามารถกดเลือกรูปภาพบนแผนที่เพื่อเรียนรู้ข้อมูล เกี่ยวกับโบราณสถานและโบราณวัตถุ รูปแบบแผนที่จำลองโลกเสมือน สามารถศึกษาเส้นทางและโบราณสถานต่างๆ ได้อย่างละเอียด และได้เรียนรู้ข้อมูลอย่างถูกต้อง
ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “Sithep Adventure” ผ่านสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ ios และ android หรือคอมพิวเตอร์ PC ที่เว็บไซต์กรมศิลปากร finearts.go.th
สภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย และหน่วยเผยแพร่ศีลธรรมทางพระพุทธศาสนา (นศพ.) กรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ โครงการ Phenix (ฟีนิกซ์) แหล่งรวมอาหารและสุดยอดความอร่อยใจกลางเมืองย่านประตูน้ำ ภายใต้ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสัณฐานทั่วไป จากวัดมหาปชาบดีโคตมี ใกล้ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล อันเป็นดินแดนประสูติของพระพุทธเจ้า มาประดิษฐาน เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ประชาชน และประเทศชาติ
จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ โดยสามารถร่วมพิธีต้อนรับขบวนการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุได้ ในวันที่ 6 กันยายน 2567 เวลา 16.00 น. และร่วมกราบสักการะ เจริญจิตตภาวนา และเจริญพุทธานุสสติ อันจะนำมาซึ่งมหากุศลและความเป็นสิริมงคล ได้ระหว่างวันที่ 7-15 กันยายน 2567 เวลา 10.00-20.00 น. ณ Commonspace ชั้น G โครงการฟีนิกซ์ ประตูน้ำ
สอบถามข้อมูล หรือติดตามกิจกรรมต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.phenixbox.com หรือ Facebook: PhenixFoodWholesaleHub หรือ Instagram: @phenixfoodwholesalehub
สำนักการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ มูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา จัดการแสดงสุดยิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ผสานสองมรดกที่ขึ้นทะเบียนรับรองโดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) “โขน - มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” และ “วัดไชยวัฒนาราม – โบราณสถานที่ตั้งอยู่ในเขตมรดกโลก” กับการแสดงโขนประกอบแสงสี เรื่องรามเกียรติ์ ชุด สัจจะพาลี ณ วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 9-10 มีนาคม 2567 เพื่อสืบสานและเชิดชูวัฒนธรรมไทยอันทรงคุณค่า สอดคล้องกับปณิธานในการดำเนินงานของทั้งสองหน่วยงานที่มุ่งหมายในการอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนชาวไทย รวมถึงในระดับนานาชาติ

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า “เพื่อตอบสนองนโยบายซอฟท์พาวเวอร์ของรัฐบาล และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและศิลปวัฒนธรรม กรมศิลปากรได้ดำเนินโครงการ "ราตรีนี้ที่วัดไชยวัฒนาราม" ตั้งแต่พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับที่ดีจึงได้สานต่อโครงการไปถึงสิ้นเดือนเมษายน 2567 นี้ ภายใต้ชื่องาน "ยามค่ำอยุธยา ๒๕๖๗ - Ayutthaya Sundown 2024" เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสความงดงามของโบราณสถานยามราตรี และร่วมกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ โดยมีจุดเด่นคือการจัดแสดงโขนประกอบแสงสี โดยสำนักการสังคีต ร่วมกับมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ที่ถือเป็นการแสดงครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เราขอขอบคุณมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ที่ตระหนักถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทย มีความตั้งใจสืบสานและอนุรักษ์มรดกอันล้ำค่าไว้ให้คนรุ่นต่อ ๆ ไป ที่นับเป็นตัวอย่างที่ดีของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนด้านวัฒนธรรมของชาติให้เป็นที่ประจักษ์ทั้งคนในประเทศ และนานาประเทศ จึงขอเชิญชวนให้มาร่วมชมการแสดงครั้งสำคัญนี้ด้วยกันครับ”

นายลสิต อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักการสังคีต กล่าวว่า “สำนักการสังคีต ให้ความสำคัญในการดำเนินงานโครงการจัดการแสดงนาฏศิลป์และดนตรีสัญจรไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย เสมือนเรา “ยกโรงละครแห่งชาติออกไปหาประชาชน” โดยสร้างสรรค์และปรับองค์ประกอบการแสดง เล่าเรื่องให้กระชับและชวนติดตาม รวมทั้งผสานเทคโนโลยีอันทันสมัยมาเพิ่มอรรถรสในการชม ที่ไม่เพียงให้ถูกใจผู้ที่ติดตามการแสดงของเราเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เรายังหวังให้คนรุ่นใหม่ รวมทั้งประชาชนนอกกรุงเทพฯ ได้มีโอกาสชมการแสดงที่มีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น การแสดงชุด “สัจจะพาลี” ที่จัดขึ้นที่วัดไชยวัฒนารามครั้งนี้ ถือเป็นอีกตอนที่มีความสำคัญของเรื่องรามเกียรติ์ ไม่เพียงมีเนื้อหาที่สนุกสนาน ยังเป็นตอนที่รวบรวมตัวละครเอกของเรื่องเอาไว้มากมาย รับรองได้ว่าผู้ชมจะได้รับชมอย่างมีความสุขแน่นอน”

นายสมคิด รุจีปกรณ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา กล่าวว่า “มูลนิธิฯ ก่อตั้งมากว่า 20 ปี มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีอย่างยั่งยืนแก่คนในสังคมไทย หนึ่งในแนวทางหลักของการดำเนินงาน เราให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมเพราะเป็นสิ่งที่แสดงถึงอัตลักษณ์ที่ดีงามของชาติไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นใหม่ที่เราอยากให้พวกเขาได้สัมผัส เรียนรู้ และร่วมสืบสานสิ่งอันมีค่าเหล่านี้ ที่ผ่านมามูลนิธิฯ ร่วมมือกับกรมศิลปากรเพื่อดำเนินการโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการพัฒนาศักยภาพทักษะด้านช่างเพื่อบูรณะจิตรกรรม ประติมากรรมไทย โครงการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในพื้นที่จริงนอกโรงเรียนให้กับคุณครู เพื่อใช้ในการออกแบบการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับหลักสูตร ผ่านเส้นทางทัศนศึกษาโบราณสถาน รวมถึงโครงการบูรณะโบราณสถานของไทย และครั้งนี้เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมจัดงานแสดงโขนซึ่งถือเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยที่รวมศิลปะ หลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน เราหวังว่านอกจากจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มีโอกาสได้มาชมแล้ว ยังถือเป็นการช่วยสืบสานวัฒนธรรมไทยที่เป็นมรดกอันล้ำค่าให้ดำรงสืบไปอย่างงดงาม”

การจัดแสดงโขนประกอบแสงสี เรื่องรามเกียรติ์ ชุด สัจจะพาลี เป็นการแสดงสุดตระการตาครั้งประวัติศาสตร์ ที่ผสมผสานสองสุดยอดแห่งศิลปะไทยซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างการแสดงโขน ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้จากองค์การยูเนสโก โดยมีฉากหลังเป็น วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา หนึ่งในโบราณสถานแห่งสำคัญของไทย ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันมีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกด้วยเช่นกัน ครั้งนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนจะได้สัมผัสกับการแสดงสุดยิ่งใหญ่ พร้อมเทคนิกแสง สี เสียงอันทันสมัย รวมถึงการออกแบบเวทีการแสดงที่วิจิตรบรรจงและกลมกลืนกับสถานที่ในทุกมิติ นอกจากนี้ ยังมีการบรรเลงวงออร์เคสตรา โดยวงดุริยางค์สากล สำนักการสังคีต กรมศิลปากร จัดแสดงก่อนการแสดงโขนให้ผู้เข้าชมได้เพลิดเพลินและดื่มด่ำกับบรรยากาศยามอาทิตย์อัสดง ในสถานที่แห่งประวัติศาสตร์แห่งนี้อย่างเต็มอิ่มอีกด้วย
การแสดงโขนประกอบแสงสี เรื่องรามเกียรติ์ ชุด สัจจะพาลี จัดแสดงในวันที่ 9 – 10 มีนาคม 2567 เวลา 17:30 น. ณ วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา สามารถเข้าชมได้ฟรี โดยผู้ชมเพียงชำระค่าเข้าโบราณสถานวัดไชยวัฒนารามเพียง 10 บาทต่อท่าน ซึ่งรายได้จากส่วนนี้ทางโบราณสถานจะนำไปบำรุงสถานที่ต่อไป
สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม จังหวัดนครราชสีมา กลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน