November 24, 2024

YDM Thailand ถอดกลยุทธ์คอนเทนต์ครีเอเตอร์ เทรนด์มาร์เก็ตติ้งมาแรงปี 2024 ขานรับดีมานด์ตลาดโต เผยกลเม็ดสร้างแบรนด์ แนะทริคสร้างคอนเทนต์ทรงพลังเพิ่ม Engagement สตอรี่เทลลิ่งผ่านไลฟ์สไตล์ พลิกเกมธุรกิจคว้าโอกาสท่ามกลางการแข่งขันในตลาด โชว์เคสหนุนธุรกิจ Streaming Platform ดึง KOLอินฟลูเอนเซอร์ ผสมคอนเทนต์ครีเอทีฟ สร้าง Engagement เพิ่ม 50% เพิ่มยอด New streaming สูงที่สุดใน South East Asia ในระยะเวลา 1 เดือน

นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด เผยว่า เทรนด์มาร์เก็ตติ้งปีนี้ การสื่อสารแบรนด์อาจไม่ได้จบเพียงแค่สื่อโฆษณาผ่านทีวี ออนไลน์ หรือป้ายโฆษณา แต่ถึงยุคที่แบรนด์ต้องปรับตัวใช้กลยุทธ์คอนเทนต์ครีเอเตอร์ KOL และอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งเป็นเทรนด์มาร์เก็ตติ้งมาแรงในปี 2567 โดยพบว่าผู้บริโภคมากกว่า 46% เลือกเชื่อข้อมูลแนะนำ หรือการรีวิวใช้จริงในออนไลน์จากผู้บริโภคคนอื่น พอ ๆ กับการเชื่อคำแนะนำจากคนใกล้ชิดหรือครอบครัว ซึ่งสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้เวลาแต่ละวันมากกว่า 5 ชั่วโมงไปกับโซเชียลมีเดีย โดยแต่ละกลุ่มเจเนอเรชั่นต่างเลือกเสพสื่อบนแต่ละแพลตฟอร์มที่ต่างกัน อาทิ ในกลุ่ม Gen X ใช้แพลตฟอร์ม Facebook รองลงมาคือ Youtube, Tiktok Gen Y เลือกใช้แพลตฟอร์ม Facebook รองลงมาคือ Youtube, Instagram, Tiktok และกลุ่ม Gen Z ใช้แพลตฟอร์ม Tiktok มากที่สุด รองลงมาคือ Instagram และ Youtube

 

เมื่อผู้บริโภคเข้าถึงโซเชียลมีเดียบนหลากหลายแพลตฟอร์ม ทำให้มีพื้นที่สื่อสาร สร้างสตอรี่เทลลิ่ง แสดงความคิดเห็นที่เป็นตัวเองมากขึ้น นำไปสู่โอกาส พลิกบทบาทจากผู้เล่นโซเชียลสู่การเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์เพิ่มขึ้น ปัจจุบันประเทศไทยมีคอนเทนต์ครีเอเตอร์มากกว่า 2 ล้านคน ซึ่งยังไม่นับรวมคนไทยที่ใช้งานโซเชียลมีเดีย เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสาร และเพื่อความบันเทิง ทั้งในรูปแบบแสดงความคิดเห็น พูดคุยกันในกลุ่มชุมชนของตนเอง ทำให้แบรนด์จำเป็นต้องเข้าถึงแก่นแท้ของกลเม็ดในการใช้คอนเทนต์ครีเอเตอร์เพื่อการสร้างแบรนด์ ซึ่งการใช้คอนเทนต์ครีเอเตอร์ให้ทรงประสิทธิภาพที่สุด วายดีเอ็ม แนะ 4 ขั้นตอน ดังนี้

1. กำหนดเป้าหมายแบรนด์ให้ชัดเจน ต้องรู้ตำแหน่งของแบรนด์ในตลาด และกำหนดความต้องการของแบรนด์ในการสื่อสารสู่เป้าหมายให้ชัดเจน เช่น ต้องการสื่อสารกับผู้บริโภคเพื่อสร้างการรับรู้ เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ สร้างการมีส่วนร่วม หรือเพื่อสร้างยอดขาย เป็นต้น

2. ทำความเข้าใจคอนเทนต์ครีเอเตอร์ โดยเฉพาะบทบาทของคอนเทนต์ครีเอเตอร์แต่ละกลุ่ม ที่มีจุดแข็งต่างกัน เช่น อินฟลูเอนเซอร์ แค่ชูผลิตภัณฑ์ก็สามารถทำให้สินค้าเป็นที่ต้องการจนทำให้ขาดในตลาด และ KOL เน้นมุมมองการแสดงความเห็นอันทรงพลัง พูดอะไรคนก็เชื่อถือ หรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์สร้างคอนเทนต์

สตอรี่เทลลิ่งผ่านไลฟ์สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ และ Mix บางคนเป็นหลายอย่าง เป็นทั้ง KOL + คอนเทนต์ครีเอเตอร์ นำเสนอเรื่องราวยาก ๆ ผ่านการทำคอนเทนต์แนวเล่าให้ง่าย สนุก ไปพร้อม ๆ กัน

3. ใช้เทคโนโลยีช่วยเลือก การดึงเทคโนโลยี AI ช่วยวิเคราะห์เลือกใช้คอนเทนต์ครีเอเตอร์ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ หรือแคมเปญที่ตอบโจทย์เหมาะกับแบรนด์ ทั้งไลฟ์สไตล์ รูปแบบคอนเทนต์ มีฐานแฟนคลับหรือผู้ติดตามที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในการสื่อสารเดียวกับแบรนด์ โดย YDM มองเห็นบทบาทความสำคัญในส่วนนี้ ในการพัฒนาเครื่องมือ AI ช่วยวิเคราะห์การเลือกใช้คอนเทนต์ครีเอเตอร์ เพื่อขับเคลื่อนทุกแคมเปญการตลาดให้กับทุกแบรนด์พาร์ทเนอร์อย่างมีศักยภาพที่สามารถวัดผลได้ในระยะเวลาที่กำหนด

4. คอนเทนต์สร้าง Trust ต้องไม่ยัดเยียด ให้พื้นที่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้สร้างเรียลคอนเทนต์ บนสตอรี่เทลลิ่งผ่านคาแรกเตอร์และไลฟ์สไตล์ของตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ตีกรอบหรือยัดเยียดคอนเทนต์แบรนด์เข้าไปในการสื่อสารมากเกินไป เพราะอาจทำให้กลบจุดเด่นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไม่เป็นตัวเอง คอนเทนต์ก็จะไม่สนุก และอาจจะส่งผลต่อ Engagement

5. วัดผลให้ได้ กำหนดตัวชี้วัดเกณฑ์ความสำเร็จที่ชัดเจน เช่น online วัดผลผ่านการแทรค Offline ต้องทำ Correlation เพื่อหาความสัมพันธ์ในการใช้ KOL กับยอดขาย ส่วน KOL ไม่ใช่ one time marketing แต่จำเป็นต้องทำอย่างสม่ำเสมอจึงวัดผลได้ และที่สำคัญแบรนด์ไม่ควรมองข้ามการลงทุนกับอินฟลูเอนเซอร์กระแสที่มีค่าตัวสูง แม้จะกระตุ้นยอดขายได้เพียงครั้งเดียว ซึ่งหลายแบรนด์อาจมองว่าเหมือนจะไม่คุ้ม หรือขาดทุน แต่ทางกลับกัน การลงทุนดังกล่าวเป็นหนึ่งในการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ทำให้คนรู้จัก จดจำแบรนด์ได้ เปิดใจทดลองผลิตภัณฑ์ เพิ่มโอกาสการซื้อซ้ำ

 

“พร้อมกันนี้ แนวคอนเทนต์ทรงพลังเพิ่ม Engagement ให้แบรนด์คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญมากในการร่วมงานกับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ซึ่งแนวคิดที่แบรนด์ควรตระหนักคือ 1. ครีเอทีฟคอนเทนต์ที่ไม่เหมือนใคร แตกต่างอย่างมีไลฟ์สไตล์ 2. ตามเทรนด์ กระแสที่ถูกพูดถึงในช่วงเวลานั้น เทรนด์มาต้องทำเลย ก่อนตกเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็น แอคติ้ง เพลง แฮชแท็ก กระแสต่าง ๆ ในโซเชียลแพลตฟอร์ม แต่ข้อควรระวัง คือต้องวิเคราะห์ภาพลักษณ์และความเหมาะสม เพราะไม่ใช่ทุกเทรนด์ที่แบรนด์จะเกาะกระแสได้ 3. Unknown fact การนำเสนอคอนเทนต์แบบที่คนไม่เคยรู้มาก่อน จะสร้างความน่าสนใจ 4. Build Discussion เช่น ทานหมี่หยก “ทีมลวก/ไม่ลวก” คอนเทนต์ที่ให้คนมาแสดงความคิดเห็นหรือถกเถียงกันต่อ และ 5. คอนเทนต์เหมาะกับ Platform เช่น Tiktok ต้องเสนอเป็นวิดีโอสั้น ๆ ดูเรียล Facebook เสนอเป็นภาพหรือ Photo album หรือ IG เน้นรูปสวย Reels ดูดีมีระดับตั้งแต่ภาพแรก” นายธนพล กล่าวเสริม

อย่างไรก็ดี หากแบรนด์ดำเนินกลยุทธ์การตลาดอย่างถูกต้อง จะสามารถขับเคลื่อนธุรกิจสู่ผลลัพธ์ตามเป้าหมายได้อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างโชว์เคสของ YDM จากกลุ่มธุรกิจ Streaming Platform ดึง KOLอินฟลูเอน

เซอร์ ผสมคอนเทนต์ครีเอทีฟ สามารถสร้างผลลัพธ์เพิ่ม Engagement มากขึ้น 50% และเพิ่มยอด New streaming สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในระยะเวลา 1 เดือน

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกี่ยวกับการศึกษาและแนวทางการใช้กลยุทธ์คอนเทนต์ครีเอเตอร์ ที่สอดรับกับเทรนด์มาร์เก็ตติ้งในปี 2567 ได้ที่วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) https://www.ydmthailand.com

LINE WEBTOON จับมือ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ส่งเสริมความรู้แก่นักศึกษาเยาวชนรุ่นใหม่ ในด้านการออกแบบผลงานการ์ตูนดิจิทัล โอกาสต่อยอดสู่เส้นทางสายอาชีพ โดยมี นายชเวจุนยอง ผู้บริหาร LINE WEBTOON ประจำภูมิภาคจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ NAVER WEBTOON LIMITED (ท่านที่ 2 จากซ้าย) และ ผศ.ดร.อรรยา สิงห์สงบ รองอธิการบดีสายวิชาการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (ท่านที่ 3 จากซ้าย) เป็นผู้ลงนามความร่วมมือ พร้อมด้วย นายคิมโดยอง ผู้บริหาร LINE WEBTOON ประจำประเทศไทย NAVER WEBTOON LIMITED (ท่านที่ 1 จากซ้าย) และ รศ.ดร.ศุภเจตน์ จันทร์สาส์น ผู้ช่วยอธิการบดีสายวิชาการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (ท่านที่ 4 จากซ้าย) ให้เกียรติเข้าร่วมในพิธี ณ สำนักงาน LINE ประเทศไทย

โดยความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ ในขั้นตอน กระบวนการออกแบบผลงานการ์ตูนดิจิทัลของนักศึกษา ให้มีประสิทธิภาพ และเพื่อเพิ่มทักษะ ต่อยอดศักยภาพการผลิตผลงานการ์ตูนดิจิทัลของนักศึกษา ให้สามารถนำไปใช้งานได้จริงในเส้นทางสายอาชีพ ผ่านความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมการบรรยายพิเศษ กิจกรรมเวิร์คช้อปต่างๆ และโครงการสมทบอีกมากมาย

โดยมีทั้งครีเอเตอร์ โปรดิวเซอร์ในแวดวงการ์ตูนดิจิทัล และทีมงานผู้เชี่ยวชาญจาก LINE WEBTOON มาร่วมเป็นผู้ให้ความรู้ คำแนะนำตลอดกิจกรรมสำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อเป้าหมายในการผลักดันศักยภาพบุคลากรรุ่นใหม่ในวงการครีเอเตอร์ไทย พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการ์ตูนดิจิทัลในประเทศไทย ให้เติบโตขึ้นไปอีกขั้นในระดับสากล

ในยุคที่เรามีโทรศัพท์มือถือเพียงแค่ 1 เครื่องก็สามารถสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย สร้างบทบาทใหม่ ๆ บนโลกดิจิทัล จนกลายเป็นอาชีพได้

เปิดตัวแคมเปญพิเศษ ชวนนักวาดส่งผลงานรับเทศกาล “เฉลิมฉลองแบบหลุดโลก”

เนื่องในวันนักเรียนโลก 15 ตุลาคม TikTok ชวนดูคอนเทนต์จากครีเอเตอร์รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมไอเดียสุดสร้างสรรค์ โดยTikTok อาสาคัดสรรค์มาให้ดูชม

 

นักเรียนวัยใส วัยสุดมันส์ ถือเป็นพลังขับเคลื่อนชุมชน TikTok ที่สำคัญ จะเห็นได้จากคอนเทนต์สุดยอดไอเดียของเหล่านักเรียนที่หาดูได้ตาม #TikTokUni ที่มีเหล่าครีเอเตอร์รุ่นใหม่ไฟแรงปล่อยไอเดียสุดครีเอทีฟกันทั้งคอนเทนต์วิถีการเรียนในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการใช้อุปกรณ์ Gadgets ช่วยทุ่นแรงการเรียน แชร์วิธีการสอบให้ปัง คอนเทนต์ไลฟ์สไตล์นักเรียนในยุคนี้สมัยนี้ทำอะไรกันบ้าง รีวิวชีวิตการไปเรียนต่างแดน กิจกรรมยามว่าง ยามเรียนในโรงเรียนยุคใหม่ ดูไปก็เพลินไป เห็นได้ว่า เทรนด์ใหม่ของการเรียนรู้มาถึงแล้วกับคำว่า Edutainment คือการเรียนรู้คู่ความสนุก ซึ่งเป็นโอกาสที่จะช่วยให้การเรียนรู้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยได้ เทรนด์ไหนโดดเด่นน่าสนุกกันบ้าง ไปดูกัน

เริ่มกันที่เทรนด์แรก "ไลฟ์สไตล์นักเรียนยุคใหม่" ที่มีคอนเทนต์หลากหลายตั้งแต่การรีวิวเรื่องราวรั้วมหาวิทยาลัย รีวิวการเรียนและใช้ชีวิตต่างแดนอย่างครีเอเตอร์สาวน้อยน่ารัก @filmyahoo กับคอนเทนต์ 1 วันชีวิตเด็กมหาวิทยาลัยที่มาพร้อมกับ Voice Effects น่ารักๆ พร้อมโชว์ไอเท็มเจ๋งๆไว้ใช้ในการเรียนและการทำงาน บอกเลยว่ามีทั้งความครีเอทและความสร้างสรรค์ ช่วยเสริมทักษะในการเรียนของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ และ @bemolibeam มาในคอนเทนต์การรีวิวไปเรียนต่างประเทศ "เมื่อฉันถูกส่งไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศ" เปิดประสบการณ์ที่จะทำให้รับรู้กันเลยทีเดียวว่าการเรียนต่างแดนสมัยใหม่นี้ มีทั้งการเต้น การทำ Henna Hand Tattoos และครูแต่งตัวเป็นซอมบี้ให้นักศึกษาหนี มีกระทั่งทัศนศึกษาที่ผับ เรียกได้ว่าเปิดโลกให้เหล่านักเรียน นักศึกษากันเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเต้นในคลาสมหาวิทยาลัย กิจกรรมเล่นเกมส์ในห้องเรียน และอีกมากมาย

Image preview 

 

เทรนด์ต่อมาที่มาแรงไม่แพ้กัน "เทคนิคการเรียนสมัยใหม่" ที่มีทั้งการใช้อุปกรณ์ไอที Gadgets มาช่วยในการเรียน ทั้งใช้ไอแพดจดงานหรือวาดรูปส่งงาน ใช้ประโยชน์จากฟังก์ชั่นไมค์จดเลคเชอร์อาจารย์แทนโดยไม่ต้องเหนื่อย และมีแม้กระทั่งสายมู อย่าง @sofunsheet ก็ไม่ยอมแพ้กันในคอนเทนต์การสอบยุคใหม่ด้วยสายมู ที่มาเพิ่มความมั่นใจในการสอบของนักเรียนไทย ทั้งการบน ไม่กินไข่ต้ม ใช้ถุงนำโชค ทางกายพร้อมแล้ว ทางใจก็ต้องเตรียม ไอเทมเสริมตัวช่วยสายมูนั่นก็คือน้ำมนต์ และ @amnotlion กับคอนเทนต์สายไอทีล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นแนะนำใช้ Canva ในการพรีเซนต์งาน แนะนำแอปพลิเคชันและสอนใช้ในการตัดต่อส่งงาน หรือแม้กระทั่งใช้เครื่องมือ Google Extensions ช่วยเรียนภาษาอังกฤษโชว์ซับ 2 ภาษา แถมถ้าเราสงสัยตรงไหนสามารถกดหยุด เลือกคำศัพท์ที่สงสัยและแปลคำศัพท์นั้นรวมกับออกเสียงได้ทันทีระหว่างดู Netflix เรียกได้ว่าสมัยนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ

 Image preview

 

เทรนด์สุดท้าย คงไม่พ้น "การเรียนรู้คู่ความสนุก หรือ Edutainment" กับการเรียนยุคใหม่ ที่ถูกย่อยเนื้อหาสั้น กระชับ เข้าใจง่าย และสนุกด้วย ทำให้นักเรียน นักศึกษาตั้งใจเรียนกันเป็นแถวแถมรอยยิ้มอันสนุกสนาน อย่าง @krudewtoeic มาสอนการใช้คำศัพท์ Girl Friend และ Girlfriend ต่างกันอย่างไร ด้วยจริตและท่าทางที่สนุกสนาน แถมความรู้เข้าใจง่ายแบบเน้นๆ ทำให้นักเรียนเข้ามาคอมเมนต์ชื่นชอบการเรียนแบบนี้กันตรึม และ @krupann.english ที่มาสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐานแบบเข้าใจง่ายเหมือนกัน ที่พูดไปใครๆ ก็รู้จักกับคำว่า "สะดวกแบบนี้" ภาษาอังกฤษพูดอย่างไรและใช้อย่างไร ที่ทำให้นักเรียน นักศึกษา ตลกขบขันกันเป็นแถว ส่วนถ้าใครอยากรู้พูดว่าอะไรต้องเข้าไปดูกันแล้ว

ยังไม่หมดแค่นี้ คอนเทนต์รีวิวการสอบสัมภาษณ์อย่างไรให้ผ่าน การเตรียมพอร์ทให้เก๋โดนใจผู้สัมภาษณ์ เรียนรู้สิ่งลี้ลับ สิ่งรอบตัวสุดสร้างสรรค์กับ pupurae และ ampossible.th การเรียนรู้มักจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย การเรียนรู้ที่คู่กับความสนุกสามารถเป็นที่รู้จักได้ขนาดนี้ แสดงให้เห็นถึงพลังของคอมมูนิตี้ TikTok ได้เลยทีเดียว ที่นำพาทั้งประโยชน์ วิธีการเรียนแบบใหม่ ทั้งทำให้เกิดการเชื่อมโยงและทำให้นักเรียนคนอื่นๆ เริ่มต้นสร้างสรรค์ของตัวเองได้ทั้งไอเดียและแรงบันดาลใจ

ไม่น่าแแปลกใจว่าทำไม TikTok จึงเป็นแพลตฟอร์มที่มาแรง เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้ทีแม้แต่สื่อการเรียนรู้อย่าง dekdtcas ก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแชร์องค์ความรู้ ส่วนหนึ่งในนั้นก็เพราะ TikTok สร้างพื้นที่ความสบายใจ ทำให้หลายๆ ได้เป็นตัวของตัวเอง และทำให้เกิดเทรนด์การเรียนรู้คู่ความสนุกขึ้นมา สำหรับใครที่มีอยากติดตามการเรียนรู้สมัยใหม่และความสนุกพร้อมๆกันนี้ เข้าไปดูได้ใน แฮชแท็ก #TikTokUni #Universitylife #นักเรียน #ชีวิตมหาลัย บน TikTok

X

Right Click

No right click