December 05, 2025
×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 7636

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดงาน วันสตรีสากล ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “3 ทศวรรษปฏิญญาปักกิ่งฯ: โอกาสและความท้าทายสู่ความเสมอภาคของสตรีและเด็ก” โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวรายงาน สำหรับการจัดงานครั้งนี้เป็นการร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสวันสตรีสากลและเพื่อเชิดชูเกียรติบทบาทของสตรีในด้านต่าง ๆ สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศของรัฐบาลไทย ผ่านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ การพัฒนาสตรี ที่เร่งดำเนินการส่งเสริมสิทธิและโอกาสเพื่อให้สตรีและเด็กได้รับความเสมอภาค ยกระดับการพัฒนาสตรีให้สอดคล้องกับหลักสากล อีกทั้งยังมุ่งมั่นผลักดันพลังสตรีให้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ด้วยการเพิ่มศักยภาพให้สตรีทุกกลุ่ม ทุกระดับ มีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายวราวุธ กล่าวว่า “วันสตรีสากล” (International Women's Day) นับว่าเป็นวันที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ เพื่อรำลึกถึงการต่อสู้ของสตรีเพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม ความเสมอภาค สันติภาพ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงความก้าวหน้าของสตรี ทั้งนี้ประเทศไทยได้มุ่งเน้นการพัฒนาสถานภาพสตรีและการสร้างความเสมอภาคระหว่างเพศ โดยกระทรวง พม. ได้จัดกิจกรรมวันสตรีสากลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2568 นี้ ได้จัดงานภายใต้แนวคิด “3 ทศวรรษปฏิญญาปักกิ่งฯ: โอกาสและความท้าทายสู่ความเสมอภาคของสตรีและเด็ก” ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศของรัฐบาล ด้านการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ด้วยนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการทันที คือ ด้านการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ และด้านการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ สร้างความเท่าเทียมทางโอกาสและเศรษฐกิจ และจัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การจัดการเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและดิจิทัล โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางทางสังคม ซึ่งกลุ่มสตรีและเด็กเป็นหนึ่งในนั้น เพื่อให้สตรีและเด็กกลุ่มนี้ได้รับความเสมอภาคอย่างแท้จริง

โดยกระทรวง พม. มุ่งส่งเสริมโอกาสในการดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีให้แก่สตรี โดยสนับสนุนให้สตรีสามารถนำศักยภาพที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล ผ่านนโยบายการพัฒนาสถานภาพสตรีและความเสมอภาคระหว่างเพศ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และพันธกรณีระหว่างประเทศที่ไทยเป็นสมาชิก อาทิ อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ ปฏิญญาปักกิ่งและแผนปฏิบัติการเพื่อความก้าวหน้าของสตรี รวมถึงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 5 การบรรลุความเท่าเทียมระหว่างเพศ และส่งเสริมความแข็งแกร่งให้แก่สตรีและเด็กหญิง ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การพัฒนาสตรี โดยการเพิ่มบทบาทของสตรีและเด็กหญิงทุกคน

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติได้แสดงเจตนารมณ์และปฏิบัติตามพันธสัญญาต่อเวทีโลก โดยการให้ความสำคัญต่อการพัฒนาสถานภาพสตรีและความเสมอภาคระหว่างเพศ กระตุ้นให้สังคมไทย ได้ตระหนักถึงศักยภาพและสิทธิมนุษยชนของสตรี รวมทั้งยกระดับการพัฒนาสตรีให้สอดคล้องกับหลักสากล และยังมุ่งมั่นผลักดันพลังสตรีให้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวง พม. ที่ได้เร่งรัดขับเคลื่อนพันธกิจสำคัญ 9 ด้าน ต่อยอดจาก “นโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร” ด้านการสร้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตคนเปราะบาง อาทิ คนจน คนพิการ ผู้สูงอายุ และสตรี การส่งเสริมสถานภาพสตรีไทยจึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ

ทั้งนี้ กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การนำเสนอวีดิทัศน์คำปราศรัยจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องในวันสตรีสากลประจำปี 2568 การกล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้ได้รับรางวัล พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่สตรี บุคคล และหน่วยงานองค์กรที่มีผลงานดีเด่น จำนวน 16 สาขา 84 รางวัล และรางวัลเกียรติคุณพิเศษ 3 รางวัล โดยมีผู้ร่วมงาน ได้แก่ ผู้เข้ารับรางวัล ผู้บริหารกระทรวง พม. คณะกรรมการดำเนินงานวันสตรีสากล คณะคู่สมรสเอกอัครราชทูต คณะคู่สมรสคณะรัฐมนตรี สื่อมวลชน ฯลฯ จำนวนทั้งสิ้นกว่า 300 คน และยังได้เปิดตัวโครงการ “กล่องของขวัญ (Pink Box) แทนความห่วงใย เสริมพลังใจเพื่อสตรีไทยมั่นคง” ด้วยการมอบกล่องของขวัญที่บรรจุด้วยสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันและการดูแลสุขอนามัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้กับสตรีกลุ่มผู้เปราะบางที่ถูกซ้อนทับด้วยปัญหาต่าง ๆ อาทิ กลุ่มผู้หญิงที่มีรายได้น้อย ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ผู้หญิงสูงอายุ และผู้หญิงที่มีความพิการ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและภูมิภาคต่าง ๆ จำนวน 4,500 ชุด ตลอดเดือนมีนาคม 2568 ซึ่งนอกจากจะสร้างเสริมกำลังใจและความหวังในการดำเนินชีวิตให้แก่สตรีกลุ่มเปราะบางกลุ่มเหล่านี้ ยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนและภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคมได้ตระหนักถึงปัญหาของสตรี นำไปสู่ความคิดริเริ่มในการสนับสนุนสตรีในรูปแบบต่าง ๆ ให้เข้าถึงสิทธิและสวัสดิการ ให้มีโอกาสและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อเป็นการยืนยันว่า รัฐบาลและภาคีทุกภาคส่วนได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่มีการสอดแทรกประเด็นสตรีและความเสมอภาคระหว่างเพศเข้าไปในการพัฒนากระแสหลัก (Gender Mainstreaming) ซึ่งเป็นหนทางแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อให้สตรีได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม ปลอดภัยจากความรุนแรงทุกรูปแบบ ภายใต้สังคมที่ตระหนักและเข้าใจ พร้อมสนับสนุนพลังสตรีเป็นพลังสำคัญในการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคมทุกมิติต่อไป

ดร.พลรัตน์ เอกโยคยะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานกลยุทธ์ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

เดือนมิถุนายนของทุกปี ไม่ใช่แค่เดือน Pride Month หรือ เดือนแห่งการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศของ LGBTQ+ ทั่วโลก 

บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับโรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆจัดกิจกรรม AXA Hearts in Action สื่อใจเพื่อน้อง” เพ้นท์กระเป๋าผ้ารักษ์โลก เพราะแอกซ่าเชื่อมั่นในพลังของทุกคนจึงส่งเสริมให้นักเรียนเชื่อมั่นในพลังของตัวเอง ซึ่งสอดคล้องกับพันธสัญญาของแบรนด์ “Know You Can” ที่คอยสนับสนุนและสร้างความมั่นใจให้ทุกคนก้าวเดินต่อไปในชีวิตและประสบความสำเร็จได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

กิจกรรมนี้ นอกจากน้องๆ จะรู้สึกภาคภูมิใจกับการเพ้นท์กระเป๋าผ้าฝีมือตนเองที่มีเพียงใบเดียวในโลกแล้ว ยังเป็นการช่วยลดการใช้ถุงพลาสติก ซึ่งตรงกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ รวมถึงแอกซ่ายังได้บริจาคทุนการศึกษาและเลี้ยงอาหารแก่นักเรียน จำนวน 60 คน ซึ่งแสดงออกถึงความใส่ใจและปรารถนาดีต่อชุมชน

แอกซ่ามุ่งบำเพ็ญประโยชน์ใน ด้านหลัก ได้แก่ 1. ด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Environment and climate change) 2. ด้านสุขภาพและการป้องกันโรค (Health and disease prevention) และ 3. ด้านความไม่เท่าเทียมและการมีส่วนร่วมในสังคม (Inequalities and social inclusion)

 

X

Right Click

No right click