November 24, 2024

ทรูมันนี่ หนึ่งในผู้ให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สานต่อพันธกิจในการสร้างการเข้าถึงบริการทางการเงินโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมเปิดโอกาสในการช่วยพัฒนาชีวิตของผู้คนให้เข้าถึงการออมเงินหลังเกษียณ โดยได้มีการจับมือร่วมกับ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่ยังไม่มีสวัสดิการใด ๆ ให้เข้าถึงกองทุนการออมภาคสมัครใจของ กอช. ผ่านแอปทรูมันนี่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยล่าสุด ทรูมันนี่ ได้รับเกียรติให้เข้ารับโล่รางวัลเกียรติยศการส่งเสริมการออมจากกองทุนการออมแห่งชาติ เนื่องในโอกาสของวันออมแห่งชาติ ประจำปี 2567 ภายหลังช่วยให้ยอดสมัครสมาชิกใหม่เพื่อเปิดบัญชีออมกับ กอช. เพิ่มขึ้นที่ 51% (มกราคม – ตุลาคม 2567) และสูงสุดกว่าช่องทางอื่น โดยในงานนี้ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีและมอบรางวัล ณ Paragon South Hall 1 & 4 ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด เผยว่า “ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา ทรูมันนี่ ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาแพลตฟอร์มของเราให้สามารถตอบรับความต้องการของคนหลากหลายกลุ่ม ซึ่งรวมถึงกลุ่มคนที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน (Underserved) อย่างกลุ่มแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีสัดส่วนกว่า 52.3% ของแรงงานไทยทั้งหมด ที่ยังไม่ได้มีสวัสดิการรองรับให้สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างการออมเงินหลังเกษียณ ซึ่งทรูมันนี่ เล็งเห็นถึงความต้องการของกลุ่มแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา จึงได้นำเอาเทคโนโลยีอย่างแพลตฟอร์มดิจิทัลมาช่วยให้การเริ่มใช้บริการทางเงินต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย (Low Barrier of Entry) และจับมือกับกองทุนการออมแห่งชาติ ที่นำเสนอกองทุนการออมภาคสมัครใจซึ่งตอบความต้องการของกลุ่มแรงงานนอกระบบได้รอบด้าน เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกกอช. ปัจจุบัน และผู้ที่สนใจ สามารถสมัครและส่งเงินออมได้ครบจบที่เดียวบนแอปทรูมันนี่ โดยปัจจุบันมียอดผู้สมัครเปิดบัญชีใหม่เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้าถึง 51% ผ่านแอปทรูมันนี่ และถือว่าสูงสุดเมื่อเทียบกับช่องทางอื่น ๆ สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการออกแบบประสบการณ์การใช้งานที่ดีของเรา และการตอบรับความต้องการที่จะเข้าถึงการออมหลังเกษียณของแรงงานนอกระบบได้เป็นอย่างดี”

“และเพื่อสอดรับกับความต้องการและนโยบายของกองทุนการออมแห่งชาติในการขับเคลื่อนและส่งเสริมการออมของประชาชนในวงกว้าง ทรูมันนี่ยังได้จัดกิจกรรมให้ความรู้กระตุ้นการออมเงินร่วมกันกับ กอช. เช่น กิจกรรมออมเงินผ่าน ทรูมันนี่ลุ้นรับของรางวัล รวมไปถึงการลงพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด ฯลฯ ให้ความรู้แก่ประชาชน และสร้างการเข้าถึงการออมเงินยามเกษียณผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจากความร่วมมือและผลตอบรับที่ดีนี้ ทรูมันนี่ จึงตั้งเป้าในการช่วยเพิ่มยอดผู้สมัครและออมเงินบน กอช. รวม 3 ล้านคนภายในปี 2568 เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งในการที่จะนำเสนอโซลูชันด้านบริการทางการเงินแบบครบวงจรที่ตอบโจทย์ โดยการนำเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ นำเอามาสร้างและนำเสนอนวัตกรรมที่ถูกคน ถูกความต้องการมากที่สุด ซึ่งการได้รับรางวัลเกียรติยศจากกอช. ในครั้งนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันศักยภาพของแพลตฟอร์มทรูมันนี่ที่ช่วยเปิดโอกาสการเข้าถึงทางการเงินให้ผู้คนในวงกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายธัญญพงศ์ กล่าวเสริม

ต่อจากนี้ ทรูมันนี่ จะยังคงเดินหน้าพัฒนาบริการทางการเงินด้วยการประยุกต์เอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยออกแบบและนำเสนอบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไปของผู้ใช้งาน อาทิ การนำเอาเทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาสร้าง Customized Customer Experience ที่ดีผ่านฟีเจอร์ที่ตรงใจและตอบพฤติกรรมของผู้ใช้งาน ทั้งการใช้จ่าย (Payment) ผ่านทรูมันนี่ ที่เปิดโอกาสให้สามารถใช้จ่ายได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ณ จุดขายกว่า 7 ล้านจุดทั้งประเทศ การออมเงิน (Saving) บริการบัญชีเงินฝากที่ได้รับดอกสูงตั้งแต่บาทแรก รวมไปจนถึงการให้ผู้ใช้อัปเกรดเป็นบัญชี Money Plus ที่ช่วยให้ทุกการจ่ายได้เงินคืน 1% และเก็บเงินไว้ เงินก็เพิ่มพูน การลงทุน (Investment) ที่มอบการเข้าถึงบริการลงทุนที่ครอบคลุมทั้ง กองทุนรวม หุ้นกู้ตลาดแรกและรอง ออมทอง เพื่อสร้างการเติบโตทางการเงินให้ผู้ใช้งานได้ง่ายกว่าที่เคย สินเชื่อ (Loan) อย่าง PayNext เงินติดมือ ใช้ก่อน จ่ายทีหลัง โดยไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือนเพื่อตอบสนองความต้องการกลุ่ม Underserved และ บริการประกัน (Insurance) ที่มีประกันแบบเบี้ยสบายเป๋า ซึ่งเป็น Micro Insurance ที่เปิดโอกาสให้เลือกจ่ายเบี้ยน้อยแบบรายเดือนได้ ไม่ผูกมัดระยะยาว ฯลฯ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเสริมเกราะความปลอดภัยโดยนำเทคโนโลยีเอไอที่สกัดและป้องกันแอปดูดเงินได้ ที่ชื่อว่า TrueMoney 3X Protection มาใช้เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งาน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง มั่นใจได้สูงสุดว่าทุกการใช้จ่ายและธุรกรรมการเงินปลอดภัยห่างไกลความเสี่ยง

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เดินหน้ายกระดับประสบการณ์การใช้จ่ายด้วยการเปิดตัว “Money Plus” บัญชีที่ช่วยให้การใช้จ่ายและการทำธุรกรรมทางการเงินกลายเป็นเรื่องง่ายและได้เพิ่มมากกว่าที่เคย ทั้งได้รับเงินคืน 1%** ทุกการใช้จ่าย และเก็บเงินไว้ได้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงสุดถึง 4% ต่อปี* แถมช่วยให้สามารถจ่าย เติม โอน เก็บ ได้สะดวกและคล่องตัว ครบ จบมากขึ้น บนแอปทรูมันนี่ เพียงสมัครหรือกดอัปเกรดในแอปทรูมันนี่วันนี้

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบัน ลูกค้าทรูมันนี่ สามารถใช้จ่ายและบริหารการเงินแบบไร้เงินสดได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แถมปลอดภัย มั่นใจทุกการใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ยังมีลูกค้าส่วนหนึ่งมองว่าการเติมเงินทิ้งไว้ในบัญชีจำนวนมากอาจทำให้เสียสิทธิประโยชน์ ทรูมันนี่ จึงส่ง Money Plus ซึ่งเป็นเสมือนบัญชีทรูมันนี่อัปเกรด เพราะผสานความยืดหยุ่นและคล่องตัวของการใช้ฟีเจอร์การเงินต่าง ๆ ทั้ง จ่าย เติม โอน และเก็บเงิน พร้อมมอบผลตอบแทนที่คุ้มค่า คือจะใช้จ่ายก็ได้เงินคืน หรือจะเก็บเงินไว้ เงินก็งอกเงย ตอบโจทย์และรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานให้พลัสเงินในบัญชีได้ไม่มีสะดุด”

 

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด

นายฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า “ในยุคดิจิทัลที่พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนต้องการบริการทางการเงินที่เข้าถึงง่าย สะดวก และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ธนาคารเกียรตินาคินภัทรจึงได้ร่วมมือกับ ทรูมันนี่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการนี้ด้วย Money Plus บัญชีที่จะช่วยให้ลูกค้าบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งด้านการใช้จ่ายและการออม ด้วยดอกเบี้ยสูงสุดถึง 4% ต่อปี* จากบริการฝากเงินอัตโนมัติ ผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับเงินออมโดยไม่เสียความคล่องตัวในการใช้จ่าย เป็นอีกหนึ่งก้าวในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นให้กับทุกคน”

Money Plus มี 4 จุดเด่น ช่วยพลัสเงินในบัญชี ดังนี้

· พลัสที่ 1 ยิ่งจ่ายยิ่งพลัส – ทุกการใช้จ่ายจะได้รับเงินคืน 1%** เมื่อเลือกเป็นช่องทางการชำระเงินบน ทรูมันนี่ หรือ 7App

· พลัสที่ 2 เงินงอกจัดเต็ม – เก็บไว้ได้ดอกเบี้ยสูงถึง 2% ต่อปี* ตั้งแต่บาทแรก สูงสุดถึง 4% ต่อปี*

· พลัสที่ 3 เติมเงินได้ตลอด ไม่มีขั้นต่ำ – เติมเงินเข้าทรูมันนี่ได้ทันทีที่ต้องการ สะดวก ไว ทำได้เลยในแอป ทรูมันนี่ ไม่ต้องกังวลยอดเติมเงินขั้นต่ำ

· พลัสที่ 4 สะดวกคล่องทุกธุรกรรม – เชื่อมต่อการจ่าย เก็บ ถอน โอนได้สะดวก คล่องตัวทุกการทำธุรกรรม

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถพลัสเงินให้เพิ่มขึ้นผ่าน Money Plus ได้ง่าย ๆ ทันที เพียงกดปุ่ม อัปเกรด หรือ ไอคอน Money Plus บนหน้าแอปทรูมันนี่ กรอกข้อมูลส่วนตัวตามขั้นตอน และยืนยันตัวตนที่เคาน์เตอร์ 7-Eleven ใกล้บ้าน หรือ ตู้ทรูมันนี่

ที่ทรูช้อป พร้อมยืนยันรายละเอียดเพื่อเปิดบัญชี Money Plus บนทรูมันนี่ เพียงเท่านี้ก็สามารถเริ่มพลัสเงินในบัญชีได้อย่างไม่มีสะดุด (กรุณาอัพเดตแอปทรูมันนี่ก่อนอัปเกรดบัญชี)

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอบรับทุกความต้องการที่หลากหลาย ยกระดับบริการเพื่อตอบสนองความต้องการพร้อมสร้างตัวช่วยการจัดการเงินสำหรับร้านค้ายุคใหม่ ภายใต้ TrueMoney for Business เปิดตัว ‘มันนี่ บ็อกซ์ (Money Box)’ กล่องเรียกทรัพย์ หนึ่งในโซลูชันของร้านค้าทรูมันนี่ ที่เป็นร้านค้าขนาดย่อมและขนาดย่อย (Micro & Small Merchants) อัปเกรดบริการให้สามารถรับชำระเงินได้หลายช่องทาง ใช้งานง่าย ไม่ต้องติดตั้ง พร้อมสร้างความมั่นใจเงินเข้าชัวร์ด้วยเสียงแจ้งเตือนพร้อมระบุยอดเงินเมื่อรับชำระ และยังช่วยให้การจัดการรายรับเป็นเรื่องง่าย ทำบัญชีสะดวก เพราะสามารถตรวจสอบ ยอดการรับชำระแต่ละรายการและยอดสรุปการโอนเงินเข้าบัญชี ได้ในแอปเดียว

นายกรวุฒิ ปวิตรปก ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า “นอกเหนือจากการเป็นซูเปอร์แอปทางการเงินที่นำเสนอบริการเพื่อผู้บริโภคยุคดิจิทัล ทรูมันนี่ยังตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ให้บริการโซลูชันทางการเงินดิจิทัลสำหรับธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจรายย่อย ซึ่งเราได้ขยายบริการภายใต้ TrueMoney for Business อย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือบริการรับชำระเงินสำหรับร้านค้า ซึ่งเป็น Touch Point ที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อทั้งการช่วยให้ธุรกิจมีพื้นฐานการบริหารจัดการด้านการเงินที่มีประสิทธิภาพ และสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าได้ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่การชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันทางการเงินได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า ปริมาณการทำธุรกรรมในรูปแบบของ e-Money ในปี 2566 สูงถึง 3,000 ล้านรายการ เพิ่มจากปี 2563 ที่มีราว 1,200 ล้านรายการ โดยล่าสุดเราได้เปิดตัว มันนี่ บ็อกซ์ (Money Box) กล่องเรียกทรัพย์ กล่องรับชำระเงินที่มีเสียงแจ้งเตือนระบุยอดเงินเมื่อรับชำระ สำหรับร้านค้าขนาดย่อมและขนาดย่อย (Micro & Small Merchants) เพื่ออัปเกรดประสบการณ์การรับชำระเงินที่ดีกว่าให้กับสมาชิกร้านค้าทรูมันนี่”

โดยตั้งแต่เปิดให้ทดลองใช้ มันนี่ บ็อกซ์ ในกลุ่มร้านค้าทรูมันนี่ในช่วงเดือนมิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา มีผลการตอบรับเป็นอย่างดี ว่าช่วยเพิ่มความสะดวกมากขึ้นให้กับร้านค้าและผู้บริโภค เช่น คุณมนัญญา ชัยสุขหิรัญโภคิน เจ้าของร้านชาม ก๋วยเตี๋ยวเส้นคลุก กล่าวว่า “มันนี่ บ็อกซ์ ถือเป็นตัวช่วยสำคัญของร้าน เพราะออกเสียงได้ทันทีว่ามีการจ่ายเงินเท่าไหร่ ทำ

ให้สะดวกขึ้นเยอะ และพอปิดร้านยังมีรายงานรายรับให้ด้วย” ในขณะที่ คุณทิพวรรณ ลิขิตอำนวยพร เจ้าของร้านปิรันย่า@สยาม กล่าวว่า “พอมันนี่ บ็อกซ์ ร้องปุ๊ป ก็เป็นการยืนยันว่าลูกค้าจ่ายแล้ว ไม่ต้องมาเสียเวลาในการที่จะดูสลิปหรือดูหน้าจอโทรศัพท์ สามารถเอาเวลาไปรับออร์เดอร์ และเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น”

มันนี่ บ็อกซ์ (Money Box) กล่องเรียกทรัพย์ ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ร้านค้ามักพบการใช้สลิปปลอม ทำให้ต้องคอยตรวจหรือถ่ายสลิปหลังโอนเงิน โดยจุดเด่นของมันนี่ บ็อกซ์ คือ ฟีเจอร์การแจ้งเตือนด้วยเสียงบอกยอดทันทีที่เงินเข้าแบบเรียลไทม์ อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ให้สามารถสแกนชำระเงินที่ร้านค้าได้ผ่านแอปทรูมันนี่และทุกแอปธนาคารแบบไร้ข้อจำกัด ช่วยให้ดูแลธุรกิจได้ง่ายขึ้นเพราะใช้งานง่าย พร้อมใช้ไม่ต้องติดตั้ง มีรายงานแสดงยอดขาย (Sales Dashboard) ให้สามารถติดตามยอดขายได้แบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน อีกทั้งยังมีบริการส่งสรุปรายการเงินเข้าอีเมลเพื่อใช้ในการทำบัญชี

มันนี่ บ็อกซ์ (Money Box) กล่องเรียกทรัพย์ จาก TrueMoney for Business เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับร้านค้ายุคใหม่ ให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ ช่วยอำนวยความสะดวกและรวดเร็วขึ้นให้แก่ร้านค้า พร้อมสร้างความมั่นใจเงินเข้าชัวร์ด้วยเสียงแจ้งเตือนระบุยอดเงินเมื่อรับชำระ โดยร้านค้าที่สนใจสามารถสมัครเป็นร้านค้าทรูมันนี่ เพื่อเปิดใช้บริการ มันนี่ บ็อกซ์ ได้บนแอปทรูมันนี่ เพียงชำระค่าเครื่องและค่าบริการรายปีในราคาเพียง 859 บาท จากราคาปกติ 1,680 บาท

สำหรับร้านค้าขนาดย่อมและขนาดย่อยที่สนใจร่วมเป็นร้านค้าทรูมันนี่เพื่อเปิดใช้บริการ มันนี่ บ็อกซ์ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://www.truemoney.com/truemoney-shop/

 สององค์กรผู้ให้บริการด้านการเงินชั้นนำ ธนาคาร CIMB THAI ผู้นำหุ้นกู้ตลาดรอง เจ้าของรางวัล Best Bond Dealer และ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัล ร่วมเปิดช่องทางลงทุนหุ้นกู้ตลาดรอง (Secondary Bond) ผ่านแอปทรูมันนี่ เพื่อมอบโอกาสให้คนไทยและผู้ใช้กว่า 34 ล้านคน เข้าถึงการลงทุนในหุ้นกู้คุณภาพดีเพื่อสร้างการเติบโตทางการเงินได้ง่ายกว่าที่เคย เพราะไม่ต้องรอ ไม่ต้องจองล่วงหน้าเหมือนหุ้นกู้ตลาดแรก และเป็นอีกทางเลือกของการออมเพื่อรับผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากประจำ

พอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า “เราต้องการให้เกิด Digital Ecosystem ตามวิสัยทัศน์ของการเป็น ‘a Digital – led Bank with ASEAN Reach: ธนาคารอาเซียนขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล’ เพื่อส่งมอบบริการอันเป็นเลิศให้ลูกค้า พัฒนาธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน โดยนำเอาจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญธุรกิจ Wealth Management ของธนาคาร เดินหน้าผนึกกำลังกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่าง บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัล ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการใช้เทคโนโลยี เปิดช่องทางใหม่ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการลงทุนหุ้นกู้คุณภาพดีที่ CIMB THAI คัดสรรมาแล้ว ได้ 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน ผ่านแอปทรูมันนี่ จากทุกที่ ทุกเวลา ทั่วโลก”

 

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด

ธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันทรูมันนี่ เปิดเผยว่า “แอสเซนด์ มันนี่ และ ทรูมันนี่ มีพันธกิจในการมอบการเข้าถึงบริการทางการเงินและยกระดับชีวิตให้กับผู้คนผ่านการสร้างนวัตกรรมทางการเงิน โดยการจับมือกับ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เพื่อเปิดให้ผู้ใช้สามารถซื้อ ‘หุ้นกู้ตลาดรอง’ (Secondary Bond) ผ่านแอปทรูมันนี่ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการมอบความสะดวกสบายและช่วยขจัดอุปสรรคในการเข้าถึงการลงทุน เนื่องจากปกติแล้ว ‘หุ้นกู้ตลาดแรก’ หรือที่เรียกว่า ‘หุ้นกู้มือหนึ่ง’ นั้นมีจำนวนไม่มากและมีขั้นตอนในการติดต่อขอจองซื้อที่ยุ่งยาก ทำให้ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเข้าถึงได้ ทาง ทรูมันนี่ จึงร่วมกับ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ทำให้การลงทุนในหุ้นกู้เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นผ่านแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของเรา พร้อมส่งเสริมให้นักลงทุนรายย่อยที่อาจยังไม่คุ้นเคยกับการลงทุนในหุ้นกู้ตลาดรองได้เข้ามาศึกษาและเลือกลงทุน เพราะเป็นทางเลือกที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากประจำ โดยหุ้นกู้ตลาดรองสามารถสร้างผลตอบแทนสูงถึง 5% ต่อปี และในครั้งนี้ ทรูมันนี่ จับมือกับธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องของหุ้นกู้ตลาดรอง มีหุ้นกู้ตลาดรองให้เลือกหลากหลาย อัปเดตใหม่ทุกสัปดาห์ และซื้อได้ทุกวันผ่านแอปทรูมันนี่ นอกจากนี้ ผู้ลงทุนยังมั่นใจอุ่นใจได้ในความปลอดภัยเพราะเป็นการร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำอย่าง ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย เพื่อคัดสรรหุ้นกู้ Investment Grade คุณภาพดี เหมาะสำหรับนักลงทุนมืออาชีพ และนักลงทุนหน้าใหม่ และธนาคารมีเกณฑ์ในพิจารณาเลือกซื้อหุ้นกู้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ต้องเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง และแพลตฟอร์มทรูมันนี่ของเราที่มีระบบความปลอดภัยที่ใช้เอไอในการ ตรวจ จับ หยุด ทุกความเสี่ยงและปกป้องบัญชีลูกค้า”

 เพา จาตกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจบริหารเงิน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การบริหารเงินเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้ลูกค้า คือเป้าหมายสำคัญของเรา เรามุ่งมั่นผลักดันให้ ‘ตราสารหนี้ตลาดรอง (Secondary Bond)’ เติบโตขึ้น สร้างสภาพคล่องให้สามารถซื้อ – ขายเปลี่ยนมือได้ตลอด เพื่อตอบโจทย์ของนักลงทุนทุกกลุ่ม ทั้งสถาบัน นิติบุคคล รวมถึงนักลงทุนรายย่อย

การร่วมมือครั้งนี้กับบริษัท ทรูมันนี่ จำกัด สอดรับกับกลยุทธ์ของเรา ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ‘ตราสารหนี้ตลาดรอง (Secondary Bond)’ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราเป็นผู้นำตลาดในปัจจุบัน สะท้อนจากรางวัลใหญ่ ‘Best Bond Dealer: ธนาคารที่เป็นที่ยอมรับในความสามารถในการให้บริการกับคู่ค้าในตลาดรองที่ยอดเยี่ยม’ และรางวัล ‘Most Active Bank in Corporate Bond Secondary Market: ธนาคารที่มีมูลค่าซื้อ – ขายหุ้นกู้เอกชนตลาดรองสูงที่สุด’ จาก ThaiBMA ติดต่อกัน 5 ปีซ้อน (2019 – 2023) ซึ่งทั้ง 2 รางวัลเป็นเครื่องการันตีว่า เรามี “พันธบัตรและหุ้นกู้ตลาดรองคุณภาพดี” พร้อมรองรับความต้องการของนักลงทุนตลอดปี การทำงานร่วมกันกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง จะช่วยเสริมให้คนไทยและผู้ใช้งานทรูมันนี่ที่มีไลฟ์สไตล์ดิจิทัล 34 ล้านคน สามารถเข้าถึงโอกาสบริการทางการเงิน ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว สามารถจัดสรรเงินออม มาลงทุนพันธบัตรและหุ้นกู้คุณภาพดีได้ทุกวัน สร้างโอกาสให้กับนักลงทุนได้เติบโตอย่างมั่งคั่ง และมั่นคง”

 ภูดินันท์ เศรษฐนันท์ ผู้บริหารพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงิน ธุรกิจผลิตภัณฑ์การเงินและที่ปรึกษา Equity Derivatives และผู้บริหารการขายลูกค้าบุคคลธนกิจ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เสริมว่า “ ตลาดตราสารหนี้ปัจจุบันมีมูลค่าการซื้อ – ขายอยู่ที่ 5,921,913 ล้านบาท (ข้อมูล: มูลค่าธุรกรรมซื้อขายตราสารหนี้ทุกประเภทที่มีอายุมากกว่า 1 ปี มกราคม – กันยายน 2567 จากสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ) ซึ่งแม้ว่าจะมีลูกค้าบุคคลเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดรองเพิ่มขึ้น และมีมูลค่าซื้อขายมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนแตะระดับ 37,089 ล้านบาท ในปัจจุบัน แต่ก็คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% เมื่อเทียบกับมูลค่าการซื้อ – ขายทั้งตลาด ในขณะที่หันกลับมาที่ตลาดหุ้น กลับพบว่า ลูกค้าบุคคลมีสัดส่วนสูงถึง 30% นั่นหมายถึง ‘โอกาส’ และเราเองในฐานะผู้นำ รวมถึงเป็นผู้บุกเบิกตราสารหนี้ตลาดรองของลูกค้าบุคคล เรามุ่งมั่นผลักดันให้ลูกค้าบุคคลเข้าถึงโอกาสของการลงทุนในตราสารหนี้ตลาดรอง เพื่อเข้ามาเป็นผู้เล่นสำคัญที่ทำให้ตลาดตราสารหนี้นี้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และมีสภาพคล่องทัดเทียมตลาดหุ้น เพื่อให้เป็นอีกแหล่งระดมทุนที่สำคัญของประเทศ

ซึ่งการร่วมมือกับบริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ที่มีบริการหลากหลายครอบคลุมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของลูกค้าในครั้งนี้ คือหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ ที่ทำให้เราเข้าถึงลูกค้าได้ในวงกว้าง ในขณะเดียวกันก็สามารถพาลูกค้าผู้ใช้งานทรูมันนี่ เข้าถึงการลงทุนตราสารหนี้ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้หลังเฟดลดดอกเบี้ย ซึ่งเปิดโอกาสให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดดอกเบี้ยลงเช่นกัน จึงเป็นจังหวะของการลงทุนพันธบัตรและหุ้นกู้คุณภาพดีเข้าพอร์ต เพื่อล็อคผลตอบแทน สร้าง passive income โดยนักออมเงินหรือนักลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนหุ้นกู้ตลาดรองได้ทั้งแอปพลิเคชันทรูมันนี่และแอปพลิเคชั่น CIMB THAI

นอกจากนี้ CIMB THAI ยังเตรียมจัดกิจกรรมดี ๆ ร่วมกับพันธมิตร ที่จะให้ความรู้กับนักลงทุน พร้อมกับการสร้างความสุขและสนุกสนาน เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่และส่งเสริมการสร้างความมั่งคั่งผ่านผลิตภัณฑ์หุ้นกู้คุณภาพดี”

กรุงเทพฯ (26 กันยายน 2567) - ทรูมันนี่ และ แอสเซนด์ นาโน เตือนภัยประชาชนให้ระวังมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อบริษัทฯ โลโก้ หรือชื่อสินค้าและบริการต่าง ๆ เพื่อหลอกลวงให้ประชาชนสมัครบริการสินเชื่อปลอม แนะนำวิธีสังเกตบริการสินเชื่อที่ถูกต้องบนแอปทรูมันนี่ของจริงว่ามีเพียงบริการ Pay Next / Pay Next Extra โดยบริษัท แอสเซนด์ นาโน จำกัด และวงเงินพร้อมใช้สบายเป๋าที่บริษัทฯ ให้บริการร่วมกับพันธมิตร ณ จุดขาย โดยผู้ที่สนใจต้องสมัครและส่งเอกสารผ่านแอปทรูมันนี่ ที่ดาวน์โหลดจาก App Store และ Google Play Store เท่านั้น ทั้งนี้ จุดสังเกตข้อที่สำคัญคือ ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ ในการสมัครทุกกรณี บริษัทฯ มีความห่วงใยและขอแนะนำประชาชนให้ระมัดระวังและตรวจสอบก่อนทำธุรกรรมทางการเงินทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

 

ทั้งนี้ ทรูมันนี่ ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างไม่หยุดยั้ง อาทิ ระบบป้องกันการดูดเงิน 3 ชั้น TrueMoney 3X Protection ที่ ตรวจ-จับ-หยุด ธุรกรรมที่น่าสงสัยแบบเรียลไทม์ ซึ่งทำงานโดยผสานการทำงานของปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะ ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และเทคโนโลยีการอ่านชีวมิติ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการทำธุรกรรมในระดับสูงสุด นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับต่างๆ อย่างใกล้ชิด รวมถึงมีสายด่วน 1240 กด 6 เพื่อรับแจ้งเหตุต้องสงสัยด้านภัยทางการเงิน และแจ้งอายัดบัญชี ตลอด 24 ชั่วโมง

Page 1 of 6
X

Right Click

No right click