February 23, 2025

นายวิน พรหมแพทย์, CFA, ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) พร้อมคณะผู้บริหาร ได้ให้การต้อนรับคณาจารย์และนักศึกษาชั้นปีที่ 3 วิชาเอกการเงินและการลงทุน สาขาวิชาบริหารธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เนื่องในโอกาสเข้าศึกษาดูงานธุรกิจจัดการกองทุน โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้ถึงวิธีการทำงานจริงผ่านกระบวนการวิเคราะห์การลงทุน พร้อมทั้งการแนะนำเส้นทางสู่อาชีพสายการเงินและการลงทุนจากผู้จัดการกองทุนของ บลจ.กสิกรไทย

บลจ.กสิกรไทย ขานรับนโยบายลดหย่อนภาษีจากภาครัฐ “Easy E-Receipt 2.0” พร้อมนำส่งค่าธรรมเนียมจากการซื้อและขายกองทุนที่เข้าเงื่อนไขการลดหย่อนให้กรมสรรพากรด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดหย่อนภาษีปี 2568 สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท ชูกองทุนแนะนำผ่านการจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Core & Satellite Portfolio ย้ำต้องเป็นคำสั่งซื้อที่มีผล และ/หรือ คำสั่งขายที่ผู้ลงทุนได้รับเงินค่าขายคืนเข้าบัญชีเงินฝาก ในระหว่างวันที่ 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 2568 เท่านั้น

นายวิน พรหมแพทย์, CFA ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย ขานรับนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาลผ่านโครงการ Easy E-Receipt 2.0 โดยนำส่งค่าธรรมเนียมจากการซื้อและขายกองทุน (Front-end Fee และ Back-end Fee) ที่เข้าเงื่อนไขการลดหย่อนให้แก่กรมสรรพากรด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดหย่อนภาษีปี 2568 ได้สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท ทั้งนี้ ธุรกรรมการซื้อและขายกองทุน ต้องเป็นคำสั่งซื้อที่มีผล และ/หรือ คำสั่งขายที่ผู้ลงทุนได้รับเงินค่าขายคืนเข้าบัญชีเงินฝาก ในระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2568 – 28 กุมภาพันธ์ 2568

นายวินกล่าวต่อไปว่า บลจ.กสิกรไทย ยังคงแนะนำให้ผู้ลงทุนจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Core & Satellite Portfolio ผ่านกองทุนแนะนำจากกสิกรไทย ได้แก่ Core Portfolio ซึ่งเน้นลงทุนระยะยาวแบบจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation) ในสัดส่วนการลงทุนประมาณ 80% ของพอร์ต โดยแนะนำเป็นกลุ่มกองทุน K-WealthPLUS Series ซึ่งเป็นกลุ่มกองทุนผสมที่จัดพอร์ตการลงทุนให้สำเร็จรูป ประกอบด้วย 3 กองทุนตามระดับความเสี่ยง ได้แก่ กองทุน K-WPBALANCED ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ 55-85%, K-WPSPEEDUP ที่เน้นสัดส่วนในหุ้นมากขึ้น 50-80% และ K-WPULTIMATE ที่เพิ่มสัดส่วนหุ้นได้มากถึง 100% ทั้งนี้ กลุ่มกองทุน K-WealthPLUS Series มีกลยุทธ์การลงทุนที่เน้นกระจายการลงทุน (Asset Allocation) ในหุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือกทั่วโลก ซึ่งสามารถรับมือกับความผันผวนได้ดีในทุกสภาวะตลาด อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์จากพาร์ทเนอร์ระดับโลก J.P. Morgan Asset Management เข้ามาช่วยดูแลพอร์ตแบบ Look Through (มองเห็นสินทรัพย์ทุกตัวในพอร์ต) และปรับพอร์ตได้อย่างรวดเร็วด้วยข้อมูลเชิงลึกจากทีมผู้เชี่ยวชาญการลงทุนทั่วโลก

สำหรับ Satellite Portfolio ซึ่งเน้นลงทุนระยะสั้นแบบจับจังหวะตลาด (Market Timing) ในสัดส่วนการลงทุนประมาณ 20% ของพอร์ต โดยแนะนำเป็นกองทุน K-FIXEDPLUS มีนโยบายการลงทุนที่เน้นตราสารหนี้คุณภาพดีระยะกลาง-ยาว ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงเงินฝาก ทั้งในและต่างประเทศ, K-GSELECT มีนโยบายการลงทุนผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Global Select Equity ETF เน้นกระจายลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ของประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลก และ K-PROPI มีนโยบายการลงทุนในหุ้น / REIT ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หรือกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในและต่างประเทศ โดยกองทุนได้รับ Morningstar 4 ดาว จากผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่องและสม่ำเสมอ (ข้อมูลจาก Morningstar ณ 31 ธ.ค. 2567)

นายวินกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนกับกองทุนกสิกรไทยได้ง่ายๆ ด้วยเงินลงทุนเพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย จะจัดส่งใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านอีเมลที่ผู้ลงทุนได้สมัครไว้ (สำหรับผู้ลงทุนที่สมัครใช้บริการ K-Mutual Fund Reports) และสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่มีบริการ K-Mutual Fund Report หากต้องการใบกำกับภาษีเก็บไว้เป็นหลักฐานในการลดหย่อน สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน ส่งกลับมาที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. เพื่อดำเนินการออกเอกสารและจัดส่งให้ผู้ลงทุนต่อไป ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมการขายและค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืน ได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888


ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน • กองทุนมีนโยบายที่แตกต่างกันทั้งด้านสินทรัพย์/ภูมิภาค/ประเทศ/กลุ่มธุรกิจที่กองทุนลงทุน ราคาของหลักทรัพย์จึงมีความผันผวนตามปัจจัยที่กระทบ • กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุน หรือ ได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือ ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) แต่งตั้งนายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ทำหน้าที่กำกับดูแลสายงานจัดการลงทุน รับผิดชอบในการกำหนดกลยุทธ์การลงทุนและบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน ครอบคลุมทั้งหุ้น ตราสารหนี้ สินทรัพย์ทางเลือก และการจัดสรรการลงทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยกำหนดให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป

นายวจนะมีประสบการณ์การทำงานในธุรกิจจัดการกองทุนมากว่า 20 ปี โดยได้ร่วมงานกับ บลจ.กสิกรไทย เป็นเวลากว่า 12 ปี ดำรงตำแหน่งล่าสุดก่อนเข้ารับตำแหน่งใหม่ คือ Chief Investment Officer นายวจนะเป็นอีกหนึ่งบุคลากรที่มีประสบการณ์การทำงานด้านการลงทุนที่รอบด้าน ทั้งการบริหารจัดการกองทุน การพัฒนากลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ และการวางแผนกลยุทธ์องค์กร ทำให้นายวจนะมีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจจัดการกองทุน การประเมินสภาวะตลาดทุน และพฤติกรรมการลงทุนของผู้ลงทุนไทยเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดสรรการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภททั่วโลก ด้านการศึกษานายวจนะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการเงิน จาก University of New South Wales ประเทศออสเตรเลีย และได้รับใบรับรอง Chartered Financial Analyst (CFA) ซึ่งเป็นหลักสูตรคุณวุฒิวิชาชีพทางการเงินและการลงทุนระดับสากลที่มีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) จัดงานเสวนาพิเศษ Exclusive Luncheon Roundtable : Climate Tipping Point, A Race Against Time เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงจุดเปลี่ยนของสภาพภูมิอากาศ โดยเชิญองค์กรชั้นนำของประเทศที่มีบทบาทสำคัญทั้งในภาคการเงินและตลาดทุน มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหาแนวทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม  โดยเฉพาะประเด็นการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) ซึ่งมีความสำคัญต่อการกำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์ขององค์กรให้เปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจโลกที่มีคาร์บอนต่ำ และมีความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ โดยมี ดร.พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ (คนที่ 8 จากขวา) ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย และ ประธานกรรมการ บลจ.กสิกรไทย พร้อมด้วยนายวิน พรหมแพทย์ (คนที่ 7 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย ร่วมให้การต้อนรับ ณ ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ พหลโยธิน เมื่อเร็วๆ นี้

นายวิน พรหมแพทย์, CFA, ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย เป็นหนึ่งในสมาชิกบริษัทจัดการลงทุน 16 แห่ง ที่เข้าร่วมงาน “แถลงความพร้อมของอุตสาหกรรมและเปิดตัวกองทุน ThaiESG ปี 2567” จัดโดยสมาคมบริษัทจัดการลงทุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงความพร้อมเสนอขายกองทุน ThaiESG ในช่วงเทศกาลลดหย่อนภาษีส่งท้ายปี และพร้อมให้การสนับสนุนธุรกิจที่มุ่งสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศไทย ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุน ThaiESG ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) รวมกว่า 2,694.34 ล้านบาท (ข้อมูล ณ ต.ค. 67) โดยกองทุน K-TNZ-ThaiESG เป็นกองทุนแรกของไทยที่มีเป้าหมายสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก การันตีได้จากขนาดกองทุนที่ใหญ่ที่สุด และเป็นกองทุน ThaiESG ที่สร้างผลตอบแทนได้สูงที่สุด ในขณะที่กองทุน K-ESGSI-ThaiESG ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนเช่นกัน ด้วยขนาดกองทุนใหญ่เป็นอันดับ 2 ในกลุ่มกองทุน ThaiESG ตราสารหนี้ นอกจากนี้ บลจ.กสิกรไทย เตรียมเปิดเสนอขายกองทุนผสม ThaiESG เร็วๆ นี้ ที่เน้นลงทุนทั้งในหุ้นและตราสารหนี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง และสร้างโอกาสรับผลตอบแทนได้ในทุกสภาวะตลาดจากการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click