

ประมงสมุทรสาคร จับมือร่วมกับสำนักงานพัฒนาที่ดิน และซีพีเอฟ เปิดตัว น้ำหมักชีวภาพสูตรปลาหมอคางดำ ตั้งเป้าช่วยลดจำนวนปลาหมอคางดำเดือนละ 6,000 กิโลกรัม พร้อมแบ่งปันสูตรให้วิสาหกิจชุมชน ต่อยอดเป็นสินค้าสร้างรายได้ แบรนด์ Waste, Not Wasted ของเสียที่ไม่เสียของ ช่วยเกษตรกรประหยัดค่าปุ๋ยได้ถึงหมื่นบาทต่อไร่ เกษตรกรย้ำน้ำหมักชีวภาพช่วยให้ฝรั่งลูกโตขึ้น และมีรสหวาน
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ สนับสนุนประมงจังหวัดสมุทรสาครในการนำปลาหมอคางดำมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บูรณาการกับ สถานีพัฒนาที่ดินสมุทรสาคร และศูนย์การเรียนรู้ของเสียที่ไม่เสียของ ต่อยอดนำปลาหมอคางดำที่จับได้จากกิจกรรม “ลงแขกลงคลอง” มาผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพสูตรปลาหมอคางดำ ที่พัฒนาโดยสำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัด และซีพีเอฟสนับสนุนถังพลาสติกขนาดใหญ่สำหรับหมักปลาได้ 300 กิโลกรัมต่อถัง
เผดิม รอดอินทร์ ประมงสมุทรสาคร กล่าวว่า โครงการน้ำหมักชีวภาพใช้เวลา 1 เดือน จะช่วยให้สมุทรสาครจับปลาหมอคางดำออกจากระบบได้ทุกเดือน เดือนละ 6,000 กิโลกรัมหรือปีละ 72,000 กิโลกรัม เพิ่มมูลค่าเป็นของดีมาแบ่งปันให้พี่น้องเกษตรกรใช้รดบำรุงดินแทนปุ๋ย เตรียมคิกออฟเป็นสินค้าภายใต้แบรนด์ WASTE, NOT WASTED “ของเสียที่ไม่เสียของ” รวมทั้งถ่ายทอดสูตรการหมักให้เกษตรกรนำไปทำใช้เอง เป็นการบูรณาการประชาชนมีส่วนร่วมในการลดประชากรปลาหมอคางดำอีกทางหนึ่ง

ธนัชกฤต กลิ่นหวล ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินสมุทรสาคร ได้แบ่งปันสูตรของน้ำหมักชีวภาพปลาหมอคางดำ มีส่วนประกอบปลาหมอคางดำ 30 กิโลกรัม หมักกับ กากน้ำตาล 10 กิโลกรัม และ สัปปะรด 10 กิโลกรัม ใส่ สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 จำนวน 1 ซองผสมน้ำเปล่า 10 ลิตร บรรจุในถังหมักนาน 1 เดือนได้น้ำหมักเข้มข้น 30 กิโลกรัม ก่อนใช้ต้องเจือจางกับน้ำก่อนนำมาฉีดพ่นและรดดิน ช่วยบำรุงพืชผลและบำรุงดิน

“สำนักงานพัฒนาที่ดินนำน้ำหมักชีวภาพไปวิเคราะห์ พบว่ามีธาตุอาหารหลักสำหรับพืชทั้งไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโปแตชเซียม ( N-P-K) ธาตุอาหารรอง รวมทั้งกรดอะมิโนที่ช่วยการเจริญเติบโตของพืช จากการสอบถามเกษตรกร น้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอคางดำช่วยประหยัดค่าปุ๋ยได้ถึง 8,000-10,000 บาทต่อไร่/ต่อปี และผลผลิตสูงขึ้นอีกด้วย” ธนัชกฤต กล่าว
ขวัญชัย อุทัยไป เล่าว่า หลังจากนำน้ำหมักชีวภาพปลาหมอคางดำไปใช้กับสวนฝรั่ง เดิมฝรั่งให้ผลขนาดเล็ก และหน้าดินแข็งจากการใช้ปุ๋ยเคมีทำให้ต้นไม้ได้รับธาตุอาหารไม่สมบูรณ์ หลังจากใช้น้ำหมักชีวภาพเห็นการเปลี่ยนแปลงว่าดินร่วนฟู ทำให้น้ำไหลผ่านดินได้ดี ผลฝรั่งมีขนาดใหญ่ขึ้น และยังมีรสชาติหวานอร่อย ผลผลิตดี ช่วยลดต้นทุนจากค่าปุ๋ยได้ 35%

“จากการดำเนินการตามมาตรการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สมุทรสาครสามารถกำจัดปลาหมอคางดำไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ล้านกิโลกรัม จากการสำรวจเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การแพร่ระบาดในพื้นที่ลดลงจนอยู่ในระดับปานกลาง พบปลาหมอคางดำ 10 ถึง 100 ตัว ต่อ 100 ตารางเมตร เป็นผลจากการบูรณาการความร่วมมืออย่างเข้มแข็งของภาครัฐ เอกชนและชุมชนในการดำเนินงานเชิงรุกอย่างจริงจัง ในการควบคุมและลดปริมาณปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ปลายังมีประโยชน์ สามารถนำมาผลิตเป็นสินค้าช่วยสร้างโอกาสให้ชุมชนมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง” เผดิมกล่าวปิดท้าย
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ขับเคลื่อนสนับสนุนกรมประมงร่วมปฏิบัติการไล่ล่าปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ซีพีเอฟลงพื้นที่ร่วมกับประมงจังหวัดสมุทรสาครปฏิบัติการจับปลาหมอคางดำ ณ คลองบริเวณประตูน้ำใกล้วัดบางน้ำวน ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พร้อมส่งมอบปลากะพงจำนวน 5,000 ตัวเพื่อปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ เพื่อตัดวงจรการแพร่กระจายของปลา ส่งผลให้วันนี้ ซีพีเอฟได้สนับสนุนกรมประมงจัดกิจกรรมลงแขกลงคลองจับปลารวม 12 จังหวัดสามารถขจัดปลาออกจากแหล่งน้ำไปมากกว่า 10,000 กิโลกรัม และส่งมอบปลานักล่ารวม 64,000 ตัวแล้ว พร้อมร่วมกับโรงงานศิริแสงอารำพีรับซื้อปลาเพื่อทำปลาป่นต่อเนื่อง
นายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในกิจกรรม “ลงแขกลงคลอง” ครั้งที่ 3 ที่บริเวณท่าน้ำหน้าวัดบางน้ำวน ม.4 ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยมี นายกู้เกียรติ ดิษแพ นายกอบต.บางโทรัด ผู้นำชุมชนตำบลบางโทรัด ผู้แทนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตำรวจน้ำ เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร พันธมิตรกำจัดปลาหมอคางดำ ตลอดจนกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ ในวันนี้มีกิจกรรมร่วมแรงกันจับปลาด้วยเครื่องมือจับสัตว์น้ำชนิดต่างๆ การปล่อยปลานักล่า รวมถึงการสาธิตเมนูอาหารจากปลาหมอคางดำ โดยมีผู้แทนจากซีพีเอฟร่วมกิจกรรม มอบอุปกรณ์จับปลา และปลากะพง จำนวน 5,000 ตัว ให้แก่ประมงจังหวัดสมุทรสาครเพื่อปล่อยลงสู่แหล่งน้ำกำจัดลูกปลาหมอคางดำ รวมถึงสนับสนุนอาหารและน้ำดื่มแก่ผู้ร่วมงานครั้งนี้

สำหรับกิจกรรมจับปลาครั้งนี้ จับปลาหมอคางดำได้ประมาณ 1,400 กิโลกรัม ประมงสมุทรสาครแบ่งให้ชาวบ้านไปบริโภค ส่งมอบให้กรมราชทัณฑ์ นำไปใช้ปรุงอาหารเลี้ยงผู้ต้องขัง รวมถึงนำไปทำเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์น้ำในศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำอควาเรียม จังหวัดสมุทรสาคร และมอบให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ที่มาร่วมลงจับปลาหมอคางดำในครั้งนี้
“ประมงสมุทรสาครได้เริ่มดำเนินการกำจัดปลาหมอคางดำ มาตั้งแต่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประมงพื้นบ้าน ร่วมกันจับปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างจริงจัง จนถึงวันนี้สามารถจับปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำธรรมชาติได้แล้วกว่า 1 ล้านกิโลกรัม และยังเดินหน้ากำจัดปลาหมอคางดำต่อเนื่อง” นายเผดิม กล่าว
โดยซีพีเอฟร่วมกับโรงงานปลาป่น บริษัท ศิริแสงอารำพี ได้เข้ามาช่วยรับซื้อปลาหมอคางดำ พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์จับปลา รวมทั้งมอบพันธุ์ปลานักล่ารวมแล้ว 10,000 ตัว เพื่อปล่อยลงแหล่งน้ำตัดวงจรชีวิตและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำให้เบาบางลง คืนความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ทรัพยากรในแหล่งน้ำ รวมถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่เพื่อสร้างความตระหนักถึงสถานการณ์ของปลาหมอคางดำในจังหวัดสมุทรสาคร

นายอดิศร์ กฤษณวงศ์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานรัฐกิจและเอกชนสัมพันธ์ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทเดินหน้าร่วมมือกับกรมประมงในการจัดกิจกรรม “ลงแขกลงคลอง”เพื่อกำจัดปลาหมอคางดำอย่างจริงจังใน 12 จังหวัดแล้ว ได้แก่สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สมุทรปราการ ระยอง ชลบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี นครปฐม ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และยังเดินหน้าพร้อมร่วมกับจังหวัดอื่นๆ ต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังได้สนับสนุนปลานักล่ารวม 64,000 ตัว แก่ประมงสมุทรสงคราม ประมงสมุทรสาคร ประมงจันทบุรี และประมงระยอง พร้อมได้ประสานงานเพื่อประเมินผลการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง

ซีพีเอฟได้บูรณาการขับเคลื่อน 5 โครงการเชิงรุกเพื่อร่วมกำจัดปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำฟื้นฟูระบบนิเวศ ประกอบด้วย โครงการร่วมกับกรมประมงรับซื้อปลาเพื่อทำปลาป่น 2,000,000 กิโลกรัม ที่ปัจจุบันร่วมกับโรงงานปลาป่นในสมุทรสาครจัดซื้อปลาไปแล้วกว่า 605,860 กิโลกรัมและยังเไปจังหวัดอื่นช โครงการปล่อยปลานักล่า 200,000 ตัว รวมถึง โครงการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยนำปลาไปใช้ประโยชน์ เช่น แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร และโครงการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญและมหาวิทยาลัยในการศึกษาวิจัยนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีเพื่อตัดวงจรและควบคุมการแพร่พันธุ์ของปลาชนิดนี้ในระยะยาว.