December 05, 2025

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ทรงเปิดพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย MEA SPARK ณ อาคาร 1 การไฟฟ้านครหลวง เขตวัดเลียบ แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง พร้อมด้วยคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง คณะผู้บริหารระดับสูง ผู้แทนหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ทายาทสายสกุล แสง ชู-โต พนักงานและอดีตพนักงานการไฟฟ้านครหลวง เฝ้า ฯ รับเสด็จ โอกาสนี้ได้เสด็จทรงปลูกต้นทองกวาว ต้นไม้ประจำองค์กร นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และเป็นสิริมงคลยิ่ง จากนั้นเสด็จทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย MEA SPARK 

 

อาคาร 1 การไฟฟ้านครหลวง เขตวัดเลียบ เป็นโบราณสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์ไฟฟ้าไทย อายุ 109 ปี เคยเป็นสำนักงานใหญ่แห่งแรกของการไฟฟ้านครหลวงและเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าแห่งแรกของประเทศ โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เสด็จพระราชดำเนินเปิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2459 ตัวอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 3 ชั้น หลังคาทรงปั้นหยามีกันสาดโดยรอบ โดดเด่นด้วยองค์ประกอบดั้งเดิมที่ทรงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ ซึ่งการบูรณะอาคารดังกล่าวได้ดำเนินการอย่างสอดคล้องกับหลักการอนุรักษ์สถาปัตยกรรม พร้อมปรับพื้นที่บางส่วนเพื่อรองรับการจัดแสดงภายใน

 

สำหรับพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย MEA SPARK มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานไฟฟ้าเพื่อวิถีชีวิตมหานคร ที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ภายใต้ภารกิจ Back to the Future Journey นำผู้เยี่ยมชมย้อนรอยประวัติศาสตร์ไฟฟ้าไทยสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมพลังงานอัจฉริยะในอนาคต ถือเป็นสถานที่สำคัญแห่งใหม่ของเมืองมหานคร ที่ตอบโจทย์การเรียนรู้ในอนาคตของสังคม และเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง ณ สถานที่จริง จุดประกายให้เกิดการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ตลอดจนก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย เสริมคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สังคม และประเทศชาติ และต่อยอดสู่การพัฒนาความรู้เพื่ออนาคตของประเทศ

 

ภายในพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย MEA SPARK แบ่งออกเป็น 3 ชั้น เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์กิจการไฟฟ้าไทย มีการออกแบบจัดแสดงโดยใช้เทคนิคที่หลากหลาย ทั้งวัตถุ ศิลปกรรมโมเดล อิมเมอร์ซีฟ แสงสี ประกอบดนตรีร่วมสมัย และแอปพลิเคชัน เพื่อสื่อสารกับผู้ชมทุกวัย โดยชั้นที่ 3 บอกเล่าเรื่องราว “แสงแรกแห่งสยาม First Electric Light in Siam” ช่วงประวัติศาสตร์ก่อนมีไฟฟ้าใช้ จนถึงจุดกำเนิดกิจการไฟฟ้า และโรงไฟฟ้าวัดเลียบ สำหรับชั้นที่ 2 “แสงแห่งความยั่งยืน Sustainable Electric Light” ถ่ายทอดการพัฒนากิจการไฟฟ้าไทย การก่อตั้งการไฟฟ้านครหลวง และเรื่องราวผู้ว่าการในอดีต และ ชั้นที่ 1 จัดแสดงการอนุรักษ์และบูรณะอาคาร พร้อมบริเวณ SPARK Zone เล่าเรื่องราว แสงแห่งอนาคต Symphony of Light ที่นำเสนออนาคตพลังงาน และนวัตกรรม Smart City

 

อย่างไรก็ตาม พิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย MEA SPARK จะเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อร่วมสัมผัสประสบการณ์เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไฟฟ้าไทย ควบคู่กับนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคตที่ร้อยเรียงอย่างงดงามในอาคารประวัติศาสตร์กว่า 100 ปี โปรดติดตามรายละเอียดการเข้าชม และกิจกรรมพิเศษได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ measpark.mea.or.th

การไฟฟ้านครหลวง (MEA) โดยฝ่ายการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ จัดงานสัมมนา “MEA Better Care 2025 : Powering Trust with CARE+” ณ ห้อง Jubilee Ballroom โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ โดยมีนายกิตติศักดิ์ เจือจันทนศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายงานธุรกิจ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน งานสัมมนานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ พร้อมเสริมสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจและอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการไฟฟ้าผ่านโครงการ MEA Better Care Service Plus โดยทีมวิทยากรจากฝ่ายธุรกิจบริการและคุณภาพไฟฟ้าของ MEA มุ่งเน้นให้ลูกค้าได้รับข้อมูลเชิงลึกและสามารถนำไปปรับใช้ในการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมงานสัมมนาจำนวนกว่า 100 ท่าน

 

นอกจากนี้ ภายในงานได้จัดแสดงบูทให้ข้อมูลและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับบริการของ MEA อาทิ MEA Better Care Service Plus บริการดูแลระบบไฟฟ้าภายในอาคารด้วยระบบ IoT อัจฉริยะตลอด 24 ชั่วโมง MEA Plug ME EV โซลูชันสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า อัตราค่าไฟฟ้า UGT (Utility Green Tariff) สำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาด และ MEA e-Service บริการออนไลน์ที่ช่วยให้ผู้ใช้ไฟสามารถเข้าถึงข้อมูลและทำธุรกรรมด้านไฟฟ้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทุกที่ทุกเวลา โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำตลอดช่วงการจัดงาน

 

โครงการ “MEA Better Care Service” เป็นบริการเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจและอุตสาหกรรม ที่ต้องการความมั่นใจในระบบไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าใต้ดิน และการบำรุงรักษาเชิงป้องกันแบบมืออาชีพ โดยมุ่งเน้นการให้บริการเชิงรุก เพื่อสร้างความมั่นใจในความต่อเนื่องทางธุรกิจของลูกค้า MEA

นายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง เป็นประธานการประชุมชี้แจงโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินเพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน โครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เส้นทางถนนประชาธิปก (ช่วงแยกบ้านแขก ถึงวงเวียนใหญ่) และถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน โดยมีผู้แทนจากองค์กร หน่วยงานราชการ และหน่วยงานผู้ใช้ไฟฟ้าภาคธุรกิจต่าง ๆ ในพื้นที่ เข้าร่วมรับฟังการชี้แจงรายละเอียดแผนดำเนินงาน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการก่อสร้าง ณ ห้องประชุม Venita 2 โรงแรม อเวย์ บางกอก ริเวอร์ไซด์ คีน ถนนเจริญนคร กรุงเทพฯ

 

รองผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า ตามที่ MEA ได้มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงมหาดไทย และรัฐบาล เร่งดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินมาอย่างต่อเนื่องนั้น ล่าสุด MEA จะดำเนินโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เส้นทางถนนประชาธิปก (ช่วงแยกบ้านแขก ถึงวงเวียนใหญ่) และถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน โดยมีพื้นที่ดำเนินการ 3.4 กิโลเมตร ดำเนินการก่อสร้างบริเวณผิวจราจรและผิวทางเท้า เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2568 – ปี 2572 (รื้อถอนเสาสายแล้วเสร็จ ภายในปี 2572) โดย MEA จะดำเนินการก่อสร้างไปพร้อมกับโครงการรถไฟฟ้าของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ถึง 05.00 น. ของทุกวันเพื่อหลีกเลี่ยงการส่งผลกระทบต่อการจราจร

 

ในด้านการก่อสร้างของโครงการดังกล่าว ประกอบด้วยงานก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน งานก่อสร้างฐานอุปกรณ์และติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า งานลากสายไฟฟ้าใต้ดิน และการเปลี่ยนระบบการจ่ายไฟจากสายอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานครั้งนี้จะช่วยพัฒนาเสถียรภาพ และความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้าให้มีความมั่นคง และเป็นการเตรียมพร้อมรองรับความต้องการการใช้ไฟฟ้าของภาคธุรกิจและหน่วยงานเอกชนในพื้นที่ในอนาคต รวมถึงช่วยเสริมสร้างทัศนียภาพของกรุงเทพมหานครให้มีความสวยงาม ตลอดจนช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานได้แสดงความคิดเห็น พร้อมให้ข้อมูลสำคัญ เพื่อให้ MEA ได้นำมาพิจารณาปรับปรุงแผนงานให้มีความเหมาะสม และส่งผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด

นายดิชวัฒน์ จันทร์อี่ รองผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง พร้อมด้วยนางนิภา ธรรมบวร ผู้ช่วยผู้ว่าการ MEA เข้ารับรางวัลชนะเลิศ รายการ Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2025 ณ The Athenee Hotel, A Luxury Collection Hotel, Bangkok ในฐานะองค์กรภูมิภาคเอเชียที่มีความโดดเด่นด้านการจัดทำรายงานความยั่งยืนเพื่อเผยแพร่ข้อมูลด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กรตามมาตรฐานสากล GRI และการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนสังคมขององค์กร ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จในการมุ่งมั่นสนับสนุนเป้าหมายความยั่งยืนสากลขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยมีองค์กรชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงบุคคลสำคัญในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนเข้าร่วมเป็นเกียรติในงาน ซึ่งรางวัลที่ MEA ได้รับในครั้งนี้ประกอบด้วย

 

  1. Gold Emblem of Sustainability รางวัลเกียรติคุณ (Hall of Fame) ระดับ Gold สำหรับองค์กรที่มีผลงานโดดเด่นและได้รับรางวัลต่อเนื่อง 8 ปีจากเวที AREA โดยรางวัลที่ MEA ได้รับรางวัล เช่น ในปี 2018 สาขารางวัล Green Leadership, ปี 2020 สาขารางวัล Investment in People, ปี 2021 สาขารางวัล Social Empowerment และปี 2024 สาขารางวัล Corporate Governance Award และ Corporate Sustainability Reporting
  2. Corporate Sustainability Reporting Award รางวัลการเปิดเผยข้อมูล และแนวทางการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของการไฟฟ้านครหลวง ผ่านการจัดทำรายงานความยั่งยืนขององค์กรตามมาตรฐาน Global Reporting Initiatives (GRI)
  3. Social Empowerment Award รางวัลการดำเนินงานด้านการดูแลชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

 

สำหรับรางวัล Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 โดย Enterprise Asia องค์กรไม่แสวงหากำไรที่มุ่งส่งเสริมการทำประโยชน์แก่สังคม และสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจของผู้ประกอบการในภูมิภาคเอเชีย เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ถือเป็นเวทีสำคัญระดับภูมิภาคในการยกย่ององค์กรต้นแบบที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่องค์กรอื่น ๆ ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมและยั่งยืน ซึ่งรางวัลทั้งสามสาขาที่ MEA ได้รับในปีนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยสอดคล้องกับพันธกิจของ MEA ในการเป็นพลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานครอย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร MEA ร่วมด้วย นายชัชชญา ขำจันทร์ รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบความพร้อมระบบไฟฟ้าสถานีสูบน้ำอุโมงค์บางซื่อ ทั้งนี้ MEA ได้บำรุงรักษาและติดตั้งอุปกรณ์เสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าสถานีสูบน้ำ อีกทั้งมีการเตรียมความพร้อม และซักซ้อมแผนเพื่อบูรณาการความร่วมมือกับสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมมอบอุปกรณ์ตรวจจับไฟฟ้ารั่วในน้ำ นวัตกรรมซึ่งออกแบบและผลิตโดย MEA เพื่อความปลอดภัยสามารถตรวจสอบกระแสไฟฟ้ารั่วในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพให้แก่สำนักการระบายน้ำ คลองบางซื่อ ณ สถานีสูบน้ำอุโมงค์บางซื่อ กรุงเทพมหานคร

 

ผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านระบบจำหน่ายระบบไฟฟ้าสังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญกับคุณภาพการจ่ายกระแสไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการรองรับเหตุฉุกเฉินและขัดข้องต่างๆ พร้อมบูรณาการกับหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแลการจ่ายไฟฟ้าของสถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ และบ่อสูบน้ำของกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ที่ MEA ดูแลด้านระบบไฟฟ้า จำนวน 638 แห่ง โดย MEA มีการเชื่อมโยงระบบจ่ายไฟฟ้าหลัก และระบบจ่ายไฟฟ้าสำรองให้กับสถานีสูบน้ำทุกแห่ง เพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้า และสามารถบริหารจัดการโดยใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการควบคุมระบบไฟฟ้า SCADA (Supervisory Control and Data Acquisition) ตลอดจนได้นำระบบ DMS (Distribution Management System) มาใช้ในระบบการจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย ติดตั้งอยู่บนเสาไฟฟ้าในพื้นที่ต่างๆ เพื่อช่วยบริหารควบคุมสั่งการได้จากส่วนกลาง ทราบสาเหตุ และสั่งการอัตโนมัติ ทำให้เกิดความมั่นคงในระบบไฟฟ้ามีความปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขไฟฟ้าขัดข้องได้รวดเร็ว

 

ผู้ว่าการ MEA กล่าวต่อว่า สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการติดตามตรวจสอบความพร้อมของระบบไฟฟ้าสถานีสูบน้ำอุโมงค์บางซื่อ ถือเป็นสถานีสูบน้ำที่สำคัญ ซึ่งสอดรับกับนโยบายกระทรวงมหาดไทยในการบูรณาการความร่วมมือเพื่อให้สามารถบริหารจัดการระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดย MEA จ่ายกระแสไฟฟ้าให้สถานีสูบน้ำ อุโมงค์บางซื่อ ด้วยระบบแรงดันไฟฟ้า 24 กิโลโวลต์ (kV) ให้กับระบบสูบน้ำขนาด 1,950 กิโลวัตต์ (kW) จำนวน 6 เครื่อง ความสามารถในการระบายน้ำ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รองรับปริมาณน้ำฝนได้ไม่น้อยกว่า 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง โดยสถานีสูบน้ำอุโมงค์บางซื่อ จะรับน้ำจากอาคารรับน้ำถนนกำแพงเพชร อาคารรับน้ำถนนวิภาวดีรังสิต และอาคารรับน้ำถนนรัชดาภิเษก ซึ่งรับน้ำในพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ เขตห้วยขวาง เขตดินแดง เขตพญาไท เขตจตุจักร เขตวังทองหลาง เขตบางซื่อ และเขตดุสิต ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 56 ตารางกิโลเมตร

 

นอกจากนี้ที่ผ่านมา MEA ยังมีแผนการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้กับสถานีสูบน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาด้านระบบไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงก่อนเข้าสู่ฤดูฝน ที่จะต้องมีการตรวจสอบในลักษณะทางกายภาพ เช่น การตัดแต่งกิ่งไม้ และตรวจสอบป้ายต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้อุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งมีโอกาสที่จะถูกลมพายุพัดหลุดห้อยหรือทำให้กระทบกับระบบไฟฟ้าของ MEA ให้เกิดความเสียหายได้ ทั้งนี้ MEA ยังได้ประสานกับกรุงเทพมหานครตรวจสอบโคมไฟส่องสว่าง ไฟฟ้าสาธารณะให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย รวมถึงการตรวจสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ส่งผลต่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้าภายในสถานีสูบน้ำแต่ละแห่ง โดยประสานงานใกล้ชิดกับศูนย์ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ เพื่อการแก้ไขเหตุไฟฟ้าดับฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจน MEA จัดเจ้าหน้าที่บูรณาการระบบไฟฟ้าประจำจุดที่สำคัญทุกแห่งพร้อมดูแลระบบไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง จากการดำเนินงานทั้งหมดนี้ MEA จึงมีความมั่นใจในการดูแลระบบไฟฟ้าสำหรับสถานีสูบน้ำเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมั่นคงและปลอดภัยอย่างเต็มที่ในช่วงฤดูฝน

 

ทั้งนี้ หากประชาชนประสบเหตุสาธารณภัย หรือต้องการความช่วยเหลือจากเหตุสาธารณภัยต่าง ๆ สามารถขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนนิรภัย โทร. 1784  โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 24 ชั่วโมง รวมถึงหากประชาชนในพื้นที่ให้บริการ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ พบเห็นสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าของ MEA ชำรุดอยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย หรือต้องการความช่วยเหลือด้านระบบไฟฟ้ารวมถึงขอเลื่อนเครื่องวัดฯ สามารถแจ้งการไฟฟ้านครหลวงเขตใกล้บ้าน ทุกเขต หรือแจ้งเหตุผ่านช่องทางออนไลน์ สะดวก รวดเร็ว ได้ที่ MEA Smart Life Application ดาวน์โหลดฟรี ได้ที่ App Store และ Play Store เท่านั้น หรือช่องทางโซเชียลมีเดียทางการต่าง ๆ MEA ได้ที่ Line: MEA Connect (@MEAthailand) สัญลักษณ์โล่สีเขียวนำหน้าชื่อบัญชีทางการ เลือกเมนู ติดต่อ MEA Call Center Online 1130 ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง และติดตามข่าวสารงานบริการของ MEA ผ่านทางเว็บไซต์ www.mea.or.th

Page 1 of 6
X

Right Click

No right click