สามสมาคมอสังหาฯ เจ้าภาพงานหกรรมบ้านและคอนโด เล็งขยายฐานลูกค้าเดินงานฯ จับกลุ่มผู้ซื้อพร้อมกัน 3 เจน เพิ่มโอกาสขายให้สมาชิกผู้ประกอบการ และถือเป็นโอกาสทองให้คนไทยมีบ้านได้ง่าย โดยงานครั้งที่ 44 นี้ ชูคอนเซปต์ Property Solutions ระดมทุกภาคส่วนจากวงจรธุรกิจอสังหาฯ มาไว้ในงาน เพื่อตอบทุกโจทย์เรื่องบ้าน ให้เรื่องเป็นอยู่ เป็นเรื่องง่ายกับผู้บริโภค
ดร.ทัพพ์เทพ ภัคกระนก ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 กล่าวว่า “งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 นี้ มีกำหนดจัดขึ้นระหว่าง 2 – 5 พฤศจิกายน 2566 ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งทางสามสมาคมผู้จัดงาน ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้ใช้คอนเซปต์ “Property Solutions” เพื่อสื่อถึงบทบาทของงานมหกรรมฯ ในการเป็นมาร์เกตเพลสที่ครบจบทุกอย่างเรื่องบ้านในงานเดียว เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตและทุกดีมานด์ของผู้บริโภคทั้ง Gen X, Yและ Z โดยได้รวมผู้ประกอบการทั้งดีเวลลอปเปอร์และกลุ่ม NPA และซัพพลายเออร์ด้านวัสดุก่อสร้าง สุขภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น รวมถึงสถาบันการเงินชั้นนำ อย่าง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารยูโอบี ทั้งหมดกว่า 150 รายเอาไว้”
ภายในงานฯ จะมีโครงการที่อยู่อาศัยมากกว่า 1,000 โครงการจากทั่วประเทศให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ ซึ่งสามารถแบ่งสัดส่วนตามประเภทโครงการได้ดังนี้ คอนโดมิเนียม 35% ทาวน์เฮาส์ 30% บ้านเดี่ยว 20% บ้านแฝด 10% และอื่นๆ เช่น ที่ดิน บ้านมือสอง อีก 5% ขณะเดียวกัน หากคิดเป็นพื้นที่ตั้งของโครงการ จะมีโครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่ที่ 70% เทียบกับอีก 30% ที่เป็นโครงการจากจังหวัดอื่นๆ ซึ่งรวมถึงเมืองเศรษฐกิจ อย่าง เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี เป็นต้น ทั้งนี้ในด้านยอดขายจากงานครั้งที่ผ่านมา สินค้าประเภทคอนโดฯ ได้รับความนิยมมากที่สุด ตามกระแสตลาดในปัจจุบัน ซึ่งดร.ทัพพ์เทพ คาดว่ายอดขายในงานครั้งที่ 44 นี้ก็จะเป็นเช่นเดียวกัน เนื่องจากคอนโดฯ เป็นเป้าหมายหลักของลูกค้าทั้ง Gen Y และ Z รวมถึงลูกค้าชาวต่างชาติ โดยช่วงราคาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะอยู่ที่ระดับ 3 – 5 ล้าน ตามด้วยระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป
ดร.ทัพพ์เทพ กล่าวต่อว่า “ในส่วนของกลุ่มลูกค้างานมหกรรมบ้านและคอนโด ทางสามสมาคมได้พยายามขยายขอบเขตการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่อยู่เสมอ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้มากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากกลุ่มลูกค้าหลักอย่าง Gen Y ที่มีความพร้อมในทางการเงินค่อนข้างสูง งานครั้งนี้ก็ยังมองถึงกลุ่ม Gen Z ที่เกิดระหว่างปี 2540 – 2555 เพราะบางกลุ่มเริ่มมีอายุมากพอที่จะซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้ ด้วยอาชีพและช่องทางสร้างรายได้เกิดขึ้นใหม่มากมายในสังคมปัจจุบันเอื้อประโยชน์ต่อคนเจนนี้ โดยเฉพาะ Creator Economy นอกจากนี้เจ้าของบ้านรุ่นใหม่ที่อายุยังน้อยนี้ ยังมีโอกาสที่จะได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากญาติผู้ใหญ่ ทำให้ Gen Z จะเติบโตขึ้นไปเป็นกลุ่มผู้ซื้ออสังหาฯ หลักแทนที่ Gen X ในอนาคตอันใกล้ ดังนั้นงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 นี้ ทางสมาคมเชื่อว่าจะมีจำนวนผู้บริโภค Gen Z ให้ความสนใจมาเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ายอดคนเดินงานตลอดทั้ง 4 วันจะอยู่ที่ 80,000 คน แบ่งเป็นกลุ่มคนใน Gen X ประมาณ 15% Gen Y ที่ 70% ส่วน Gen Z จะอยู่ที่ 10% และอื่นๆ อีก 5%”
สำหรับสื่อประชาสัมพันธ์ที่สมาคมเลือกใช้ ก็ได้ผสมผสานระหว่างสื่อสายหลัก ทั้งรายการโทรทัศน์ วิทยุ และเว็บข่าวชั้นนำต่างๆ โซเชียลมีเดียในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, IG, Line OA, Youtube และ TikTok ทั้งยังมีสื่อ Out of Home อย่างจอในสถานี MRT บริเวณทางเชื่อมสถานีสีลมและสุขุมวิท และ Digital Billboard ที่อโศก ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และบ่อนไก่ พระราม 4 นอกจากนี้ ยังใช้ KOL ที่มีชื่อเสียงในวงการอสังหาฯ ช่วยประชาสัมพันธ์งาน เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้ง 3 เจนได้มากที่สุด โดยใช้งบประชาสัมพันธ์รวมอยู่ที่ราว 22 ล้านบาท
นอกจากนี้ คณะกรรมการผู้จัดงานและโครงการต่างๆ ยังได้เตรียมโปรโมชั่นไว้เอาใจผู้บริโภค อาทิ จองที่อยู่อาศัยในงานมีสิทธ์ลุ้นรับทองคำ 10 บาท และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมมูลค่าของรางวัลเกือบ 6 แสนบาท ทั้งยังมีแคมเปญพิเศษเฉพาะในงานนี้จากโครงการที่เข้าร่วม เช่น ส่วนลดเงินสด รถยนต์ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่สำคัญ ภายในงานยังมีสถาบันการเงินชั้นนำมาให้คำแนะนำและบริการด้านสินเชื่อ สำหรับผู้สนใจจะจองซื้อที่อยู่อาศัยให้เข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้ง่ายยิ่งขึ้น
“ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่เสมอ หากแต่ปัจจัยในแต่ละช่วงเวลาจะเอื้อต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มมากน้อยอย่างไร เช่นเดียวกับฝั่งผู้ประกอบการที่ต้องปรับตัวไปตามภาวะต่างๆ ทั้งเงินเฟ้อ ที่ส่งผลต่อค่าแรง ค่าวัสดุก่อสร้าง หรือค่าน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย และที่สำคัญคือความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งกุญแจหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนวงจรธุรกิจอสังหาฯ ทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน ก็คือมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยนายกจากทั้งสามสมาคมได้เคยให้คำแนะนำกับรัฐบาลผ่านสื่อมวลชนไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมาตรการบ้านหลังแรก ที่ช่วยกระตุ้นธุรกิจทั้งซัพพลายเชน หรือการยืดระยะเวลาการผ่อนผันมาตรการ LTV ออกไปอีก หรือการต่อเวลาและกรอบการลดค่าจดจำนองและค่าธรรมเนียมการโอนให้ครอบคลุมบ้านทุกระดับราคา ไม่จำกัดแต่ราคาบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท รวมถึงการลดอัตราจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแบบขั้นบันได นอกเหนือไปจากการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ผ่านภาคการท่องเที่ยว การส่งออก และการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคอย่างต่อเนื่อง” ดร.ทัพพ์เทพ ทิ้งท้าย
มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 จะมีขึ้นระหว่าง 2 – 5 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าได้ที่ bit.ly/3rfDs52 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.housecondoshow.com, FB: housecondoshow และ Line: @Housecondoshow เพื่อรับข้อมูลโครงการและโปรโมชั่นจากผู้ประกอบการได้อย่างง่ายดายและสะดวกรวดเร็ว
บทพิสูจน์งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 43 ที่จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่าง 23 – 26 มีนาคมที่ผ่านมา
นพ.วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน)