November 07, 2024

เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) หนึ่งในผู้นำรถยนต์พลังงานใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมอัจฉริยะ ย้ำชัด ยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและในระยะยาว ท่ามกลางความท้าทายของอุตสาหกรรมยานยนต์และสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกาศจุดยืน “ประเทศไทย” เป็นประเทศยุทธศาสตร์ในภูมิภาคอาเซียนและตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวา

 เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภายใต้ “Great Wall Motors International” บริษัทฯ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อกำกับ ดูแล รวมถึงบริหารธุรกิจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในตลาดต่างประเทศทั่วโลก สำหรับตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวารวมถึงประเทศไทย นำทัพโดย เจมส์ หยาง รองประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลาดต่างประเทศ ที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งและนำการบริหารงาน ณ สำนักงานที่กรุงเทพฯ เพื่อปรับเปลี่ยนและพัฒนาการดำเนินธุรกิจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ให้มีประสิทธิภาพและสามารถแข่งขันได้ในช่วงเวลาแห่งความท้าทาย รวมถึงกำกับดูแลการดำเนินงานของโรงงาน “GWM Smart Factory” ในจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นโรงงานการผลิตเต็มรูปแบบ ที่ถูกวางให้เป็นฐานการผลิตและส่งออกที่สำคัญของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ไปสู่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ปัจจัยเหล่านี้ล้วนตอกย้ำทิศทางและวิสัยทัศน์ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและมั่นคงในระยะยาว

ชูกลยุทธ์ 3 ด้าน เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว: ผลิตภัณฑ์อัจฉริยะที่ตอบโจทย์คนไทย งานบริการหลังการขายและการบริหารจัดการอะไหล่ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง

เกรท วอลล์ มอเตอร์ นำกลยุทธ์สำคัญ 3 ด้าน เข้ามาปรับปรุงและพัฒนาความสามารถในการแข่งขันภายใต้ภาวะการณ์ที่ท้าทายในปัจจุบัน เพื่อให้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง สร้างรากฐานเพื่อเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ประกอบด้วย

ด้านผลิตภัณฑ์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะมีการปรับกลยุทธ์การวางแผนผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าชาวไทย รวมถึงการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีเทคโนโลยีของระบบขับเคลื่อนแห่งอนาคต (Powertrain) อันหลากหลายเข้าสู่ตลาด นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะลงทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องและใช้ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีคุณภาพในประเทศให้มากขึ้น เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการผลิตและส่งออกที่สำคัญของรถยนต์พวงมาลัยขวาและซ้ายของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกอีกด้วย

ด้านบริการหลังการขาย เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีการยกระดับมาตรฐานศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีผ่านโครงการ “Certified Body and Paint” โดยมี พาร์ทเนอร์ สโตร์ จำนวน 6 แห่ง ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลที่ผ่านการรับรองจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อมอบความมั่นใจในคุณภาพงานซ่อมให้กับลูกค้า โดยในอนาคต บริษัทฯ วางแผนที่จะขยายโครงการดังกล่าวไปยัง

จังหวัดต่าง ๆ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศอีกด้วย สำหรับด้านการบริหารจัดการอะไหล่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมีแผนในการสร้างโรงเก็บอะไหล่ขนาดใหญ่ในประเทศจีน เพื่อรองรับความต้องการอะไหล่จากตลาดต่างประเทศรวมถึงประเทศไทย ทำให้การจัดส่งอะไหล่ที่ต้องนำเข้าจากประเทศจีนเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้มีการพัฒนาการบริการส่งอะไหล่ไปยังศูนย์บริการทั่วประเทศได้ภายใน 1 วัน รวมถึงมีแผนในการขยายคลังเก็บอะไหล่ในประเทศไทย เพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของจำนวนรถยนต์และรถรุ่นใหม่ ๆ ที่จะเปิดตัวในอนาคต รวมถึงการจัดหาผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการอะไหล่ของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

ด้านการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย ถึงแม้ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินธุรกิจของผู้จำหน่ายหลายราย ซึ่งเป็นผลจากภาวะการแข่งขันสูงและการเข้ามาของแบรนด์ใหม่ ๆ อย่างไรก็ตาม เรายังคงเดินหน้าในการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายในการให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีเครือข่ายผู้จำหน่ายทั้งสิ้น 71 แห่ง โดยในปี 2567 นี้ เรามีการเปิด พาร์ทเนอร์ สโตร์ เพิ่มเติมไปแล้วถึง 11 แห่ง ทั้งในเขตกรุงเทพและปริมณฑลและต่างจังหวัด ได้แก่ GWM ไลฟ์ นนทบุรี, GWM จีที ออโต้ พัฒนาการ, GWM มหานคร พหลโยธิน กม.25, GWM เอก อารีย์, GWM บางกอก ถนนจันทน์, GWM คาร์แมน วงศ์สว่าง, GWM ฑีฆ อุดรธานี, GWM อนุภาษ ภูเก็ต กะทู้, GWM วายเอเอส ยะลา, GWM ระยอง ปลวกแดง และ GWM ชูเกียรติ สงขลา นอกจากนี้ เรายังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสู่มือผู้บริโภคชาวไทยทั่วประเทศ

 

เจมส์ หยาง รองประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลาดต่างประเทศ กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาครบ 3 ปีเต็ม และกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 พร้อมความมุ่งมั่นตั้งใจในการนำผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสู่มือผู้บริโภคชาวไทย เราขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างมากที่มอบความไว้วางใจและให้การสนับสนุนเรามาโดยตลอด ภายใต้ความท้าทายของอุตสาหกรรมรถยนต์และสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้เราต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้ตอบโจทย์คนไทยให้มากที่สุด เราเชื่อว่ากลยุทธ์ทั้ง 3 ด้านของเราจะทำให้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว เราขอยืนยันว่า การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยจะยังคงดำเนินต่อไปด้วยความมั่นคงและแข็งแกร่ง ทั้งด้านการขายและบริการหลังการขาย เรามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดประเทศไทยและผู้บริโภคชาวไทย และประเทศไทย ถือเป็นประเทศยุทธศาสตร์ที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ให้ความสำคัญเสมอมา เรายังคงมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์ที่สำคัญของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในระดับโลก เราจะเติบโตไปพร้อมกับคนไทยและประเทศไทยในระยะยาวอย่างแน่นอน”

ในฐานะบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) เกรท วอลล์ มอเตอร์ เร่งเครื่องสุดกำลังในการมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเพื่อเติมเต็มระบบนิเวศและอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้ทัดเทียมระดับสากลควบคู่ไปกับการตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของผู้บริโภคชาวไทยทั่วประเทศ

SC Asset แบรนด์อสังหาฯ  ที่ครอบคลุมทุกทำเลในกรุงเทพ เปิดแคมเปญโปรโมชั่นสุดพิเศษ “SC Express Station ลดด่วน ขบวนสุดคุ้ม” กับ โครงการบ้านหรู และคอนโดมิเนียมกว่า 81 โครงการ ในทำเลศักยภาพทั่วประเทศ

เป็นหนึ่งในแผนกลยุทธ์ “Go-To-Customer Strategy” เพื่อช่วยส่งเสริมการขาย เพื่อให้ลูกค้าได้ช้อปอย่างสะดวกสบาย พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษผ่านบ้านหรู และคอนโดในทำเลดีมีศักยภาพกว่า 81 โครงการ หลากหลายโซนทั่วกรุงเทพฯ เริ่มตั้งแต่ราคา  
2.39 - 100 ล้านบาท และกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ถือเป็นความพิเศษสุดที่ SC นำมามอบให้สำหรับลูกค้าที่กำลังพิจารณา ตัดสินใจซื้อบ้าน ด้วยเงื่อนไขที่ดีที่สุด 

“การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่ SC Asset นำมามอบให้สำหรับลูกค้าที่กำลังพิจารณา ตัดสินใจซื้อบ้าน ด้วยเงื่อนไขใหม่ที่คุ้มค่ามากยิ่งกว่าเดิม ทั้งส่วนลดและอัตราดอกเบี้ยและสิทธิ์ลุ้นรับรถยนต์ไฟฟ้า MINI Cooper SE 2024 ถือเป็นของขวัญให้กับลูกค้าคนพิเศษ ซึ่งที่ผ่านมา SC ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยสำคัญมาจาก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคภายใต้แบรนด์ ที่แข็งแกร่ง ด้วยสินค้าบริการคุณภาพสูง และ มีนวัตกรรม  ประกอบกับการออกแบบดีไซน์ ที่สวยงาม และ ฟังก์ชั่นตอบโจทย์การอยู่อาศัยในทุกเจนเนอเรชั่น ที่สอดคล้องตามวิสัยทัศน์ SC the Evolution สร้างคุณค่าสู่คนและโลก เติบโตบนความหลากหลาย” 

“SC Express Station ลดด่วน ขบวนสุดคุ้ม” จัดขบวนโปรโมชั่นพิเศษอย่าง ส่วนลดสูงสุด 10 ล้านบาท* ฟรีค่าส่วนกลาง 10 ปี* ดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี* อีกทั้งลุ้นรับรถยนต์ไฟฟ้า MINI Cooper SE 2024 ราคา 1,699,000 บาท* ให้ได้ช้อปกันอย่างจุใจถึง 6 วันเต็ม! ตั้งแต่ 19 - 24 กันยายนนี้ ณ EM MARKET HALL ชั้น G ศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์ 

โดยงานนี้ยังเตรียมโครงการใหม่ให้ลูกค้าได้ตัดสินใจจับจอง คือ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด บรมราชชนี คฤหาสน์หรู ซีรีส์ใหม่ 2 ชั้น มีสไตล์การออกแบบเป็น Modern Neo-Classic ด้วยเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรม Neo-Classic และ มาพร้อมกับการออกแบบผ่านสถาปัตยกรรมหรูร่วมสมัยภายใต้แรงบันดาลใจ Altare Della Patria, Italy เอกสิทธิ์เพียง 21 ครอบครัวเท่านั้น มูลค่าโครงการ 1,260 ล้านบาท มีพื้นที่โครงการกว่า 16 ไร่ บนที่ดินขนาดใหญ่กว่า 200 ตารางวา* ตั้งบนบนทำเล ศักยภาพ ติดถนนใหญ่ บรมราชชนนี ใกล้ ทางด่วนขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี และ ทางด่วนศรีรัช - วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก สามารถเชื่อมต่อเข้าใจกลางเมือง ปิ่นเกล้า - CBD ได้หลายเส้นทางทั้งจากถนนกาญจนาภิเษก, ถนนราชพฤกษ์ เป็นต้น อีกทั้งตัวโครงการ ยังใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้ง Design Village, Gourmet Market - โรงพยาบาลชั้นนำเช่น ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก, รพ. ธนบุรี ทวีวัฒนา - และโรงเรียนชั้นนำอย่าง โรงเรียนสาธิตนานาชาติมหิดล ราคาเริ่มต้น 60-80 ล้านบาท  

สำหรับโครงการ คอนโดมิเนียม ยังจะได้พบกับ โครงการ Ready to move-in ได้แก่ เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียม พร้อมอยู่ หนึ่งเดียว ใจกลางห้าแยกลาดพร้าว เพียงก้าวเดียวถึง Interchange Station BTS & MRT และ โครงการที่พร้อมเข้าอยู่ Reference สาทร วงเวียนใหญ่ เพียง 130 เมตร .จาก BTS วงเวียนใหญ่ ใกล้สาทร - สีลม และ ไอคอนสยาม 

งาน “SC Express Station ลดด่วน ขบวนสุดคุ้ม” ได้ตั้งแต่ 19-24 ก.ย. นี้ ณ EM MARKET HALL ชั้น G ศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จับมือ ‘อีโวลท์’ (Evolt) ผู้นำในการให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรรายแรกในประเทศไทย ยกระดับประสบการณ์การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เมื่อชำระเงินด้วยแอปทรูมันนี่ ณ จุดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของอีโวลท์ รับทันที! Welcome Points ถึง 100 คะแนนเมื่อสมัครสมาชิก พร้อมเลือกซื้อดีลสุดพิเศษและสะสมแต้มทุกครั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากับอีโวลท์   

นายสุทธิพัฒน์ จันทร์สว่าง ผู้อำนวยการฝ่ายโซลูชันทางธุรกิจ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า “ทรูมันนี่มุ่งมั่นในการช่วยยกระดับแพลตฟอร์มการให้บริการแก่ธุรกิจด้วยโซลูชันการตลาดแบบครบวงจรด้วยTrueMoney for Business ที่เน้นช่วยเหลือร้านค้า ผู้ให้บริการ และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการร่วมเป็นพันธมิตรกับทรูมันนี่ พร้อมช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าของทรูมันนี่ที่มีมากกว่า 30 ล้านรายทั่วประเทศ โดยก่อนหน้านี้ ร้านค้าบนแพลตฟอร์ม ShopReward+ ของทรูมันนี่ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าในหมวดหมู่อาหารและเครื่องดื่ม แต่เริ่มจากในปีที่ผ่านมา ทรูมันนี่ได้ร่วมมือกับธุรกิจแบบบริการตนเอง หรือ Self Service ผ่านคู่ค้าที่เป็นผู้ให้บริการในกลุ่มธุรกิจซักรีดที่กำลังเป็นที่นิยมและได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งอีโวลท์ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ Self Service ที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ การจับมือผ่าน ShopReward+ แพลตฟอร์มให้บริการระบบสมาชิกแบบครบวงจร (CRM) สามารถเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการทำการตลาด เพราะทำให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการระบบสมาชิกพร้อมกระตุ้นยอดขายด้วยการส่งโปรโมชัน ดีลพิเศษ และส่วนลดต่าง ๆ ให้กับลูกค้าโดยตรงผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านอาหาร เครื่องดื่ม ไลฟ์สไตล์ สุขภาพและความงาม หรือ Self Service ก็สามารถเข้าร่วม ShopReward+ เพื่อส่งเสริมยอดขายได้เช่นเดียวกัน” 

นายธนกร คติวิชชา ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า “ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยในช่วงปี พ.ศ. 2567 - 2569 มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์และอุปทานภายในประเทศ โดยคาดว่าจะมียอดจดทะเบียนใหม่ของรถยนต์นั่งไฟฟ้าโดยรวมเฉลี่ยปีละ 190,000 คัน และมีกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโดยรวมอย่างน้อยประมาณ 400,000– 500,000 คันต่อปี ส่งผลให้ธุรกิจที่สนับสนุนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจุดให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจำเป็นที่จะต้องเร่งขยายจุดให้บริการ พร้อมยกระดับประสบการณ์ให้เข้าถึงและตอบโจทย์ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน อีโวลท์ ได้มีการเปิดให้บริการระบบอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าที่ครบวงจรที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมสถานีให้บริการมากกว่า 200 สาขาทั่วประเทศเพื่อรองรับความต้องการของผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างทั่วถึงและมีการวางแผนในการขยายจุดให้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความร่วมมือกับ ทรูมันนี่ ในครั้งนี้จะสามารถเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้นด้วยฐานผู้ใช้บริการของทรูมันนี่ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้งยังช่วยตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายไร้เงินสดของผู้บริโภคได้อย่างไร้รอยต่อ” 

ผู้ที่สนใจสมัครสมาชิกหรือรับดีลสุดพิเศษจากอีโวลท์ใน ShopReward+ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน 
ทรูมันนี่ และเข้าไปที่เมนูสมาชิกร้านค้าหรือ ShopReward+ และเลือกรับสิทธิ์จากอีโวลท์ได้ทันที โดยทุก การชาร์จ 10 บาทจะได้รับ 100 คะเเนน เเละรับ Welcome Point 100 คะแนนทันทีเมื่อสมัครสมาชิก อีโวลท์ ใน ShopReward+ พิเศษ! ซื้อคูปองเงินสดมูลค่า 200 บาทสำหรับใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากับ อีโวลท์ ผ่าน ShopReward+ ได้ในราคาเพียง 179 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 สิงหาคม 2567 

ผู้ที่สนใจบริการ ShopReward+ และโซลูชัน TrueMoney for Business สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.truemoney.com/business-partner/shoprewardplus-crm/  

และต้นทุนคงที่เฉลี่ยต่อการใช้งาน กอปรกับความพึงพอใจและข้อจำกัดในการใช้งานของแต่ละปัจเจกชน

ธนชาตประกันภัย ประกาศความพร้อมแนวทางการดูแลลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 47/2566 เรื่องให้บริษัทประกันวินาศภัยใช้แบบ ข้อความ และพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์รถยนต์ไฟฟ้า โดยบริษัทฯ จะเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2567เป็นต้นไป ซึ่งกรมธรรม์รถยนต์ไฟฟ้าตามเกณฑ์ใหม่มีความคุ้มครองแตกต่างจากแบบเดิม ยืนยันหากลูกค้าต่ออายุกรมธรรม์ก่อนเกณฑ์ใหม่จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขเดิมตลอดอายุสัญญา ตอกย้ำความมั่นใจทุกความต้องการของลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์และการดูแลอย่างดีที่สุด

นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนชาตประกันภัย เปิดเผยว่า ตามที่นายทะเบียนของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) มีคำสั่งให้บริษัทประกันวินาศภัยเริ่มใช้กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน คปภ. กำหนด เต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.67 เป็นต้นไป ซึ่งความคุ้มครองตามเกณฑ์ใหม่จะมีความแตกต่างจากประกันภัยรถยนต์ที่ลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าถือครองอยู่ในปัจจุบัน เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าที่อาจยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ประกันรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่ ธนชาตประกันภัย ในฐานะผู้นำธุรกิจประกันภัยรถยนต์ ที่ให้การดูแลลูกค้ารถยนต์ไฟฟ้าด้วยความคุ้มครองที่ได้มาตรฐานมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ออกประกาศแนวทางการดูแลลูกค้าประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า 2 กรณี ดังนี้

  1. กรณีลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยก่อนวันที่ 1 มิ.ย.67 ทั้งการต่ออายุตามวันคุ้มครองหรือการต่ออายุล่วงหน้า จะได้รับผลประโยชน์ความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์เดิมตลอดอายุสัญญา โดยคุ้มครองความเสียหายทั้งตัวรถและแบตเตอรี่เต็มตามทุนประกัน รวมถึงยังไม่จำเป็นต้องระบุผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ อย่างไรก็ตามหากลูกค้าต้องการเปลี่ยนกรมธรรม์เป็นประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าตามเกณฑ์และเงื่อนไขความคุ้มครองฉบับใหม่ สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ Call Center โทร.02-666-8899 กด 0 ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.67 เป็นต้นไป
  2. กรณีลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.67 เป็นต้นไป ผลประโยชน์ความคุ้มครองจะเป็นไปตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าเกณฑ์ใหม่ ซึ่งมีความแตกต่างจากกรมธรรม์เดิม 2 เรื่อง ได้แก่ ความคุ้มครองแบตเตอรี่และความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งของทุนประกันภัย โดยกรณีที่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความเสียหายจนต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งชุดจะได้รับการชดใช้สินไหมทดแทนตามอายุการใช้งานแบตเตอรี่ โดยปีแรกจะชดใช้สินไหมทดแทน 100% จากนั้นจะค่อยๆ ปรับลดลงตามขั้นบันไดปีละ 10% (ต่ำสุด 50% กรณีแบตเตอรี่อายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป) ส่วนอีกเรื่องคือ ลูกค้าจำเป็นต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์อย่างน้อย 1 คน และสามารถระบุสูงสุดได้ 5 คน ดังนั้น หากเกิดอุบัติเหตุแล้วชื่อผู้ขับขี่ไม่ตรงกับชื่อในกรมธรรม์ ลูกค้าจะต้องเสียค่า Excess สูงถึง 6,000 บาท โดยบริษัท ฯ จะนำชื่อเจ้าของกรมธรรม์ฉบับเดิมระบุเป็นชื่อผู้ขับขี่คนแรก และสามารถเพิ่มชื่อผู้ขับขี่เพิ่มเติมได้ทาง Line Official Account “ธนชาตประกันภัย”

นายพีระพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้กำหนดแนวทางดังกล่าว โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับเป็นสำคัญ และยังคงมาตรฐานการให้บริการในระดับสูงสุด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสนับสนุนความยั่งยืนด้านพลังงานและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนน อันจะส่งผลที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าและสังคมโดยรวมต่อไป

Page 1 of 3
X

Right Click

No right click