สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จับมือพาร์ทเนอร์ทั้งภาครัฐ-เอกชน จัดเทศกาลสำหรับคนยุคดิจิทัล ในงาน “VEER: Future Readiness Festival” เพื่อจำลองมุมมองอนาคตของคนไทย หลากหลายกิจกรรมไฮไลท์ที่ตอบโจทย์ทุกเจนเนอเรชั่น เพื่อให้ทุกคนเตรียมพร้อมสู่อนาคตดิจิทัลอย่างมั่นใจ เจอกัน! 26-27 กันยายนนี้ ณ ลานกิจกรรมหน้า KFC ชั้น G สามย่านมิตรทาวน์
ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA เปิดเผยว่า งาน “VEER: Future Readiness Festival” จัดขึ้นเพื่อตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของโลกดิจิทัล พร้อมชวนคิดในมุมของการเตรียมตัว เพื่อก้าวข้ามความท้าทาย พร้อมเดินหน้าไปสู่อนาคตที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ภายใต้แนวคิด “VEER: เปลี่ยนทิศทาง สู่อนาคตอย่างมั่นใจ” ที่มีเป้าหมายหลักคือการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เป็นพันธมิตรของ ETDA ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์คาดการณ์อนาคต หรือ ศูนย์ Foresight Center by ETDA ในการจัดกิจกรรมนี้ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคน ทุกเจเนอเรชันได้มีส่วนร่วม สู่การยกระดับศักยภาพด้านดิจิทัลของคนไทยในมิติต่างๆ อย่างรอบด้าน
โดย “VEER: Future Readiness Festival” ถือเป็นเทศกาลดิจิทัลครั้งสำคัญ ที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นการเรียนรู้และร่วมสร้างความตระหนักรู้ด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ด้วยการผสมผสานกิจกรรมที่สนุกสนานและได้ความรู้ ที่สอดคล้องกับกับผู้สนใจทุกกลุ่มวัย ซึ่งมี 3 ไฮไลท์จาก 3 โซนหลัก ที่เจาะกลุ่มทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และผู้สูงวัย ตลอด 2 วันเต็ม! ระหว่างวันที่ 26-27 กันยายนนี้ ได้แก่
1. Gen Alpha - Gen Z: เสริมทักษะแห่งอนาคตด้านดิจิทัล ใน Concept:“DIGITAL FUTURE SKILLS for the Generation of Hope in Thailand” ไปกับกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะโซน “Future Skills” คุณจะได้สนุกไปกับเกม Interactive ที่ไม่เพียงแต่ท้าทายความสามารถ แต่ยังช่วยปลดล็อกทักษะด้านดิจิทัลผ่านกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ เช่น เกมปั่นจักรยานและเกมเต้น ที่จะช่วยให้คุณได้ทดลองความสามารถและเตรียมตัวเข้าสู่โลกการทำงานแห่งอนาคตอย่างมั่นใจที่มาพร้อม โอกาสพิเศษ! พบปะ พูดคุยกับเหล่าหน่วยงานชั้นนำ อย่าง มูลนิธิโลกสีเขียว, VISAI AI, Psycholism และ CMKL University ที่ทำให้คุณได้เปิดมุมมอง พร้อมรับคำแนะนำตรงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการตลาดแรงงานดิจิทัล ที่จะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้ตรงจุดและรู้ว่าทักษะใดที่ต้องพัฒนาเพื่อคว้าโอกาสในอนาคตที่สำคัญโซนนี้จัดเต็ม! ด้วยกิจกรรมที่จะช่วยคุณค้นหาศักยภาพและความสนใจในทักษะดิจิทัลที่ตรงกับอนาคตพาคุณก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้!
2.Gen X - Gen Y: ปั้นผู้ประกอบการไทยให้พร้อมก้าวไกลสู่ระดับโลก ใน Concept: “GOING GLOBAL with DIGITAL for Thai Entrepreneurs Ready for the Future” โซนนี้จัดหนัก จัดเต็ม สำหรับผู้ประกอบการโดยเฉพาะที่คุณจะได้พบกับกิจกรรมสุดล้ำ “Today’s Problems, Tomorrow’s Future” ที่จะเปลี่ยนปัญหาทางธุรกิจที่คุณพบเจอในวันนี้ ให้กลายเป็นโอกาสใหม่ในวันพรุ่งนี้ ผ่าน Interactive Quest ที่จะจับคู่คุณกับ Business Assistants จากหน่วยงานชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Amazon Global Selling Thailand, Lazada (Thailand), Kerry Logistics (Thailand) และ LiVE Platform โดย บริษัทไลฟ์ ฟินคอร์ป จำกัด ในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อช่วยคุณปรับตัวและเตรียมความพร้อมเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย อาทิ กิจกรรม “Hit That Button!” ที่จะให้คุณเลือกพาร์ทเนอร์ที่ต้องการพูดคุยแบบ Exclusive เพียงสะสมคะแนนให้ครบตามเป้า แล้วคุณจะได้โอกาสพูดคุยและรับคำแนะนำที่ตรงจุดจากผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมี Business Showcase ที่น่าตื่นเต้นจาก YT Engineering System และ S&N Food and Beverage Group ที่จะนำเสนอ EV TukTuk ในรูปแบบ Food Truck มาให้คุณได้เห็นถึงศักยภาพของธุรกิจนวัตกรรมไทย ย้ำเลย! เป็นโอกาสของคุณกับการก้าวสู่การนำไอเดียไปต่อยอดธุรกิจสู่ความสำเร็จในระดับสากล
3. Gen Baby Boomer: สร้างความตระหนักรู้ทางดิจิทัลเพื่อความปลอดภัยในอนาคต ที่มาใน Concept สุดว้าว!! : “DIGITAL AWARENESS: Building Immunity for Future Safety” จัดเต็มกับหลากหลายกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทางดิจิทัลให้คุณปลอดภัยจากภัยออนไลน์ในอนาคต พบกับประสบการณ์เสมือนจริงผ่านกิจกรรม Incoming Call… ‘Scammer’ ที่คุณจะได้จำลองสถานการณ์การเจอมิจฉาชีพในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันและที่อาจเจอในอนาคต ที่สำคัญ ในโซนนี้ คุณจะได้ทดสอบทักษะในการรับมือกับมิจฉาชีพ เริ่มจากการรับสายปลอมจาก Scammer ที่จะลองทดสอบความสามารถในการสังเกตจุดที่น่าสงสัย จากนั้นเตรียมตัวเจอกับสถานการณ์จำลองที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นเพื่อหลอกลวง โดยผู้เข้าร่วมต้องเอาตัวรอดให้ได้จากด่านทดสอบสุดท้าทาย พร้อมสะสมคะแนนเพื่อพิสูจน์ว่าคุณสามารถป้องกันตัวเองจากภัยออนไลน์ได้จริง รับรอง! นอกจากความสนุกแล้ว กิจกรรมนี้ยังมอบความรู้และเทคนิคในการสังเกตพฤติกรรมของมิจฉาชีพ ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และช่วยเสริมความตระหนักรู้ในโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ทำคะแนนผ่านจะได้รับสิทธิพิเศษถ่ายรูปที่ระลึก แสดงถึงความพร้อมของคุณในการรับมือกับภัยคุกคามดิจิทัลอย่างมั่นใจ!
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด!! คือเวทีกลาง ที่รวบรวม Speaker ผู้เชี่ยวชาญและผู้นำในวงการดิจิทัล มาร่วมแลกเปลี่ยน สะท้อนมุมมองผ่านหัวข้อสุดเข้มข้นจัดเต็มทั้ง 2 วันเลย อย่าง Day 1 (26 กันยายน) นอกจากกิจกรรมเปิดงานอย่างเป็นทางการ ที่ได้รับเกียรติ จาก ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาร่วมเป็นประธานเปิดงานในครั้งนี้แล้ว คุณจะได้พบกับหลากหลาย Session ทั้งการเปิดวงเวทีเสวนาจากตัวแทนคนอยู่ “หน้างาน” กับการเป็น “Hero” ในสังคม ผู้ที่เป็นทั้งเบื้องหน้าในการเปิดโปงคนหลอกลวง และเบื้องหลังในการสอดส่องดูแล จากหน่วยงานชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์ชัวก่อนแชร์ อสมท., กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.), กองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่จะมาร่วมแชร์ประสบการณ์และวิธีการรับมือไม่ให้ทุกคนตกเป็นเหยื่อ ในหัวข้อ Special Topic: “Future Readiness of Survivors” ก่อนไปต่อกันในหัวข้อ Special Topic “Future Readiness of Winners” ที่ยกทัพ Speakers จากหลากหลายวงการชื่อทั้ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ Game Narrative จาก CMKL University, สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย (TGA), บรรณาธิการบริหารสื่อออนไลน์สเปซทีเอซ, นักร้องนักแสดง ที่มาร่วมกันแชร์ทักษะที่สำคัญในการเอาชนะความท้าทายในอนาคต สร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น และใน Day 2 (27 กันยายน) ที่พิเศษสุดๆ ! กับเวทีเสวนาแบบ Long Take ที่จะยาวต่อเนื่องแบบไม่พัก ไปกับผู้บริหารรุ่นใหม่จากองค์กรระดับประเทศ เช่น NECTEC, กสทช., สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC), Lazada Thailand, Kerry Logistics Thailand, Amazon Global Selling Thailand, องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย และ สำนักข่าว TODAY เป็นต้น ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์การทำงาน พร้อมเผยเทคนิคการเป็นผู้นำในการบริหารงานเพื่อพาองค์กรสู่การเติบโต พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ใน Special Topic: Future Readiness of Executive Visions”
ETDA ขอเชิญชวนทุกคน มาร่วมกิจกรรรมสนุก พร้อมๆ ลุ้นรับของรางวัล ไปพร้อมกันได้ที่งาน “VEER: Future Readiness Festival” ในวันที่ 26 - 27 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น. ณ ลานกิจกรรมหน้า KFC ชั้น G สามย่านมิตรทาวน์ ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมได้ง่ายๆ เพียงลงทะเบียนผ่านลิงก์นี้ https://forms.gle/zZA7y7Fh5GbaRL919 ฟรี! ติดตามการอัปเดตข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page : Foresight Center by ETDA
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยศูนย์คาดการณ์อนาคต (Foresight Center by ETDA) จับมือ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) และ บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดตัวหลักสูตร "Future Readiness for Executive Networks หรือ FuEx (ฟิวเอ็กซ์) เสริมศักยภาพและวิสัยทัศน์ผู้นำยุคใหม่ ‘ผู้บริหารหรือผู้นำองค์กรทั้งภาครัฐ-เอกชน’ ให้พร้อมเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ความพร้อมในอนาคตดิจิทัลแบบมืออาชีพ (Future Readiness) โดยหลักสูตรที่พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการคาดการณ์อนาคตตัวจริง จากองค์กรชั้นนำระดับประเทศ! อัดแน่นด้วย Knowledge จัดเต็ม Foresight Tools และหลากหลายกลยุทธ์เพื่อการก้าวนำอนาคตได้อย่างตรงจุด พร้อมโอกาสสร้างความเเข็งแกร่งไปกับ Networking ที่รวมหลากหลายผู้นำองค์กร พร้อมการวัดระดับความพร้อมด้านดิจิทัลขององค์กรแบบ Exclusive ครั้งแรกของไทย! รับจำนวนจำกัด เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ที่ https://bit.ly/4bPv8KA
ดร.ณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประธานในงาน กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งเน้นการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลในทุกภาคส่วนรวมถึงการเสริมสร้างความสามารถของประเทศในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การเพิ่มอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลของไทยในเวทีโลก (World Digital Competitiveness Ranking) โดยเป้าหมาย คือ ไม่ต่ำกว่าอันอับที่ 30 ภายในปี 2570 ซึ่งปีนี้ไทยได้ขยับไปอยู่ในอันดับที่ 35 ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยในปี 2566 ไทยอยู่อันดับที่ 40 สิ่งนี้ได้สะท้อนถึงความก้าวหน้า ที่เป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่เห็นถึงความสำคัญของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล แต่ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้ไทยบรรลุเป้าหมายที่กำหนดนั่นคือ การรู้เท่าทันอนาคตและมีความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนด้านดิจิทัลเพื่อรองรับโลกอนาคตของประเทศ ได้เห็นถึงความสำคัญของการยกระดับมุมมองของผู้บริหารเพื่อนำพาองค์กรให้มีความพร้อมในการแข่งขันด้านดิจิทัลที่ไม่เพียงหน่วยงานภาครัฐแต่ยังรวมไปถึงภาคเอกชนในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ผ่านความร่วมมือในการขับเคลื่อนงานในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่อง
"หลักสูตร 'FuEx (ฟิวเอ็กซ์) หรือ Future Readiness for Executive Networks' ของ ETDA โดยศูนย์ Foresight Center จะเป็นอีกหนึ่งกลไกที่ช่วยขับเคลื่อนผู้นำองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนให้เห็นถึงทิศทางอนาคตโลกยุคใหม่ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมในการกำหนดทิศทางนโยบายขับเคลื่อนองค์กรสู่ความพร้อมในอนาคต ไปกับหลักสูตรนี้ ที่พร้อมทั้งความรู้และเครื่องมือ แนวทางที่ทำให้ผู้ร่วมอบรมสามารถวางแผนรองรับโลกอนาคตได้อย่างเป็นรูปธรรมที่เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานชั้นนำของประเทศ และยังมีเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนผู้บริหารในการประเมินความพร้อมขององค์กรที่น่าสนใจ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หลักสูตรนี้จะนำพาองค์กรรัฐ และเอกชน ไปสู่จุดเปลี่ยนอย่างก้าวกระโดดและเกิดการพัฒนาได้อย่างตรงจุด เกิดการขยายเครือข่าย Future Readiness ที่ต่อยอดร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ที่ไม่เพียงช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายและการดำเนินงานด้านดิจิทัลของประเทศ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความเข้มแข็ง พร้อมยกระดับขีดความสามารถด้านดิจิทัลที่ส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลไทยในอนาคตร่วมกันอีกด้วย" ดร.ณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
ดร.ตฤณ ทวิธารานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ETDA กล่าวเพิ่มเติมว่า ความพร้อมในอนาคต หรือ Future Readiness ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะเข้ามาช่วยเร่งเครื่องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย แต่วันนี้กลับพบว่า Future Readiness ของประเทศยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนักหากเทียบกับเวทีโลก เราจะทำอย่างไรให้ประเทศมีความพร้อมในอนาคตเพิ่มขึ้น เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีความสามารถในการรับมือทันต่อสถานการณ์โลกอย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือเป็นโจทย์สำคัญที่ทำให้ ETDA โดย ศูนย์คาดการณ์อนาคต หรือศูนย์ Foresight Center ได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์ทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการคาดการณ์อนาคตและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลร่วมกันพัฒนาหลักสูตร Future Readiness for Executive Networks หรือ FuEx (ฟิวเอ็กซ์) ที่จะเริ่มอบรมระหว่างวันที่ 7-31 สิงหาคม 2567 นี้ขึ้น เพื่อสร้างความพร้อมและเสริมศักยภาพทักษะและวิสัยทัศน์ผู้นำยุคใหม่ให้กับ ‘ผู้บริหาร ผู้นำองค์กร ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สตาร์ทอัพ และองค์กรสื่อ’ ให้มีความพร้อมสามารถนำพาองค์กรพร้อมเปลี่ยนผ่านสู่อนาคต (Future Readiness) โดยจะมีทั้ง Strategic Foresight Tools รวมไปถึงการประเมินความพร้อมด้านดิจิทัลขององค์กรที่ผู้เข้าร่วมจะได้ผลประเมินดังกล่าว นำไปใช้ประโยชน์ต่อในองค์กร พร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มเเข็งสู่การขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Adoption & Digital Transformation) ที่จะช่วยให้เกิดกลไกในการพัฒนากลยุทธ์เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลขององค์กรได้ในระยะยาว
“จุดเด่นของหลักสูตร FuEx ที่ผู้เรียนจะได้รับมี 3 ส่วนหลัก ๆ ครอบคลุมทั้ง การ Training ที่จะทำให้ผู้อบรมได้เห็นมุมมองการคิดแบบ Strategic Foresight การคาดการณ์อนาคตเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีคุณภาพไปกับ Foresight Tools ที่หลากหลายและใช้งานได้จริง สู่การพัฒนา Digital Roadmap ที่เป็นเส้นทางสร้างความสำเร็จขององค์กร รวมไปถึงการสร้างโอกาสทางธุรกิจและต่อยอดการดำเนินงานไปกับกิจกรรม Networking ระหว่างเครือข่ายผู้นำ ที่จะมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและข้อมูลทางเทคโนโลยีและวิสัยทัศน์ด้าน Foresight พร้อมการดูงานกับองค์ชั้นนำ อย่าง Amazon Web Services และ Lazada Thailand ที่ทำให้เห็นภาพของการพัฒนาสถานการณ์เชิงลึกในการรับมือกับ Future Readiness เพื่อเสริมการแข่งขันทางด้านดิจิทัลขององค์กร และพิเศษสุดๆ ทุกองค์กรที่เข้าร่วมหลักสูตรจะได้ทำ Organizational Assessment เพื่อประเมินความพร้อมด้านดิจิทัลขององค์กรผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึกและการทดสอบทั้งในมุมวิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำ ความคล่องตัวของธุรกิจ นวัตกรรมและเทคโนโลยี การพัฒนาทุนมนุษย์ เพื่อสะท้อนจุดเเข็ง จุดอ่อน และโอกาสแบบรายองค์กรอย่างเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถนำไปปรับปรุงกลยุทธ์ รวมถึงกำหนดทิศทางนโยบายในการสร้างความพร้อมในการแข่งขันด้านดิจิทัลรองรับอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
สำหรับ ‘ผู้บริหาร ผู้นำองค์กร ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สตาร์ทอัพ และองค์กรสื่อ’ ที่สนใจ สามารถสมัครได้ที่ https://bit.ly/4bPv8KA หรือติดตามรายละเอียดหลักสูตร FuEx ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand หรือ Foresight Center by ETDA และติดตามได้ที่ https://www.etda.or.th/th/pr-news/FuEx.aspx
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ดด้า) เปิดตัวกิจกรรม e-TRANSACTION LAW MOOT COURT COMPETITION 2024 ชวนนิสิต นักศึกษา ระดับปริญญาตรี ในสายกฎหมาย ไม่จำกัดสถาบันและชั้นปี ร่วมแข่งขันโต้เถียงปัญหา ‘กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์’ โดยการแถลงการณ์ด้วยวาจาใน ชั้นอุทธรณ์ ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 130,000 บาท พร้อมโอกาสในสายอาชีพนักกฎหมายยุคใหม่อีกมากมาย! เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ที่ https://bit.ly/3xIvVOZ
นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดิจิทัลกลายเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราทั้งการสื่อสาร การทำธุรกรรมการเงิน การซื้อขายผ่านออนไลน์ ด้วยความง่ายและความสะดวกนี้ อาจทำให้หลายคนไม่ทราบว่า หลายสิ่งที่เรากำลังทำนั้นมีผลทางกฎหมายและมีโอกาสเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมายได้ โดยจากสถิติของศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่าคดีความที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมออนไลน์มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ 1 มี.ค. 65 - 20 ธ.ค. 66 พบคดีมีการแจ้งความมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ หลอกลวงซื้อขายสินค้าและบริการ (จำนวน 160,819 คดี), หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงาน (จำนวน 50,536 คดี), หลอกให้กู้เงิน (จำนวน 43,193 คดี), หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ (จำนวน 32,501 คดี) และ หลอกลวงทางโทรศัพท์ (27,620 คดี) ที่สำคัญแต่ละคดี มีปริมาณเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2565 ดังนั้น การทำความเข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมออนไลน์ จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยภารกิจของ ETDA นอกจากการสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมทางออนไลน์ที่มั่นคงปลอดภัย น่าเชื่อถือแล้ว การสร้างความรู้ความเข้าใจถึงสิทธิบนโลกดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญภายใต้ ‘กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์’ เพื่อให้คนไทยเกิดการใช้งานอย่างรู้เท่าทัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลก็เป็นอีกบทบาทสำคัญที่ ETDA เดินหน้ามาผ่านอย่างต่อเนื่อง
กิจกรรม e-TRANSACTION LAW MOOT COURT 2024 กิจกรรมการแข่งขันโต้เถียงปัญหา ‘กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์’ โดยการแถลงการณ์ด้วยวาจาในชั้นอุทธรณ์ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 เมษายนถึง 2 สิงหาคม 2567 นี้ ก็เพื่อพัฒนาทักษะ และสร้างความเข้าใจในการใช้กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างชัดเจนและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้นิสิต นักศึกษา ในสายกฎหมาย ได้มีพื้นที่ในการเตรียมความพร้อมสู่เส้นทางอาชีพการเป็นนักกฎหมายยุคดิจิทัลในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้รูปแบบการแข่งขันแบบศาลจำลองที่จะเปิดโอกาสให้ทีมผู้เข้าแข่งขันได้ร่วม โต้ปัญหา หรือ ว่าความ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่คณะกรรมผู้ทรงคุณวุฒิร่วมกันกำหนดขึ้น ซึ่งจะมีการแข่งขันทั้งหมด 4 รอบ ได้แก่ รอบที่ 1 แข่งขัน “สรุปย่อคําแถลงการณ์” ตามโจทย์การแข่งขันที่กําหนด รอบที่ 2 การแข่งขัน “การแถลงการณ์ด้วยวาจาในชั้นอุทธรณ์” ในรูปแบบออนไลน์ รอบที่ 3 การแข่งขัน “การแถลงการณ์ด้วยวาจาในชั้นอุทธรณ์” ในรูปแบบออนไซต์ และ รอบที่ 4 รอบชิงชนะเลิศ “การแถลงการณ์ด้วยวาจาในชั้นอุทธรณ์” ในรูปแบบออนไซต์ ซึ่งทีมผู้เข้าแข่งขันในกิจกรรมครั้งนี้ ไม่เพียงได้มีสิทธิลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 130,000 บาท จาก ETDA เท่านั้น แต่ยังจะได้รับโอกาสและประสบการณ์ดี ๆ อีกมากมาย อาทิ โอกาสแสดงความสามารถในเวทีระดับประเทศ, โอกาสในการ Workshop กับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและโอกาสในการเรียนรู้ต่อยอดไปสู่การทำงานจริงในอนาคต เป็นต้น
สำหรับ นิสิต นักศึกษา ระดับปริญญาตรี ในสายกฎหมาย ไม่จำกัดสถาบันและชั้นปี ที่สนใจอยากจะเรียนรู้ เพิ่มเติมประสบการณ์ในเรื่องของกฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ อย่ารอช้า รีบรวมทีม ไม่เกิน 3 คน สมัครร่วมการแข่งขันโต้เถียงปัญหากฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบศาลจำลองกับ ‘e-Transaction Law Moot Court Competition 2024’ ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ได้ที่ลิงก์ https://bit.ly/3xIvVOZ ทีมที่สมัครและผ่านการพิจารณาคุณสมบัติตามที่ ETDA กำหนดจะได้รับสิทธิ ในการเข้าร่วมกิจกรรมปฐมนิเทศน์ เพื่อรับโจทย์การแข่งขันรอบที่ 1 ในวันที่ 7 มิถุนายน 2567 นี้ สามารถติดตามลายละเอียดและคุณสมบัติของทีมผู้เข้าเเข่งขัน รวมถึงโจทย์การแข่งขัน ตลอดจนรายละเอียดรางวัลเพิ่มเติมได้ที่เพจ MEiD : https://www.facebook.com/meid.thailand/