

“อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์” เตรียมจัดงาน ‘Vitafoods Asia 2025’ ดันธุรกิจเสริมอาหารช่วยผู้ประกอบการไทยไปเวทีโลก ข้อมูลงานวิจัย Market Minds Advisory ชี้ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเอเชียแปซิฟิกพุ่งแรง แตะ 1.76 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2577 ท่ามกลางกระแสรักสุขภาพ ความตระหนักรู้ด้านสุขภาพและความนิยมในโภชนาการเชิงป้องกัน ดันตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในเอเชียแปซิฟิกเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ทีมวิจัย Grand View Research เผยข้อมูลตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเทศไทยจะเติบโตด้วยอัตราเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ที่ 5.1% ตั้งแต่ปี 2568-2573 ชวนผู้สนใจร่วมชมงาน ‘Vitafoods Asia 2025’ จัดระหว่างวันที่ 17 – 19 กันยายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)
![]()
นางสาวรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ – ภูมิภาคอาเซียน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เปิดเผยว่า อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ในฐานะผู้จัดงาน “ไวต้าฟู้ดส์ เอเชีย 2025” (Vitafoods Asia 2025) งานแสดงสินค้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมสารสกัดและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยว่า ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยแรงผลักดันจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและการป้องกันโรคมากขึ้น โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่เหมาะสมจนทำให้เกิดโรค เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอ้วน จากข้อมูลบริษัทวิจัยเอกชน Market Minds Advisory คาดว่าตลาดเสริมอาหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่าราว 9.15 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 และคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 1.76 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2577 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 8% ขณะที่ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทยเอง ก็มีทิศทางการเติบโตที่สอดรับกัน โดยปี 2567 สร้างรายได้กว่า 133.6 แสนล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 179.9 แสนล้านบาท ภายในปี 2573 ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ที่ 5.1% ตั้งแต่ปี 2568 ถึง 2573 (ข้อมูลจาก Grand View Research)
ทั้งนี้มองปัจจัยส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมเสริมอาหารมาจาก ความตระหนักรู้ด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ควบคุมน้ำหนัก และดูแลสุขภาพองค์รวม ขณะเดียวกันภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ ก็เร่งรณรงค์ให้ความรู้เรื่องโภชนาการที่สมดุล การเติบโตของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ความนิยมในเครื่องดื่มประเภทพกพา เช่น โปรตีนเชค เครื่องดื่มโปรไบโอติก ฯลฯ กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ผู้ผลิตเดินหน้าใช้เทคโนโลยีคิดค้นสูตรใหม่ที่ตอบโจทย์สุขภาพเฉพาะด้าน เช่น การชะลอวัย สุขภาพลำไส้ และการควบคุมน้ำหนัก พร้อมใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ขมิ้น ชาเขียว พืชสมุนไพรต่าง ๆ เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพเชิงองค์รวม
นอกจากนั้น การเติบโตของช่องทางออนไลน์ อีคอมเมิร์ซกลายเป็นช่องทางหลักที่ช่วยขยายการเข้าถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยเฉพาะการนำเสนอโปรโมชั่นและคำแนะนำเฉพาะบุคคล ช่วยกระตุ้นการซื้อซ้ำและเพิ่มยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ผู้ประกอบการรายใหม่ เข้ามาในตลาดค้าขายออนไลน์ หรือ อีคอมเมิร์ชมากขึ้น
“การเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งมีแนวโน้มการบริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น การเติบโตของตลาดนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านสู่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์เชิงหน้าที่ โดยครอบคลุมทั้งอาหารเสริมและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตสมัยใหม่ ส่งผลให้ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเทคโนโลยีโภชนาการ มีโอกาสขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต” นางสาวรุ้งเพชร กล่าว
การจัดงาน ‘Vitafoods Asia 2025’ ในปีนี้จึงถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทย รวมถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมที่จะช่วยกันยกระดับ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้เพิ่มมากขึ้น หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงานในปีนี้ ยังมีพื้นที่จัดแสดงพิเศษ New Ingredients & New Products Zone นำเสนอผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ส่วนผสม และนวัตกรรมสุขภาพ ที่เพิ่งเปิดตัวจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ดังนั้น งานนี้จะเป็นเวทีสำคัญที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนของห่วงโซ่อุตสาหกรรมเสริมอาหาร ตั้งแต่วัตถุดิบส่วนผสม การพัฒนา ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปพร้อมจำหน่าย การบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงผู้รับจ้างผลิต (OEM/ ODM) ที่มาจากกว่า 650 แบรนด์ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้ามาร่วมงานมากกว่า 13,000 ราย จาก 38 ประเทศ ทั่วโลก
ด้าน ศาสตราจารย์ (วิจัย) ดร. ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ประธานกรรมการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ให้มุมมองว่า การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วยงานวิจัยวัตถุดิบของไทยมีความสำคัญอย่างยิ่ง และถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่ง บพข. มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและยั่งยืน ผ่านการสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาด้าน Functional Ingredients และ Functional Foods เพื่อเป้าหมายสำคัญในการสร้างระบบนิเวศน์ที่แข็งแกร่ง ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ นอกจากนี้ บพข. ยังมีบทบาทในการผลักดันการขึ้นทะเบียนจัดทำรายชื่อสารสำคัญ (Positive List) สารประกอบฟังก์ชัน สารสกัดจากธรรมชาติ หรือ สมุนไพร การกล่าวอ้างทางสุขภาพให้เป็นตามมาตรฐานสากล ฯลฯ ซึ่งถือเป็นกลไกลสำคัญที่ยกระดับอาหารและสมุนไพรไทยให้ได้มาตรฐานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยงาน “ไวต้าฟู้ดส์ เอเชีย 2025” เป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้ยกระดับองค์ความรู้และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้วย
นอกจากนี้ การขึ้นทะเบียนกระบวนการจัดทำรายชื่อสารสำคัญ (Positive List) เป็นกลไกสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ มูลค่า และขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพและปลอดภัย และเป็นเครื่องมือสำคัญในการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย
นายนาคาญ์ ทวิชาวัฒน์ ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวเสริมว่า อุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพและธุรกิจเสริมอาหารในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการเติบโตที่แข็งแกร่ง ด้วยแรงขับเคลื่อนจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เทรนด์สินค้าที่หลากหลาย และการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งงาน “ไวต้าฟู้ดส์ เอเชีย 2025” ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญและมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยที่เสริมทัพ ส.อ.ท. ที่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการ “ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภค”
ดร. พัชร์ เอกปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิวทรีชั่น เอสซี จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำคัญในการทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ผ่านงาน “ไวต้าฟู้ดส์ เอเชีย 2025” ว่าเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับบริษัทฯ ในการเข้าถึงลูกค้า
เป้าหมาย สร้างความน่าเชื่อถือ ขยายเครือข่ายธุรกิจ และขับเคลื่อนยอดขายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการเป็นผู้นำและสร้างคุณค่าให้กับอุตสาหกรรมสุขภาพและโภชนาการ
ขณะที่ Ms. Jeannie Kwa Senior HCP Marketing Manager, APAC, Representative from Kaneka Corporation กล่าวว่า อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เน้นด้านการชะลอวัย (Healthy Ageing) และการยืดอายุขัย (Longevity) กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผู้บริโภคมีความสนใจในการดูแลสุขภาพเชิงรุกและป้องกันความเสื่อมของร่างกายก่อนวัยอันควรมากขึ้น ทำให้เกิดการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาส่วนผสมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยส่วนผสมสำคัญที่กำลังมาแรงและเป็นที่จับตามอง อาทิ สารเพิ่มระดับ NAD+, สารกลุ่ม Senolytics, สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง (Potent Antioxidants), วิตามินและแร่ธาตุสำคัญ เช่น วิตามินดี แมกนีเซียม โอเมก้า 3 ฯลฯ รวมถึง คอลลาเจน เป็นต้น
ทั้งนี้ ภายใน ‘Vitafoods Asia 2025’ ยังมีสัมมนาจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่จะเจาะลึกประเด็นสำคัญต่าง ๆ กว่า 50 หัวข้อ ไม่ว่าจะเป็น โภชนาการเฉพาะบุคคล (Personalized Nutrition) ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ไมโครไบโอม เทรนด์ส่วนผสมและสารสกัดเพื่อเสริมด้าน Healthy aging ไปจนถึงอัปเดตกฎระเบียบการจดทะเบียนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่าง ๆ ให้ผู้ร่วมชมงานพร้อมก้าวนำในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ดังนั้น ไม่ว่าผู้ประกอบการหน้าใหม่ ผู้สนใจเริ่มต้นแบรนด์สุขภาพของตัวเอง หรือ ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพ งานนี้คือโอกาสสำคัญในการเข้าถึงโซลูชันล้ำสมัยจากซัพพลายเออร์ทั่วโลก พร้อมรับมุมมองและข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ ภายในงาน ‘Vitafoods Asia 2025’ จัดโดย อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ระหว่างวันที่ 17 – 19 กันยายน 2568 ณ ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)
นายอลี บาดาร์เนห์ (คนแรกซ้าย) หัวหน้าหน่วยความมั่นคงทางอาหารและระบบอาหาร กรมพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรและโครงสร้างพื้นฐาน ยูไนเต็ด เนชั่น อินดัสเทรียล ดิเวลเลิพเมินท ออกาไนซ์เซชั่น หรือ ยูนิโด้ (UNIDO), ออสเตรีย (United Nations Industrial Development Organization : UNIDO) นางลูเซียนา เปลเลกรีโน (ที่สองจากซ้าย) ประธานองค์กรบรรจุภัณฑ์โลก (World Packaging Organization : WPO) ดร. โจเซฟ รอส เอส. จอคสัน (คนแรกขวา) ประธานสหพันธ์บรรจุภัณฑ์แห่งเอเชีย (Asian Packaging Federation : APF) และนายสรรชาย นุ่มบุญนํา (ที่สองจากขวา) ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย แสดงความร่วมมือเป็นพันธมิตรในการสนับสนุนและพัฒนาการจัดงาน ProPak Asia เพื่อยกระดับให้เป็นงานสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิต แปรรูป และบรรจุภัณฑ์ระดับโลก พร้อมประกาศย้ายสถานที่จัดงาน ProPak Asia 2026 ไปที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อรองรับบริษัทชั้นนำของโลกที่ต้องการเข้าร่วมงานและผู้เข้าเยี่ยมชมงานจากนานาชาติที่เพิ่มขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้
งาน ProPak Asia 2026 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 มิถุนายน 2569 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ผู้สนใจข้อมูลรายละเอียดการจัดงานฯ เยี่ยมชมได้ที่ www.propakasia.com
นางสาวสุภาภรณ์ อังศรีสุรพร ผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการอาวุโส อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย (ที่สองจากซ้าย) ร่วมงานเสวนา “เราพร้อมเป็นผู้นำของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลกหรือยัง” ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคม สปาไทย พร้อมจับมือนายสุนัย วชิรวราการ นายกสมาคมสปาไทย (ที่สามจากซ้าย) ในการเป็นพันธมิตรและสนับสนุนการจัดงาน Food & Hospitality Thailand 2025 โดยมีนายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร BDMS Wellness Clinic และ BDMS Wellness Resort (ที่สองจากขวา) นายวินย์ โรจนเสถียร คณะกรรมการบริหาร ชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ รีสอร์ท (คนแรกขวา) และ นายพอล ฮอว์โค ผู้อำนวยการบริหารระดับโลกด้านสุขภาวะองค์รวม กลุ่มบริษัทบันยัน (Banyan Group) (คนแรกซ้าย) ร่วมในการเสวนาฯ เมื่อเร็วๆ นี้
สำหรับงาน Food & Hospitality Thailand (FHT) 2025 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 สิงหาคม 2025 ชั้น G ฮอลล์ 1-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจข้อมูลการจัดงานฯ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.fhtevent.com Facebook : Food & Hospitality Thailand
มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบายด้านความยั่งยืนส่งผลบังคับใช้ เร่งอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ปรับทั้งระบบ ตั้งแต่วัตถุดิบ การผลิต จนถึงผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พร้อมใช้งาน ด้าน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้จัดงาน ProPak Asia 2025 ตอบสนองแนวโน้มเตรียมนำบริษัทชั้นนำและผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ร่วมโชว์ในหลายโซนสำคัญ ช่วยพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไทยและอาเซียน
![]()
นางสาวกชสร โตเจริญธนาผล รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้จัดงาน ProPak Asia 2025 กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบายด้านความยั่งยืนจากหลายประเทศว่า ประเด็นดังกล่าวได้รับการตอบสนองและความร่วมมือในเชิงปฏิบัติมากขึ้นในเวทีการค้าโลก หลายประเทศออกกฎระเบียบและมาตรฐานบรรจุภัณฑ์ที่มีผลบังคับใช้สนับสนุนการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืน (ESG) บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย ไม่ก่อมลพิษ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดขยะพลาสติกและขยะบรรจุภัณฑ์ ตรวจสอบความปลอดภัยของวัสดุที่ใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ยกเลิกบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ครั้งเดียว ฯลฯ นโยบายและความร่วมมือที่เกิดขึ้น ส่งผลต่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ทั้งระบบตั้งแต่วัตถุดิบ การผลิต จนเป็นผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ที่พร้อมใช้งาน
ส่วนมูลค่าตลาดบรรจุภัณฑ์โลกในปี 2568 นั้น ข้อมูลจาก Towards Packaging และ Future Market Insights บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยตลาดระดับโลก คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.28 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดใหญ่และเติบโตเร็วที่สุด สำหรับสัดส่วนการใช้งานบรรจุภัณฑ์แต่ละประเภทนั้น พลาสติกมีสัดส่วนประมาณ 40-45% กระดาษ 30-35% ที่น่าสนใจคือ บรรจุภัณฑ์จากวัสดุทดแทน เช่น วัสดุผสมกระดาษไม้ไผ่กับพลาสติกชีวภาพมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% ส่วนธุรกิจที่มีการใช้บรรจุภัณฑ์สูง ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม ยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งผู้ประกอบการจึงควรปรับตัวและพัฒนาให้ทันกับทิศทางอุตสาหกรรมฯ ที่เปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญกับบทบาทของบรรจุภัณฑ์สมัยใหม่มีในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันสร้างความปลอดภัยแก่สินค้า ยืดอายุของสินค้าให้นานขึ้น การผนวกเข้ากับเทคโนโลยีเป็นบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ (Smart Packaging) เช่น การฝังรหัส QR, RFID, NFC และเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพสินค้าแบบเรียลไทม์ ช่วยเพิ่มประสบการณ์ผู้บริโภคในการสอบทานที่มาและให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ การใช้ AI และระบบอัตโนมัติในสายการผลิตช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดของเสีย และควบคุมคุณภาพ หรือร่วมกับการพิมพ์ดิจิทัลและเทคโนโลยี AR ช่วยให้ปรับแต่งบรรจุภัณฑ์ได้ตามความต้องการของตลาดและผู้บริโภค ฯลฯ
งาน ProPak Asia 2025 นอกจากจะเป็นงานแสดงของเทคโนโลยีกระบวนการแปรรูปอาหาร บรรจุภัณฑ์ การจัดเก็บ และการขนส่ง ครบตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำระดับเอเชีย ที่ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรมสำคัญแล้ว ยังมีหลายโซนการจัดแสดงที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ ทั้ง PackagingTech Asia เทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์ และกระบวนการบรรจุภัณฑ์ DrinkTech Asia เทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม PharmaTech Asia เทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมยา Packaging Solution Asia เทคโนโลยีเพื่อการผลิตบรรจุภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์สำเร็จรูป Coding, Marking & Labelling Asia เทคโนโลยีเพื่อการเขียนรหัส ติดป้ายและปักหมายเลขบนสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆ รวมถึง Lab&Test Asia เทคโนโลยีการตรวจสอบและควบคุมมาตรฐานของอาหาร และบรรจุภัณฑ์
ไฮไลท์และกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับ ProPak Asia 2025 ในครั้งนี้ อาทิ
- Packaging Design Clinic ที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่ออัพเกรดและพัฒนาผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ ลดต้นทุน และเสริมศักยภาพในการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ โดยร่วมกับสมาคมออกแบบบรรจุภัณฑ์ไทย (Thai PDA)
- Design Box การนำเสนอผลงานการออกแบบ โดยคุณ สมชนะ กังวารจิตต์ นักออกแบบบรรจุภัณฑ์รางวัลระดับโลกจาก Prompt Design
- ThaiStar, AsiaStar, WorldStar Display พื้นที่จัดแสดงตัวอย่างบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลชนะการประกวดออกแบบระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก ด้วยความร่วมมือจาก Thai-IDC, DIPROM (รางวัล ThaiStar) และ Asian Packaging Federation (รางวัล AsiaStar) และ The World Packaging Organisation (WPO) (รางวัล WorldStar)
- การประกาศผลการออกแบบบรรจุภัณฑ์บนแนวคิดของนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์เพื่อโลกสีเขียว Eco-Design Sparking Innovation Award โดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ผ่านโครงการการลดการใช้ การออกแบบที่ยั่งยืน และการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์พลาสติกเพื่อป้องกันขยะในทะเล (MA-RE-DESIGN)
พร้อมทั้งยังมีงานสัมมนาให้ความรู้ที่จะให้ข้อมูลเชิงลึกถึงแนวโน้มและทิศทางของอุตสาหกรรม นวัตกรรมและเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์สมัยใหม่ จากผู้เชี่ยวชาญและบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมฯ โดยหวังช่วยในการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมไทยและอาเซียน จึงอยากเชิญชวนผู้ประกอบการและผู้สนใจในธุรกิจและอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ร่วมงานในครั้งนี้
![]()
ด้านนายสิทธิ ศิริจรรยากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นานดี-สตราแพค จำกัด ผู้นำเข้า จัดจำหน่ายและให้บริการด้านโซลูชั่นบรรจุภัณฑ์ รวมถึงจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มการบรรจุหีบห่อแบรนด์ชั้นนำ อาทิ STRAPACK , SIAT , FROMM , MAX , RANPAK ฯลฯ กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า การพัฒนาบรรจุภัณฑ์โลกได้มุ่งสู่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ทำให้บรรจุภัณฑ์กลุ่มพลาสติกชีวภาพและกระดาษรักษ์โลกมีการเติบโตมากขึ้น โดยบทบาทในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมฯ นั้น ทางบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตเครื่องจักรและผู้เชี่ยวชาญด้านการวางระบบบรรจุภัณฑ์
สินค้าอัตโนมัติกับพันธมิตรผู้เชียวชาญจาก ญี่ปุ่น อิตาลี ฯลฯ ในการนำสินค้าและเทคโนโลยีมาช่วยเสริมประสิทธิภาพงานบรรจุภัณฑ์ พร้อมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญจากแบรนด์ต่างๆ คอยใหคำแนะนำแก้ปัญหาแก่ลูกค้าโดยตรง ช่วยให้ผู้ประกอบการเพิ่มประสิทธิภาพการบรรจุภัณฑ์ ลดเวลาและแรงงาน พร้อมทั้งใช้เครื่องบรรจุภัณฑ์และระบบต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่า
สำหรับการร่วมจัดแสดงงานกับ ProPak Asis 2025 นั้น ได้เตรียมเทคโนโลยีที่น่าสนใจมาร่วมจัดแสดง อาทิ การจำลองกระบวนการบรรจุภัณฑ์อัตโนมัติส่วนสุดท้าย (Automation Packing System Line) ที่เริ่มตั้งแต่การขึ้นรูปกล่อง ปิดฝากล่อง และ รัดสายรัด PP band โดยใช้เครื่องมือบรรจุภัณฑ์อัตโนมัติ ร่วมกับระบบลำเลียงสินค้าช่วยลดเวลาในการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพในการบรรจุภัณฑ์ และ อุปกรณ์บรรจุภัณฑ์ในการปกป้องสินค้าไม่ให้เกิดความเสียหายในระหว่างการขนส่ง (Protective Packaging Solutions) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากกระดาษเพื่อเป็นทางเลือกทดแทนโฟม พลาสติก และสนับสนุนแนวทางด้านสิ่งแวดล้อม
![]()
ส่วนนายมาซาชิ ยาโนะ กรรมการบริหาร บริษัท อิชิดะ (ประเทศไทย) จํากัด ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องชั่งน้ำหนัก เครื่องบรรจุภัณฑ์ และเครื่องตรวจสอบคุณภาพสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร อาทิ ขนม อาหารแช่แข็ง อาหารพร้อมรับประทาน เนื้อสัตว์ อาหารทะเล และผักผลไม้ จากประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์วันนี้ก้าวหน้าขึั้นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ซึ่งทางบริษัทได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่นอกจากจะมุ่งเน้นในการส่งเสริมประสิทธิภาพแล้ว ยังต้องรักษาคุณภาพของสินค้า ได้มาตรฐานความปลอดภัยทางด้านอาหาร รวมถึงให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมซึ่งผู้บริโภคให้ความสำคัญมากขึ้น ทำให้การร่วมจัดแสดงงาน ProPak Asia 2025 ครั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยีที่น่าสนใจมาร่วมนำเสนอ ทั้ง IX-PD X-ray inspection system เครื่องตรวจสอบด้วยเอ็กซเรย์ที่แม่นยำสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมไก่ และ Multihead Weigher เครื่องชั่งน้ำหนักแบบหลายหัวที่ใช้ในกระบวนการบรรจุภัณฑ์อัตโนมัติ รุ่นใหม่ CCW-AS series ที่เน้นประสิทธิภาพและความทันสมัยมาร่วมในการจัดแสดงอีกด้วย
งาน ProPak Asia 2025 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ผู้สนใจรายละเอียดการจัดงานและต้องการลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อเข้าชมงาน ProPak Asia 2025 สามารถลงทะเบียนได้ที่ www.propakasia.com
ภาครัฐเผยตัวเลขส่งออกไทยปี 67 ทะลุ 300,529.5 ล้านดอลลาร์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดปี 68 ผ่าคลื่นสถานการณ์โลกโตได้อีก 2-3% ด้าน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เผยอุตสาหกรรมอาหารไทยกลุ่มอาหารแช่แข็งและแปรรูปยังเป็นดาวรุ่ง พร้อมเดินหน้ายกระดับงาน ProPak Asia 2025 เป็นเวทีการค้าและเจรจาธุรกิจสำคัญสำหรับภาคเอกชนในอุตสาหกรรมอาหารระดับภูมิภาค ด้านผู้เชี่ยวชาญและบริษัทชั้นนำร่วมจัดแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปอาหารล่าสุด คาดปีนี้ผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 80,000 คน มูลค่าเจรจาการค้าทะลุ 5,500 ล้านบาท
นายสรรชาย นุ่มบุญนํา ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวถึงแนวโน้มและทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทยในปีที่ผ่านมา (ปี 2567) เป็นปีที่อุตสาหกรรมอาหารไทยมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับข้อมูลของ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ที่ล่าสุดเผยว่าการส่งออกไทยปี 2567 สามารถส่งออกได้ 300,529.5 ล้านดอลลาร์ ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีการขยายตัวถึง 5.4% โดยการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว 6.0% โดยสินค้าเกษตรขยายตัว 10.7% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 6.7%
ส่วนปี 2568 นั้น ภาพรวมของสถานการณ์โลกยังอยู่บนความไม่แน่นอน จากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของโลก แต่อย่างไรก็ตามยังมีสัญญาณเชิงบวกของปัจจัยทางเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของ GDP โลกที่คาดว่าจะโตประมาณ 2.7% เศรษฐกิจในอาเซียนซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดี อัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มลดลงและความต้องการสินค้าเกษตรเพื่อเป็นวัตถุดิบและบริโภคที่เพิ่มขึ้น โดยสินค้ากลุ่มอาหารที่ขยายตัวได้ดี อาทิ ไก่สดแช่เย็นและแปรรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้สดแช่แข็งและแห้ง อาหารสัตว์เลี้ยง อาหารสำเร็จรูป ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ฯลฯ
อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต โดยใช้งานวิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่มายกระดับสินค้าให้มีมาตรฐานและความปลอดภัยที่สูงขึ้น เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและพัฒนาอาหารแห่งอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคสมัยใหม่ รวมถึงจำเป็นต้องมีกระบวนการผลิตและการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อพัฒนาสู่เศรษฐกิจเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG) ซึ่งจะสอดรับกับนโยบายภาครัฐที่เดินหน้าหาตลาดการค้าใหม่ๆ และทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศและเขตเศรษฐกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งล่าสุดได้มีการทำข้อตกลง FTA กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป หรือเอฟตา (EFTA) เป็นผลสำเร็จและยังมีการเร่งเจรจา FTA อีกหลายฉบับ อาทิ FTA ไทย-สหภาพยุโรป (EU) / ไทย-เกาหลีใต้ / ไทย-ภูฏาน / ไทย – สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) / อาเซียน – แคนาดา โดยทั้งหมดจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการส่งออกและภาคอุตสาหกรรมอาหารของไทย
ในส่วนของ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้จัดงาน ProPak Asia งานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยี เครื่องจักรและโซลูชั่นในกระบวนการผลิต การแปรรูป บรรจุภัณฑ์ ฯลฯ ที่ครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมอาหาร อาหารแปรรูป เครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์ ฯลฯ ชั้นนำของเอเชียนั้น ได้มีการยกระดับการจัดงาน ProPak Asia 2025 ให้มีความสำคัญในการเป็นเวทีความร่วมมือทางธุรกิจ การเจรจาการค้า การลงทุน การสร้างพันธมิตรธุรกิจ รวมถึงเป็นประตูเชื่อมต่ออุตสาหกรรมแปรรูปและผลิตอาหารของภูมิภาค ในการนำเสนอ ถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนความรู้ นวัตกรรม เทคโนโลยีล่าสุดของโลกสู่ผู้ประกอบการ
สำหรับแนวคิดการจัดงาน ProPak Asia 2025 ครั้งนี้ คือ “เส้นทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในอุตสาหกรรมการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน” (Carbon-Neutral Pathways to Sustainable Processing and Packaging Ecosystem) ที่ต้องการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแนวทางหรือกลยุทธ์ที่มุ่งลดหรือชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เท่ากับศูนย์ (Carbon Neutral) ในทุกกระบวนการของการผลิต การแปรรูปและการบรรจุภัณฑ์ โดยคำนึงถึงความยั่งยืนในระยะยาวไม่ว่าจะเป็นการลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดการของเสียและวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อร่วมกันลดการปล่อยคาร์บอนในทุกส่วน
ดังนั้นงาน ProPak Asia 2025 จึงไม่ได้เป็นเพียงการจัดงานแสดงสินค้าที่นำเสนอเพียงโซลูชันล้ำสมัย จากบริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยีและนวัตกรรมชั้นนำระดับโลก ด้านการผลิตและแปรรูป ผู้ผลิตวัตถุดิบ ผู้ออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ ฯลฯ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากทุกส่วนของอุตสาหกรรมฯ แต่ยังช่วยสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมการผลิตในภูมิภาคและเป็นช่องทางสร้างโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกได้พบกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ ๆ ผ่านการเข้าร่วมงานในปีนี้
งาน ProPak Asia 2025 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ผู้สนใจรายละเอียดการจัดงานและต้องการลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อเข้าชมงาน ProPak Asia 2025 สามารถลงทะเบียนได้ที่ www.propakasia.com