

ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์และแฟชั่นระดับโลก โดยร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และ สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนประจำประเทศไทย (ITA) จัดงานยิ่งใหญ่แห่งปี "Central Dolce Italia" มหกรรมที่ร่วมเฉลิมฉลองวัฒนธรรมของอิตาลี รวมที่สุดของแบรนด์และสินค้ากว่า 72 แบรนด์ ที่คัดสรรมาแล้วอย่างพิถีพิถัน นำเสนอสุดยอดแห่งแฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง น้ำหอม และของตกแต่งบ้านสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ส่งตรงมาให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ช้อปสินค้า 'Made in Italy' คุณภาพเยี่ยมที่โดดเด่นด้านดีไซน์และรสนิยมอันเป็นเอกลักษณ์ เสมือนช้อปอยู่ที่ประเทศอิตาลี
มหกรรม Central Dolce Italia ตกแต่งในคอนเซ็ปต์ "A Celebration of Italian Excellence" ถ่ายทอดมนต์เสน่ห์เมืองริมทะเล พร้อมบูธในดีไซน์เรืออิตาเลียนที่บรรทุกสินค้าคุณภาพส่งตรงมาที่งาน ให้เหล่านักช้อปได้อัปเดตเทรนด์ล่าสุด และดื่มด่ำกับประสบการณ์ช้อปปิ้งสไตล์อิตาเลียนแท้ พร้อมกิจกรรมสุดพิเศษ โปรโมชั่นเหนือระดับและของขวัญพรีเมียมที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเติมเต็มประสบการณ์แห่งความอิตาเลียนให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น อาทิ การขับร้องเพลงโอเปร่าและดนตรีสดสไตล์อิตาเลียน การสาธิตทำอาหาร และเวิร์กช็อป รวมถึงโปรโมชั่นจากแบรนด์ชั้นนำเฉพาะงานนี้ และในปีนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ Dolce Italia ขยายการจัดงานไปยังภูมิภาค ทั้งภาคเหนือและภาคใต้ มุ่งเน้นให้กลุ่มเป้าหมายทั้งลูกค้าท้องถิ่น และชาวต่างชาติได้สัมผัสเสน่ห์สินค้าและแบรนด์อิตาลีอย่างใกล้ชิดไปจนถึงเดือนตุลาคม ณ ห้างเซ็นทรัล เชียงใหม่ และห้างเซ็นทรัล ภูเก็ต
เปาลา กีดา ข้าหลวงพาณิชย์ ประจำสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนประจำประเทศไทย (ฝ่ายส่งเสริมการค้าแห่งสถานทูตอิตาลีประจำประเทศไทย) กล่าวถึงบทบาทสำคัญของ ITA ในการส่งเสริมภาพลักษณ์ของ "Made in Italy" ว่า "สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนมุ่งมั่นที่จะสร้างการรับรู้ถึงคุณภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และเอกลักษณ์ของสินค้าอิตาลีในกลุ่มผู้บริโภคไทย การจัดงาน Central Dolce Italia ร่วมกับห้างเซ็นทรัลในปีนี้ จึงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการผลักดันสินค้าอิตาลีให้เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง หลังจากความสำเร็จอย่างสูงในปี 2566 เราตั้งเป้าที่จะเชื่อมโยงลูกค้าไทยกับแบรนด์อิตาลีระดับโลก กระตุ้นการจับจ่ายและสร้างประสบการณ์ที่เข้าถึงวัฒนธรรมอิตาลีอย่างแท้จริง งานในปีนี้ได้ขยายขอบเขตการนำเสนอสินค้าอิตาลีให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งในกลุ่มแฟชั่น แว่นตา เครื่องสำอาง ของตกแต่งบ้าน และไลฟ์สไตล์ที่สะท้อนถึงความงดงามของงานฝีมือและนวัตกรรมอิตาเลียน ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปอิตาลีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและนิยมเลือกซื้อสินค้าคุณภาพจากอิตาลี"

ธาพิดา นรพัลลภ กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารสินค้าออมนิชาแนล กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัลรีเทล เผยถึงความยินดีในการสานต่อความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ว่า "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานต่อความร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน ด้วยการจัดงาน Central Dolce Italia ขึ้นอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 3 และได้รับผลตอบรับที่ดีมาตลอดจากลูกค้า สะท้อนวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ของเราในการขับเคลื่อนห้างเซ็นทรัล สู่การเป็นแฟชั่นเดสติเนชั่นระดับโลก งานนี้ไม่เพียงแต่รวบรวมที่สุดของแบรนด์อิตาลีและประสบการณ์ช้อปปิ้งสุดเอ็กซ์คลูซีฟ แต่ยังตอกย้ำบทบาทของเราในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีก ที่มีส่วนผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น Global Shopping Destination ผ่านการสร้างสรรค์ประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ ที่ผสานศิลปะ นวัตกรรม และวัฒนธรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดยเฉพาะพลังของ 'แบรนด์อิตาเลียน' ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ ความหรูหรา งานฝีมือ และการใส่ใจในรายละเอียด มาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการสร้างความแตกต่างให้กับห้างเซ็นทรัล"
“ระหว่างปี 2021–2024 การนำเข้าสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังจากอิตาลีเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 45.7% ต่อปี สะท้อนให้เห็นว่าลูกค้ามองหาสินค้าที่มีเอกลักษณ์และรสนิยม ไม่เพียงชื่อเสียงของแบรนด์ แต่รวมถึงเรื่องราว ความเป็นมา คุณภาพวัสดุ และงานฝีมือที่สะท้อนตัวตน ห้างเซ็นทรัลจึงพิถีพิถันคัดสรรแบรนด์อิตาลีที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการสินค้าพรีเมียมของลูกค้าอย่างรอบด้าน ในปีที่ผ่านมา (2024) เราได้ต่อยอดความแข็งแกร่งของพอร์ตแบรนด์อิตาเลียนให้เติบโตมากถึง 79% ด้วยการเสริมทัพแบรนด์ไฮเอนด์ระดับโลก อาทิ Miu Miu, Gucci, Bvlgari, Prada และ Fendi ให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากขึ้น พร้อมยกระดับความร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนประจำประเทศไทย (ITA) ด้วยการเปิดตัว 5 แบรนด์ใหม่วางขายในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ได้แก่ Manebi, Mauna-Kea, Prosperine, Arcadia และ Iuri ซึ่งสะท้อนพลังของพันธมิตรและความมุ่งมั่นร่วมกันในการมอบประสบการณ์อิตาเลียนแท้ให้กับลูกค้าชาวไทย การเสริมทัพครั้งนี้ไม่เพียงเพิ่มความหลากหลายของสินค้า แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการผลักดันยอดขายกลุ่มสินค้าอิตาลีให้เติบโต ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มลักซ์ชัวรีโดยตรง เราเชื่อมั่นว่า Central Dolce Italia ซึ่งรวบรวมทั้งแบรนด์ระดับโลกและบูทีคแบรนด์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Made in Italy ไว้ในที่เดียว จะมอบโอกาสให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสเสน่ห์และความประทับใจของประสบการณ์อิตาลีอย่างแท้จริง” ธาพิดา กล่าวเสริม
ภายในงาน พบกับการรวมตัวของแบรนด์อิตาเลียนครอบคลุมทุกหมวดหมู่ ตั้งแต่แฟชั่น บิวตี้ และของตกแต่งบ้าน โดยแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้
พลาดไม่ได้ในวันที่ 3 ก.ย. กับแฟชั่นโชว์จากแบรนด์ Barrow, C.P. Company, Diesel, Emilio Pucci, Emporio Armani, Emporio Armani Junior, Missoni, Moschino Kids, Pierre-Louis Mascia, Versace Kids, Weekend MaxMara และเมคอัพจากแบรนด์ Armani Beauty และ Gucci Beauty สัมผัสประสบการณ์ภายในงานด้วยไวน์รสเลิศจาก Tops Wine Cellar, Malfy Gin จากอิตาลี และกาแฟสกัดเย็นเสิร์ฟโดย De’Longhi
เพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งเวิร์กช็อป งานคราฟท์ อาหาร ไลฟ์สไตล์ และกิจกรรมสุดพิเศษ A TASTE OF LA DOLCE VITA ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรก! ณ Luxe Galerie ห้างเซ็นทรัลชิดลม ชั้น 1 ระหว่างวันที่ 3 ถึง 7 กันยายน 2025 มาร่วมเปิดประสบการณ์แห่งรสชาติอิตาเลียนในบรรยากาศสุดหรูใจกลางกรุงเทพฯ ให้เหล่านักช้อปร่วมดื่มด่ำรสชาติแห่งอิตาลีในบรรยากาศสุดหรู และเพลิดเพลินกับการชิมไวน์และเครื่องดื่มชั้นเลิศจากอิตาลี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดงาน และพลาดไม่ได้กับ Mozza Aperitivo Happy Hour ที่พร้อมเสิร์ฟความสดชื่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอิตาลีให้ได้ลิ้มลอง ตั้งแต่เวลา 17:00 – 20:00 น. และสัมผัสเมนู Italiano Americano จาก %Arabica Bar ที่รังสรรค์พิเศษเฉพาะงานนี้เท่านั้น พร้อมเสิร์ฟให้ได้ลิ้มลองตั้งแต่เวลา 17:00 – 22:00 น. และตลอดเดือนกันยายนนี้ เตรียมพบกับประสบการณ์สุดพิเศษที่ผสานแฟชั่น ความงาม ไลฟ์สไตล์ และรสชาติระดับสากลไว้ในที่เดียว ณ ห้างเซ็นทรัลชิดลม หลากหลายกิจกรรมรอให้คุณมาสัมผัส ตั้งแต่เวิร์กช็อปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ การแสดงดนตรีสด ไปจนถึงเมนูและบริการพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก
ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ในการเลือกสรรสินค้าอิตาลีคุณภาพเยี่ยม พร้อมอัปเดตเทรนด์แฟชั่นล่าสุดจากแบรนด์ชั้นนำ และเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมสุดพิเศษที่จัดเต็มทั้งความสนุกและความหรูหรา ในงาน Central Dolce Italia ซึ่งจะจัดขึ้นใน 3 พื้นที่หลักทั่วประเทศ เริ่มต้นที่กรุงเทพฯ ณ ห้างเซ็นทรัลชิดลม ระหว่างวันที่ 3 - 30 กันยายน 2568 ต่อด้วยกิจกรรม Dolce Italia ที่ภาคเหนือ ณ ห้างเซ็นทรัล เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 10 - 16 ตุลาคม 2568 และปิดท้ายที่ ห้างเซ็นทรัล ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 24 - 31 ตุลาคม 2568
พิเศษ! เมื่อช้อปสินค้าแบรนด์อิตาเลียนที่ร่วมรายการภายในงานครบ 10,000 บาท หรือตามเงื่อนไขที่กำหนด รับทันที แก้วกาแฟเอสเปรสโซคัพเซตสุดพรีเมียม หรือช้อปครบ 5,000 บาท รับกระเป๋า Dolce Italia เป็นของสมนาคุณพิเศษเพื่อเติมเต็มบรรยากาศสไตล์อิตาเลียนให้ครบทุกอรรถรส ระหว่างวันที่ 3 กันยายน - 31 ตุลาคม 2568 พร้อมช้อปสะดวกผ่านทุกช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น CENTRAL APP, เว็บไซต์ www.central.co.th, ช้อปผ่านบริการ Central Chat & Shop บนแพลตฟอร์ม Line @centralofficial, รวมถึงช้อปผ่าน Central Facebook Live และ Facebook Inbox ที่ facebook.com/CentralDepartmentStore
ไฮไลต์กิจกรรมพิเศษตลอดทั้งเดือนกันยายน ณ ห้างเซ็นทรัลชิดลม
กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ร่วมมือกับ The 1 ผู้นำ Digital Lifestyle และ Loyalty Platform อันดับ 1 ของไทย ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล เปิดตัว The 1 EXPAT โปรแกรมสมาชิกบน The 1 APP ที่จะสร้างประสบการณ์การช้อปเหนือระดับสำหรับชาวต่างชาติที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย (Expats) โดยมอบสิทธิพิเศษและประสบการณ์สุดพิเศษที่ไม่เหมือนใคร รวมทั้งสร้าง Expat Community Hub ในไทย มาพร้อมกับความสะดวกสบายสูงสุดโดยผสานช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เข้าไว้ด้วยกัน (Online-to-offline) เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า Expats โดยเฉพาะ
นางสาวรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าว “กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะในแง่ของกำลังซื้อ ข้อมูลจาก The 1 พบว่า ในปี 2023 กว่า 65% ของกลุ่ม Skilled Expats ในไทยมีการใช้จ่ายในกลุ่มเซ็นทรัล โดยมียอดการใช้จ่ายสูงกว่าลูกค้าทั่วไปถึง 2.5 เท่า และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเห็นได้ชัดว่ากลุ่มลูกค้า Expats มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จของหน่วยธุรกิจต่างๆ ของกลุ่มเซ็นทรัล เป็นที่มาของการเปิดตัว The 1 EXPAT โปรแกรมสมาชิกที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปเพื่อกลุ่มลูกค้า Expats โดยเฉพาะ ทั้งนี้ กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเป็น Shopping Destination ที่ตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่ม Expats มาอย่างยาวนาน ครอบคลุมในทุกๆ ด้านของการใช้ชีวิต อีกทั้ง ความร่วมมือในครั้งนี้ยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ Customer-centric ของกลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลในปี 2024 ที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตของกลุ่มลูกค้า Expats ซึ่งเป็นหนึ่งใน Key focus และมุ่งหวังที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับ Expat Community ในประเทศไทย”
เดินหน้าสู่ Expat Community Hub ชั้นนำของไทย
ด้วยวิสัยทัศน์ของ The 1 EXPAT ที่ไม่ได้มุ่งเน้นแค่การมอบสิทธิประโยชน์ แต่ยังพร้อมที่จะเป็นหนึ่งใน Expat Community Hub (ศูนย์กลางชุมชนของชาวต่างชาติ) ชั้นนำในประเทศไทย The 1 EXPAT มาพร้อมกับกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะสำหรับสมาชิกคนสำคัญและการเฉลิมฉลองในเทศกาลนานาชาติต่างๆ ตลอดทั้งปี พร้อมมอบประสบการณ์การช้อปอย่างเต็มรูปแบบและร่วมฉลองไปกับโอกาสพิเศษสำหรับสมาชิก ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมงาน Pre-Sale ล่วงหน้า โปรโมชันพิเศษต่างๆ หรือ เพลิดเพลินกับประสบการณ์การช้อปพิเศษเพื่อลูกค้ากลุ่ม Expats โดยเฉพาะ

สิทธิประโยชน์ในการช้อปที่เหนือระดับ ภายใต้ความแข็งแกร่งของกลุ่มเซ็นทรัล
The 1 EXPAT สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า Expats ได้อย่างครอบคลุม ด้วยความหลากหลายของธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล โดยมอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกได้เพลิดเพลินตลอดทั้งปี นอกจากที่ห้างเซ็นทรัลและโรบินสันแล้ว สมาชิกยังได้รับสิทธิประโยชน์อีกมากมายจากแบรนด์ชั้นนำภายในกลุ่มเซ็นทรัล เช่น TOPS, Supersports, PowerBuy, B2S, CMG, Centara Hotels & Resorts, Thai Watsadu, goWow, BnB Home และ Auto1 ทั้งนี้ ในอนาคตอันใกล้ The 1 EXPAT ยังมีแผนขยายความร่วมมือกับโรงพยาบาล สายการบิน ศูนย์สุขภาพ โรงแรม และแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ อีกด้วย
ด้วยการผนึกกำลังทั้งกลุ่มเซ็นทรัล The 1 EXPAT พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นโปรแกรมสมาชิกชั้นนำของประเทศไทย เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปที่สมบูรณ์แบบและสร้างการมีส่วนร่วมของกลุ่มลูกค้า Expats พร้อมก้าวไปสู่การเป็น Expat Community Hub ชั้นนำได้ในระยะยาว
นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับ The 1 ลอยัลตี้แพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยจำนวนสมาชิกมากกว่า 21 ล้านราย ครอบคลุมมากกว่า 30% ของประชากรไทยทั้งประเทศ โดย The 1 มุ่งมอบประสบการณ์พิเศษที่ไม่เหมือนใคร เพื่อมอบที่สุดแห่งความคุ้มค่าและความสะดวกสบายสูงสุดให้กับสมาชิกผ่านพันธมิตรใน Ecosystem ที่แข็งแกร่งกว่า 3,000 ราย และจุดบริการกว่า 32,000 แห่งทั่วประเทศ
นายกวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ The 1 กล่าวว่า "ในฐานะ Digital Lifestyle และ Loyalty Platform อันดับหนึ่งของไทย The 1 มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่ไร้รอยต่อและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้กับสมาชิก รวมไปถึงกลุ่ม Expats ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกกลุ่มสมาชิกสำคัญ เราได้ออกแบบประสบการณ์ให้ตรงความต้องการและสะดวกสบายสำหรับสมาชิกกลุ่มนี้อย่างแท้จริง โดยในปัจจุบัน เมื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ The 1 EXPAT สมาชิกจะได้รับความสะดวกสบายมากมายผ่าน The 1 APP อาทิ การเช็กและแลกคะแนน เช็กโปรไฟล์ และเข้าถึงสิทธิพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อกลุ่ม Expats โดยเฉพาะ และจากนี้ไป เราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาประสบการณ์ที่ดีที่สุดร่วมกับ The 1 EXPAT เพื่อยกระดับสิทธิประโยชน์และบริการที่ตรงใจยิ่งขึ้น"

เข้าร่วมกับ The 1 EXPAT
เมื่อเข้าร่วม The 1 EXPAT สมาชิกสามารถสะสมคะแนน The 1 จากการซื้อสินค้าจากแบรนด์และร้านค้าภายใต้กลุ่มเซ็นทรัลและเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ นอกจากนี้ ยังสามารถรับความสะดวกสบายสูงสุดบน The 1 APP อาทิ แลกคะแนนเป็นคูปองแทนเงินสด ดีลสุดพิเศษจากแบรนด์ต่างๆ และบริการที่หลากหลายประเภท รวมถึงการเข้าใช้บริการในโรงแรม สถานบันเทิง โปรแกรมเสริมความงาม และอื่นๆ นอกจากนี้ สมาชิกยังสามารถเช็กยอดคะแนน เข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ จัดการโปรไฟล์ และดูข้อเสนอพิเศษที่คัดสรรสำหรับสมาชิก และอื่นๆ อีกมากมาย
วิธีการเป็นสมาชิก The 1 EXPAT
ห้างเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ตอกย้ำผู้นำค้าปลีกในรูปแบบ Omni – Channel ที่ผสานทุกช่องทางการช้อปปิ้ง ทั้งห้างเซ็นทรัล 28 สาขาทั่วประเทศ, Central App, TikTok Shop Central Department Store และโซเชียลคอมเมิร์ซ ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์การช้อปลูกค้าที่มีความชื่นชอบแตกต่างกัน โดยล่าสุด! เดินหน้ากวาดนักช้อปศึกวันเลขคู่ จัดแคมเปญ “Central 9.9 Sale 2024” ดีเดย์วันที่ 30 ส.ค.67 - 12 ก.ย.67 ในคอนเซ็ปต์ “ช้อปพีคทุกวัน โปรปังทุกช่องทาง” ชู 3 จุดแข็งสุดพีค ได้แก่

นางสาวรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า “ช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีเป็นช่วงไฮซีซั่นการทำตลาดของธุรกิจค้าปลีกเพื่อช่วงชิงกำลังซื้อจากลูกค้า เพราะมีทั้งเทศกาลและอีเว้นต์ต่างๆ มากมาย ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมโปรโมชั่นที่ได้รับ ความนิยมอย่างมากจากนักช้อปไทย คือการช้อปปิ้งในช่วง 9.9 ซึ่งปีนี้ ห้างเซ็นทรัล และ Central App ได้จัดต่อเนื่องจนถึง 12.12 เริ่มต้นด้วย Central 9.9 Sale 2024 ‘ช้อปพีคทุกวัน โปรปังทุกช่องทาง’ หรือ Peak Deals Every Day มอบข้อเสนอพิเศษแจกโค้ดส่วนลดและเอ็กซ์คลูซีฟโปรโมชั่นที่หาที่ไหนไม่ได้ เพราะเป็นแบรนด์ที่มีเฉพาะห้างเซ็นทรัล อย่าง Augustinus Bader และ Officine Universelle Buly หรือบน Central App เท่านั้น เช่น Vivienne Westwood, Samo Ondoh, Mardi Mercredi, Sanrio, Muji ซึ่งยังเจาะกลุ่มเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ผ่าน KOL, KOC และอินฟูลเอ็นเซอร์ มาร่วมทำคอนเท้นต์สนุกๆ สร้างสีสันให้การช้อปปิ้งสนุกมากยิ่งขึ้น”
“จุดเด่นสำคัญที่เราต่างจากที่อื่นๆ คือ เราเป็นห้างสรรพสินค้าในรูปแบบออมนิชาแนล รีเทลเลอร์ที่มีสาขาทั่วประเทศ และมีช่องทางให้ลูกค้าเลือกช้อปครบครัน ทั้ง Central App โซเชียลคอมเมิร์ซ รวมถึง TikTok Shop ที่ตอนนี้กำลังโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม และได้รับการตอบรับจากแบรนด์ชั้นนำมากมายร่วมทำดีลในเชิงกลยุทธ์เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าและประสบการณ์การช้อปที่ดีที่สุด ทำให้มั่นใจได้เลยว่า โปรโมชั่นที่ลูกค้าได้รับจะมาพร้อมคุณภาพสินค้าที่การันตีแบรนด์แท้ 100% ไม่ต้องกังวลในการช้อปออนไลน์กับเรา ซึ่ง Central 9.9 Sale 2024 นี้ เราคาดว่าแคมเปญนี้ จะมียอดจับจ่ายเติบโตขึ้นมากกว่า 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน” รวิศรา กล่าว

สำหรับ แคมเปญ Central 9.9 Sale 2024 ช้อปพีคทุกวัน โปรปังทุกช่องทาง ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ส.ค.67 – 12 ก.ย. 67 มีสินค้าแบรนด์ชั้นนำที่เข้าร่วม อาทิ แบรนด์ DIOR, CLARINS, BOBBI BROWN, HOURGLASS, PAUL SMITH, GIORGIO ARMANI, MARDI MERCREDI, SAMO ONDOH, NIKE, DIESEL, PANDORA, MARKS & SPENCER, PASAYA, GARMIN, SMIGGLE, AMERICAN TOURISTER, DELONGHI, DYSON พร้อมโปรสุดพีคมากมาย อาทิ

เตรียมช้อปสุดพีคใน Central 9.9 Sale 2024 ที่ห้างเซ็นทรัล, Central App และทุกช่องทางช้อปของห้างฯ พร้อมร่วมทำคอนเท้นต์ร่วมกับห้างเซ็นทรัลและอินฟลูเอนเซอร์มากมาย แล้วติดแฮชแทกสนุกๆที่ #Central99Sale2024 #CentralDepartmentStore #CentralApp #PeakDealsEveryDay #ช้อปพีคทุกวันโปรปังทุกช่องทาง
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ของไทย เตรียมเปิดศูนย์การค้าลำดับที่ 42 “เซ็นทรัล นครปฐม” โครงการมิกซ์ยูสแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางนครปฐม ศูนย์กลางการใช้ชีวิตแห่งใหม่ที่ยกระดับและเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ชาวนครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียง ภายใต้แนวคิด “ปฐมบทใหม่ของความสุข” บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ พื้นที่อาคารรวม (GBA)133,000 ตารางเมตร ครบครันด้วย ศูนย์การค้า, โรงแรม, คอนโดมิเนียม Escent, บ้านเดี่ยว, Urban Park 4 ไร่ ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชั่น ชูนครปฐม “ประตูสู่ภาคตะวันตก” เมืองศักยภาพด้านเศรษฐกิจและท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง รับการขยายตัวของเมือง บนทำเลศักยภาพใจกลางเมืองติดถนนเพชรเกษม พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรกลุ่มเซ็นทรัลเสริมทัพด้วย 500 แบรนด์ลิสต์ที่ครบครันมากที่สุด สร้างปฐมบทของความสร้างสรรค์ จับมือศิลปินแนวคอลลาจ “นักรบ มูลมานัส” ร่วม Co-Creation ศิลปะตัดแปะแบบร่วมสมัย ร้อยเรียงให้เซ็นทรัล นครปฐม เป็นแลนด์มาร์กใหม่ของการใช้ชีวิต ให้ผลงานออกแบบเป็นส่วนหนึ่งของศิลปะตกแต่งเมือง เตรียมจัดเต็มอีเวนต์เฉลิมฉลองความศิวิไลซ์ต่อเนื่อง 90 วัน เปิดให้บริการ 30 มีนาคม 2567
ชมคลิปวีดิโอ “เซ็นทรัล นครปฐม” ปฐมบทใหม่ของความสุข คลิก

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “นครปฐม” เป็นจังหวัดที่พร้อมด้วยศักยภาพด้านเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เป็นเมืองเศรษฐกิจ ที่ GPP เติบโตขึ้นทุกปี และเป็นอันดับ 3 ของภาคกลาง เป็นจังหวัดที่รองรับการขยายตัวของประชากรจากกรุงเทพฯ รวมถึงมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง เมกะโปรเจกต์ภาครัฐหลายโครงการ อย่างรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงอ่อน (จากนครปฐมสู่ใจกลางกรุงเทพฯ) มอเตอร์เวย์ 2 สาย ได้แก่ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี และ ชลบุรี-สระบุรี-นครปฐม พร้อมด้วย ระเบียงเศรษฐกิจภาคกลาง-ตะวันตก ด้านการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม ซึ่งนครปฐม เป็น “ประตูเศรษฐกิจสู่ภาคตะวันตก” ที่รองรับกำลังซื้อจากคนนครปฐม และขยาย New Catchment ไปยัง ราชบุรี และ กาญจนบุรี นอกจากนี้ นครปฐม ยังเป็นเมืองแห่งศิลปะ และวัฒนธรรม ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของไทย เป็นศูนย์กลางความเจริญตั้งแต่สมัยทวาราวดี มีมรดกทางวัฒนธรรม เสน่ห์ของเมืองเก่า และ “อู่อารยธรรม” ที่รุ่งเรือง ด้วยแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง พระปฐมเจดีย์ เป็น เมืองมหาวิทยาลัย เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง จึงเป็นแหล่งศูนย์รวมของคนรุ่นใหม่ เมืองแห่งการท่องเที่ยว ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงในช่วงสุดสัปดาห์ มีสถานที่ท่องเที่ยวครบทุกสไตล์ ทั้งไหว้พระทำบุญ ชื่นชมธรรมชาติหรือสถานที่ประวัติศาสตร์

เซ็นทรัล นครปฐม อยู่ในทำเลศักยภาพติดถนนเพชรเกษม ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่าง พระปฐมเจดีย์ พระราชวังสนามจันทร์ และสถาบันการศึกษาชั้นนำ อย่าง มหาวิทยาลัยศิลปากร อีกทั้งมีการขยายตัวของโครงการอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการ จึงทำให้เซ็นทรัล นครปฐม ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของเมือง ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้โดยไม่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ”
ปฐมบทใหม่ กับเดสติเนชั่นที่เป็นความสุขของทุกคน


ปฐมบทของความสร้างสรรค์
“เซ็นทรัล นครปฐม” ออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากอัตลักษณ์ท้องถิ่น Façade ด้านหน้าของศูนย์การค้าใช้ลวดลายกระเบื้องที่มาจากแหล่งเดียวกันกับองค์พระปฐมเจดีย์ รวมถึง Element ตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โถงบันไดเลื่อน, พื้น และผนัง ผสานวิถีชีวิตของชุมชนริมน้ำไว้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ ประกอบกับแรงบันดาลใจจากเมืองแห่งการเรียนรู้ มาสร้างสรรค์ Edutainment Hub พื้นที่เพื่อการเรียนรู้สำหรับทุกช่วงวัย อาทิ Education Zone รวมสถาบันเสริมทักษะ และ Pathom Art สเปซสุดสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนและนักศึกษาได้มีพื้นที่แห่งการเรียนรู้ เปิดรับและส่งต่อแรงบันดาลใจใหม่ๆ ได้ทุกวัน

นำเสนอ City’s Value ของเมืองผ่านอีเวนต์ ที่จัดร่วมกับ Community, มหาวิทยาลัยต่าง ๆ และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย Co-Creation Events อย่าง นิทรรศน์นัดนคร ตลาดอาร์ต & คราฟต์ ในสวนส้มโอ, Pet Safari Night Light เอาใจเพ็ท เลิฟเวอร์, Jazz Festival จาก 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำในจังหวัด และ งานสตรีทฟู้ด Local Cuisine ตอกย้ำเมืองครัวโลก เป็นต้น พร้อมจับมือธุรกิจในเครือจัด Signature Event ให้เป็นที่รู้จักระดับประเทศ เช่น The Ultimate Watch, เทศกาลกาแฟ Coffee Society, สงกรานต์มหาบันเทิง, Motor Show, Summer Fashion Show จากฝีมือดีไซเนอร์รุ่นใหม่จากศิลปากร ช่วยสร้างงานให้พื้นที่และกระตุ้นเศรษฐกิจนครปฐม
นอกจากนี้ ยังจับมือ นักรบ มูลมานัส ศิลปินไทยระดับโลกด้านงานคอลลาจ ร่วม Co-Creation งานศิลปะ ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็น “เซ็นทรัล นครปฐม” ด้วยมุมมองร่วมสมัย แต่ยังแฝงไว้ด้วยเสน่ห์อัตลักษณ์ของจังหวัด หยิบจับแรงบันดาลใจจากอดีตและปัจจุบันมาถ่ายทอดความเป็นเซ็นทรัล นครปฐม ผ่านผลงานโฆษณาที่เป็นเสมือนงานศิลปะตกแต่งเมือง
พร้อมเปิดตัว “น้องพูนสุข” มาสคอตเซ็นทรัล นครปฐม คาแรกเตอร์น้องหมูใส่หมวกส้มโอ สร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน ทำหน้าที่ทูตท่องเที่ยวโปรโมทการท่องเที่ยว

ฉลองเปิดเซ็นทรัล นครปฐม 30 มี.ค. นี้ กับงาน Grand Opening จัดเต็มไฮไลต์สมโภชเมือง
นางสาวพจนา สุวรรณทวีศรี Region General Manager (BKK1) บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สำหรับงานเปิดเซ็นทรัล นครปฐม ที่จะเกิดขึ้น ในวันที่ 30 มีนาคมนี้ จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “ความสุขบทใหม่ ศิวิไลซ์นครปฐม” นำเสนอความศิวิไลซ์ของนครปฐม เปิดเมืองให้คนในพื้นที่ได้มาเฉลิมฉลองร่วมกัน ทุก Element ของการจัดงาน ไฮไลต์อีเว้นท์และโปรโมชั่นมากมาย มาร่วมสัมผัสเรื่องราวความสุขใหม่ที่ไม่สิ้นสุด ปฐมบทใหม่ของความสุข ณ เซ็นทรัล นครปฐม เริ่มที่ไฮไลต์แรก กับเทศกาลงานเปิดนคร กับไฮไลท์พิเศษ เปิดฟลอร์ Swing Dance โดย ณเดชน์ คูกิมิยะ และ ญาญ่า - อุรัสยา เสปอร์บันด์ ในการแสดงชุด Civilization a New Dawn พร้อมนำเสนอความงดงาม และรุ่มรวยทางวัฒนธรรม พร้อมเปลี่ยนลานหน้าเซ็นทรัล นครปฐม ให้เป็นงานเต้นรำย้อนยุค ชวน Swing Dance ทำลายสถิติผู้ร่วมเต้นมากที่สุดในประเทศไทย โดย Asia Book of Records พร้อมชมพลุสุดอลังการ ตื่นตากับ Mapping Show ชมความศิวิไลซ์ของเมืองนครปฐม ที่ฉายลงบนฟาซาด หน้าเซ็นทรัล นครปฐม ในคอนเซ็ปต์ The Luminary Celebration พร้อมจับมือ 16 ร้านอาหารชั้นนำ ชูวัตถุดิบท้องถิ่นนครปฐม รังสรรค์เมนูพิเศษฉลองเปิดศูนย์ “ปฐมบทใหม่ของความอร่อย”
สำหรับไฮไลต์โปรโมชั่นฉลองปฐมบทใหม่ของความสุข อาทิ ช้อปครบทุก 1,500 บาท ลุ้นรับรถยนต์ Mazda ช้อปครบ 2,500 บาท รับบัตรชมภาพยนตร์จาก Major Cineplex มูลค่า 260 บาท ช้อปครบ 5,000 บาท รับฟรี Picnic Mat ลาย Exclusive มูลค่า 2,900 บาท ช้อปครบ 2 แสนบาท รับคะแนน The1 100,000 คะแนน
เพาเวอร์บาย ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ขานรับนโยบายรัฐกับโครงการ “Easy E-Receipt” ช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้าลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท ได้ทุกช่องทางทั้งที่ร้านเพาเวอร์บาย ทุกสาขาทั่วประเทศ และออนไลน์ ตั้งแต่วันนี้ – 15 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมสร้างความคึกคักให้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ารับต้นปี 67 ด้วยแคมเปญฉลองปีมังกรทอง “ช้อปดีมีเฮง” รับโชคเฮง 3 ชั้น เฮง 1 รับส่วนลดเพิ่มรวมกว่า 50,000 บาท เฮง 2 ลุ้นรับฟรี! มังกรทองคำ รวมมูลค่ากว่า 480,000 บาท เฮง 3 ร่วมทริปมงคลเสริมดวงรับตรุษจีนกับ หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา ตั้งแต่วันนี้ – 29 กุมภาพันธ์ 2567
![]()
นางมัลลิกา เหลืองนิมิตรมาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ที่ผ่านมา เพาเวอร์บาย ได้ตอบรับมาตรการช้อปดีมีคืนของภาครัฐบาลในทุกๆ ปี ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยบริษัทฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญของมาตรการนี้ที่นอกจากช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงต้นปีอีกด้วย ถือเป็นมาตรการที่ส่งผลดีกับประชาชนในวงกว้าง สำหรับปีนี้ได้เข้าร่วมโครงการ “Easy E-Receipt” ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 67 เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย ลูกค้าสามารถนำใบเสร็จ E-Receipt จากการซื้อสินค้าเพาเวอร์บายในทุกช่องทาง ทั้งที่ร้านเพาเวอร์บายทุกสาขา และออนไลน์ ร่วมลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 50,000 บาท พร้อมกันนี้ยังได้เพิ่มความคุ้มค่าให้เหล่านักช้อปแบบจัดเต็มด้วยแคมเปญฉลองปีมังกรทอง “ช้อปดีมีเฮง” ตั้งแต่วันนี้ – 29 ก.พ. 67 รับโชคเฮง 3 ชั้น ดังนี้
· เฮง 1: รับส่วนลดเพิ่มรวมสูงสุด 50,000 บาท เมื่อช้อปสินค้าครบตามเงื่อนไข พร้อมร่วมโครงการ “เก่าแลกใหม่ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่ากลุ่มทีวี แอร์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า-อบผ้า มีค่าสามารถแลกรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 10,000 บาท
· เฮง 2: สำหรับสมาชิก เดอะวัน ลุ้นรับฟรี! รางวัลทองคำหนัก 2 บาท พร้อมจี้มังกรทองคำหนัก 2 สลึง จำนวน 2 รางวัล หรือ รางวัลจี้มังกรทองคำหนัก 2 สลึง จำนวน 16 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 480,000 บาท เพียงช้อปครบทุก 3,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับลุ้น 1 สิทธิ์
· เฮง 3: รับสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก เดอะวัน...ร่วมเอ็กซ์คลูซีฟทริปไห้วพระขอพรเสริมศิริมงคล กับหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา ที่วัดเล่งเน่ยยี่ (วัดมังกรกมลาวาส) เมื่อเป็นสุดยอดนักช้อปสะสมยอดซื้อสูงสุด 8 ท่าน (พร้อมผู้ติดตาม)
![]()
นอกจากนี้ เพาเวอร์บาย ได้ร่วมกับ กฟผ. จัดแคมเปญส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 มอบส่วนลดมูลค่าสูงสุด 1,000 บาท จำนวน 15,555 สิทธิ์ เมื่อซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 (จำกัด 1 คน 1 สิทธิ์) ตั้งแต่วันนี้ – 15 ก.พ. 67 เป็นการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 เพื่อช่วยลดการใช้ไฟในบ้าน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนอีกด้วย มั่นใจว่าแผนการตลาดที่เพาเวอร์บายได้จัดเตรียมไว้ในช่วงต้นปี 2567 นี้ จะสามารถมัดใจเหล่านักช้อปทั้งชาวไทยและเทศได้อย่างแน่นอน และคาดว่าจากแคมแปญต่างๆ จะช่วยเพิ่มทราฟฟิกภายในร้านขึ้นกว่า 10%”
เพลิดเพลินกับการช้อปสินค้าและรับสิทธิประโยชน์สุดคุ้มได้ที่ เพาเวอร์บาย ทุกสาขาทั่วประเทศ ที่สาขา หรือออนไลน์ เมื่อซื้อสินค้าที่ หรือช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ www.powerbuy.co.th, Call & Shop กับ Power Guru โทร.1324 กด 8, Line @powerbuy และ เฟซบุ๊ก Power Buy สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพาเวอร์บาย คอลล์เซ็นเตอร์ 1324