![](/images/2021/09/22/-1.jpg)
![](/images/2021/09/22/-1.jpg)
บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด (XD) มองรัฐยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดจากโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) ช่วยเพิ่มความคุ้มค่าและสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ตอกย้ำความน่าสนใจลงทุนโทเคนดิจิทัลในไทย พร้อมเป็นแรงสนับสนุนสำคัญให้โทเคนดิจิทัลกลายเป็นสินทรัพย์ยอดนิยมในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ขับเคลื่อนประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนโทเคนดิจิทัลของภูมิภาคเอเชีย
นายธนศักดิ์ กฤษณะเศรณี รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด (XD) กล่าวว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การลงทุนในโทเคนดิจิทัลในประเทศไทยได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างมาก ด้วยความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล รวมถึงการสนับสนุนของทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบ เพื่อสร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริมให้โทเคนดิจิทัลกลายเป็นสินทรัพย์ยอดนิยมในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วโลกสนใจเข้ามาลงทุน ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการลงทุนโทเคนดิจิทัลที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย”
ในอดีตเงินส่วนแบ่งของกำไรหรือผลประโยชน์อื่นใดของผู้ถือครองโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนต้องถูก หักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 15 รวมทั้งผู้มีเงินได้ต้องนำรายได้ดังกล่าวไปรวมเพื่อคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาซึ่งเท่ากับว่าเสียภาษีถึงสองต่อ แต่ในปัจจุบันตามประมวลกฎหมายรัษฎากรได้กำหนดให้กำไรหรือผลประโยชน์อื่นใด ของผู้ถือโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนได้รับการยกเว้นในส่วนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน นอกจากนี้นักลงทุนที่ดำเนินการผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม โดยอนุญาตให้นักลงทุนนำผลขาดทุนจากการลงทุนในโทเคนดิจิทัลมาหักลบกับกำไรในปีภาษีเดียวกันได้ ช่วยให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนอย่างเต็มจำนวน ทำให้โทเคนดิจิทัลเป็นทางเลือกการลงทุนที่มีความคุ้มค่า และสร้างแรงจูงใจให้กล้าลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งทำให้ทำธุรกรรมได้สะดวกและมีความชัดเจนมากขึ้น ลดข้อกังวลด้านภาษีและช่วยสร้างความมั่นใจในการลงทุนในระยะยาว
“โทเคนดิจิทัลเป็นทางเลือกการลงทุนที่ทันสมัยและมีศักยภาพสูง เนื่องจากใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ที่ทำให้ธุรกรรมมีความปลอดภัย โปร่งใส และตรวจสอบได้ง่าย นักลงทุนสามารถมั่นใจในกระบวนการทำงานของระบบโทเคนดิจิทัลที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการทุจริตและข้อผิดพลาดทางการเงิน ทำให้หลายอุตสาหกรรมกำลังนำโทเคน
ดิจิทัลไปใช้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกรรม ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น การเงิน อสังหาริมทรัพย์ และการท่องเที่ยว”
นอกจากนี้ ความนิยมในโทเคนดิจิทัลยังได้รับแรงกระตุ้นจากการคาดการณ์ของบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำ เช่น Boston Consulting Group (BCG) ที่ระบุว่า ตลาดโทเคนดิจิทัลทั่วโลกจะเติบโตจนมีมูลค่าสูงถึง 10% ของ GDP โลกภายในปี 2030 คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 86 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งโอกาสเปิดกว้างสำหรับนักลงทุนที่มีความพร้อมและเข้าใจตลาด
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงที่นักลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยความเสี่ยงหลักคือ ความผันผวนของราคาที่อาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย และนักลงทุนควรมีการศึกษาเกี่ยวกับโทเคนดิจิทัลแต่ละประเภทอย่างถี่ถ้วน รวมถึงประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนในแต่ละตัว นอกจากนี้ การติดตามข่าวสารและกฎเกณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอจะช่วยให้นักลงทุนสามารถปรับตัวและรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“การผสมผสานระหว่างนโยบายสนับสนุนและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทำให้โทเคนดิจิทัลกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว ในอนาคตโทเคนดิจิทัลจะไม่ได้เป็นเพียงสินทรัพย์เพื่อการลงทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลก โดยบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและพัฒนาโอกาสการลงทุนในโทเคนดิจิทัล เพื่อช่วยให้นักลงทุนไทยและต่างชาติสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ที่มีศักยภาพนี้ได้อย่างมั่นใจและยั่งยืน” นายธนศักดิ์ กล่าวปิดท้าย
ออนโด ไฟแนนซ์ (Ondo Finance) ประกาศเปิดตัวโทเคนใหม่ โอเอ็มเอ็มเอฟ (OMMF) ซึ่งช่วยให้ผู้ถือเหรียญสเตเบิลคอยน์ทั่วโลกสามารถลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน หรือ เอ็มเอ็มเอฟ (MMF) ของสหรัฐอเมริกาโดยใช้โทเคนได้
โอเอ็มเอ็มเอฟสามารถซื้อและแลกได้ในราคาหนึ่งดอลลาร์และได้รับการสนับสนุนทั้งหมดโดยกองทุนรวมตลาดเงินของรัฐบาลสหรัฐ โอเอ็มเอ็มเอฟแตกต่างจากกองทุนรวมตลาดเงินแบบดั้งเดิม เนื่องจากสามารถโอนย้ายได้ทั่วโลกทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงบนบล็อกเชนสาธารณะอีเธอเรียม (Ethereum) และเข้ากันได้กับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบออนเชน เช่น โปรโตคอลการให้ยืมแบบกระจายศูนย์ โอเอ็มเอ็มเอฟจะมีการส่งมอบให้ทุกวันในรูปแบบของโทเคนโอเอ็มเอ็มเอฟใหม่ให้กับนักลงทุนเพื่อรักษาราคาให้คงที่
"ในขณะที่โลกก้าวไปสู่อนาคตที่เป็นดิจิทัลและกระจายศูนย์มากขึ้น โอเอ็มเอ็มเอฟแสดงถึงโอกาสระยะยาวในการมอบวิธีการที่เหนือกว่าในการเก็บรักษาและถ่ายโอนความมั่งคั่ง" คุณนาธาน ออลแมน (Nathan Allman) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของออนโด ไฟแนนซ์ กล่าว "โอเอ็มเอ็มเอฟจะทำกับกองทุนรวมตลาดเงินเช่นเดียวกับที่สเตเบิลคอยน์ทำกับเงินสด นั่นคือการปลดล็อกศักยภาพที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คลังความมั่งคั่งซึ่งเป็นการใช้งานหลักในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังเป็นทางเลือกหลักประกันและการชำระเงินที่เข้าถึงได้ทั่วโลก"
โอเอ็มเอ็มเอฟคือก้าวต่อไปของออนโดในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินระดับสถาบันแบบออนเชนสำหรับทุกคน กองทุนรวมตลาดเงินของสหรัฐจัดการเงินมากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจแทนการฝากเงินธนาคารสำหรับนักลงทุนจำนวนมาก โอเอ็มเอ็มเอฟช่วยเติมเต็มข้อเสนอที่มีอยู่ของออนโดที่เป็นการออกโทเคนที่เรียกว่าโอยูเอสจี (OUSG) เพื่อให้ลงทุนในพันธบัตรสหรัฐได้ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในการช่วยให้สถาบันในรูปแบบดิจิทัลสามารถใช้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการจัดการเงินสด
ออนโดจะประมวลผลการซื้อและไถ่ถอนสเตเบิลคอยน์ในแต่ละวัน รวมถึงสกุลเงินเฟียตทั่วไป และออนโดจะเสนอการไถ่ถอนทันทีแบบออนเชนสำหรับโอเอ็มเอ็มเอฟจำนวนหนึ่ง นักลงทุนจะได้รับโทเคนโอเอ็มเอ็มเอฟบนบล็อกเชนอีเธอเรียมซึ่งจะแสดงกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ โทเคนเหล่านี้รองรับการโอนย้ายระหว่างที่อยู่นักลงทุนที่ได้รับอนุญาตแล้ว เช่นเดียวกับสัญญาอัจฉริยะที่ผ่านการประเมินตามกฎระเบียบ ออนโดเปิดโอกาสให้นักลงทุนใช้สัญญาอัจฉริยะเพื่อทำการซื้อขายและกู้ยืมแบบออนเชนกับโทเคนในกองทุน เช่นเดียวกับสินทรัพย์คริปโทฯ ทั่วไปแบบอื่น ๆ โอเอ็มเอ็มเอฟจะได้รับการสนับสนุนจากเอ็มเอ็มเอฟที่จัดตั้งขึ้นแต่ยังไม่ได้เปิดเผย เช่นเดียวกับโอยูเอสจี ซึ่งเป็นสินทรัพย์ของโอเอ็มเอ็มเอฟที่มีการกันสำรองไว้และแยกออกจากงบดุลของออนโด
"สเตเบิลคอยน์รุ่นแรกปฏิวัติวงการไปแล้วก่อนหน้านี้" คุณจัสติน ชมิดท์ (Justin Schmidt) ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กล่าว "ส่วนนี่เป็นครั้งแรกที่มีการให้บริการเงินสดดิจิทัลแบบ
ออนเชนทั่วโลกทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยถูกสร้างขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์ ดังนั้นการออกแบบให้สามารถส่งต่อผลตอบแทนได้จึงไม่ใช่จุดสนใจหลัก แต่การทำโทเคนให้สามารถลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินทำให้เราสามารถส่งมอบเสถียรภาพด้านราคาและอรรถประโยชน์ของสเตเบิลคอยน์แบบออนเชนได้ ในขณะที่ให้การคุ้มครองที่เหนือกว่าแก่นักลงทุนและส่งต่อผลตอบแทนไปยังผู้ถือครอง ตลอดจนสร้างสิ่งที่เราเชื่อว่าเหนือกว่าการจัดเก็บมูลค่า วิธีการชำระบัญชี และรูปแบบของหลักประกันสำหรับเศรษฐกิจแบบออนเชน"
นักลงทุนแห่จอง “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ” สร้างปรากฎการณ์ใหม่แห่งการลงทุนที่เท่าเทียม จำกัดเพียง 240 ล้านโทเคน ย้ำรีบจองซื้อก่อนพลาด