December 05, 2025

 

นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดสงขลา ที่มี พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยส่วนหน้า หรือ ศป.กฉ.ส่วนหน้า

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) แถลงความคืบหน้ามาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบให้แก่กลุ่มผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน ภายหลังได้รับหนังสือร้องเรียนเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยนางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เร่งประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปลดล็อกข้อจำกัดทางกฎหมายและลดภาระค่าใช้จ่าย ภายใต้นโยบาย Quick Big Win ของนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี ซึ่งใช้เวลาเพียง 7 วัน ในการหาข้อยุติและออกเป็น 5 มาตรการสำคัญในการช่วยเหลือไรเดอร์และไดรเวอร์ทั่วประเทศ โดยกำหนดกรอบระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. 2568-28 ก.พ. 2569

นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) กล่าวว่า “ประกาศเรื่องรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (รย.17 และ รย.18) ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ขับขี่กว่า 200,000 รายที่เป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงฯ รับทราบถึงข้อกังวลและอุปสรรคหน้างาน ทั้งเรื่องเอกสารสิทธิ์ รถติดไฟแนนซ์ ค่าใช้จ่ายประกันภัยที่สูงขึ้น รวมถึงข้อจำกัดทางเทคนิคต่างๆ หลังจากรับข้อร้องเรียนมาแล้ว กระทรวงดีอีจึงไม่ได้นิ่งนอนใจและได้เร่งหารือกับกรมการขนส่งทางบก, ETDA  สถาบันการเงิน และภาคเอกชน จนได้แนวทางแก้ไขปัญหาเร่งด่วน 5 มาตรการ เพื่อช่วยปลดล็อกผู้ประกอบอาชีพขับรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันให้สามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรม”

สำหรับ 5 มาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนเพื่อลดภาระและอำนวยความสะดวกให้แก่ไรเดอร์และไดรเวอร์ทั่วประเทศ มีรายละเอียดดังนี้

1. ลงทะเบียนสำหรับรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันผ่านช่องทางออนไลน์ ETDA

  • เปิดให้ลงทะเบียนแสดงเจตจำนงผ่านเว็บไซต์ https://driververify.mdes.go.th (ล็อกอินผ่าน Thai ID) ไปจนถึงวันที่ 28 ก.พ. 2569
  • เมื่อข้อมูลได้รับการยืนยันจากแพลตฟอร์ม ระบบจะออก “ใบรับแจ้งลงทะเบียน” (QR Code) เพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อยืนยันว่าอยู่ในระหว่างดำเนินการจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะ
  • ผู้ขับขี่จะต้องดำเนินการจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะและทำใบขับขี่สาธารณะกับกรมการขนส่งทางบกให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 ก.พ. 2569

2. แก้ปัญหาไฟแนนซ์-ลีซซิ่ง-ประกันภัย

  • รถที่ติดไฟแนนซ์สามารถใช้สำเนาใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ยื่นจดทะเบียนแทนเล่มจริงตามระเบียบของกรมการขนส่งทางบกไปจนวันที่ 28 ก.พ. 2569
  • เจรจาลดค่าธรรมเนียมกรณีเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อกับบริษัทลีซซิ่งทุกราย โดยขณะนี้ได้รับความร่วมมือจาก ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เป็นรายแรก เหลือ 0.25% ต่อปี จากเดิม 1% ของยอดเงินคงเหลือตลอดสัญญา
  • สามารถใช้ประกันภัยเชิงพาณิชย์ชั้น 3 ได้ไม่จำเป็นต้องทำประกันชั้น 1 เพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยได้ขอความร่วมมือกับบริษัทลีซซิ่งทุกราย ซึ่งทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) ให้การตอบรับเป็นรายแรก

3. กระทรวงดีอีเจรจากับกระทรวงคมนาคม แก้ปัญหาล่าช้า ปลดล็อกเงื่อนไขเอกสาร–เครื่องยนต์ ลดภาระการหาผู้รับรอง

  • แก้ปัญหาภูมิลำเนาของผู้ขับขี่ที่ต้องให้คณะกรรมการประจำจังหวัดเป็นผู้รับรอง โดยกรมการขนส่งทางบกจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการ ภายใต้กรมการขนส่งทางบกประจำจังหวัดสำหรับพิจารณารถที่ต้องการจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะทุกสัปดาห์จากเดิมประชุมเดือนละครั้ง
  • ขยายซีซีรถจักรยานยนต์ โดยให้นโยบายพิจารณาศึกษาเพื่อแก้กฎหมายเพิ่มขนาดเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์สาธารณะจากเดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 125 ซีซี ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับขนาดเครื่องยนต์ในปัจจุบัน คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1 เดือน

4. พิจารณาแก้กฎหมายให้นำรถเช่ามาให้บริการสาธารณะผ่านแอปพลิเคชันได้

  • กระทรวงดีอีได้หารือกับกระทรวงคมนาคมแล้ว โดยกระทรวงคมนาคมเห็นชอบในหลักการแก้ไขกฎกระทรวง และอยู่ระหว่างการดำเนินการของกรมการขนส่งทางบก

5. มาตรการมอบเงินสนับสนุนพิเศษ

  • กระทรวงดีอีประสานแพลตฟอร์มผู้ให้บริการมอบเงินสนับสนุนพิเศษเพื่อเป็นกำลังใจในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยมี Grab และ LINE MAN ให้การตอบรับและพร้อมสนับสนุนเงินพิเศษ ซึ่งผู้ขับขี่จะได้รับเงินสนับสนุนตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาทต่อคน

นอกจากนี้ยังมีแนวทางในการเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ หากพบผู้ให้บริการรายใดไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปล่อยปละละเลยให้รถที่ผิดกฎหมายและไม่ได้จดทะเบียนเป็นรถสาธารณะมาวิ่งให้บริการ กระทรวงดีอีพร้อมดำเนินการทันที

นายไชยชนก กล่าวทิ้งท้ายว่า “กระทรวงดีอีขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการช่วยกันหาทางออก จนได้ข้อสรุปที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมในระยะเวลาอันสั้น เป้าหมายของเราชัดเจนคือการคุ้มครองแรงงานดิจิทัลให้มั่นคง ควบคุมแพลตฟอร์มให้โปร่งใส และดูแลผู้ใช้บริการให้ได้รับความเป็นธรรม โดยกระทรวงดีอีจะเร่งเครื่องติดตามความคืบหน้าและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป”

 

กลุ่มตัวแทนไรเดอร์จากหลายแพลตฟอร์มได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) พร้อมด้วยนางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอให้เร่งหาทางบรรเทาผลกระทบจากประกาศของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เรื่องการดำเนินการอื่นสำหรับผู้ประกอบธุรกิจบนแพลตฟอร์มดิจิทัลประเภทรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์รับจ้างโดยสารสาธารณะ ที่มีลักษณะตามมาตรา 18 (3) แห่งพระราชกฤษฎีกาการประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. 2565 และ พ.ศ. 2568 รวมถึงประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่องกำหนดลักษณะและเงื่อนไขของรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (รย.17) และประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องหลักเกณฑ์การอนุญาตผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม (รย.18) ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคง และสร้างภาระแก่ไรเดอร์และไดรเวอร์ทั่วประเทศ

หลังรับเรื่องด้วยตนเอง นายไชยชนก ยืนยันว่า กระทรวงดีอี ไม่เพิกเฉยต่อเสียงสะท้อนของพี่น้องไรเดอร์ และไดร์เวอร์ พร้อมประกาศเดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือในทุกมิติ “วันนี้ผมรับเรื่องไว้ด้วยความเข้าใจ และขอยืนยันว่าจะใช้กลไกทางดิจิทัลทุกทางที่มี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องไรเดอร์ให้เร็วที่สุด เพราะพวกเขาคือแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัลไทย   หลังจากนี้จะเร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) แพลตฟอร์มผู้ให้บริการ บริษัทประกัน บริษัทไฟแนนซ์ ดำเนินการประชุมหารือด่วนที่สุด เพื่อหาทางออกและกำหนดมาตรการที่เป็นรูปธรรม โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย ลดภาระและเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบอาชีพไรเดอร์อย่างยั่งยืนสิ่งที่เรากำลังทำไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่คือการสร้างระบบสนับสนุนระยะยาว ให้ไรเดอร์ทำงานได้อย่างมั่นคง ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในโลกดิจิทัล” นายไชยชนก กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับรายละเอียดหนังสือที่ไรเดอร์ยื่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีสาระสำคัญเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายต่อรัฐบาล เกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่กระทรวงคมนาคม และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ได้ประกาศให้ผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ต้องดำเนินการจดทะเบียนเป็นรถยนต์สาธารณะ (รย.17 หรือ รย.18) และมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สาธารณะภายในวันที่ 2 ตุลาคม 2568  ทำให้คนขับได้รับผลกระทบไม่ว่าจะเป็นการ ไม่อนุญาตให้ใช้รถส่วนบุคคล ค่าใช้จ่ายจากการเปลี่ยน สัญญาเช่าซื้อ และการทำประกันภัยที่สูงเกินรายได้ของคนขับ ความล่าช้าในการดำเนินการเรื่องเอกสาร รวมไปถึงการถูกจับกุมในช่วงที่ยังมีการแก้ไขกฎหมายอยู่ ดังนั้นเพื่อช่วยเหลือคนขับที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ทางตัวแทนโดยกลุ่มผู้ขับขี่รถรับจ้างผ่านแอปฯ จึงได้นำเสนอแนวทางแก้ไข ดังต่อไปนี้

  1. ปรับกระบวนการส่งเอกสารให้สามารถดำเนินการผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้
  2. สามารถใช้สำเนาเล่มรถในการจดทะเบียนสำหรับรถติดไฟแนนซ์
  3. ช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อกับบริษัทลีสซิ่ง
  4. ปรับเปลี่ยนข้อกำหนดสำหรับรถติดไฟแนนซ์ให้สามารถใช้ประกันภัยสำหรับรถสาธารณะขั้นพื้นฐานได้ไม่จำเป็นต้องเป็นประกันชั้นหนึ่งเท่านั้น
  5. แก้ปัญหาภูมิลำเนาของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะที่ต้องให้คณะกรรมการประจำจังหวัดหรือพื้นที่นั้นๆ รับรอง ทำให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการ
  6. ปรับข้อกำหนดเรื่องขนาดความจุเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์ให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบันที่รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่มีขนาดเกินจาก 125 cc ตามกฎหมายกำหนด
  7. ปรับข้อกำหนดให้สามารถใช้รถเช่ามาให้บริการผ่านแอปพลิเคชันได้
  8. ขยายระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้คนขับจำนวนมากยังสามารถหาเลี้ยงชีพได้ในขณะที่ดำเนินการจดทะเบียน
X

Right Click

No right click