ช่วงเดือนธันวาคมที่กำลังก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 2568 ในอีกไม่กี่วัน หลาย ๆ คนต่างเฝ้ารอช่วงเวลาแห่งความสุข และคาดหวังการได้พบกับสิ่งดีใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ในวัยสดใสที่ต่างจดจ่อกับเทศกาลเฉลิมฉลองที่จะมีขึ้นทั้งในชุมชนและครอบครัว ในวาระนี้ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบความสุขให้น้อง ๆ โรงเรียนบ้านหนองลาน จังหวัดกาญจนบุรี ภายใต้โครงการ “ใส่ใจแบ่งปัน สานฝันเพื่อน้อง” ที่ได้พี่ ๆ จิตอาสากรุงเทพประกันชีวิต ร่วมสร้างกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ เสริมสร้างพัฒนาการ และการมีสุขภาพที่ดี ถือเป็นการมอบของขวัญปีใหม่ให้น้องๆ ได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
โครงการ “ใส่ใจแบ่งปัน สร้างฝันเพื่อน้อง” มีพี่ ๆ จิตอาสาจากส่วนงานต่าง ๆ ของกรุงเทพประกันชีวิตร่วมกิจกรรมกว่า 30 คน ภายใต้การนำโดย “นางสาวอรนาฎ นชะพงษ์” ผู้บริหารสายกลยุทธ์การตลาดและบริหารจัดการลูกค้า โดยมีเป้าหมายในการร่วมทำความดีส่งท้ายปี ณ “โรงเรียนบ้านหนองลาน” ตั้งอยู่ที่อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 2 จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รวมนักเรียนในปีการศึกษา 2567 จำนวน 146 คน และมีคุณครูและบุคลากรอีกจำนวน 14 คน โดยโรงเรียนได้จัดการแสดงจากน้อง ๆเพื่อต้อนรับพี่ ๆ อย่างอบอุ่น
“กรุงเทพประกันชีวิต มีเป้าหมายในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเยาวชนและสังคมไทย ผ่านการสนับสนุนด้านการศึกษาและสุขภาพ สอดคล้องกับคำขวัญของโรงเรียนบ้านหนองลานที่ว่า “เรียนดี กีฬาเด่น เน้นคุณธรรม นำสังคม” การที่น้องๆ จะเรียนดี หรือ กีฬาเด่นได้ เราต้องเริ่มต้นจากสุขภาพที่ดีทั้งทางร่างกาย กิจกรรมสำคัญของโครงการ “ใส่ใจแบ่งปัน สานฝันเพื่อน้อง” จึงมุ่งเน้นการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยได้มอบระบบน้ำดื่มสะอาด เครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อการศึกษา และ กระเป๋าปฐมพยาบาลเพื่อสุขอนามัยที่สมบูรณ์ รวมถึง พื้นที่การเรียนรู้ในรูปแบบสนามเด็กเล่น ซึ่งจะเป็นที่ที่เด็ก ๆ สามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะได้อย่างเต็มที่” นางสาวอรนาฎกล่าว พร้อมเพิ่มเติมว่า
หนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญคือ การส่งมอบพื้นที่รักการอ่าน ด้วย “ห้องสมุดตู้คอนเทนเนอร์” ซึ่งจะส่งเสริมการเรียนรู้และปลูกฝังการอ่านให้กับน้อง ๆ ทุกคน โดยได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารและพนักงานกรุงเทพประกันชีวิต ที่ได้ร่วมบริจาคหนังสือดี ๆ และของเล่นส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อให้น้อง ๆ ทุกคนได้ใช้เวลาในการเรียนรู้และพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ผ่านหนังสือและการเล่นอย่างสนุกสนาน
นายกิตติศักดิ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองลาน กล่าวว่า “รู้สึกดีใจที่กรุงเทพประกันชีวิตได้มามอบสิ่งดี ๆ และโอกาสให้กับลูก ๆ นักเรียนโรงเรียนบ้านหนองลานในการเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ ให้เด็ก ๆ ได้อยู่ในโรงเรียนอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการมอบห้องสมุดเพื่อเป็นสื่อในการเรียนรู้ รวมถึงเครื่องเล่น สนามเด็กเล่นให้เด็กอนุบาลได้มีพัฒนาการสมวัย นอกจากนี้ยังได้มอบตู้ทำน้ำดื่มพร้อมระบบกรองน้ำให้เด็กได้มีน้ำดื่มที่สะอาด และทีวีเพื่อใช้เป็นสื่อในการเรียนรู้ทำให้คุณครูได้จัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ผมขอขอบคุณกรุงเทพประกันชีวิตที่ได้มอบโอกาสดี ๆ ให้โรงเรียนของเราในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข เป็นโรงเรียนคุณภาพของชุมชน”
“พวกเราพนักงานจิตอาสากรุงเทพประกันชีวิต รู้สึกมีความสุขที่ได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ “ใส่ใจแบ่งปัน สานฝันเพื่อน้อง” จะเป็นของขวัญปีใหม่ที่ช่วยสร้างความสุขและแรงบันดาลใจในการเติมเต็มความฝันและต่อยอดทางการศึกษาให้กับน้อง ๆ ทุกคนที่โรงเรียน” นางสาวอรนาฎกล่าวในที่สุด
โค้งสุดท้ายของปี 2567 ใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในการลดหย่อนภาษี การซื้อประกันชีวิตถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่คุ้มค่าจากการได้รับความคุ้มครองทั้งชีวิต ช่วยวางแผนการเงินที่ดี และยังสามารถสร้างเงินก้อนพร้อมใช้ในอนาคตไปพร้อม ๆ กัน แบบประกันที่ว่านั้นเรียกว่า “ประกันสะสมทรัพย์” หรือ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment) ซึ่งในระหว่างระยะเวลาสัญญาผู้ทำประกันจะได้รับความคุ้มครองชีวิตควบคู่กับได้รับผลประโยชน์เงินคืนในแต่ละปีซึ่งจะเป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละแบบประกันตามที่บริษัทกำหนด รวมถึงเมื่อครบกำหนดสัญญา ก็จะได้รับผลประโยชน์เงินคืนก้อนใหญ่ช่วยสร้างความมั่นคงสำหรับชีวิตในอนาคตได้อย่างสบายใจ และหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างกรณีเสียชีวิต ครอบครัวหรือผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินก้อนคืนเพื่อเป็นหลักประกันทางการเงินที่มั่นคงอีกด้วย
5 เหตุผลดีๆ ของการทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
1. สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเบี้ยฯ ที่จ่ายจริง สูงสุด 100,000 บาทต่อปี ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด โดยเงื่อนไขคือ กรมธรรม์ประกันชีวิตต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป กรณีที่มีการจ่ายเงินคืนทุกปี จำนวนเงินต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยรายปี หรือหากเป็นการจ่ายเงินคืนตามช่วงเวลา จำนวนเงินต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยสะสมของแต่ละช่วงเวลา
2. ช่วยสร้างเงินออมเพื่ออนาคต วางแผนทางการเงินได้ ประกันสะสมทรัพย์แต่ละแผน จะมีรูปแบบในการชำระเบี้ยในระยะเวลาแตกต่างกันออกไป เช่น 1 ปี จ่ายครั้งเดียวจบ จ่ายเบี้ยฯสั้น 2 ปี หรือ 5 ปี โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับผลประโยชน์เงินคืนในรูปแบบที่แตกต่างออกไปตามแต่ละแผนปี ซึ่งรูปแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการจะนำเงินออกมาใช้ก่อนถึงครบกำหนด เป็นตัวช่วยสร้างวินัยการออมเงินและวางแผนทางการเงินในอนาคตได้อย่างแน่นอน
3. ได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน ประกันสะสมทรัพย์เป็นประกันชีวิตในรูปแบบการสร้างเงินออมที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยแต่ละแบบประกันจะมีแผนความคุ้มครองและรูปแบบผลประโยชน์เงินคืนที่กำหนดเอาไว้ ทำให้ผู้เอาประกันภัยได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน ไม่ต้องรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ ช่วยให้สามารถวางแผนทางการเงินในอนาคตได้อย่างแม่นยำ รู้ผลประโยชน์เงินคืนที่ได้รับแน่นอนและสร้างเงินออมให้งอกเงยได้
4. ได้รับความคุ้มครองชีวิต ช่วยให้ผู้ทำประกันเตรียมพร้อมกับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น กรณีเสียชีวิต จะได้รับเงินก้อนคืนตามทุนประกันชีวิตโดยมอบให้ผู้รับผลประโยชน์ รวมถึงสามารถกำหนดสัดส่วนของผลประโยชน์เงินคืนนี้ได้อีกด้วย เหมาะกับผู้ที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ในการเตรียมพร้อมกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น หรือในมุมของพ่อแม่สูงวัย ที่ต้องการสร้างความมั่นคงและลดภาระค่าใช้จ่ายกรณีที่ตนเองเสียชีวิตให้กับลูกหลานที่ยังอยู่ได้อีกด้วย เนื่องจากประกันสะสมทรัพย์บางแผน มีอายุรับประกันภัยสูงถึงอายุ 80 ปี
5. ผลประโยชน์เงินคืนได้จากประกันสะสมทรัพย์ได้รับการยกเว้นภาษี เป็นอีกหนึ่งข้อดีที่น่าสนใจ เนื่องจากผลประโยชน์เงินคืนที่ได้รับจะได้รับแบบเต็มจำนวน ต่างจากผลประโยชน์เงินคืนจากการสร้างเงินออมรูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น การลงทุนกับหุ้น กองทุนรวม หรือแม้แต่ดอกเบี้ยที่ได้รับจากการฝากเงินกับธนาคารที่ยังต้องเสียภาษี
ประกันสะสมทรัพย์ออนไลน์ ง่าย สะดวก อนุมัติไว
กรุงเทพประกันชีวิต มีบริการประกันชีวิตออนไลน์ที่มีหลากหลายแผนเพื่อให้ผู้ทำประกันสามารถเลือกได้ตรงกับเป้าหมายทางการเงินได้มากที่สุด สามารถดูรายละเอียดความคุ้มครอง กดคำนวณเบี้ย เพื่อเปรียบเทียบผลประโยชน์ด้วยตัวเองได้ โดยปัจจุบันมีแบบประกันที่น่าสนใจ คือ
ประกันสะสมทรัพย์ บีแอลเอ สมาร์ทเซฟวิ่ง 10/1 หรือประกัน 10/1
เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคล่องตัว เพราะจ่ายเบี้ยครั้งเดียวจบ พร้อมรับเงินคืนทุกๆปีละ 1.75%* รวมตลอดสัญญา 117.5%* เบี้ยประกันภัยรายปี เริ่มต้นปีละ 50,000 บาท
ประกันสะสมทรัพย์ ลดหย่อนภาษี บีแอลเอ สมาร์ทรีเทิร์น 10/5 หรือ ประกัน 10/5
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสร้างเงินออมก้อนใหญ่ นำไปใช้จ่ายหรือลงทุนต่อยอด โดยแบบประกันนี้คืนเงินไวกว่ากองทุน SSF โดยในปีที่ 7-9 รับเงินคืน 100%* และปีที่ 10 รับเงินคืนถึง 205%* รวมตลอดสัญญา 525%* และ ชำระเบี้ยประกันภัยรายปีระยะเวลา 5 ปี เริ่มต้นปีละ 20,000 บาท เฉลี่ยเดือนละหลักพันต้น ๆ
ประกันชีวิตลดหย่อนภาษี บีแอลเอ ฟาสต์ รีเทิร์น 10/2
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสภาพคล่องทางการเงินสูง เพราะจ่ายเบี้ยฯ สั้น 2 ปี ได้รับเงินก้อนคืนไวในปีที่ 3 รับเงินก้อนคืน 100%* และปีครบกำหนดสัญญา รับเงินคืนอีก 100%* กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รับผลประโยชน์เพิ่ม 200% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยเบี้ยประกันภัยรายปี เริ่มต้นปีละ 29,100 บาท
นอกจากประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์แล้ว กรุงเทพประกันชีวิต ยังขอให้พิจารณาประกันชีวิตแบบบำนาญควบคู่กันไป เพราะสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาทต่อปี ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด โดยแบบประกันที่แนะนำ คือ ประกันบํานาญ ลดหย่อนภาษี แฮปปี้ เพนชั่น (มีเงินปันผล) ที่เหมาะสำหรับคนที่เตรียมพร้อมวางแผนวัยเกษียณ แบบประกันนี้จะช่วยให้เกษียณได้อย่างสบายใจ มีเงินบำนาญใช้ถึงอายุ 99 ปี โดยการันตีรับเงินบำนาญ ตั้งแต่อายุ 60-99 ปี มีโอกาสรับเงินบำนาญเพิ่มพิเศษตลอดสัญญา** และ เลือกระยะเวลาชำระเบี้ยได้เอง 1 ปี/ 5 ปี/ 10 ปี หรือจนถึงอายุ 60 ปี
จะเห็นได้ว่า นอกจากลดหย่อนภาษีแล้ว การทำประกันชีวิตยังเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน ซึ่งช่วยสร้างเงินก้อนในอนาคต ไปพร้อม ๆ กับรับความคุ้มครองชีวิต ซึ่งสามารถเลือกแผนประกันที่ตอบโจทย์แผนการเงินที่ต้องการได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ พร้อมรับสิทธิพิเศษเฉพาะการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ในแต่ละเดือน เพื่อความคุ้มครองที่คุ้มค่า ผู้สนใจดูแบบประกันเพิ่มเติมได้ที่ https://bla.bangkoklife.com/onlinepr
หมายเหตุ
* %ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
** ผลประโยชน์ที่ไม่รองรับการจ่าย
โปรดทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ iFlight Technology บริษัทผู้ผลิตโดรนภายใต้ชื่อ DJI จากประเทศจีน และ Peak3 บริษัทอินชัวร์เทคจากประเทศสิงคโปร์ มอบความคุ้มครองประกันภัยโดรนการเกษตรให้แก่ลูกค้า เพื่อส่งเสริมการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้ในการเกษตร และสร้างความยั่งยืนให้แก่เกษตรกรไทย
โครงการดังกล่าวเป็นการผสานความร่วมมือระหว่าง 3 บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตโดรน ด้านอินชัวร์เทค และด้านการรับประกันภัย ที่จะช่วยยกระดับภาคการเกษตรของไทยให้ก้าวล้ำไปอีกขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะของโดรนการเกษตรมาช่วยการทำงานของเกษตรกรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร อีกทั้งยังลดปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงาน และเนื่องจากโดรนการเกษตร DJI เป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง กรุงเทพประกันภัยจึงได้จัดทำแผนประกันภัยที่เหมาะสมสำหรับโดรนการเกษตร เพื่อช่วยแบ่งเบาความเสี่ยง บรรเทาความเดือนร้อนทางการเงิน เป็นการสร้างความอุ่นใจให้เกษตรกร โดยมี Peak3 เป็นผู้ให้บริการแอปพลิเคชันด้วยเทคโนโลยี SaaS ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการทำประกันภัยและการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
สำหรับแผนประกันภัยดังกล่าวให้ความคุ้มครองความเสียหายจากอุบัติเหตุต่อตัวโดรนการเกษตร DJI รุ่น T25 ทุนประกันภัย 263,500 บาท และรุ่น T50 ทุนประกันภัย 347,000 บาท ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี โดยลูกค้าที่ซื้อโดรน DJI รุ่นดังกล่าวสามารถลงทะเบียนรับสิทธิประกันภัยโดรนการเกษตรได้ฟรี ณ ตัวแทนจำหน่าย DJI ทั่วประเทศ
กรุงเทพประกันชีวิตเดินหน้าเจาะกลุ่มแม่และเด็ก ถ่ายทอดความใส่ใจผ่านผลิตภัณฑ์ “กรุงเทพ สมาร์ทคิดส์” ที่คิดมาอย่างรอบด้านเพื่อความอุ่นใจของครอบครัว จนสามารถคว้ารางวัล Best Insurance for Kids and Family ประเภท Editor’s Choice จากเวที Amarin Baby & Kids Awards 2024 มาได้สำเร็จ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งในด้านความใส่ใจ เตรียมพบกับผลิตภัณฑ์เพื่อเด็กและครอบครัวอีกมากพร้อมกิจกรรมและโปรโมชันโดนใจในงาน Amarin Baby & Kids Fair 2024 ระหว่าง 28 พ.ย. ถึง 1 ธ.ค.นี้ ที่ ไบเทค บางนา
นางสาวอรนาฎ นชะพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายกลยุทธ์การตลาดและการบริหารจัดการลูกค้า บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงเทพประกันชีวิตรู้สึกยินดีที่ “กรุงเทพ สมาร์ทคิดส์” ประสบความสำเร็จอีกครั้งกับรางวัลผลิตภัณฑ์ประกันสะสมทรัพย์เพื่อเด็กและครอบครัว “Best Insurance for Kids and Family” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ที่ได้รับจากเวที Amarin Baby & Kids Awards ตอกย้ำความสำเร็จของการพัฒนาแบบประกันที่ตอบโจทย์ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากปณิธานของแบรนด์ที่มุ่งมั่นเรื่องความใส่ใจ และเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค ผ่านการทำวิจัยอย่างสม่ำเสมอทำให้ได้อินไซต์และสามารถพัฒนาแบบประกันที่ครบเครื่อง ตอบโจทย์ทั้งคุณพ่อคุณแม่ในการดูแลลูก
“กรุงเทพ สมาร์ทคิดส์” เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้พ่อแม่วางแผนอนาคตให้กับลูกโดยเฉพาะเป้าหมายทางการศึกษาในทุกระดับชั้น สามารถเลือกตามระยะเวลาคุ้มครองที่ต้องการ 15 ปี 18 ปี และ 21 ปี มีจุดเด่นที่ให้มากกว่าการออม คือ 1) คุ้มครองผู้ชำระเบี้ย 2) ครอบคลุมค่ารักษาจากอุบัติเหตุ 3) คุ้มครองโรคร้ายแรง เด็ก 4 โรค และ 4) ความคุ้มครองชีวิต โดยมีเบี้ยประกันคงที่เริ่มต้นเพียง 200 บาทต่อเดือน สามารถสมัครได้ตั้งแต่แรกเกิด – อายุ 14 ปี
“เราเชื่อว่า เมื่อเราใส่ใจลูกค้าได้ดีและตรงตามความต้องการ จะเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าอยู่กับเรา และให้โอกาสเราได้ดูแลลูกค้าตลอดไป กรุงเทพประกันชีวิตขอขอบคุณ Amarin Baby & Kids ที่ได้มอบรางวัล The Best Insurance for Kids and Family Award ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรางวัลแห่งความภาคภูมิใจสำหรับทีมงานทุกคน และเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนให้เราพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ครอบครัวคนไทยต่อไป” นางสาวอรนาฎกล่าวพร้อมเพิ่มเติมว่า
คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจ สามารถพบกับแผนความคุ้มครองที่คัดสรรมาด้วยความใส่ใจ ตอบโจทย์ความต้องการทุกครอบครัวจากกรุงเทพประกันชีวิตได้ในงาน Amarin Baby & Kids Fair 2024 ได้ในระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 1 ธันวาคม ศกนี้ ที่ ไบเทค บางนา ฮอลล์ 103-104 บูท CS5 ระหว่าง 10.00 – 20.00 น. พบกับกิจกรรมเสริมสร้างพัฒนาการเรียนรู้ของลูกน้อย การวางแผนเตรียมพร้อมด้านสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล และเตรียมเงินออมเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ลูกรัก พร้อมให้คำปรึกษาวางแผนการเงินกับคุณพ่อคุณแม่ตามเป้าหมายที่ต้องการ พิเศษในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 13:30 น. ร่วมฟังเสวนาห้องเรียนพ่อแม่ โดย ผศ.ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการสร้างวินัยเชิงบวกและการส่งเสริมทักษะสมอง EF สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษภายในงาน และโปรโมชันอื่น ๆ อีกมากมายศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bangkoklife.com/th/promotion
กรุงเทพประกันชีวิตเผยผลดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรกปี 2567 กวาดเบี้ยรับรวม 26,400 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,669 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ส่วนไตรมาส 3 ปี 67 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 10,315 ล้านบาท มาจากเบี้ยรับปีแรก 1,550 ล้านบาท มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 614 ล้านบาท ประกาศสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ ในการมุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งในด้านความใส่ใจ ต่อผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม พร้อมดูแลลูกค้าด้วยความคุ้มครองที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์และบริการที่เป็นเลิศ
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2567 ว่า บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมจำนวน 10,315 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจำนวนทั้งสิ้น 1,550 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากช่องทางธนาคารที่มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกลดลง โดยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 614 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมในช่วง 9 เดือนของปี 2567 จำนวน 26,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 จำนวน 2,669 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 จำนวน 313,594 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ที่ร้อยละ 4 จากการลดลงของสินทรัพย์ลงทุนจากกรมธรรม์ที่ครบกำหนด ทั้งนี้ สินทรัพย์ลงทุนและรายการเทียบเท่าเงินสดคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 95 ของสินทรัพย์รวม และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (CAR) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 ที่ร้อยละ 433 ซึ่งสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่กฎหมายระบุไว้ที่ 140% อย่างมีนัยสำคัญ
นายโชน กล่าวว่า ในปี 2567 บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ ในการมุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งในด้านความใส่ใจ To be the Most Caring Life Insurance Company เพื่อขับเคลื่อนองค์กรทำหน้าที่ด้วยความใส่ใจต่อผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม พร้อมเปิดตัวสิทธิประโยชน์ใหม่ 5 ด้านตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และยกระดับการให้ความคุ้มครองและการบริการแก่ผู้ถือกรมธรรม์ให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีตลอดอายุสัญญา
“บริษัทฯ ยังได้สร้างความผูกพันธ์กับผู้ถือกรมธรรม์ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ การจัดงาน Age of Happiness: Thank You Event for Our Valued Customers เพื่อขอบคุณลูกค้าธนาคารกรุงเทพที่ให้ความไว้วางใจส่งมอบความคุ้มครองเพื่อสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงทางการเงินมามากกว่า 20 ปี และ กิจกรรมคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 73 ปี BLA Feel Good Concert รวมไปถึงการพัฒนาบริการและบริการเสริมด้านสุขภาพ ‘BLA EveryCare’ ที่กรุงเทพประกันชีวิตให้มากกว่าความคาดหวังของผู้ถือกรมธรรม์ โดยมีการทำงานร่วมกับโรงพยาบาลพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง” นายโชนกล่าวในที่สุด