December 05, 2025

กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี นำโดย นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้รับเกียรติร่วมเป็นวิทยากรในงานสัมมนา ASEAN Forum 2025 จัดโดย สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ซึ่งเป็นเวทีสัมมนาระดับภูมิภาคอาเซียน ที่รวบรวมทั้งผู้นำทางด้านธุรกิจ นักลงทุน นักนวัตกรรม และผู้กำหนดนโยบายระดับภูมิภาค เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับทิศทางสู่การเติบโตของเศรษฐกิจอาเซียน และโอกาสในการลงทุนทางธุรกิจใหม่ในภูมิภาคอาเซียน ในประเด็นเชิงลึกทั้งด้านการค้า โลจิสติกส์ อาหาร นวัตกรรม และพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก เมื่อเร็ว ๆ นี้

ภายในงาน นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ได้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “INGREDIENT FOR THE BOOMING ECONOMY: NEW INVESTMENT OPPORTUNITIES” โดยนำเสนอแนวคิดและมุมองในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกและการผลิตระดับภูมิภาค สำหรับหัวข้อเสวนาในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงจากหลากหลายองค์กรร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ได้แก่ นายทรงวุฒิ อภิรักษ์ขิต ผู้อำนวยการสำนักอุตสาหกรรมยานยนต์ และสำนักบริการการลงทุน  Mr. Saribua Siahaan Director of Investment Promotion for Southeast Asia, Australia, New Zealand and the Pacific, Ministry of Investment and Downstream Industry / Indonesia Investment Coordinating Board (BKPM) และนายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล อดีตผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)

 

นายอัศวิน กล่าวในงานเสวนาว่า กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี มุ่งขยายธุรกิจในประเทศอาเซียนที่มีการเติบโตสูง โดยเรามีอุตสหาหกรรมที่หลากหลาย และมีการกระจายสินค้าไปยังร้านค้าที่ครอบคลุมทั่วภูมิภาค กว่า 194,000 แห่ง ในหลากหลายประเทศด้วยกัน โดยในประเทศไทย เรามีโรงงาน 12 แห่ง ศูนย์กระจายสินค้า 14 แห่ง ร้านค้าปลีก 12,818 แห่ง และรถขนส่ง 1,556 คัน ซึ่งสามารถกระจายสินค้าไปยังร้านค้ากว่า 89,922 แห่ง อีกทั้งยังมีเครือข่ายจัดจำหน่ายร้านค้ารายย่อยอีก 183 แห่ง สำหรับต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม เรามีโรงงาน 7 แห่ง ศูนย์กระจายสินค้า 8 แห่ง ร้านค้าปลีก 2,466 แห่ง และรถขนส่ง 373 คัน ซึ่งสามารถกระจายสินค้าไปยังร้านค้ากว่า 104,869 แห่ง, ลาว เรามีร้านค้าปลีก 68 แห่ง และศูนย์กระจายสินค้า 1 แห่ง, กัมพูชา เรามีโรงงาน 1 แห่ง และร้านค้าปลีกอีก 22 แห่ง, มาเลเซีย เรามีโรงงาน 2 แห่ง และเมียนมา เรามีสำนักงานตัวแทน 1 แห่ง เป็นต้น โดย 91% ของยอดขายต่างประเทศของกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี มาจากภูมิภาคอาเซียน และมีอัตราการเติบโตของยอดขายเฉลี่ย 9.2% ต่อปี ซึ่งในปี 2024 ที่ผ่านมา มียอดขายในอาเซียนเติบโตถึง 15,000 ล้านบาท

นายอัศวิน เผยถึงกระแสเทรนด์โลกและประเทศไทยในปี 2025 ว่า ยุคนี้เป็นยุคสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Health Era) ซึ่งผู้บริโภคจะให้ความสำคัญทั้งสุขภาพกาย ใจ และอารมณ์ อีกทั้งผู้บริโภคยังตระหนักถึงความยั่งยืน (Sustainability) และการเลือกซื้อที่ขับเคลื่อนด้วยคุณค่า (Value-Driven Choices) โดยให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายและตัดสินใจซื้อสินค้าอย่างตั้งใจมากขึ้น รวมถึงให้ความสนใจกับสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalization) และสินค้าภายใต้แบรนด์ของร้านค้า (Private Label) ซึ่งมีราคาคุ้มค่า มีคุณภาพ และมีความน่าเชื่อถือ

 

นายอัศวิน กล่าวต่อว่า ตลาดสัตว์เลี้ยงยังคงเติบโต เทรนด์ Pet Humanization & Pet Tourism การที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเหมือนสมาชิกในครอบครัว และต้องการให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยว ยังคงเป็นกระแสต่อเนื่อง อีกทั้งมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์และการบริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง และสินค้าที่เป็นมิตรกับครอบครัวที่มีสัตว์เลี้ยงมากขึ้น นอกจากนี้ ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในประเทศไทย ยังสามารถพาสัตว์เลี้ยงเข้าได้ และมีการจัดอีเวนต์สำหรับสัตว์เลี้ยงด้วย โดยยอดขายรวมของอาหารและผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงในช่องทางค้าปลีกของประเทศไทย ในปี 2024 เติบโตขึ้นจากปี 2023 ถึง 10.9% มีมูลค่ายอดขายรวมทั้งตลาด 7,645 ล้านบาท สำหรับ บิ๊กซี ยอดขายรวมของอาหารและผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงในปี 2024 เติบโตขึ้นจากปีก่อน 1.6% และมีมูลค่ายอดขายรวม 1,250 ล้านบาท

สำหรับเทรนด์ด้านเทคโนโลยีและ AI ในปี 2025 นายอัศวิน กล่าวว่า ธุรกิจค้าปลีกมีการใช้เทคโนโลยีและ AI เพื่อดึงดูดลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการขายมากขึ้น อาทิ ร้านค้าอัตโนมัติไร้พนักงาน หุ่นยนต์ในร้าน รถเข็นอัจฉริยะ และระบบนำทางในร้าน เป็นต้น อีกทั้งยังมีการทรานส์ฟอร์มร้านค้าให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคนี้ เช่น มีจุดชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ขยายร้านสะดวกซื้อให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีพื้นที่จอดรถ รวมถึงมีสินค้าและการบริการที่หลากหลาย เพื่อยกระดับการช้อปแบบครบจบในที่เดียว มีความสะดวก และทันสมัย

นายอัศวิน กล่าวถึงโอกาสการลงทุนในอาเซียนว่า การกระจายฐานการผลิตและห่วงโซ่อุปทานไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน อาทิ เวียดนาม ไทย และมาเลเซีย เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงส่วนอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ เหมาะสำหรับการผลิต นับเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความยืดหยุ่นและกระจายความเสี่ยงในระดับภูมิภาค อีกทั้งอาเซียนมีศักยภาพสูงในธุรกิจเกษตรและอาหาร เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ทั้งดินและแหล่งน้ำ ทำให้มีข้อได้เปรียบในการผลิตสินค้าเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะข้าวสัตว์ปีก รวมถึงโลจิสติกส์ด้านอาหาร และการผลิตอาหารฮาลาล เพื่อส่งออกสู่ตลาดตะวันออกกลางและมุสลิมทั่วโลก

 

นอกจากนี้ อาเซียนยังมีศักยภาพการลงทุนอีกหลากหลายสาขาใหม่ที่กำลังเติบโต อาทิ ด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซ ด้วยอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่สูงของประชากรในภูมิภาคนี้ และการเติบโตของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ, ด้านพลังงานสีเขียวและเทคโนโลยีด้านสภาพอากาศ เช่น อินโดนีเซีย มีศักยภาพด้านแร่สำรองที่ใช้ในแบตเตอรี่สูง, ด้านการแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยในอาเซียน ทำให้การลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาล คลินิก การดูแลผู้สูงอายุ และเทคโนโลยีด้านสุขภาพกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน, ด้านการศึกษาและการพัฒนาทักษะ ในภูมิภาคอาเซียนมีความต้องการเพิ่มทักษะของแรงงานต่อเนื่อง ดังนั้น การลงทุนในแพลตฟอร์ม EdTech และธุรกิจการเรียนการสอนภาษายังคงเติบโต, ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้วยการขยายตัวของเมืองและการเชื่อมต่ออย่างไร้พรมแดนและขีดจำกัด เหมาะกับการลงทุนระบบโลจิสติกส์และโครงการเมกะโปรเจกต์อย่างมาก และด้านบริการทางการเงิน เนื่องจากประชาชนชั้นกลางเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสสำคัญในการขยายบริการฟินเทค (Fintech) และไมโครไฟแนนซ์ (Microfinance) นายอัศวิน กล่าว

กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี เป็นเลิศในการพัฒนาการผลิตสินค้าและบริการ ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจที่หลากหลาย ได้แก่ กลุ่มสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์ กลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค กลุ่มสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์และทางเทคนิค และกลุ่มสินค้าและบริการทางการค้าปลีกสมัยใหม่ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน ควบคู่กับการสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคมในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันและเปิดโอกาสให้ธุรกิจไทยเติบโตในระดับภูมิภาคอาเซียนอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

บิ๊กซี นำโดย นายอัศวิน-นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ รองประธานกรรมการบริหาร เดินหน้าส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จัดแคมเปญ “ฉลองอลังการ ผนึกกำลัง แจกใหญ่มูลค่ารวมกว่า 31 ล้านบาท” ฉลองยิ่งใหญ่ครบรอบ 31 ปี แทนคำขอบคุณและความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้บิ๊กซี เพียงซื้อสินค้าที่ บิ๊กซี ทุกสาขาทั่วประเทศ รับสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลรวมมูลค่ากว่า 31 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน - 7 สิงหาคม 2567

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บิ๊กซี เติบโตและอยู่เคียงข้างคนไทยเข้าปีที่ 31  โดย 31 ปีที่ผ่านมา บิ๊กซีเรามีความผูกพันกับสังคมไทยและลูกค้ามาโดยตลอด รวมถึงทุกแรงสนับสนุนจากพันธมิตรทำให้บิ๊กซีเติบโตอย่างยั่งยืน บิ๊กซีโดดเด่นในด้านสินค้าราคาประหยัด และยังให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้าและบริการเพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดและการบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกท่าน ทั้งนี้ บิ๊กซียังเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ พัฒนาสาขาในรูปแบบที่ทันสมัย มีร้านค้าครบครันตอบความต้องการของทุก Lifestyle ของลูกค้า และเพื่อเป็นศูนย์รวมของการใช้ชีวิตของสมาชิกในครอบครัว”

"เพื่อเป็นการฉลองโอกาสสุดพิเศษในวาระครบรอบ 31 ปีนี้ บิ๊กซี ได้ผนึกกำลังกับพันธมิตร จัดแคมเปญ “ฉลองอลังการ ผนึกกำลัง แจกใหญ่มูลค่ารวมกว่า 31 ล้านบาท” เพื่อตอบแทนความไว้วางใจและส่งมอบความสุขให้แก่ลูกค้าที่ให้การสนับสนุนบิ๊กซีด้วยดีเสมอมา”

รายละเอียดแคมเปญ :

  • ฉลองอลังการ ผนึกกำลัง แจกใหญ่ สมาชิกบิ๊กพอยต์ มาทุกวัน แจกทุกวัน  ฟรีหลากหลายสินค้า มูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท, ฟรีคูปองส่วนลดสินค้า และ คูปองส่วนลดร้านค้าชั้นนำ มูลค่ารวมกว่า 24 ล้านบาท   เมื่อสแกนรับของรางวัลที่สาขา
  • ระยะเวลาแคมเปญ ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน - 7 สิงหาคม 2567
  • สาขาที่เข้าร่วม Big C Hypermarket, Big C Market, Big C Food Place, Big C Mini ทุกสาขา ร้านยาเพรียวและ Big C Online
  • ลุ้นช้อปฟรี มูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท สมาชิกบิ๊กพอยต์ชอปครบทุก 300 บาท รับ 1 สิทธิ์ ลุ้นช้อปฟรี 10,000 บาท จำนวน 300 รางวัล โดยสามารถร่วมรับสิทธิ์ทุกการช้อปผ่านช่องทาง บิ๊กซี ไฮเปอร์มาร์เก็ต, บิ๊กซี มาร์เก็ต, บิ๊กซี ฟู้ดเพลส, บิ๊กซี มินิ, ช้อปปิ้ง ออนไลน์, Call Shat Shop และ บริการ New Service Development
  • ภารกิจนักช้อป สมาชิกบิ๊กพอยต์ รับคูปองส่วนลดสูงสุด 150 บาท โดยเมื่อซื้อสินค้าครบทุก 1,000 บาท รับส่วนลด(E Coupon) 50 บาท สูงสุด 150 บาท เมื่อมียอดซื้อสินค้าครบ 3,000 บาท
  • ฟรี!! ส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำ ซื้อสินค้าที่โซนพลาซ่าครบ 199 บาท รับสิทธิ์เปิดป้ายลุ้นรางวัลส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำในโซนพลาซ่า และ ฟู้ดคอร์ด

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่ หรือติดต่อ Call Center โทร. 1756 หรือ เฟซบุ๊ก หรือ Line @Big C  (หมายเหตุ : เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัท)

“บิ๊กซี เราให้ความสําคัญกับลูกค้าเป็นลำดับแรก พร้อมด้วยคุณภาพสินค้าและการบริการต้องที่ดี เพราะลูกค้าเป็นศูนย์กลางและเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากลูกค้าจะเป็นกระบอกเสียงให้เราพัฒนาการบริการได้อย่างตรงจุด เราเดินหน้ากลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดด้วยแคมเปญโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งของเรา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบิ๊กซีในการพัฒนาการบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการและส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน” นายอัศวิน กล่าวสรุป

บิ๊กซี จัดโปรโมชั่นต้อนรับเทศกาลกินเจ ร่วมกับดีน่า ผ่านแคมเปญ เจนี้ ที่บิ๊กซี กับดีน่า พาอิ่มบุญ” คัดสรรผลิตภัณฑ์เจ พร้อมจัดโปรโมชั่นลดสูงสุด  15% ที่บิ๊กซี ตั้งแต่วันนี้ - 25 ต.ค. 66

X

Right Click

No right click