บราเดอร์ส่ง ‘PR1X’ จักรปักเอนกประสงค์หนุนสร้างอาชีพรับการเติบโตของเทรนด์ personalization ที่ดันผลิตภัณฑ์จักรปักในไทยให้มีปริมาณการซื้อขาย (volume) ของตลาดสูงเป็นอันดับต้นๆ ของอาเชียน ชวนคนไทยลงทุนจักรปักเริ่มต้นเพียง 31,990 บ. ก็สามารถสร้างอาชีพได้กับบราเดอร์
นายพงษ์พันธ์ สุระวัฒน์เจริญ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขยายธุรกิจ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทรนด์ของตลาดจักรปักกำลังมุ่งสู่การเป็น personalization เพิ่มมากขึ้น จากอดีตเราอาจจะเห็นผลงานของจักรปักอยู่บนชุดนักเรียน โลโก้ แต่ 3-4 ปีที่ผ่านมาตลาดมีการพัฒนาอย่างมาก จักรปักถูกนำมาใช้ผลิตชิ้นงานที่เพิ่มไอเดียการออกแบบหลากหลายสไตล์ในแนวแฟชั่นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มที่ผ่านมาบราเดอร์มุ่งพัฒนาจักรเพื่อเสริมศักยภาพของกลุ่มธุรกิจ SMEs โดยเฉพาะ ทำให้เรามีความแข็งแกร่งมากในกลุ่มนี้ ส่งผลให้เราสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในปัจจุบัน
“การพัฒนาระบบ user interface คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้จักรปักบราเดอร์เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในสายตาผู้บริโภค เพราะใช้งานง่าย สะดวก และมีฟังก์ชันให้ใช้อย่างหลากหลาย พร้อมอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ชิ้นงานมีเอกลักษณ์เฉพาะ นอกจากนี้ คุณภาพบริการหลังการขายก็เป็นอีกปัจจัยหลักที่บราเดอร์ให้ความสำคัญ ปัจจุบันมีศูนย์บริการอยู่ทั่วประเทศเพื่อรองรับการให้บริการได้อย่างครอบคลุม” นายพงษ์พันธ์ กล่าว
ด้านนายนัจวริษฐ์ ถิระพุทธิพงษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขยายธุรกิจ กลุ่มผลิตภัณฑ์จักรเย็บผ้า กล่าวถึงกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตต่อเนื่องในปี 2567 ว่า นอกจากจะมุ่งขยายช่องทางการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์แล้ว บราเดอร์ยังพุ่งเป้าขยายฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจแฟชั่นไลฟ์สไตล์ และกลุ่มธุรกิจการศึกษาด้านแฟชั่น ตลอดจนสนับสนุนกิจกรรมของแฟชั่นแบรนด์ทั้งของไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
“เรายังคงใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อสร้าง community สำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานด้านเย็บปักถักร้อยเป็นหลัก งปัจจุบันจักรบราเดอร์มีสมาชิกในโลกโซเชียลเกือบแสนราย ผ่านช่องทาง facebook.com/BrotherSewingClubThailand/ ทำให้เพิ่มศักยภาพในการเข้าถึง ส่งผลให้ตลาดของบราเดอร์กระจายตัวเพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมกันนี้เราได้ใช้กลยุทธ์การรุก พื้นที่ชุมชนเพื่อสร้าง offline community ควบคู่กันไปด้วย” นายนัจวริษฐ์ ฉายภาพความแข็งแกร่งของ community จักรบราเดอร์
ในยุคนี้หลายภาคส่วนหันมาผลักดันด้านทักษะอาชีพรวมถึงการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนโดยเพิ่มสายอาชีพเป็นทางเลือกให้เด็กรุ่นใหม่ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเอื้อต่อการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์จักรปัก “ปัจจุบันในต่างประเทศได้นำจักรปักมาผสมผสานกับรูปแบบการดีไซน์ในแนวอื่นๆ เช่นออกแบบผสมกับงานพิมพ์ หรือวัสดุพื้นผิวที่หลากหลาย ซึ่งเป็นแนวทางในการเพิ่มมูลค่าที่ดีมาก บราเดอร์จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการจุดประกายไอเดียใหม่ๆ เหล่านี้ในประเทศไทย เพราะปัจจุบันตลาดเครื่องนุ่งห่มของไทยยังไม่เด่นชัดด้านดีไซน์ที่ผสมผสาน เพราะส่วนใหญ่เราจะอยู่เบื้องหลังในแบบ OEM เป็นหลัก การที่บราเดอร์รุกตลาด SMEs นั้น จะเป็นการขับพลังสร้างสรรค์ในตัวผู้ประกอบการไทยให้ออกมา และสร้างอัตลักษณ์ตัวตนให้เกิดขึ้น เพิ่มมูลค่าเปิดกว้างตลาดจากในประเทศสู่ตลาดโลก ซึ่งจะเป็นการยกระดับมาตรฐานประเทศไทยสู่สากลได้เช่นกัน” นายพงษ์พันธ์ กล่าวสรุป
ทั้งนี้ จักรปักเอนกประสงค์คุณภาพระดับมืออาชีพจากประเทศญี่ปุ่น ‘บราเดอร์ PR1X’ ดีไซน์ทันสมัย ที่ช่วยสร้างสรรค์งานปักแบบไม่มีสะดุดด้วยเทคโนโลยีและฟังก์ชันใหม่ๆ ที่ถูกออกแบบมาอย่างใส่ใจในรายละเอียด เพิ่มความคล่องตัวในทุกโปรเจค อาทิ ระบบสนเข็มที่สะดวกยิ่งกว่า เลเซอร์กำหนดตำแหน่งปักรูปกากบาทเพื่อเพิ่มความแม่นยำ สามารถใช้งานได้กับสะดึงที่หลากหลายให้พร้อมกับทุกงานปักทั้งหมวกปีกแบน กระเป๋า แจ๊กแก๊ต รองเท้า ฯลฯ มาพร้อมพื้นที่ปักขนาดใหญ่ (200x300 มม.) หน้าจอระบบสัมผัสแบบ LCD ขนาด 7 นิ้ว เฉดสีสดใสสะดุดตามากกว่า 260,000 สี สามารถแก้ไขตัวอักษรและกราฟฟิคหน้าจอได้สะดวก พร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่นอื่นๆ อาทิ ลายปักและตัวอักษรหลากหลายรูปแบบ ที่สามารถทำเป็น 3 มิติได้ในตัวเครื่อง กำหนดตำแหน่งโดยการปรับมุมได้อัตโนมัติ มีระบบปรับความตึงของด้าย พัฒนาสะดึงแม่เหล็กให้ยึดผ้าให้ตึงอย่างง่ายดายเพื่อพร้อมในทุกการปัก นอกจากนี้ บราเดอร์ยังได้พัฒนาอุปกรณ์เสริมอีกมากหมายให้เลือก เพื่อจินตนาการงานปักที่ไม่มีสะดุด ทั้งยังมีวิดีโอในการเรียนรู้การใช้งานให้ด้วย
จักรปักเอนกประสงค์ ‘บราเดอร์’ ปัจจุบันมีให้เลือก 6 รุ่น ประกอบไปด้วย รุ่นมาตรฐาน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น M330E ราคา 31,900 บาท รุ่น M380D ราคา 45,900 บาท รุ่น NV880E ราคา 59,900 บาท และรุ่นไฮเอนด์ 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น PR1X ราคา 179,000 บาท รุ่น PR680W ราคา 349,000 บาท และรุ่น PR1055X ราคา 399,000 บาท
“บราเดอร์” ผู้นำนวัตกรรมเครื่องพิมพ์ แถลงพร้อมต่อยอดความสำเร็จจากปี 2566 มุ่งตอบโจทย์โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ยกระดับงานให้บริการสู่มาตรฐานขั้นสูง เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด โดยเน้นทำการตลาดแบบมุ่งเป้าเจาะกลุ่ม พร้อมเสริมแกร่งฐานลูกค้ากลุ่ม B2B (Business to Business) ผ่านการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่ตรงใจลูกค้า ตั้งเป้าเติบโต 6%
นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา จากข้อมูล GFK เรามีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดย เครื่องพิมพ์เลเซอร์มัลติฟังชั่นขาวดำ เพิ่มจาก 47.8% ในปี2565 เป็น 57.1% (#1) ในปี2566 เครื่องพิมพ์เลเซอร์มัลติฟังชั่นสี จาก 51.5% เป็น 50.1% (#1) เครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำ เพิ่มจาก 27.7% เป็น 32.6% (#2) และเครื่องพิมพ์เลเซอร์สี เพิ่มจาก 37.3% เป็น 46.4% (#1) สำหรับในปีนี้ บราเดอร์จะมุ่งเน้นกิจกรรมทางการตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อต่อยอดความสำเร็จ จากการสร้างการรับรู้แบรนด์ ซึ่งจากผลวิจัยทางการตลาดของ GfK พบว่า ในปีที่ผ่านมา บราเดอร์สามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือนิวเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอายุระหว่าง 25 – 35 ปี ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อ ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น ตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่มีความร่วมสมัย โดดเด่นด้วยนวัตกรรมและมีผลิตภัณฑ์ตอบสนองทุกความต้องการลูกค้า ทุกกลุ่มวัย ซึ่งจะเป็นรากฐานในการขยายตลาดต่อไปในอนาคต”
นายธีรวุธ เปิดเผยถึงแผนในปีนี้ด้วยว่า “เราจะมุ่งเน้นกิจกรรมทางการตลาดในเชิงรุก โดยจะเพิ่มสัดส่วนการโฟกัสไปที่ตลาดกลุ่มองค์กร เพราะเป็นกลุ่มที่ยังมีโอกาสเติบโตได้มาก โดยปีนี้ เราจะเน้นทำการตลาดในกลุ่ม B2B (Business to Business) มากขึ้น เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าองค์กรและราชการ รวมถึงมุ่งเน้นการให้บริการด้านการขายแบบครบวงจร (Total Solution) รวมไปถึงการกำจัดวัสดุการพิมพ์ที่ใช้แล้วแบบรักษ์โลกต่อเนื่องตลอดปี ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน (Sustainability)
ด้าน นางสาวรัสสิญากร ตัณฑวณิชย์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เสริมว่า จากการที่เราได้นำความคาดหวังของลูกค้า มาเป็นหัวใจของการให้บริการ และเชื่อมโยงการให้บริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การขายไปจนถึงการดูแลหลังการขาย ซึ่งมีระบบการจัดเก็บข้อมูลการเข้ารับบริการ ทำให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาที่ทำให้เครื่องไม่สามารถใช้งานได้อย่างตรงจุด รวมถึงการมีช่องทางการให้บริการ Pre Sales และ Post Sales ที่ครบทั้งทุกด้าน การให้ข้อมูลผ่าน Call center, E-mail, Facebook, Live Chat และ Chatbot ( ผ่านทาง Web Site หรือ Line OA Brother Thailand ) รวมทั้งการให้บริการผ่านศูนย์บริการของ บราเดอร์ ทั้ง 4 แห่ง และ Authorized Service Center ทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด ซึ่งบราเดอร์ได้พัฒนาช่องทางเหล่านี้ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงให้คำปรึกษา เพื่อให้ลูกค้าใช้สินค้าของ บราเดอร์ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และจะมีการประเมินความพึงพอใจ ( NPS ) ทุกครั้งหลังจากให้บริการ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับปรุงการบริการต่อไป
“ที่ผ่านมา บราเดอร์ ยังเป็นผู้นำในด้าน Chatbot โดยเรามีการใช้งานอยู่ 2 ตัว คือ น้องแคร์ (N’Care) ที่ให้บริการตอบคำถามทั้งก่อนและหลังการขาย ซึ่งสามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ และยังมี มิสเตอร์แคร์เออร์ ( Mr. Carer ) สำหรับศูนย์บริการแต่งตั้ง ( ASC ) ในการตอบปัญหาด้านเทคนิค การซ่อมบำรุง และการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมทั้งยังสามารถประมาณค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการซ่อม และอะไหล่ต่างๆ ได้ทันที เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของลูกค้าในการซ่อม ซึ่ง Chatbot นี้ จะทำงานให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้ง บริการเสริม บราเดอร์แคร์แพค ( Brother Care Pack ) ที่ลูกค้าสามารถซื้อบริการเสริมต่างๆเพิ่มเติมได้ นับตั้งแต่วันที่ซื้อเครื่องวันแรก จนถึงวันสุดท้ายที่อยู่ในระยะเวลารับประกัน เช่น การขยายการระยะเวลารับประกัน การตรวจเช็คเครื่องและทำความสะอาดเพื่อให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน การซ่อมนอกสถานที่ การติดตั้งเครื่อง รวมถึงการให้บริการในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเรายินดี customize ตามความต้องการของลูกค้า เพิ่มความคุ้มค่า ป้องกันการเกิดปัญหา ทำให้ลูกค้าทำงานอย่างต่อเนื่องไม่สะดุด และการใช้เครื่องได้อย่างยาวนานจะช่วยลดของเสียจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”
“บราเดอร์” มีความภาคภูมิใจในการพัฒนาการให้บริการหลังการขาย โดยได้รับรางวัลในด้านต่างๆ จากสมาคมการค้าธุรกิจศูนย์บริการทางโทรศัพท์ไทย(TCCTA: Thai Contact Center Trade Association) ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา เช่น รางวัล The Best Contact Center of the Year 2017 , รางวัล The Best Satisfaction Contact Center หลายปีติดต่อกัน , รางวัลThe Best Effective Technology Contact Center ,The Best Social Media Contact Center , The Best Human Care Contact Center and The Best Workflow Contact Center นอกจากนี้เรายังได้รับรางวัลจาก Contact Center Associations of Asia Pacific ในหลากหลายสาขาเช่นกัน
นอกจากนี้ บราเดอร์ ยังมีมาตรฐานในด้านการให้บริการและการตรวจสอบครบทุกด้าน ( BSQA ) เช่น กรอบระยะเวลาการซ่อมเครื่อง วิธีการตอบปัญหา รวมถึงบุคคลิกลักษณะเฉพาะของผู้ให้บริการ สถานที่ให้บริการ ทักษะความเชี่ยวชาญต่างๆ ในการให้บริการแบบมืออาชีพ ซึ่งเป็นมาตราฐานเดียวกัน เพื่อสร้างความไว้วางใจในการให้บริการ ทั้งศูนย์บริการของบราเดอร์ทั้ง 4 แห่ง และของ Authorized Service Center ( ASC ) ทั่วประเทศ โดยจะมีการฝึกอบรมทักษะการซ่อม ความรู้ความสามารถในการดูแลลูกค้า ให้มีความเป็นมืออาชีพ เป็นไปตามยุคสมัย นำระบบการบริหารจัดการข้อมูลมาใช้อย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงคำนึงถึงความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ โดยทั้งหมดนี้ จะนำมาจากหลักการที่ว่า เข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการ แล้วนำเอาบริการของเราไปช่วย ให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งก็คือหลักการของ Customer Success นั่นเอง บราเดอร์ให้ความสำคัญต่อความสำเร็จของลูกค้า ( Customer Success ) เป็นอันดับ 1 เพื่อให้ลูกค้ามีความสุข ประสบความสำเร็จ ให้สมกับที่ลูกค้าไว้วางเลือก บราเดอร์ เป็นแบรนด์ในดวงใจ
ด้าน นายพรภัค อุไพศิลป์สถาพร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นอกจากการให้บริการที่เป็นเลิศแล้ว เรายังให้ความสำคัญในเรื่องของสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมา บราเดอร์ ได้ปรับปรุงการทำงานตามมาตรฐาน ไอเอสโอ 14001 หรือระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ที่จะต้องมีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งได้ทำต่อเนื่องมา 6 ปีแล้ว และจะทำต่อไป นอกจากนี้บริษัทยังได้ทำการยกระดับสำนักงานโดยผ่านการทำมาตรฐาน Green Office อันเกิดจากความมุ่งมั่นในการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ Sustainable Development Goals ที่ครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่ปี 2563-2593 โดยมุ่งเน้นใน 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย เพิ่มการหมุนเวียนทรัพยากรสูงสุด ส่งเสริมสังคมที่ไร้คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ และผลลัพธ์สุทธิที่เป็นบวกในระบบนิเวศน์ ผ่านนโยบาย Environmental Vision 2050 ส่งผลให้บราเดอร์ได้รับเหรียญทองจากการประเมินของสำนักงานสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Office) ระดับดีเยี่ยม ตั้งแต่ปี 2564
“ทั้งหมดล้วนเป็นการดำเนินการตามพันธสัญญาสากลที่ บราเดอร์ ยึดถือมาโดยตลอดคือความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนท้องถิ่นที่บราเดอร์ได้เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง และแนวทาง กรีน นี้ ได้ทำการปลูกฝังลึกลงไปในหัวใจของพนักงานทุกคน จนสะท้อนออกมาในการทำงาน ซึ่งการมีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมในระดับสูง ไม่เพียงแต่จะทำให้ชุมชนท้องถิ่นมีสิ่งแวดล้อมดีขึ้น แต่ยังเป็นประโยชน์ในการเพิ่มจุดแข็งเพื่อสร้างความได้เปรียบในด้านการดำเนินธุรกิจให้กับทางบริษัทอีกด้วย เพราะการไปเจรจากับลูกค้าองค์กร เช่น บริษัทเอกชนต่าง ๆ จะมีข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมด้วย หากไม่ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะเสียโอกาสในการทำธุรกิจ รวมถึงกิจกรรมพิเศษเพื่อชุมชนท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่บริษัทฯ จัดให้มีขึ้นทุกปี โดยคำนึงถึงความต่อเนื่องและยั่งยืน (Sustainability) ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นวางไว้ และบราเดอร์ทั่วโลกยึดถือร่วมกัน
ปี 2567 บราเดอร์ ยังคงมุ่งหน้าที่จะยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ การให้บริการ การตอบแทนสู่สังคม เพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าสูงสุด และเกิดความภักดีต่อแบรนด์ต่อไป
ขาช้อปห้ามพลาด! ปริ้นเตอร์ มัลติฟังก์ชันอิงค์แท็งก์ รุ่นยอดนิยมอย่าง DCP-T220 ลดแรงช็อตฟีลเหลือ 3,490 บาท จากราคาปกติ 4,490 บาท มาพร้อมกับรุ่น DCP-T520W ลดเหลือเพียง 4,990 บาท จากปกติ 5,790 บาท เพื่อให้ลูกค้าทุกคนเริ่มต้นปี ด้วยช่วงเทศกาลแห่งความสุขทั้งปีใหม่ต่อเนื่องถึงตรุษจีนนี้ เป็นปีแห่งความราบรื่น เสมือนงานพิมพ์ที่ใช้ ปริ้นเตอร์ บราเดอร์ ทำงานอย่างราบรื่นไม่มีสะดุดในทุกสถานการณ์ พร้อมฟังก์ชั่นระบบ AI ล้างหัวพิมพ์อัตโนมัติ ป้องกันอาการหมึกตัน ช่วยยืดอายุการทำงาน และใช้หมึกพิมพ์ได้อย่างคุ้มค่าสูงสุด
ไม่เพียงเท่านี้ เต็มอิ่มกับแพ็คเกจสุดพิเศษ ด้วยชุดหมึกพิมพ์แท้ภายในกล่อง สามารถผ่อนชำระด้วยดอกเบี้ย 0% กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการฯ (เฉพาะรุ่น DCP-T520W) และรับประกันศูนย์ทั่วประเทศนานถึง 2 ปี ไม่ช้อปรอบนี้ จะช้อปอีกทีเมื่อไหร่! ตั้งแต่วันนี้ – 15 กุมภาพันธ์ 2567 เท่านั้น