

บริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คอร์ปอเรชั่น (Mitsubishi Electric Corporation หรือ MELCO) จากญี่ปุ่น ร่วมมือกับ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) ประกาศร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนเป้าหมายความยั่งยืนใน 2 ด้าน ได้แก่ 1. ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสู่ด้านระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และ เทคโนโลยีการรีไซเคิลขยะพลาสติก 2. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและเศรษฐกิจหมุนเวียน สอดคล้องกับเป้าหมายของทั้งสององค์กร ในการมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 โดยมิตซูบิชิ อิเล็คทริค จะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยยกระดับกระบวนการทำงานในธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ และต่อยอดไประดับภูมิภาค ที่นำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และ บุคลากร มาร่วมกันพัฒนา รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ระบบดิจิทัล และโซลูชันที่ตอบโจทย์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน รวมไปถึงการพัฒนาระบบรีไซเคิลพลาสติก โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของมิตซูบิชิ อิเล็คทริค นอกจากนี้ทั้งสองบริษัทจะร่วมมือพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจร่วมกัน และยังมีแผนการพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคตร่วมกัน ซึ่งจะทำให้คนไทยมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นด้านเทคโนโลยีอัตโนมัติ รวมไปถึงเมืองอัจฉริยะ และต่อยอดไปถึงงานวิจัยด้านเทคโนโลยี
โดยความร่วมมือครั้งนี้มี นายเคอิ อุรุมะ (Kei Uruma) ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คอร์ปอเรชั่น ร่วมลงนามกับนายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วย นายทาดาชิ มัทซึโมโต (Tadashi Matsumoto) รองประธานบริหารมิตซูบิชิ อิเล็คทริค คอร์ปอเรชั่น และนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วยนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ อาคารทรู ทาวเวอร์ รัชดา กรุงเทพฯ
นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า “การพัฒนาอย่างยั่งยืนไม่ใช่เพียงแค่เป้าหมายของเรา แต่คือความรับผิดชอบร่วมกันของทุกภาคส่วน ความร่วมมือกับมิตซูบิชิ อิเล็คทริค ในครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้เครือซีพีก้าวไปข้างหน้าในเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอนและเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจของไทยและอาเซียน เครือซีพีมุ่งมั่นที่จะใช้จุดแข็งทางธุรกิจและเครือข่ายเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการพัฒนาโมเดลธุรกิจที่ตอบโจทย์อนาคต นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาบุคลากรที่เป็นเรื่องที่เครือให้ความสำคัญ”
นายเคอิ อุรุมะ (Kei Uruma) ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับกลุ่มบริษัทเครือซีพี ซึ่งเป็นองค์กรที่มีปรัชญาและความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างประโยชน์แก่ประเทศและภูมิภาคอาเซียนความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในไทยและอาเซียน พร้อมมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน รวมถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยเฉพาะการรีไซเคิลพลาสติก ซึ่งกำลังมีบทบาทสำคัญในระดับโลกและเป็นกุญแจสำคัญในการปรับตัวตามระเบียบสหภาพยุโรปเกี่ยวกับยานยนต์ที่หมดอายุ ELV (End of Life Vehicles) ด้วยประสบการณ์กว่า 60 ปีของมิตซูบิชิ อิเล็คทริค ในประเทศไทย และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เราเชื่อมั่นว่าการจับมือกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ในครั้งนี้จะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสร้างผลลัพธ์ที่มีคุณค่าให้กับประเทศไทยและภูมิภาคในทุกมิติ”
ในรายละเอียดของความร่วมมือในด้าน “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” เครือซีพีเตรียมนำระบบ SCADA ของมิตซูบิชิ อิเล็คทริค ติดตั้งในโรงงานและฟาร์มของบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหารหรือ ซีพีเอฟ เพื่อบริหารจัดการการใช้พลังงานพร้อมทดลองโซลูชันประหยัดพลังงานในร้านค้าปลีกของซีพี แอ็กซ์ตร้า เช่น แม็คโคร และโลตัสโดยเริ่มที่กรุงเทพฯ เป็นกลุ่มแรก จากโซลูชันเหล่านี้ ทั้งสองบริษัทตั้งเป้าลดการใช้ไฟฟ้าของร้านค้าที่ทดสอบลงมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าในปัจจุบัน ขณะเดียวกันทั้งสองบริษัทจะลดการใช้พลังงานในเครือซีพีโดยขยายการใช้ความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานที่ได้รับจากโครงการข้างต้น รวมถึงนำโซลูชันการประหยัดพลังงานของมิตซูบิชิ อิเล็คทริคไปใช้ในร้านค้าปลีก โรงงาน อาคาร ศูนย์ข้อมูล และสถานที่อื่น ๆ ของกลุ่มซีพี ไปพร้อมกับการสำรวจโอกาสทางธุรกิจจากดำเนินงานดังกล่าวควบคู่ด้วย
สำหรับความร่วมมือในด้าน “เศรษฐกิจหมุนเวียน” ทั้งสองฝ่ายจะศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาระบบรีไซเคิลพลาสติก โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของมิตซูบิชิ อิเล็คทริค ผสานกับความเชี่ยวชาญด้านการจัดการธุรกิจของเครือซีพี ครอบคลุมการจัดการพลาสติก ตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนการขยายผลไปยังบริษัทชั้นนำด้านค้าปลีก รวมไปถึงสมาคมอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
พลเรือเอกจิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ รับมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่อสวัสดิการกำลังพลกองทัพเรือและครอบครัว ของกรมสวัสดิการทหารเรือ อ.บางพระ จ.ชลบุรี จากมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ โดยมี นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ นำคณะผู้บริหาร ส่งมอบโครงการฯ ณ สำนักงานผู้บัญชาการทหารเรือ กองบัญชาการกองทัพเรือ (พระราชวังเดิม) กรุงเทพฯ
พลเรือเอกจิรพล ว่องวิทย์ เปิดเผยว่า กองทัพเรือ และซีพีเอฟ มีความร่วมมือกันมานานกว่า 30 ปี และในครั้งนี้เป็นการร่วมกันพัฒนากิจกรรมของศูนย์เกษตรกรรมทหารเรือบางพระ จ.ชลบุรี กรมสวัสดิการทหารเรือ ทำให้กำลังพลของกองทัพเรือและครอบครัวมีฟาร์มไก่ไข่มาตรฐาน ผลิตไข่ไก่คุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล กำลังพลและครอบครัวได้บริโภคไข่ไก่คุณภาพดี ซึ่งการจัดทำแปลงสาธิตด้านเกษตรกรรม จะเป็นแหล่งเรียนรู้และเป็นสวัสดิการแก่กำลังพลของกองทัพเรือและครอบครัว โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ และซีพีเอฟ ในการสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ ตลอดจนการจัดซื้อพันธุ์ไก่ไข่และอาหารสัตว์ในราคาพิเศษ สามารถขับเคลื่อนโครงการฯ ให้มีความมั่นคงยั่งยืน
“กองทัพเรือ ซีพี และซีพีเอฟ มีเป้าหมายเดียวกันในการมุ่งพัฒนากำลังคนด้านการเกษตรสมัยใหม่ ที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนโครงการและการปรับปรุงโรงเรือนมาตลอด ล่าสุดบริษัทฯ เข้ามาปรับปรุงและซ่อมแซมโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ 3 โรงเรือน ให้ได้มาตรฐานและถูกสุขลักษณะ ช่วยให้ประสิทธิภาพการผลิตดียิ่งขึ้น ทำให้มีผลผลิตไข่ไก่จำหน่ายและลดภาระค่าใช้จ่าย” ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าว
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ กล่าวว่า จากปรัชญา 3 ประโยชน์ ของประธานอาวุโสเครือซีพี ธนินท์ เจียรวนนท์ และความมุ่งมั่นร่วมร้อยเรียงความดี จึงได้มอบโครงการที่เป็นประโยชน์แก่กองทัพเรือ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลประเทศชาติและประชาชน เครือซีพีและซีพีเอฟได้ให้การสนับสนุนภารกิจของกองทัพมาโดยตลอด โดยเฉพาะกิจการเกษตรกรรมกองทัพเรือ ซึ่งบริษัทฯ สนับสนุนมาเป็นเวลามากกว่า 3 ทศวรรษ ด้วยการนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีทันสมัยและองค์ความรู้ มาช่วยส่งเสริมและพัฒนาระบบการเลี้ยงสัตว์มาตรฐาน มอบโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ระบบปิด (EVAP) แก่ศูนย์เกษตรกรรมทหารเรือบางพระ เมื่อปี 2545 เพื่อเป็นสวัสดิการแก่กำลังพลกองทัพเรือและครอบครัว ครั้งนี้บริษัทฯ สนับสนุนการปรับปรุงระบบ EVAP อุปกรณ์การเลี้ยง ระบบให้น้ำ ระบบฝ้าเพดานและม่านด้านข้าง ตาข่ายกันนกและกันงู
“การดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ถือเป็นความร่วมมือทางวิชาการและกิจการเพื่อสังคมที่บริษัทฯ ร่วมสนับสนุนเป้าหมายกองทัพเรือที่ต้องการสร้างแหล่งเรียนรู้และเป็นสวัสดิการแก่กำลังพลกองทัพเรือและครอบครัว โดยมอบงบประมาณพร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้จากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของซีพีเอฟ เพื่อให้บุคลากรสามารถนำเทคนิควิชาการที่ได้รับ ไปดำเนินโครงการได้เอง และต่อยอดสู่การเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้แก่ผู้อื่นต่อไป” นายประสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ฝ่ายเกษตรกรรมทหารเรือบางพระ จัดทำแปลงสาธิตด้านเกษตรกรรม อาทิ การเลี้ยงสุกร การเลี้ยงไก่ไข่ เพื่อจำหน่ายให้กับกำลังพลกองทัพเรือและครอบครัว และประชาชน ขณะเดียวกัน ยังเป็นแหล่งฝึกอาชีพให้กับกำลังพลและครอบครัว เพื่อให้มีอาชีพติดตัวยามเกษียณอายุราชการ ปัจจุบัน โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ กำลังอยู่ในขั้นตอนการปรับปรุงระบบการเลี้ยงใน 3 โรงเรือน เลี้ยงไก่โรงเรือนละ 5,000 ตัว คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568
ห้าดาว (FIVE STAR) เปิดตัว 'ชีสซี่จ๊อ (Cheesy Jor)' หรือ ไก่จ๊อรสชีส เมนูน้องใหม่! จะเป็นยังไงเมื่อเมนู “ไก่จ๊อ” เมนูท๊อประดับตำนานของห้าดาว กลับมาพลิกโฉมความอร่อยรูปแบบใหม่ เพิ่มรสชาติความนัวด้วยเชดดาชีสอย่างลงตัว อิ่มง่ายๆ ได้โปรตีนจากเนื้อไก่คุณภาพสูง ห่อฟองเต้าหู้ทอดเสิร์ฟร้อนๆ กรอบนอกนุ่มใน กลิ่นชีส หอม อร่อยเนื้อไก่เน้นๆทุกคำ รับรองความฟินจนหยุดไม่ได้! เหมาะกับทุกมื้อ ทุกโอกาสสำหรับทุกคน ในราคาพิเศษ 25 บาท (ปกติ 30 บาท) ตั้งแต่วันนี้ - 28 กุมภาพันธ์ 2568 สินค้ามีจำนวนจำกัดต่อวัน ช้าหมด อดนัว!!
ใครที่อยากลิ้มลองความอร่อยของ 'ชีสซี่จ๊อ' สามารถหาซื้อได้ที่ ร้านไก่ย่างห้าดาวทุกสาขา หรือ Star Delivery : https://fivestar.in.th/deliverylocation/ รวมถึง Grab food : https://bit.ly/3DYox0o, LINE MAN : https://bit.ly/3TywErg และ True Food : https://bit.ly/smTF เราพร้อมเต็มเติมให้มื้ออาหารธรรมดา ให้กลายเป็นมื้อพิเศษ
แม้วันนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ในหลายจังหวัดจะเริ่มคลี่คลาย ปริมาณน้ำที่เคยท่วมสูงเริ่มลดลง พี่น้องประชาชนกลับเข้าบ้านเรือนได้ แต่เรื่องอาหารการกินยังคงไม่เพียงพอในหลายพื้นที่ เรื่องนี้ CP – CPF และบริษัทในเครือฯ ยังคงเดินหน้าช่วยสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม องค์กรอาสาต่างๆอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ 'CP-CPF ส่งอาหารจากใจ สู้ภัยน้ำท่วม'
วันนี้ CPF มอบไก่สด ไข่ไก่ ไก่พร้อมปรุงและไก่จ๊อจากธุรกิจห้าดาว เพื่อสนับสนุนภารกิจของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ในการผนึกกำลังร่วมกับจังหวัดพัทลุง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดพัทลุง โดยมี นายก้องสกุล จันทราช รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และนายสัจรินทร์ ศรีเสน ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 (สงขลา) พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพัทลุง และเหล่ากาชาดจังหวัดพัทลุง ร่วมรับมอบ ณ โรงครัวเคลื่อนที่ วัดสะทัง อำเภอเขาชัยสน จ.พัทลุง
ด้านจังหวัดสงขลา นางสาวภัชรินทร์ ภู่เยี่ยม นำทีมงานจิตอาสา CPF ธุรกิจสัตว์น้ำภาคใต้ ร่วมกันส่งมอบไข่ไก่ แก่ นายนพดล สุระสังวาลย์ นายอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เพื่อสนับสนุนโรงครัวกลางชะแล้ ต. ชะแล้ อ.สิงหนคร
“จากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก เราจึงเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน สำหรับเรื่องอาหารได้รับการสนับสนุนจาก CPF โดยทีมจิตอาสาจากฟาร์มลูกกุ้งสิงหนคร ฟาร์มอนุบาลลูกกุ้งศรีระโนด และฟาร์มเลี้ยงกุ้งระโนด ร่วมกันนำน้ำดื่ม ข้าวสาร สำหรับจัดทำถุงยังชีพเพื่อแจกจ่ายประชาชนในเบื้องต้น และล่าสุดมอบไข่ไก่แก่โรงครัวกลางฯ เพื่อประกอบเป็นอาหารปรุงสุกสดใหม่มอบถึงมือผู้ประสบอุทกภัย ขอขอบคุณ CP และ CPF ที่เป็นหน่วยงานแรกๆที่เข้ามาช่วยเหลือชาวสิงหนครและชาวใต้ให้ผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกัน” นายอำเภอสิงหนคร กล่าว
นอกจากนี้ บริษัท ยังส่งมอบเนื้อไก่สดและไข่ไก่สด แก่ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เพื่อสนับสนุนการจัดทำโรงครัว ทำอาหาร และน้ำดื่ม สำหรับมอบให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ชาวสงขลา
ทางด้าน ทีมงานจิตอาสา โรงงานแปรรูปไก่สงขลา อ.จะนะ มอบไก่สดแก่ครัวกลางมัสยิดเกาะแต้ว ที่ได้ระดมทุนจัดทำข้าวกล่องประมาณ 650 กล่อง ส่งมอบถึงมือพี่น้องผู้ประสบภัยใน ต.สะกอม อ.จะนะ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนเนื้อไก่ ให้แก่ ครัวรัตภูมิ และโรงครัวอาสา ช่วยพี่น้องชาวใต้ โดยมูลนิธิเนชั่น ร่วมกับเครือข่ายช่วยเหลือประชาชนภาคใต้และภาคเอกชน ขณะที่ทีมจิตอาสายังร่วมกับเทศบาลตำบลนาทับ ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงงานฯ ในการแจกจ่ายสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นและถุงยังชีพแก่ชุมชนรอบโรงงาน ส่วนจิตอาสาโดยทีมงานธุรการ CPF ภาคใต้ ยังทำหน้าในการรับไข่ไก่จากคอมเพล็กซ์ไก่ไข่จะนะ เพื่อส่งต่อให้กับ มณฑลทหารบกที่ 46 (ค่ายอิงคยุทธบริหาร)
จุรี ยูทูบเบอร์ดังของภาคใต้ที่เป็นเครือข่ายความดีซึ่งได้ร่วมช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้มาตั้งแต่ต้น ขอเป็นตัวแทนพี่ของน้องชาวจะนะ เทพา สะบ้าย้อย รวมถึงพี่น้องในสามจังหวัดชายแดน ขอขอบคุณ CP - CPF ที่ได้ช่วยเหลือชาวชุมชนทุกคนอย่างรวดเร็ว การมอบผลิตภัณฑ์กุ้ง CP ซึ่งเป็นอาหารฮาลาลที่ชาวมุสลิมรับประทานได้ ผ่านครัวกลางอำเภอจะนะ ช่วยให้อาหารของเราเข้าถึงชุมชน และบริษัทยังเดินหน้าช่วยในหลายพื้นที่ช่วยคลายความเดือดร้อนแก่ชาวใต้ได้เป็นอย่างดี
ด้าน นายมนตรี ฤทธิจอม ปลัดอำเภอ รักษาราชการแทนนายอำเภอระโนด กล่าวว่า แม้ขณะนี้ปริมาณน้ำฝนจะลดลงไปมากแล้วก็ตาม หากแต่พื้นที่ตำบลบ้านขาวเป็นพื้นที่รับนำจากทางเทือกเขาบรรทัดทั้งหมด ซึ่งปกติน้ำส่วนนี้ต้องระบายออกในฝั่งอ่าวไทย แต่ขณะนี้ไม่สามารถระบายออกได้สะดวก ทำให้พื้นที่จุดนี้กลายเป็นพื้นที่รับน้ำทั้งหมด จึงเกิดน้ำท่วมขัง ขอขอบคุณ CP-CPF ที่ได้มอบผลิตภัณฑ์อาหารสด ทั้งเนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ไก่ และน้ำดื่ม สนับสนุนโรงครัวระโนด ในการทำอาหารพร้อมทานสำหรับชาวชุมชนทุกคน ทางด้าน นายสุนทร ช่วยแท่น กำนันต.บ้านขาว อ.ระโนด กล่าวเสริมว่า ภาวะน้ำท่วมขังส่งผลต่อการเดินทางเข้าออกของประชาชนยังยากลำบาก วันนี้ได้ร่วมกับส่วนจังหวัด หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น CP-CPF มาร่วมกันแจกของใช้จำเป็นและจัดทำโรงครัวช่วยเหลือเบื้องต้น ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความสำคัญกับความเดือนร้อนของน้องชาวใต้ ด้าน นางณิชกานต์ สันหนู สารวัตรกำนันตำบลบ้านขาว อ.ระโนด กล่าวว่า ตำบลบ้านขาว หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 6 ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมถึง 80% เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำและอยู่ติดกับทะเลสาบสงขลา ได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนสูง ปัจจุบันได้ตั้งโรงครัวมาเป็นวันที่ 3 แล้ว โดยจัดทำข้าวกล่องแจกจ่าย วันละประมาณ 600 กล่อง ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านอาหารสดจาก CP-CPF เป็นอย่างดี
โครงการ ‘CP-CPF ส่งอาหารจากใจ สู้ภัยน้ำท่วม’ จากนโยบาย “ซีพีเอฟพร้อมให้การสนับสนุนโรงครัวภาคใต้ 100 โรงครัว” ของนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร CPF จะยังคงดำเนินต่อไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อให้พี่น้องชาวใต้ผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกัน