February 22, 2025

ลุยพลิกโฉม ‘SMEs ภาคกลาง-อีสาน’ สร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย AI และ Digital Transform

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) จับมือ พาร์ทเนอร์รัฐ-เอกชน เตรียมเปิดตัวโครงการ “SMEs GROWTH 2025 พลิก SMEs ไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน” เร่งเครื่องหนุน SMEs ใน 2 พื้นที่ ‘ภาคกลาง-อีสาน’ ให้พร้อมปรับตัวและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง รับยุคดิจิทัลด้วย AI และ Digital Transformation พร้อมเชื่อมเครือข่ายทางธุรกิจ ‘Tech Provider-ภาครัฐ-เอกชน’ ร่วมสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อการเติบโต ไปกับองค์ความรู้ ประสบการณ์ และบริการดิจิทัลที่ตอบโจทย์ เพื่อให้ SMEs ในพื้นที่เติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย

ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของโครงการ ‘SMEs GROWTH’  ในปีที่แล้วกับการนำพา SMEs ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และ ภาคใต้ ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของเทคโนโลยีดิจิทัลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน สู่การสานต่อ “SMEs GROWTH 2025 พลิก SMEs ไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน” ที่ปีนี้ ETDA พร้อมด้วยพาร์ทเนอร์ ภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานในท้องถิ่น เตรียมลงพื้นที่มุ่งขยายผลความสำเร็จสู่ SMEs ใน 2 ภูมิภาคสำคัญ ‘ภาคกลางและภาคอีสาน’ พื้นที่ศูนย์กลางแห่งเศรษฐกิจที่มีศักยภาพของไทย ให้พร้อมปรับตัวและเติบโตได้อย่างแข่งแกร่ง รองรับยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยี AI และ Digital Transformation ตลอดจนองค์ความรู้ ประสบการณ์ จากเหล่าเครือข่ายทางธุรกิจ ทั้ง Tech Provider หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนหน่วยงานในท้องถิ่น ที่จะมาร่วมกันสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อการสร้างโอกาสและการเติบโต พา SMEs ก้าวสู่โลกดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน 

ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมแก่ SMEs ตลอดจน Tech Provider และเครือข่ายธุรกิจ ในพื้นที่ภาคกลางหรือภาคอีสาน ETDA จึงจับมือ พาร์ทเนอร์ภาครัฐ เอกชน เตรียมจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ  “SMEs GROWTH 2025 พลิก SMEs ไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน” อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ณ Glowfish ชั้น M อาคารขอนแก่นอินโนเวชั่นเซ็นเตอร์ จังหวัดขอนแก่น โดยกิจกรรมภายในงานแถลงข่าว นอกจากการนำเสนอรายละเอียดและเงื่อนไขในการรับสมัคร SMEs เข้าร่วมกิจกรรม Business Matching กับโครงการ SMEs GROWTH 2025 แล้ว ยังมีเวทีของการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมองจาก ผู้บริหาร ผู้นำองค์กร ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายหน่วยงานที่จะมารวมกันที่งานนี้ด้วย อย่าง เสวนาพิเศษหัวข้อ “Tech เพื่อคนทำธุรกิจ - ต้อง Digital Transform แบบไหนให้พลิกโอกาสได้จริง ?” โดย คุณมีธรรม ณ ระนอง รองผู้อำนวย ETDA, คุณประดิษฐ์ คงภูงา ผู้จัดการสาขาภาคอีสานตอนกลาง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล, คุณปรนนท์ ฐิตะวรรโณ ประธานสถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, คุณปริญญา เลื่อนชิด รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และเตือนภัยทางเศรษฐกิจ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ คุณภาคภูมิ พัฒนเศรษฐานนท์ รองประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น หอการค้าจังหวัดขอนแก่น เป็นต้น

ETDA จึงขอเชิญชวน SMEs และ Tech Provider หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนหน่วยงานในท้องถิ่นในภาคกลางและภาคอีสาน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ไปพร้อมกันกับ ETDA และ SMEs GROWTH 2025 พลิก SMEs ไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน” ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568

ถ่ายทอดสดพร้อมกันที่เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand (https://www.facebook.com/ETDA.Thailand)

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จับมือพาร์ทเนอร์ทั้งภาครัฐ-เอกชน  จัดเทศกาลสำหรับคนยุคดิจิทัล ในงาน “VEER: Future Readiness Festival” เพื่อจำลองมุมมองอนาคตของคนไทย หลากหลายกิจกรรมไฮไลท์ที่ตอบโจทย์ทุกเจนเนอเรชั่น เพื่อให้ทุกคนเตรียมพร้อมสู่อนาคตดิจิทัลอย่างมั่นใจ เจอกัน! 26-27 กันยายนนี้ ณ ลานกิจกรรมหน้า KFC ชั้น G สามย่านมิตรทาวน์

ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA เปิดเผยว่า งาน “VEER: Future Readiness Festival” จัดขึ้นเพื่อตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของโลกดิจิทัล พร้อมชวนคิดในมุมของการเตรียมตัว เพื่อก้าวข้ามความท้าทาย พร้อมเดินหน้าไปสู่อนาคตที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ภายใต้แนวคิด “VEER: เปลี่ยนทิศทาง สู่อนาคตอย่างมั่นใจ” ที่มีเป้าหมายหลักคือการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เป็นพันธมิตรของ ETDA ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์คาดการณ์อนาคต หรือ ศูนย์ Foresight Center by ETDA ในการจัดกิจกรรมนี้ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคน ทุกเจเนอเรชันได้มีส่วนร่วม สู่การยกระดับศักยภาพด้านดิจิทัลของคนไทยในมิติต่างๆ อย่างรอบด้าน

โดย “VEER: Future Readiness Festival” ถือเป็นเทศกาลดิจิทัลครั้งสำคัญ ที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นการเรียนรู้และร่วมสร้างความตระหนักรู้ด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ด้วยการผสมผสานกิจกรรมที่สนุกสนานและได้ความรู้ ที่สอดคล้องกับกับผู้สนใจทุกกลุ่มวัย ซึ่งมี 3 ไฮไลท์จาก 3 โซนหลัก ที่เจาะกลุ่มทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และผู้สูงวัย ตลอด 2 วันเต็ม! ระหว่างวันที่ 26-27 กันยายนนี้ ได้แก่

1. Gen Alpha - Gen Z: เสริมทักษะแห่งอนาคตด้านดิจิทัล ใน Concept:“DIGITAL FUTURE SKILLS for the Generation of Hope in Thailand” ไปกับกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะโซน “Future Skills” คุณจะได้สนุกไปกับเกม Interactive ที่ไม่เพียงแต่ท้าทายความสามารถ แต่ยังช่วยปลดล็อกทักษะด้านดิจิทัลผ่านกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ เช่น เกมปั่นจักรยานและเกมเต้น ที่จะช่วยให้คุณได้ทดลองความสามารถและเตรียมตัวเข้าสู่โลกการทำงานแห่งอนาคตอย่างมั่นใจที่มาพร้อม โอกาสพิเศษ! พบปะ พูดคุยกับเหล่าหน่วยงานชั้นนำ อย่าง มูลนิธิโลกสีเขียว, VISAI AI, Psycholism และ CMKL University ที่ทำให้คุณได้เปิดมุมมอง พร้อมรับคำแนะนำตรงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการตลาดแรงงานดิจิทัล ที่จะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้ตรงจุดและรู้ว่าทักษะใดที่ต้องพัฒนาเพื่อคว้าโอกาสในอนาคตที่สำคัญโซนนี้จัดเต็ม! ด้วยกิจกรรมที่จะช่วยคุณค้นหาศักยภาพและความสนใจในทักษะดิจิทัลที่ตรงกับอนาคตพาคุณก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้!

2.Gen X - Gen Y: ปั้นผู้ประกอบการไทยให้พร้อมก้าวไกลสู่ระดับโลก ใน Concept:  “GOING GLOBAL with DIGITAL for Thai Entrepreneurs Ready for the Future” โซนนี้จัดหนัก จัดเต็ม สำหรับผู้ประกอบการโดยเฉพาะที่คุณจะได้พบกับกิจกรรมสุดล้ำ “Today’s Problems, Tomorrow’s Future” ที่จะเปลี่ยนปัญหาทางธุรกิจที่คุณพบเจอในวันนี้ ให้กลายเป็นโอกาสใหม่ในวันพรุ่งนี้ ผ่าน Interactive Quest ที่จะจับคู่คุณกับ Business Assistants จากหน่วยงานชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Amazon Global Selling Thailand, Lazada (Thailand), Kerry Logistics (Thailand) และ LiVE Platform โดย บริษัทไลฟ์ ฟินคอร์ป จำกัด ในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อช่วยคุณปรับตัวและเตรียมความพร้อมเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย อาทิ กิจกรรม “Hit That Button!” ที่จะให้คุณเลือกพาร์ทเนอร์ที่ต้องการพูดคุยแบบ Exclusive เพียงสะสมคะแนนให้ครบตามเป้า แล้วคุณจะได้โอกาสพูดคุยและรับคำแนะนำที่ตรงจุดจากผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมี Business Showcase ที่น่าตื่นเต้นจาก YT Engineering System และ S&N Food and Beverage Group ที่จะนำเสนอ EV TukTuk ในรูปแบบ Food Truck มาให้คุณได้เห็นถึงศักยภาพของธุรกิจนวัตกรรมไทย ย้ำเลย! เป็นโอกาสของคุณกับการก้าวสู่การนำไอเดียไปต่อยอดธุรกิจสู่ความสำเร็จในระดับสากล

3. Gen Baby Boomer: สร้างความตระหนักรู้ทางดิจิทัลเพื่อความปลอดภัยในอนาคต ที่มาใน Concept สุดว้าว!! : “DIGITAL AWARENESS: Building Immunity for Future Safety” จัดเต็มกับหลากหลายกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทางดิจิทัลให้คุณปลอดภัยจากภัยออนไลน์ในอนาคต พบกับประสบการณ์เสมือนจริงผ่านกิจกรรม Incoming Call… ‘Scammer’ ที่คุณจะได้จำลองสถานการณ์การเจอมิจฉาชีพในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันและที่อาจเจอในอนาคต ที่สำคัญ ในโซนนี้ คุณจะได้ทดสอบทักษะในการรับมือกับมิจฉาชีพ เริ่มจากการรับสายปลอมจาก Scammer ที่จะลองทดสอบความสามารถในการสังเกตจุดที่น่าสงสัย จากนั้นเตรียมตัวเจอกับสถานการณ์จำลองที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นเพื่อหลอกลวง โดยผู้เข้าร่วมต้องเอาตัวรอดให้ได้จากด่านทดสอบสุดท้าทาย พร้อมสะสมคะแนนเพื่อพิสูจน์ว่าคุณสามารถป้องกันตัวเองจากภัยออนไลน์ได้จริง รับรอง! นอกจากความสนุกแล้ว กิจกรรมนี้ยังมอบความรู้และเทคนิคในการสังเกตพฤติกรรมของมิจฉาชีพ ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และช่วยเสริมความตระหนักรู้ในโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ทำคะแนนผ่านจะได้รับสิทธิพิเศษถ่ายรูปที่ระลึก แสดงถึงความพร้อมของคุณในการรับมือกับภัยคุกคามดิจิทัลอย่างมั่นใจ!

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด!!  คือเวทีกลาง ที่รวบรวม Speaker ผู้เชี่ยวชาญและผู้นำในวงการดิจิทัล มาร่วมแลกเปลี่ยน สะท้อนมุมมองผ่านหัวข้อสุดเข้มข้นจัดเต็มทั้ง 2 วันเลย อย่าง Day 1 (26 กันยายน) นอกจากกิจกรรมเปิดงานอย่างเป็นทางการ ที่ได้รับเกียรติ จาก ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาร่วมเป็นประธานเปิดงานในครั้งนี้แล้ว คุณจะได้พบกับหลากหลาย Session ทั้งการเปิดวงเวทีเสวนาจากตัวแทนคนอยู่ “หน้างาน” กับการเป็น “Hero” ในสังคม ผู้ที่เป็นทั้งเบื้องหน้าในการเปิดโปงคนหลอกลวง และเบื้องหลังในการสอดส่องดูแล จากหน่วยงานชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์ชัวก่อนแชร์ อสมท., กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.), กองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่จะมาร่วมแชร์ประสบการณ์และวิธีการรับมือไม่ให้ทุกคนตกเป็นเหยื่อ ในหัวข้อ Special Topic: “Future Readiness of Survivors” ก่อนไปต่อกันในหัวข้อ Special Topic “Future Readiness of Winners” ที่ยกทัพ Speakers จากหลากหลายวงการชื่อทั้ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ Game Narrative จาก CMKL University, สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย (TGA), บรรณาธิการบริหารสื่อออนไลน์สเปซทีเอซ, นักร้องนักแสดง ที่มาร่วมกันแชร์ทักษะที่สำคัญในการเอาชนะความท้าทายในอนาคต สร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น และใน Day 2 (27 กันยายน) ที่พิเศษสุดๆ ! กับเวทีเสวนาแบบ Long Take ที่จะยาวต่อเนื่องแบบไม่พัก ไปกับผู้บริหารรุ่นใหม่จากองค์กรระดับประเทศ เช่น NECTEC, กสทช., สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC), Lazada Thailand, Kerry Logistics Thailand, Amazon Global Selling Thailand, องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย และ สำนักข่าว TODAY เป็นต้น ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์การทำงาน พร้อมเผยเทคนิคการเป็นผู้นำในการบริหารงานเพื่อพาองค์กรสู่การเติบโต พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ใน Special Topic: Future Readiness of Executive Visions”

ETDA ขอเชิญชวนทุกคน มาร่วมกิจกรรรมสนุก พร้อมๆ ลุ้นรับของรางวัล  ไปพร้อมกันได้ที่งาน “VEER: Future Readiness Festival” ในวันที่ 26 - 27 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น. ณ ลานกิจกรรมหน้า KFC ชั้น G สามย่านมิตรทาวน์  ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมได้ง่ายๆ เพียงลงทะเบียนผ่านลิงก์นี้ https://forms.gle/zZA7y7Fh5GbaRL919 ฟรี! ติดตามการอัปเดตข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page : Foresight Center by ETDA

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จับมือพาร์ทเนอร์ด้านกฎหมาย รัฐ-เอกชน จัดใหญ่! “e-Transaction Law Moot Court Competition 2024” รอบชิงชนะเลิศ ณ ห้องพิจารณาคดี 304 ศาลแพ่งรัชดา ขอแสดงความยินดีกับ ทีมไก่ย่างสามสหาย คว้าแชมป์ เป็นสุดยอดว่าที่นักกฎหมายรุ่นใหม่ พร้อมเข้าสู่เส้นทางอาชีพนักกฎหมายยุคดิจิทัล รับเงินรางวัล 60,000 บาท โล่รางวัล เกียรติบัตร และโอกาสร่วมเรียนรู้งานกับหน่วยงานชั้นนำของประเทศ

คุณจิตสถา ศรีประเสริฐสุข รองผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า ประเทศไทยได้มีกฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เข้ามาเป็นกลไกสำคัญในการรองรับสถานะทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้มีผลผูกพันและใชับังคับได้ตามกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2544 แล้ว ที่ตอนนี้ได้มีหลายๆ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างก็ได้มีความเข้าใจและนำหลักการของกฎหมายนี้ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานกันมากขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายภาคส่วนยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น อาจเกิดจากความไม่มั่นใจในความถูกต้องของการตีความทางกฎหมาย จนหลายครั้งต้องพึ่งพาความเห็นจากหน่วยงานราชการหรือบริษัทที่ปรึกษากฎหมายเข้ามาช่วยพิจารณา อีกทั้ง กฎหมายในหลายๆ ฉบับก็ยังมีการเชื่อมโยงมายังกฎหมายธุรกรรมฯ อีกด้วย

ดังนั้น ETDA ในฐานะหน่วยงานที่มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ ได้เห็นถึงความสำคัญของการบังคับใช้ตามกฎหมายดังกล่าว จึงได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์ ได้แก่ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กรมสรรพากร สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท สำนักกฎหมาย ดำเนิน สมเกียรติ และบุญมา จำกัด รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายไม่ว่าจะเป็น อัยการ ผู้พิพากษา ทนายความ ในการจัดแคมเปญ “การแข่งขันโต้เถียงปัญหากฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์โดยการแถลงการณ์ด้วยวาจาในชั้นอุทธรณ์ หรือ e-Transaction Law Moot Court Competition 2024” ขึ้นเป็นปีแรก เพื่อเป็นเวทีในการสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะนิสิต นักศึกษาสายกฎหมาย ได้ฝึกฝนทักษะในการแถลงการณ์ด้วยวาจาในชั้นอุทธรณ์ ภายใต้บริบทของกฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

กิจกรรม e-Transaction Law Moot Court Competition 2024 เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 หลังเปิดรับสมัครเพียงไม่นานก็มีทีมว่าที่นักกฎหมายจากหลากหลายสถาบันเข้าร่วมสมัครแข่งขันจำนวนมากถึง  59 ทีม ซึ่งทุกทีมได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมอบรมภาคทฤษฎี โดยผู้ทรงคุณวุฒิเฉพาะด้านจากหลากหลายหน่วยงานอย่างเข้มข้นเพื่อเตรียมพร้อมสู่เส้นทางอาชีพนักกฎหมายยุคดิจิทัลในอนาคต ก่อนเข้าสู่การแข่งขันในรอบคัดเลือกทั้ง 2 รอบ โดยรอบที่ 1 เป็นการแข่งขันในรูปแบบ “สรุปย่อคำแถลงการณ์” จากโจทย์ที่ว่าด้วยเรื่องของสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ ที่คัดให้เหลือ 8 ทีมจาก 59 ทีม เพื่อไปสู่การอบรมภาคปฏิบัติหรือ Workshop ก่อนที่จะไปแข่งขันกันในรอบที่ 2 ซึ่งเป็นการแข่งขันด้วย “การแถลงการณ์ด้วยวาจาในชั้นอุทธรณ์” ในรูปแบบออนไลน์ ที่คัดให้เหลือ 4 ทีมสุดท้ายจาก 8 ทีม ที่ได้ไปต่อใน “รอบรองชนะเลิศ” ซึ่งจะต้องจับคู่ประลองทักษะ “การแถลงการณ์ด้วยวาจาในชั้นอุทธรณ์” ณ ศาลแพ่งรัชดา เพื่อคัดให้เหลือ 2 ทีมสุดท้ายเข้าสู่ “รอบชิงชนะเลิศ”

วันนี้ (2 ส.ค.) ได้เข้าสู่โค้งสำคัญ ที่ทั้ง  2 ทีมสุดท้าย ซึ่งได้ผ่านเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เพื่อช่วงชิงความเป็นสุดยอดนักกฎหมายดิจิทัลยุคใหม่กับเวทีการแข่งขันครั้งนี้ ได้แก่ ทีมไก่ย่างสามสหาย และ ทีม IT Depends ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมา ทั้ง 2 ทีมได้เข้าร่วมการแข่งขันโต้เถียงปัญหากฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์โดยการแถลงการณ์ด้วยวาจาในชั้นอุทธรณ์ ณ ห้องพิจารณาคดี 304 ศาลแพ่งรัชดา ต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ คุณวีรภัทร ชัยรัตน์ (ผู้พิพากษาชั้นต้น) ประจำสำนักงานประธานศาลฎีกา, คุณปกรณ์ ธรรมโรจน์ (อัยการผู้เชี่ยวชาญ) สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 2  สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต สำนักงานอัยการสูงสุด และ คุณวรวงศ์ อัจฉราวงศ์ชัย (ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้น) ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด พร้อมตอบข้อซักถามจากคณะกรรมการ ก่อนที่คณะกรรมการจะร่วมกันพิจารณาภายใต้โจทย์และเกณฑ์การแข่งขันที่ครอบคลุมในประเด็นการประยุกต์ใช้ข้อกฎหมาย รวมถึงการให้เหตุผลที่มีข้อสนับสนุนที่น่าเชื่อถือ ตลอดจนบุคลิกภาพท่าทาง ความมั่นใจ รวมถึงการควบคุมอารมณ์ภายใต้ภาวะกดดัน เป็นต้น

ในที่สุด เวที e-Transaction Law Moot Court Competition 2024 ก็ได้ทีมสุดยอดว่าที่นักกฎหมายดิจิทัลยุคใหม่ โดยทีมที่ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมไก่ย่างสามสหาย ประกอบด้วย คุณวรวรรณตรา น่วมอินทร์ และคุณกานต์พิชชา ราชสีหา ได้รับเงินรางวัล 60,000 บาท ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ทีม IT DEPENDS ได้รับเงินรางวัล 40,000 บาท และ ทีมจริงจังจอมแก่น กับทีม SIXTY THOUSAND BAHT  รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ร่วมกัน รับเงินรางวัลทีมละ 15,000 บาท ทั้งนี้ ทุกทีมจะได้รับโล่รางวัลและเกียรติบัตร นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการเข้าร่วมฝึกงานหรือทำงานด้านกฎหมายกับหน่วยงานชั้นนำอีกด้วย

“นับเป็นครั้งแรกของการแข่งขัน Moot Court ที่ได้มีการนำกฎหมายฉบับสำคัญนี้มาเป็นโจทย์หลักในการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของการเตรียมความพร้อมให้กับนิสิต นักศึกษาที่ถือว่าเป็นว่าที่นักกฎหมายดิจิทัลที่จะมีส่วนสำคัญในการประยุกต์ใช้กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้มีความเข้าใจและมั่นใจมากขึ้น พร้อมก้าวสู่สายอาชีพกฎหมายดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยต่อยอดสู่การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ (Community & Networking) ระหว่างบุคลากรในสายกฎหมาย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการร่วมเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนการทําธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยในอนาคตต่อไป” คุณจิตสถา กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับผู้สนใจ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของแคมเปญ ตลอดจนกิจกรรมดีๆ จาก ETDA และพาร์ทเนอร์ รวมไปถึงความรู้สาระดีๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่จะทำให้คนไทยชีวิตดีเมื่อมีดิจิทัล เพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จับมือพาร์ทเนอร์ ได้แก่ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย, เทใจดอทคอม และมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย จัดการแข่งขัน EDC Pitching Season 2 รอบชิงชนะเลิศ ในหัวข้อ “Digital Wellness Lifestyle” เฟ้นหาสุดยอดแคมเปญที่รณรงค์การใช้งานออนไลน์อย่างพอดีและมีสติ ร่วมสร้างสุขภาพสังคมที่ดี ชิงเงินรางวัลรวม 150,000 บาท ถ่ายทอดสดเพื่อร่วมลุ้นพร้อมกัน 7 สิงหาคมนี้ ที่เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand

ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA  กล่าวว่า หลังจาก ETDA ได้จัดกิจกรรม ETDA Digital Citizen Pitching หรือ EDC Pitching Season 2  ในหัวข้อ “Digital Wellness Lifestyle” เพื่อเปิดเวทีเฟ้นหาไอเดียแคมเปญรณรงค์จากคนรุ่นใหม่ ที่จะมาร่วมโชว์ศักยภาพออกแบบสื่อหรือกิจกรรมที่มีเนื้อหาเชื่อมโยงกับหลักสูตร EDC ที่มุ่งเน้นให้เกิดการใช้งานออนไลน์อย่างเหมาะสม (Digital Use) พอดี มีสติ และมีความรับผิดชอบ เพื่อสร้างสุขภาพสังคมที่ดีกับชีวิตดิจิทัลที่เกิด Impact ต่อสังคมได้จริง ภายใต้โจทย์การแข่งขันสุดท้าทาย 3 โจทย์สำคัญ! ได้แก่ 1. Screen Time Management-การบริหารจัดการหรือจัดสรรเวลาในโลกออนไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 2. Digital Detox-การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตจริงและชีวิตออนไลน์ ลดหรือหยุดพักการใช้งานอย่างไร? ให้ส่งผลบวกต่อสุขภาพจิตใจ และ 3. Digital Mindfulness-การใช้งานออนไลน์แบบส่งเสริมการดำรงชีวิตที่มีความสุขและมีสุขภาพดี เพิ่มความเชื่อมโยงและการมีส่วนร่วมในโลกแห่งความเป็นจริง

โดยหลังจากเปิดรับสมัครแล้ว ทาง ETDA จึงได้จับมือพาร์ทเนอร์สำคัญ ได้แก่ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย, เทใจดอทคอม และมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย เพื่อร่วมคัดเลือกกันอย่างเข้มข้น ในที่สุดก็ได้ 10 ทีมสุดท้าย จากทั้งหมด 69 ทีม ได้แก่ 1. ทีมหน้าจอไม่ใช่โลกทั้งใบ 2. ทีมสตูดิโออยู่ในบ้าน 3. ทีมนอยด์อ่า 4. ทีมนางฟ้านางสวรรค์ 5. ทีม Play Spirit 6. ทีมขวัญตามหาชน (ไก่) 7. ทีม Yappy Yappah Aha!  8. ทีมทอมแอนด์เจอร์ รี 9. ทีม KSR Green-White Power และ 10. ทีม MANTA RAY  ที่ได้ไปต่อในกิจกรรม Workshop สุด Exclusive กับเหล่า กูรู ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลตัวจริง! ที่ร่วมกันช่วยลับคมไอเดีย เทคนิคการสร้างสรรค์แคมเปญเพื่อตอบโจทย์การแข่งขันและสอดคล้องกับ Lifestye ของคนไทย ก่อนไปต่อกับกิจกรรมการให้คำปรึกษา กับ Mentor จากองค์กรชั้นนำของไทย ที่มาช่วยในการแนะนำแนวทางการสร้างและพัฒนาแผนงานและเทคนิคดีๆ ในการ Pitching ก่อนก้าวสู่การแข่งขันจริงในรอบไฟนอล

ดังนั้น เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแคมเปญที่รณรงค์การใช้งานออนไลน์อย่างพอดีและมีสติ ร่วมสร้างสุขภาพสังคมที่ดี ภายใต้แนวคิด “Digital Wellness Lifestyle”  ETDA จึงเตรียมจัดการแข่งขัน EDC Pitching Season 2 รอบชิงชนะเลิศขึ้น ในวันที่ 7 สิงหาคม 2567 เวลา 10.30-16.00 น. ณ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 สยามพารากอน โดยรอบนี้ทั้ง 10 ทีม จะต้อง Pitching เพื่อนำเสนอแผน แนวคิดและแคมเปญหรือสื่อที่พัฒนาขึ้น ทีมละ 7 นาที ต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ  ได้แก่ คุณอัจฉราพร หมุดระเด่น ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ETDA และหัวหน้าโครงการ ETDA Digital Citizen (EDC), คุณศรีดา ตันทะอธิพานิช กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย, คุณสิรินาท ต่อวิริยะเลิศชัย Social Impact & Partnership Director เทใจดอทคอม และ คุณกันฐพงศ์ เจียวก๊ก ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ที่จะมาร่วมตัดสิน และซักถามทีมผู้เข้าแข่งขันเพื่อเฟ้นหาทีมเจ้าของสุดยอดแคมเปญไปกับ EDC Pitching Season 2 ในปีนี้

ปีนี้ทีมที่ชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 80,000 บาท สำหรับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 รับเงินรางวัล 40,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 รับเงินรางวัล 20,000 บาท โดยทีมที่ชนะเลิศ อันดับที่ 1-3 จะได้รับโล่รางวัล และเกียรติบัตร นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของรางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร รวมเป็นมูลค่ากว่า 150,000 บาท  พร้อมกันนี้ ภายในงานยังมีพิธีมอบประกาศนียบัตรให้กับเหล่า EDC Trainer รุ่นที่ 3 ที่ผ่านการพัฒนาทักษะเทรนเนอร์ดิจิทัลภายใต้หลักสูตร EDC ที่พร้อมส่งต่อความรู้สู่คนไทยทั่วประเทศต่อไป

ผู้สนใจสามารถรับชมการแข่งขัน เพื่อร่วมลุ้น ร่วมเชียร์ และเป็นกำลังใจให้กับทั้ง 10 ทีม ไปกับเวทีการแข่งขัน EDC Pitching Season 2 รอบชิงชนะเลิศ พร้อมๆ กันได้ในวันพุธที่ 7 สิงหาคม เวลา 10.30-16.00 น. ถ่ายทอดสด ที่เพจเฟซบุ๊ก “ETDA Thailand” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @edctrainer อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

Page 1 of 4
X

Right Click

No right click