

แกร็บ ประเทศไทย ขานรับนโยบายรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568 ชวนพันธมิตรค้าปลีกชั้นนำและผู้ประกอบการรายย่อยตบเท้าร่วมแคมเปญ “GrabMart Easy E-Receipt 2.0” มอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีเมื่อช้อปสินค้าที่ร่วมรายการผ่านบริการแกร็บมาร์ท (GrabMart) โดยผู้ใช้บริการสามารถขอรับใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบผ่านแอปพลิเคชันเพื่อนำมาใช้ลดหย่อนภาษีปี 25681 ตามที่จ่ายจริงได้สูงสุดถึง 30,000 บาท2 พร้อมส่งดีลพิเศษทริปเปิลความคุ้ม “ลดหย่อนง่าย คุ้มได้ 3 ต่อ” มอบส่วนลดสูงสุด 20% ตลอดแคมเปญ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568
นายจิรกิตต์ กว้างสุขสถิตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเดลิเวอรี แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มเดลิเวอรียอดนิยม แกร็บพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการ ‘Easy E-Receipt 2.0’ ซึ่งเป็นการขยายผลจากมาตรการเดิมตามมติคณะรัฐมนตรีที่ประกาศเมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเราพร้อมอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการที่ซื้อสินค้าอุปโภคและบริโภคบนแกร็บมาร์ทสามารถขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จากร้านค้าที่ร่วมรายการได้โดยตรง ซึ่งในปีนี้แกร็บได้ยกขบวนสินค้ามากกว่า 1.6 ล้านรายการจากร้านค้าพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็น ผู้ประกอบการค้าปลีกและแบรนด์ชั้นนำ นำโดย ท็อปส์, โลตัส, กูร์เมต์ มาร์เก็ต, โฮมโปร, เบทาโกร, บิวเทรียม, บีทูเอส, บู๊ทส์, มัทสึโมโตะ คิโยชิ, มูจิ, มาร์คแอนด์สเปนเซอร์, ออฟฟิศเมท, โอเรียนทอล พริ้นเซส รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยจากทั่วประเทศอีกมากมาย”

พร้อมกันนี้ แกร็บยังเอาใจเหล่านักช้อปด้วยโปรโมชัน “ลดหย่อนง่าย คุ้มได้ 3 ต่อ” โดยผู้ที่ซื้อสินค้าผ่านแกร็บมาร์ท จากร้านค้าที่ร่วมรายการ ระหว่างวันที่ 16 มกราคม - 28 กุมภาพันธ์ 2568 จะได้รับความคุ้มค่าแบบ 3 ต่อ ต่อที่หนึ่ง: รับสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2568 จากการใช้จ่ายตามจริงสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท ต่อที่สอง: พิเศษสำหรับผู้ใช้ใหม่ รับส่วนลดทันที 20% เพียงกรอกรหัส EASY20 (สูงสุด 350 บาท เมื่อซื้อสินค้าขั้นต่ำ 800 บาท) และ ต่อสุดท้าย: รับส่วนลดเพิ่มทันที 15% ในการสั่งซื้อครั้งถัดไป เพียงกรอกรหัส EASY15 (สูงสุด 300 บาท เมื่อสั่งซื้อสินค้าขั้นต่ำ 1,000 บาท)
ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านบริการแกร็บมาร์ทพร้อมใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีตามมาตรการ “Easy E-Receipt 2.0” ได้ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 โดยสามารถติดตามรายละเอียดของแคมเปญฯ ขั้นตอนการขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ทาง https://www.grab.com/th/blog/grabmart-easy-e-receipt
เพาเวอร์บาย ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล กางแผนงานไตรมาสแรกปี 68 ดึงมาตรการ "Easy E-Receipt 2.0” เป็นจุดขายหลักมัดใจผู้บริโภค ชูจุดเด่นช้อปง่าย-ลดหย่อนภาษีได้ทุกช่องทาง ทั้งหน้าร้านเพาเวอร์บาย และออนไลน์ พร้อมจัดเต็มกับแคมเปญ “เฮงรับปีมะเส็ง” แจกทอง และคูปองส่วนลด รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท ช้อปคุ้มตั้งแต่วันนี้ – 5 มีนาคมนี้ มั่นใจแคมเปญการตลาดที่เตรียมไว้จะช่วยสร้างบรรยากาศการช้อปปิ้งให้กับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า

นายสุวิณ โกษีอํานวย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “บรรยากาศการจับจ่ายของผู้บริโภคช่วงต้นปี 2568 นี้ มีแนวโน้มคึกคักต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะยาวจนถึงช่วงมาตรการ Easy E-Receipt 2.0 คาบเกี่ยวไปยังเทศกาลตรุษจีน และวาเลนไทน์ สำหรับปีนี้ เพาเวอร์บาย ยังคงขานรับนโยบายรัฐบาลเข้าร่วมโครงการ "Easy E-Receipt 2.0" เพื่อสร้างดีมานด์ปลุกกำลังซื้อ และร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาสแรก พร้อมอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเข้าร่วมโครงการได้ทุกช่องทาง ทั้งร้านเพาเวอร์บายทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน นอกจากนี้เรายังเตรียมแคมเปญพิเศษต้อนรับตรุษจีน “เฮงรับปีมะเส็ง” ไว้เอาใจผู้บริโภคด้วยส่วนลด โปรโมชั่น และสิทธิพิเศษมากมากมาย
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ปี 2567 มาตรการ Easy E-Receipt เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างแรงขับเคลื่อนให้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและมือถือไทยเติบโตอย่างชัดเจน ส่งผลให้มูลค่าการจับจ่ายในช่วง 2 เดือนแรกรวมกว่า 40,000 ล้านบาท สำหรับสินค้าที่ได้รับความนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ มือถือ, แอร์, ทีวี, ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า โดยพื้นที่ที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเข้าร่วมโครงการสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ ภาคเหนือ และภาคใต้ ในขณะเดียวกันมาตรการดังกล่าวยังเป็นแรงหนุนดันยอดขาย “เพาเวอร์บาย” เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2566 โดยมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อใบเสร็จราว 15,000 บาท”

ไม่เพียงเท่านี้ เพาเวอร์บาย ยังคงเดินหน้าดันยอดขายอย่างต่อเนื่อง จัดแคมเปญ “เฮงรับปีมะเส็ง” ตั้งแต่วันนี้ – 5 มีนาคม 2568 พบโปรโมชั่นสุดเฮง ได้แก่
“เพาเวอร์บาย คาดว่ามาตรการ Easy E-Receipt 2.0 ในปีนี้จะได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ผสานกับโปรโมชันที่ครอบคลุมทุกช่องทางจะช่วยสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่คุ้มค่า พร้อมตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่” นายสุวิณ กล่าวปิดท้าย