เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกและในฐานะส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่มุ่งมั่นในการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ สายการบินเอมิเรตส์กำลังทำการรีไซเคิลวัสดุจำนวนมากกว่า 50,000 กิโลกรัมจากเครื่องบิน 191 ลำที่ได้ดำเนินการปรับปรุงภายในห้องโดยสาร โดยเอมิเรตส์จะเปลี่ยนวัสดุเหล่านี้ให้กลายเป็นกระเป๋าเป้และกระเป๋านักเรียนทำมือสำหรับเด็กหลายพันใบ เพื่อบริจาคให้กับโรงเรียนชุมชนและองค์กรที่สนับสนุนการศึกษาปฐมวัยทั่วแอฟริกาและเอเชียภายในปีนี้ 

ทั้งนี้ ทีมวิศวกรของเอมิเรตส์ได้ทำการค้นหาวิธีการนำผ้าจากที่นั่งชั้นประหยัดของเครื่องบินแอร์บัส A380 ผ่านกระบวนการปรับปรุงแล้ว จำนวน 22 ลำ เพื่อนำผ้าไปใช้ใหม่และลดการทิ้งอย่างเปล่าประโยชน์ ซึ่งเอมิเรตส์สามารถเก็บเศษวัสดุได้ถึง 5,205 กิโลกรัม ได้แก่ ผ้ารองนั่งที่ทำจากขนสัตว์ 95% และส่วนประกอบไนลอน 5% ที่มีโครงสร้างทอเรียบจากประเทศเยอรมนีและไอร์แลนด์ โดยวัสดุดังกล่าวได้รับการระบุว่าเหมาะสำหรับการรีไซเคิลเนื่องจากมีความทนทานและไม่ไวไฟ เอมิเรตส์จึงตัดสินใจผลิตเป้สะพายหลังคุณภาพสูงเพื่อบริจาคให้เด็กๆ ที่ต้องการ

ในเวิร์คช็อปที่ศูนย์วิศวกรรมของเอมิเรตส์ ทีมช่างตัดเสื้อได้ออกแบบกระเป๋าเป้อย่างสร้างสรรค์ที่เหมาะสำหรับเด็กทุกวัย และทำงานร่วมกับทีมสื่อสารองค์กร การตลาดและแบรนด์ของเอมิเรตส์ เพื่อดำเนินการส่งกระเป๋าเป้ไปยังองค์กรการกุศล โรงเรียน สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และมูลนิธิต่าง ๆ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าทั่วทั้งแอฟริกาและเอเชีย

โครงการปรับปรุงของเอมิเรตส์เป็นโครงการปรับปรุงเครื่องบินครั้งใหญ่ที่สุดในโลกที่มีมูลค่าการลงทุนกว่าหลายพันล้านดอลลาร์ ที่เริ่มต้นในเดือนสิงหาคม 2565 โดยมีจุดประสงค์ในการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าผ่านการติดตั้งและตกแต่งภายในเครื่องบิน 191 ลำ ได้แก่ เครื่องบินแอร์บัส A380 จำนวน 110 ลำ และเครื่องบินโบอิ้ง 777 จำนวน 81 ลำ ซึ่งจากโครงการดังกล่าว เอมิเรตส์สามารถรวบรวมเศษผ้าใช้แล้วได้มากถึง 50,000 กิโลกรัม รวมถึงตัววัสดุใหม่ในการตกแต่งที่ 'ตัดส่วนเกินออก’ ซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ใหม่และสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ได้เช่นกัน

จากเครื่องบินแอร์บัส A380 จำนวน 22 ลำที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด วัสดุจากห้องโดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ เช่น หนัง อะลูมิเนียม และขนสัตว์ ได้ถูกนำมาใช้ใหม่แล้ว กลุ่มผลิตภัณฑ์กระเป๋า Aircrafted by Emirates เป็นคอลเลกชันกระเป๋าเดินทางแคปซูลรุ่นจำกัดที่เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2566 และออกแบบภายในบริษัทโดยศูนย์วิศวกรรมของเอมิเรตส์ ซึ่งจำหน่ายหมดในเวลาไม่กี่สัปดาห์ รายได้จากการขายคอลเลกชันประเป๋า Aircrafted by Emirates ที่ไม่แสวงหากำไรครั้งแรก มีมูลค่ามากกว่า 70,000 AED และหลังจากหักต้นทุนการดำเนินงานขั้นต่ำแล้ว จะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิสายการบินเอมิเรตส์เพื่อสนับสนุนโครงการด้านมนุษยธรรมทั่วโลก

โครงการการปรับปรุงใหม่นี้ได้รับการจัดการโดยทีมวิศวกรของเอมิเรตส์ทั้งหมด ซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญที่ต้องใช้เวลาหลายปีจึงจะเสร็จสมบูรณ์ โดยเอมิเรตส์จะติดตั้งที่นั่งชั้นประหยัด 21,814 ที่นั่ง ที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมียมใหม่ 8,104 ที่นั่ง ห้องสวีทชั้นเฟิร์สคลาส 1,894 ที่นั่ง รวมถึงที่นั่งชั้นธุรกิจรุ่นใหม่กว่า 11,182 ที่นั่ง ซึ่งทั้งหมดนี้จะสร้างโอกาสในการริเริ่มการรีไซเคิลที่สร้างสรรค์มากขึ้นต่อไปในอนาคต

สายการบินเอมิเรตส์ประกาศเพิ่มการปรับปรุงครั้งใหญ่ของเครื่องบินแอร์บัส A380 อีก 43 ลำ และเครื่องบินโบอิ้ง 777 จำนวน 28 ลำ โดยจะขยายโครงการปรับปรุงเพิ่มเป็นทั้งหมด 191 ลำ

แต่เดิม สายการบินเอมิเรตส์ได้กำหนดให้เครื่องบินกว่า 120 ลำ ได้แก่ เครื่องบินแอร์บัส A380 จำนวน 67 ลำ และเครื่องบินโบอิ้ง 777 จำนวน 53 ลำ ได้รับการตกแต่งใหม่ทั้งหมดในโครงการปรับปรุงครั้งใหญ่นี้ โดยโบอิ้ง 777 ยังคงเป็นเครื่องบินหลักในฝูงบินของเอมิเรตส์ และแอร์บัส A380 ก็ถือเป็นเครื่องบินลำโปรดของลูกค้าเอมิเรตส์ ดังนั้นการขยายโครงการปรับปรุงโฉมดังกล่าว ทำให้มั่นใจได้ว่าสายการบินเอมิเรตส์จะยังคงมอบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่มีใครเทียบให้แก่ลูกค้าต่อไป

จนถึงขณะนี้ สายการบินเอมิเรตส์ได้ทำการปรับปรุงเครื่องบิน A380 จำนวน 22 ลำ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในเดือนกรกฎาคมของปีนี้ เครื่องบินโบอิ้ง 777 ลำแรกจะได้รับการปรับปรุงภายในใหม่ ซึ่งเครื่องบินโบอิ้ง 777 แต่ละลำจะใช้เวลาประมาณสองสัปดาห์ในการปรับปรุงใหม่ก่อนเข้าให้บริการ โดยมีแผนการดำเนินงานต่าง ๆ เช่น การปรับปรุงห้องโดยสารชั้นหนึ่ง เปลี่ยนที่นั่งชั้นธุรกิจใหม่ทั้งหมดในรูปแบบที่นั่ง 1-2-1 และเพิ่มที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมียมอีก 24 ที่นั่ง เพื่อทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกระดับพรีเมียมมากขึ้น

นอกเหนือจากการเพิ่มห้องโดยสารชั้นประหยัดพรีเมียมแล้ว เครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินเอมิเรตส์จะสามารถให้บริการที่นั่งถึง 332 ที่นั่งในสี่ชั้นโดยสาร ประกอบด้วยห้องสวีทชั้นหนึ่ง 8 ที่นั่ง ชั้นธุรกิจ 40 ที่นั่ง และชั้นประหยัด 260 ที่นั่ง โดยจะลดจำนวนที่นั่งชั้นประหยัดลง 50 ที่นั่ง เพื่อให้มีที่ว่างสำหรับห้องโดยสารชั้นประหยัดพรีเมียมใหม่ที่จะเพิ่มเติมเข้ามา

งานตกแต่งใหม่สำหรับฝูงบินของเอมิเรตส์ได้รับการจัดการและดำเนินการภายในบริษัทที่ศูนย์วิศวกรรมของสายการบิน โดยมีบุคลากรในโครงการมากกว่า 250 คนทำงานตลอดเวลา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรและซัพพลายเออร์รายใหญ่กว่า 31 ราย ที่ได้จัดเวิร์คช็อปทั้งในศูนย์และนอกสถานที่ เพื่อส่งมอบห้องโดยสารแบบใหม่ที่ปรับโฉมให้ดียิ่งขึ้นของเอมิเรตส์

เมื่อเครื่องบินลำสุดท้ายออกจากโครงการปรับปรุงและโครงการเสร็จสมบูรณ์ สายการบินเอมิเรต์จะสามารถให้บริการที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมียมรุ่นถัดไปจำนวน 8,104 ที่นั่ง ห้องสวีทชั้นหนึ่งที่ปรับปรุงใหม่จำนวน 1,894 ที่นั่ง ที่นั่งชั้นธุรกิจที่อัปเกรดแล้วจำนวน 11,182 ที่นั่ง และที่นั่งชั้นประหยัดจำนวน 21,814 ที่นั่ง

ปัจจุบัน สายการบินเอมิเรตส์ให้บริการเครื่องบิน A380 ที่ได้รับการตกแต่งใหม่ซึ่งติดตั้งชั้นประหยัดพรีเมียมแล้ว สำหรับเที่ยวบินไปยังนิวยอร์ก (JFK), ลอสแอนเจลิส, ซานฟรานซิสโก, ฮูสตัน, ลอนดอน (Heathrow), ซิดนีย์, โอ๊คแลนด์, ไครสต์เชิร์ช, เมลเบิร์น, สิงคโปร์, มุมไบ, บังกาลอร์, เซาเปาโล และดูไบ โดยสายการบินจะเพิ่มเติมการบริการด้วยห้องโดยสารใหม่ไปยังโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นในต้นเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้

เอมิเรตส์ วางแผนจะเปิดให้บริการเที่ยวบินชั้นประหยัดพรีเมียมเพิ่มเติมให้ครอบคลุม 42 เมืองทั่วโลกภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 โดยเครื่องบิน A350 จะเข้าสู่ฝูงบินในเดือนกันยายนของปีนี้ พร้อมกับเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่ได้รับการตกแต่งใหม่ ซึ่งมีกำหนดเริ่มให้บริการในเมืองอื่น ๆ เพื่อรองรับความต้องการท่องเที่ยวในช่วงปลายฤดูร้อนนี้

เอมิเรตส์ สายการบินระดับโลก เปิดรับสมัครผู้มากความสามารถและมีใจรักในการบริการ เพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมลูกเรือของสายการบินที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับโลก

X

Right Click

No right click