เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ปรับโครงสร้างสายงานธุรกิจประกันภัยตามภูมิภาคเพื่อความคล่องตัวในด้านการบริหาร พร้อมแต่งตั้ง มร. วู้ดดี้ แบรดฟอร์ด (Mr. Woody Bradford) รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจนเนอราลี่ อินเวสต์เมนท์ โฮลดิ้ง (Generali Investments Holding หรือ GIH) โดยมี มร.ฟิลลิป ดอนเนท (Mr. Philippe Donnet) ประธานกรรมการบริหารกลุ่มเจนเนอราลี่ รับตำแหน่งประธานกรรมการของ เจนเนอราลี่ อินเวสต์เมนท์ โฮลดิ้ง

มร.อันเดรีย ซิโรนี ประธาน คณะกรรมการบริหารกลุ่มเจนเนอราลี่ อนุมัติโครงสร้างองค์กรใหม่ที่สะท้อนถึงธุรกิจหลักของกลุ่มฯ ตามที่ มร.ฟิลลิป ดอนเนท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเจนเนอราลี่ เสนอต่อที่ประชุม โดยตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป กลุ่มเจนเนอราลี่จะดำเนินงานในฐานะกลุ่มบริษัททางการเงินที่ให้บริการครบวงจร โดยมุ่งเน้น 2 ธุรกิจหลัก อันได้แก่ ภาคธุรกิจประกันภัย และการบริหารจัดการสินทรัพย์

การปรับโครงสร้างครั้งสำคัญนี้ มุ่งขับเคลื่อนการเติบโตและตอบสนองต่อเป้าหมายทางธุรกิจหลักทั้งธุรกิจประกันภัยและธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ให้ดียิ่งขึ้น สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ Lifetime Partner 24: Driving Growth ในการเป็นเพื่อนผู้เคียงข้างลูกค้าในทุกช่วงเวลาของชีวิต โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับความสำเร็จและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้เจนเนอราลี่สามารถคว้าโอกาสในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับแผนกลยุทธ์ในระยะต่อไป

โดยแต่งตั้งให้ มร. จูลิโอ แตร์ซาริโอล (Mr. Giulio Terzariol) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจประกันภัย บริหารงานในส่วนของ “ธุรกิจประกันภัย” อันมีเป้าหมายในการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจประกันภัยทั่วโลก มุ่งเน้นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เสริมสร้างความสอดคล้องของกลยุทธ์ และสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับตลาดมากขึ้น เพื่อให้โครงสร้างองค์กรมีความกระชับและคล่องตัว โดยได้บูรณาการหน่วยธุรกิจ DACH (เยอรมนี ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์) และหน่วยธุรกิจต่างประเทศ จัดโครงสร้างให้เป็นส่วนหนึ่งของสายงานใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 5 หน่วยธุรกิจระดับประเทศ ได้แก่ อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ และ 3 ภูมิภาค ได้แก่ เมดิเตอร์เรเนียนและละตินอเมริกา ยุโรปตะวันออกตอนกลาง และเอเชีย โดยมี มร.ไฮเม่ อังคัสเตกุย เมลกาเรโจ (Mr. Jaime Anchústegui) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหน่วยธุรกิจต่างประเทศ จะได้รับการแต่งตั้งเป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจประกันภัย และเป็นตัวแทนในการประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแลท้องถิ่น บริหารความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และการร่วมทุน ตลอดจนขับเคลื่อนโครงการประกันภัยระดับโลก และ มร. จิโอวานนี่ ลิเวรานี่ (Mr. Giovanni Liverani) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหน่วยธุรกิจ DACH จะเข้ามารับบทบาทใหม่

ด้านธุรกิจ “เจนเนอราลี่ อินเวสต์เมนท์ โฮลดิ้ง” (Generali Investments Holding หรือ GIH) จะเข้ามาแทนที่หน่วยธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์และความมั่งคั่งเดิม โดยจะดูแลกิจกรรมการบริหารจัดการสินทรัพย์ทั้งหมดทั่วโลกภายในกลุ่มบริษัท ยกเว้นบางส่วนที่ดำเนินการในประเทศจีน GIH มุ่งเน้นการมอบประสิทธิภาพและบริการระดับโลกให้แก่ลูกค้าเดิม ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจไปยังลูกค้าภายนอกกลุ่มบริษัททั่วโลก และเพื่อให้เป้าหมายนี้บรรลุผล GIH จะอาศัยทั้งศักยภาพการลงทุนที่มีอยู่เดิม เสริมด้วยศักยภาพใหม่ ๆ ที่ได้จากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท คอนนิ่ง โฮลดิ้งส์ จำกัด (Conning Holdings Limited) และบริษัทในเครือ รวมถึงความแข็งแกร่งจากความร่วมมือระยะยาวกับ คาเธย์ ไลฟ์ (Cathay Life) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวที่เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 โดยมี มร. วู้ดดี้ แบรดฟอร์ด (Mr. Woody Bradford) ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารเจนเนอราลี่ อินเวสต์เมนท์ โฮลดิ้ง และจะยังคงบทบาทปัจจุบันในตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานคณะกรรมการของบริษัท คอนนิ่ง โฮลดิ้งส์ จำกัด ทางด้าน มร.ฟิลลิป ดอนเนท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเจนเนอราลี่ จะได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการบริหารเจนเนอราลี่ อินเวสต์เมนท์ โฮลดิ้ง ขณะที่ มร. คาร์โล ตราบัตโตนี่ (Mr. Carlo Trabattoni) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบริหารจัดการสินทรัพย์และความมั่งคั่ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารเจนเนอราลี่ อินเวสต์เมนท์ โฮลดิ้ง จะเข้ารับหน้าที่ใหม่ภายใต้สายงานบริหารสินทรัพย์

นอกเหนือจากนี้ ธนาคารเจนเนอราลี่ (Banca Generali) ภายใต้การบริหารของ มร.เจียน มาเรีย มอสซา (Mr. Gian Maria Mossa) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จะยังคงมุ่งเน้นการให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินและโซลูชั่นการบริหารความมั่งคั่งอย่างคลอบคลุมต่อไป

มร .เดวิด ซิส (Mr. David Cis) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของกลุ่มเจนเนอราลี่ ซึ่งรายงานตรงต่อ มร.มาร์โก เซซานา (Mr. Marco Sesana) ผู้จัดการทั่วไป โดยจะเข้าร่วมในคณะกรรมการบริหารของกลุ่มฯ มุ่งเน้นยกระดับคุณภาพการบริการให้เป็นเลิศ ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) การจัดการกระบวนการทางธุรกิจ และการใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีร่วม มาประยุกต์ใช้

ภายใต้โครงสร้างองค์กรใหม่นี้ สำนักงานใหญ่ของกลุ่มบริษัท (Group Head Office) ยังคงรับผิดชอบกำหนดยุทธศาสตร์หลักและเป้าหมายองค์กร ควบคู่ไปกับการบริหาร จัดการ และสนับสนุนหน่วยธุรกิจทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปรับแผนให้เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ

มร.ฟิลลิป ดอนเนท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเจนเนอราลี่ กล่าวว่า “กลุ่มเจนเนอราลี่ ประสบความสำเร็จในการก้าวสู่ระดับโลกด้านธุรกิจประกันภัยและการบริหารสินทรัพย์แบบครบวงจร ด้วยความแข็งแกร่งทางการเงิน ความมุ่งมั่นต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการคำนึงถึงความยั่งยืน ในส่วนของสายงานบริหารสินทรัพย์นั้น การเข้าซื้อกิจการของบริษัทคอนนิ่งตลอดจนถึงความร่วมมือระยะยาวกับ คาเธย์ ไลฟ์ ช่วยให้เราสามารถขยายขอบเขตผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุน เสริมฐานลูกค้าต่างชาติ มุ่งขยายธุรกิจกับลูกค้าภายนอกกลุ่มบริษัท และการเพิ่มประสิทธิภาพด้านช่องทางการจัดจำหน่ายในตลาดสำคัญต่างๆ  เสริมความแข็งแกร่งให้กลุ่มเจนเนอราลี่ เป็นหนึ่งใน 10 ผู้บริหารจัดการสินทรัพย์ชั้นนำของยุโรป สำหรับสายงานประกันภัย มุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัทฯ ในตลาดหลัก ผ่านความเป็นเลิศด้านเทคนิค การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ และการปรับบริการให้ตรงกับความต้องการลูกค้าแม้ในสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งนี้ ด้วยโครงสร้างองค์กรใหม่ที่เน้นธุรกิจประกันภัยและการบริหารสินทรัพย์ และความคล่องตัวในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น กลุ่มบริษัทฯ จะสามารถเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจในอนาคต สนับสนุนการกำหนดยุทธศาสตร์สำหรับแผนกลยุทธ์ในระยะยาว”

เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ปรับโครงสร้างสายงานธุรกิจประกันภัยตามภูมิภาคเพื่อความคล่องตัวในด้านการบริหาร พร้อมแต่งตั้ง มร. วู้ดดี้ แบรดฟอร์ด (Mr. Woody Bradford) รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจนเนอราลี่ อินเวสต์เมนท์ โฮลดิ้ง (Generali Investments Holding หรือ GIH) โดยมี มร.ฟิลลิป ดอนเนท (Mr. Philippe Donnet) ประธานกรรมการบริหารกลุ่มเจนเนอราลี่ รับตำแหน่งประธานกรรมการของ เจนเนอราลี่ อินเวสต์เมนท์ โฮลดิ้ง

มร.อันเดรีย ซิโรนี ประธาน คณะกรรมการบริหารกลุ่มเจนเนอราลี่ อนุมัติโครงสร้างองค์กรใหม่ที่สะท้อนถึงธุรกิจหลักของกลุ่มฯ ตามที่ มร.ฟิลลิป ดอนเนท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเจนเนอราลี่ เสนอต่อที่ประชุม โดยตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป กลุ่มเจนเนอราลี่จะดำเนินงานในฐานะกลุ่มบริษัททางการเงินที่ให้บริการครบวงจร โดยมุ่งเน้น 2 ธุรกิจหลัก อันได้แก่ ภาคธุรกิจประกันภัย และการบริหารจัดการสินทรัพย์

การปรับโครงสร้างครั้งสำคัญนี้ มุ่งขับเคลื่อนการเติบโตและตอบสนองต่อเป้าหมายทางธุรกิจหลักทั้งธุรกิจประกันภัยและธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ให้ดียิ่งขึ้น สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ Lifetime Partner 24: Driving Growth ในการเป็นเพื่อนผู้เคียงข้างลูกค้าในทุกช่วงเวลาของชีวิต โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับความสำเร็จและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้เจนเนอราลี่สามารถคว้าโอกาสในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับแผนกลยุทธ์ในระยะต่อไป

โดยแต่งตั้งให้ มร. จูลิโอ แตร์ซาริโอล (Mr. Giulio Terzariol) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจประกันภัย บริหารงานในส่วนของ “ธุรกิจประกันภัย” อันมีเป้าหมายในการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจประกันภัยทั่วโลก มุ่งเน้นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เสริมสร้างความสอดคล้องของกลยุทธ์ และสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับตลาดมากขึ้น เพื่อให้โครงสร้างองค์กรมีความกระชับและคล่องตัว โดยได้บูรณาการหน่วยธุรกิจ DACH (เยอรมนี ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์) และหน่วยธุรกิจต่างประเทศ จัดโครงสร้างให้เป็นส่วนหนึ่งของสายงานใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 5 หน่วยธุรกิจระดับประเทศ ได้แก่ อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ และ 3 ภูมิภาค ได้แก่ เมดิเตอร์เรเนียนและละตินอเมริกา ยุโรปตะวันออกตอนกลาง และเอเชีย โดยมี มร.ไฮเม่ อังคัสเตกุย เมลกาเรโจ (Mr. Jaime Anchústegui) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหน่วยธุรกิจต่างประเทศ จะได้รับการแต่งตั้งเป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจประกันภัย และเป็นตัวแทนในการประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแลท้องถิ่น บริหารความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และการร่วมทุน ตลอดจนขับเคลื่อนโครงการประกันภัยระดับโลก และ มร. จิโอวานนี่ ลิเวรานี่ (Mr. Giovanni Liverani) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหน่วยธุรกิจ DACH จะเข้ามารับบทบาทใหม่

ด้านธุรกิจ “เจนเนอราลี่ อินเวสต์เมนท์ โฮลดิ้ง” (Generali Investments Holding หรือ GIH) จะเข้ามาแทนที่หน่วยธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์และความมั่งคั่งเดิม โดยจะดูแลกิจกรรมการบริหารจัดการสินทรัพย์ทั้งหมดทั่วโลกภายในกลุ่มบริษัท ยกเว้นบางส่วนที่ดำเนินการในประเทศจีน GIH มุ่งเน้นการมอบประสิทธิภาพและบริการระดับโลกให้แก่ลูกค้าเดิม ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจไปยังลูกค้าภายนอกกลุ่มบริษัททั่วโลก และเพื่อให้เป้าหมายนี้บรรลุผล GIH จะอาศัยทั้งศักยภาพการลงทุนที่มีอยู่เดิม เสริมด้วยศักยภาพใหม่ ๆ ที่ได้จากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท คอนนิ่ง โฮลดิ้งส์ จำกัด (Conning Holdings Limited) และบริษัทในเครือ รวมถึงความแข็งแกร่งจากความร่วมมือระยะยาวกับ คาเธย์ ไลฟ์ (Cathay Life) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวที่เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 โดยมี มร. วู้ดดี้ แบรดฟอร์ด (Mr. Woody Bradford) ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารเจนเนอราลี่ อินเวสต์เมนท์ โฮลดิ้ง และจะยังคงบทบาทปัจจุบันในตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานคณะกรรมการของบริษัท คอนนิ่ง โฮลดิ้งส์ จำกัด ทางด้าน มร.ฟิลลิป ดอนเนท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเจนเนอราลี่ จะได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการบริหารเจนเนอราลี่ อินเวสต์เมนท์ โฮลดิ้ง ขณะที่ มร. คาร์โล ตราบัตโตนี่ (Mr. Carlo Trabattoni) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบริหารจัดการสินทรัพย์และความมั่งคั่ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารเจนเนอราลี่ อินเวสต์เมนท์ โฮลดิ้ง จะเข้ารับหน้าที่ใหม่ภายใต้สายงานบริหารสินทรัพย์

นอกเหนือจากนี้ ธนาคารเจนเนอราลี่ (Banca Generali) ภายใต้การบริหารของ มร.เจียน มาเรีย มอสซา (Mr. Gian Maria Mossa) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จะยังคงมุ่งเน้นการให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินและโซลูชั่นการบริหารความมั่งคั่งอย่างคลอบคลุมต่อไป

มร .เดวิด ซิส (Mr. David Cis) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของกลุ่มเจนเนอราลี่ ซึ่งรายงานตรงต่อ มร.มาร์โก เซซานา (Mr. Marco Sesana) ผู้จัดการทั่วไป โดยจะเข้าร่วมในคณะกรรมการบริหารของกลุ่มฯ มุ่งเน้นยกระดับคุณภาพการบริการให้เป็นเลิศ ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) การจัดการกระบวนการทางธุรกิจ และการใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีร่วม มาประยุกต์ใช้

ภายใต้โครงสร้างองค์กรใหม่นี้ สำนักงานใหญ่ของกลุ่มบริษัท (Group Head Office) ยังคงรับผิดชอบกำหนดยุทธศาสตร์หลักและเป้าหมายองค์กร ควบคู่ไปกับการบริหาร จัดการ และสนับสนุนหน่วยธุรกิจทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปรับแผนให้เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ

มร.ฟิลลิป ดอนเนท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเจนเนอราลี่ กล่าวว่า “กลุ่มเจนเนอราลี่ ประสบความสำเร็จในการก้าวสู่ระดับโลกด้านธุรกิจประกันภัยและการบริหารสินทรัพย์แบบครบวงจร ด้วยความแข็งแกร่งทางการเงิน ความมุ่งมั่นต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการคำนึงถึงความยั่งยืน ในส่วนของสายงานบริหารสินทรัพย์นั้น การเข้าซื้อกิจการของบริษัทคอนนิ่งตลอดจนถึงความร่วมมือระยะยาวกับ คาเธย์ ไลฟ์ ช่วยให้เราสามารถขยายขอบเขตผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุน เสริมฐานลูกค้าต่างชาติ มุ่งขยายธุรกิจกับลูกค้าภายนอกกลุ่มบริษัท และการเพิ่มประสิทธิภาพด้านช่องทางการจัดจำหน่ายในตลาดสำคัญต่างๆ  เสริมความแข็งแกร่งให้กลุ่มเจนเนอราลี่ เป็นหนึ่งใน 10 ผู้บริหารจัดการสินทรัพย์ชั้นนำของยุโรป สำหรับสายงานประกันภัย มุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัทฯ ในตลาดหลัก ผ่านความเป็นเลิศด้านเทคนิค การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ และการปรับบริการให้ตรงกับความต้องการลูกค้าแม้ในสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งนี้ ด้วยโครงสร้างองค์กรใหม่ที่เน้นธุรกิจประกันภัยและการบริหารสินทรัพย์ และความคล่องตัวในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น กลุ่มบริษัทฯ จะสามารถเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจในอนาคต สนับสนุนการกำหนดยุทธศาสตร์สำหรับแผนกลยุทธ์ในระยะยาว”

เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ คว้า 3 รางวัลใหญ่ จากงาน Employee Experience Awards 2024 จัดโดย Human Resources Online ประเทศสิงคโปร์ สะท้อนความสำเร็จและการันตีความเป็นเลิศด้านการบริหารองค์กรและทรัพยากรบุคคลระดับสากล ตอกย้ำการบริหารงานด้านความหลากหลายและเท่าเทียมภายในองค์กร พร้อมเดินหน้าพัฒนาพนักงานในทุกมิติเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การเปลี่ยนแปลงในอนาคต

โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก นางสาวสายฝน คงจิตต์งาม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและสนับสนุนองค์กร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ พร้อมด้วย นายไพสิฐ เจียมจรรยา หัวหน้าสำนักประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกลยุทธ์องค์กร เป็นตัวแทนรับรางวัล ได้แก่ รางวัลระดับ Gold Best Diversity and Inclusion Strategy” องค์กรที่ขับเคลื่อนการบริหารบุคลากรด้วยกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญในการส่งเสริมและสร้างคุณค่าให้กับทุกความแตกต่าง รวมถึงส่งเสริมความเท่าเทียมในทุกบริบท รางวัล ระดับ Gold Best Remote Work Strategy”  องค์กรที่ยกระดับการทำงาน อำนวยความสะดวกให้พนักงาน สามารถทำงานได้ทุกที่ในรูปแบบ Hybrid ทั้งที่ทำงาน ที่บ้าน หรือที่อื่น ๆ และรางวัล ระดับ Silver Best ESG Programme” องค์กรที่นำแนวคิด ESG มาปรับใช้ในการบริหารธุรกิจ โดยคำนึงถึงการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนเป็นสำคัญ

สำหรับรางวัลทั้ง 3 สาขาเป็นรางวัลระดับนานาชาติ มอบให้แก่องค์กรชั้นนำที่มีแนวทางการบริหารพนักงานอย่างยอดเยี่ยม การให้ความสำคัญทั้งเรื่องของ สวัสดิการพนักงาน การพัฒนาความสามารถของพนักงานอย่างรอบด้าน และให้ความสำคัญในเรื่องของความเท่าเทียม เพื่อขับเคลื่อนบริษัทให้เกิดความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ

"บมจ.เจนเนอราลี่ ประกันภัย (ไทยแลนด์)" ร่วมกับ บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่นออกประกันอุบัติเหตุออนไลน์ “สวัสดิ์คุ้มเว่อร์” เจาะตลาดลูกค้าหลากหลายอาชีพ ที่มองหาความคุ้มครองที่ครอบคลุม ทั้งความคุ้มครองชีวิต ค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยรายได้ ที่มีค่าเบี้ยประกันไม่แพง และสมัครง่ายด้วยตนเองเพียงไม่กี่ขั้นตอน รับความคุ้มครองได้ทันที เหมาะกับทุกกลุ่มอาชีพและคนยุคใหม่ที่ชอบความสะดวกสบายด้วยบริการที่ทันใจ ตั้งแต่การสมัคร การชำระเงิน และบริการเคลมออนไลน์ที่ทำได้ง่าย ๆ บนแอป GEN 365 แอปพลิเคชันสำหรับลูกค้าเจนเนอราลี่ที่ให้บริการด้านกรมธรรม์และมอบสิทธิพิเศษต่าง ๆ มากมายตลอด 365 วัน

สำหรับจุดเด่นของแบบประกันที่คุ้มโดนใจมีดังนี้  

  • คุ้มเว่อร์ ให้ความคุ้มครองชีวิตสูงสุด 240,000 บาท โดยมีค่าเบี้ยเฉลี่ยสำหรับแผนเริ่มต้นเพียงวันละ 40 บาท เท่านั้น
  • ครบเว่อร์ มีค่ารักษาพยาบาลรวมค่าห้อง สูงสุด 10,000 บาท ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง
  • อุ่นใจเว่อร์ รับค่าชดเชยรายได้สูงสุด 1,000 บาท/วัน ระหว่างการรักษาในโรงพยาบาล (สูงสุด 15 วัน/อุบัติเหตุแต่ละครั้ง)
  • เร็วเว่อร์ สมัครง่ายไม่กี่ขั้นตอน จ่ายเงินปุ๊บ คุ้มครองทันทีตลอด 24 ชั่วโมง

ปรึกษาและรับบริการได้ที่สาขาศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ กว่า 5,500 สาขาทั่วประเทศ หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sawad.co.th/ประกันอุบัติเหตุ-สวัสดิ์คุ้มเว่อร์/ และ Facebook Fanpage: ศรีสวัสดิ์ เงินสด ทันใจ หรือโทร 1652 พิจารณารับประกันภัย โดย บมจ. เจนเนอราลี่ ประกันภัย (ไทยแลนด์)

เจนเนอราลี่ กรุ๊ป เผยภาพรวมธุรกิจปี 2023 เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการดำเนินงานภายใต้  กลยุทธ์ "Lifetime Partner 24: Driving Growth" กวาดรายได้รวมกว่า 2.7 แสนล้านบาท จากกลุ่มธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด (P&C) พร้อมโชว์สถานะความมั่นคงทางด้านการเงิน แบ่งปันผล 1.28 ยูโรต่อหุ้น เตรียมกางแผนเดินหน้าเพิ่มศักยภาพการดำเนินงานให้เติบโตอย่างยั่งยืน

นาย อาร์ช คอลมิ (Mr. Arsh Kaumi) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ กล่าวว่า “ผลประกอบการของเจนเนอราลี่ กรุ๊ป ในปี 2023 ที่ผ่านถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก อันเป็นผลมาจากการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์หลัก Lifetime Partner 24: Driving Growth ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ร่วมกับการใช้เทคโนโลยีในการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า ซึ่งเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์เองก็ได้ยึดมั่นในหลักการนี้เช่นเดียวกัน

โดยในปี 2023 เจนเนอราลี่ กรุ๊ป มีรายได้จากผลการดำเนินงานรวม (Operating Result) อยู่ที่  6.9พันล้านยูโร หรือคิดเป็น 2.7 แสนล้านบาท (เพิ่มขึ้น 7.9%) โดยรายได้หลักมาจากประกันชีวิตและการเติบโตของธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด (P&C) คิดเป็นอัตราส่วนรวมอยู่ที่ 94.0% (Combined Ratio -1.4 p.p.) และมีผลกำไรขั้นต้นจากธุรกิจใหม่อยู่ที่ 5.78% (New Business Margin +0.09 p.p.) เบี้ยประกันภัยรับรวม (Gross Written Premium) อยู่ที่ 82.5 พันล้านยูโร คิดเป็น 3.25 ล้านล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5.6%) อีกทั้งยังมีการเติบโตของธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด (P&C) อยู่ที่ 12.0% ทางด้านผลลัพธ์สุทธิที่ปรับปรุงใหม่ (Adjusted net result) สูงเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 3,575 ล้านยูโร คิดเป็น 1.41 แสนล้านบาท (เพิ่มขึ้น 14.1%) นอกจากนี้สถานะทางเงินทุนยังคงความแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนการดำรงเงินกองทุน (Solvency Ratio) อยู่ที่ 220% และเงินปันผลที่เสนอต่อหุ้นอยู่ที่ 1.28 ยูโร (เพิ่มขึ้น 10.3%) ภาพรวมผลประกอบการทั้งหมดจึงเป็นการยืนยันว่า เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง ดูแลกลุ่มลูกค้าและผู้ถือหุ้นเป็นอย่างดี

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2024 เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ได้เตรียมวางแผนการดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุมให้สอดรับกับนโยบายปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ด้วยการใช้กลยุทธ์การปรับความสมดุลในพอร์ตของประกันชีวิต เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและจัดสรรเงินทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและลดความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ด้วยการแนะนำโซลูชันที่หลากหลายมาปรับใช้ในบริการ และมุ่งเน้นทำการตลาดผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ตามแนวคิด Lifetime Partner 24: Driving Growth

ทางด้าน มร. ฟิลลิป ดอนเนท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเจนเนอราลี่ (Generali Group CEO)  กล่าวว่า “จากผลการดำเนินงานในปี 2023 ที่ผ่านมา เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงแรงสนับสนุนจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงการดำเนินการตามกลยุทธ์ Lifetime Partner 24 : Driving Growth บริษัทฯ มีความมั่นคงทางด้านการเงินและมีสถานะทางเงินทุนที่แข็งแกร่ง จึงทำให้มีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องทุกปี ส่งผลให้เจนเนอราลี่ กรุ๊ป อยู่ในสถานะทางการเงินที่ดีที่สุดในฐานะบริษัทประกันภัยและการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่มีความหลากหลาย อีกทั้งจะได้รับประโยชน์จากการเข้าซื้อกิจการ Conning และ Liberty Seguros ซึ่งจะส่งผลให้เจนเนอราลี่ กรุ๊ป มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินมากยิ่งขึ้น  

เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ขอขอบคุณทีมงานและตัวแทนสำหรับความพยายามเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์เชิงบวกเหล่านี้ สิ่งเหล่านี้เป็นรากฐานของเส้นทางการเติบโตที่ยั่งยืน”


หมายเหตุ อัตราค่าแลกเปลี่ยน 1 ยูโร เท่ากับ 39.45 บาท

Page 1 of 12
X

Right Click

No right click