January 14, 2025

แกร็บ ประเทศไทย ขานรับนโยบายรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568 ชวนพันธมิตรค้าปลีกชั้นนำและผู้ประกอบการรายย่อยตบเท้าร่วมแคมเปญ “GrabMart Easy E-Receipt 2.0” มอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีเมื่อช้อปสินค้าที่ร่วมรายการผ่านบริการแกร็บมาร์ท (GrabMart) โดยผู้ใช้บริการสามารถขอรับใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบผ่านแอปพลิเคชันเพื่อนำมาใช้ลดหย่อนภาษีปี 25681 ตามที่จ่ายจริงได้สูงสุดถึง 30,000 บาท2 พร้อมส่งดีลพิเศษทริปเปิลความคุ้ม “ลดหย่อนง่าย คุ้มได้ 3 ต่อ” มอบส่วนลดสูงสุด 20% ตลอดแคมเปญ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568

นายจิรกิตต์ กว้างสุขสถิตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเดลิเวอรี แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มเดลิเวอรียอดนิยม แกร็บพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการ ‘Easy E-Receipt 2.0’ ซึ่งเป็นการขยายผลจากมาตรการเดิมตามมติคณะรัฐมนตรีที่ประกาศเมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเราพร้อมอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการที่ซื้อสินค้าอุปโภคและบริโภคบนแกร็บมาร์ทสามารถขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จากร้านค้าที่ร่วมรายการได้โดยตรง ซึ่งในปีนี้แกร็บได้ยกขบวนสินค้ามากกว่า 1.6 ล้านรายการจากร้านค้าพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็น ผู้ประกอบการค้าปลีกและแบรนด์ชั้นนำ นำโดย ท็อปส์, โลตัส, กูร์เมต์ มาร์เก็ต, โฮมโปร, เบทาโกร, บิวเทรียม, บีทูเอส, บู๊ทส์, มัทสึโมโตะ คิโยชิ, มูจิ, มาร์คแอนด์สเปนเซอร์, ออฟฟิศเมท, โอเรียนทอล พริ้นเซส รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยจากทั่วประเทศอีกมากมาย” 

พร้อมกันนี้ แกร็บยังเอาใจเหล่านักช้อปด้วยโปรโมชัน “ลดหย่อนง่าย คุ้มได้ 3 ต่อ” โดยผู้ที่ซื้อสินค้าผ่านแกร็บมาร์ท จากร้านค้าที่ร่วมรายการ ระหว่างวันที่ 16 มกราคม - 28 กุมภาพันธ์ 2568 จะได้รับความคุ้มค่าแบบ 3 ต่อ ต่อที่หนึ่ง: รับสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2568 จากการใช้จ่ายตามจริงสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท ต่อที่สอง: พิเศษสำหรับผู้ใช้ใหม่ รับส่วนลดทันที 20% เพียงกรอกรหัส EASY20 (สูงสุด 350 บาท เมื่อซื้อสินค้าขั้นต่ำ 800 บาท) และ ต่อสุดท้าย: รับส่วนลดเพิ่มทันที 15% ในการสั่งซื้อครั้งถัดไป เพียงกรอกรหัส EASY15 (สูงสุด 300 บาท เมื่อสั่งซื้อสินค้าขั้นต่ำ 1,000 บาท) 

ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านบริการแกร็บมาร์ทพร้อมใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีตามมาตรการ “Easy E-Receipt 2.0”  ได้ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 โดยสามารถติดตามรายละเอียดของแคมเปญฯ ขั้นตอนการขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ทาง https://www.grab.com/th/blog/grabmart-easy-e-receipt


1 อ้างอิงข้อมูลจากทำเนียบรัฐบาล วันที่ 26 ธันวาคม 2567

2 เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีเป็นไปตามข้อกำหนดของกรมสรรพากร

 

แกร็บ ประเทศไทย เดินหน้ารุกตลาดควิกคอมเมิร์ส ประกาศปลดล็อกธุรกิจแกร็บมาร์ทด้วยการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่-ปรับระบบจัดการสินค้าหลังบ้านร่วมกับพันธมิตรค้าปลีกชั้นนำให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าประเภทของสด (เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผักและผลไม้) ประเภทชั่งน้ำหนักได้ ซึ่งช่วยเพิ่มจำนวนสินค้า (SKU) บนแพลตฟอร์มให้มีความหลากหลาย เล็งขยายจำนวนพาร์ทเนอร์ร้านค้าในกลุ่ม SME และตลาดสดเสริมพอร์ต ลุยส่งแคมเปญใหญ่ “GrabMart ที่สุดเรื่องสด” ตอกย้ำผู้นำตลาดที่มีสินค้าประเภทของสดให้เลือกมากที่สุดและจัดส่งไวที่สุดเพียง 25 นาที พร้อมมอบส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 50%

นายจิรกิตต์ กว้างสุขสถิตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเดลิเวอรี แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “สินค้าประเภทของสด (Fresh Products) ถือเป็นหนึ่งในแคทิกอรีที่ใหญ่ที่สุดในตลาดควิกคอมเมิร์สและสร้างการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญให้กับบริการแกร็บมาร์ท ซึ่งครอบคลุมทั้งเนื้อสัตว์ อาหารทะเล รวมถึงผักสดและผลไม้ โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมาสินค้ากลุ่มนี้มีอัตราการเติบโตราว 15%[1] และแกร็บมาร์ทยังคงเป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งที่ครองใจผู้บริโภคที่ต้องการซื้่อของสดแบบจัดส่งได้ทันที โดยเฉพาะกลุ่ม Gen X และ Millennials ด้วยจำนวนสินค้าที่มีให้เลือกมากที่สุดจากพันธมิตรค้าปลีกชั้นนำที่มีสาขารวมกันมากกว่า 3,000 สาขาทั่วประเทศ ทั้งยังสามารถจัดส่งได้ภายในเวลาเพียง 25 นาทีเท่านั้น”

ทั้งนี้ ลูกค้าที่เลือกซื้อของสดผ่านแกร็บมาร์ทแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ กลุ่มแรกคือ Meal Makers หรือคนที่ต้องเตรียมมื้ออาหารในทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้านยุคใหม่ที่ต้องทำอาหารสำหรับสมาชิกในครอบครัว หรือกลุ่ม Solo Living ที่อยู่คนเดียวและเน้นทำอาหารง่าย ๆ ด้วยตัวเอง กลุ่มที่สองคือ Healthy Habits สายรักสุขภาพที่ซื้อผักสดและผลไม้ไว้ติดตู้เย็นสำหรับทำสลัดหรือสมูทตี้ และกลุ่มสุดท้ายคือ Seasonal Cravings หรือคนที่ชอบบริโภคสินค้าตามฤดูกาลอย่างผลไม้หน้าร้อน 

“แม้ว่าควิกคอมเมิร์สจะตอบโจทย์ในเรื่องการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วทันใจ แต่หนึ่งในข้อจำกัดที่ผู้บริโภคยังพบเจอจากการสั่งซื้อของสดผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรีคือการมีสินค้าให้เลือกไม่มากนัก เนื่องจากข้อจำกัดในเชิงเทคนิค เพื่อแก้ pain point ดังกล่าว ล่าสุดแกร็บจึงได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ควบคู่ไปกับการปรับระบบจัดการสินค้าหลังบ้านร่วมกับพันธมิตรค้าปลีกชั้นนำอย่างท็อปส์ (Tops) บิ๊กซี (BigC) โลตัส (Lotus's) และกูร์เมต์ มาร์เก็ต (Gourmet Market) เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถสั่งซื้อของสดประเภทชั่งน้ำหนักได้ ทำให้มี SKU เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นการปลดล็อคทางธุรกิจและตอบโจทย์ผู้บริโภคด้วยตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังเล็งขยายพันธมิตรร้านค้าในกลุ่ม SME และตลาดสดเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการรายย่อย” นายจิรกิตต์ กล่าวเสริม

และเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดควิกคอมเมิร์สที่มีสินค้าประเภทของสดให้เลือกมากที่สุด แกร็บยังได้ส่งแคมเปญ “GrabMart ที่สุดเรื่องสด” มาเอาใจผู้ใช้บริการด้วยการมอบส่วนลดสูงสุดถึง 50% เมื่อสั่งซื้อสินค้าในหมวดของสดตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไป[2] พร้อมค่าส่ง 0 บาท เพียงใส่โค้ด “FREEDELI” ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กรกฎาคมนี้  

[1]  เปรียบเทียบยอดขายสินค้าประเภทของสดของบริการแกร็บมาร์ทระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 และเดือนมกราคม-มีนาคม 2566

[2]  เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

 

X

Right Click

No right click