December 05, 2025

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จับมือ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ ลงนามในบันทึกข้อตกลง พิธีลงนามความร่วมมือ โครงการไลอ้อน-กรมอนามัย เด็กไทยฟันดี ภายใต้โครงการพัฒนาวิชาการและโมเดลส่งเสริมสุขภาพช่องปาก : Sandbox จังหวัดเด็กฟันดี ณ อาคารคิงบริดจ์ เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบันทึกข้อตกลงความร่วมมือที่สะท้อนถึงเป้าหมายเดียวกัน ในการยกระดับสุขภาพช่องปากของเด็กไทย เริ่มต้นใน 13 จังหวัดนำร่อง ตอกย้ำเจตนารมณ์ร่วมกันในการยกระดับสุขภาพช่องปากของเด็กและประชาชนไทย สู่เป้าหมาย “เด็กไทยฟันดี ไม่มีฟันผุ”

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรมอนามัยในฐานะหน่วยงานวิชาการหลักของกระทรวงสาธารณสุข มีบทบาทสำคัญในการอภิบาลระบบส่งเสริมสุขภาพและสุขภาพช่องปากของประเทศ โดยการผนึกกำลังกับภาคเอกชนอย่างบริษัท ไลอ้อนฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาวิชาการด้านสุขภาพช่องปากอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับภารกิจของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ในการส่งเสริมสุขภาพของเด็กและคนไทย

ทั้งนี้ โครงการไลอ้อน-กรมอนามัย เด็กไทยฟันดี ภายใต้โครงการพัฒนาวิชาการและโมเดลส่งเสริมสุขภาพช่องปาก : Sandbox จังหวัดเด็กฟันดี เป็นบันทึกข้อตกลงที่สะท้อนถึงเจตนารมณ์ร่วมกัน ในการยกระดับสุขภาพช่องปากของเด็กและประชาชนไทย  มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาวิชาการ ผ่านความร่วมมือแบบบูรณาการระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนด้านวิชาการ การประชาสัมพันธ์สร้างกระแสสังคม และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายและกลไกการส่งเสริมสุขภาพช่องปากในกลุ่มเด็กอย่างเป็นระบบ ได้แก่ ส่งเสริมกิจกรรม ฝึกทักษะผู้ปกครองแปรงฟัน ส่งเสริมกิจกรรมแปรงฟันในโรงเรียน โครงการ Sandbox จังหวัดเด็กฟันดี จะเริ่มต้นใน 13 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ เชียงใหม่, ตาก, นครสวรรค์, นครนายก, เพชรบุรี, ฉะเชิงเทรา, กาฬสินธุ์, นครพนม, นครราชสีมา, ยโสธร, พังงา, นราธิวาส และกรุงเทพมหานคร โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 13 เดือน จะเสร็จสิ้นในเดือนมิถุนายน 2569 นอกจากนี้ ยังจะขยายผลโมเดลสุขภาพช่องปากไปยังทุกกลุ่มวัยในพื้นที่จัดบริการทันตกรรมโดยรถทันตกรรมเคลื่อนที่อีกด้วย

ด้านนายชาติ จันทร์วิจิตร ประธาน บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจคู่คุณธรรม พัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดระยะเวลากว่า 56 ปี เปิดเผยว่า ไลอ้อน ประเทศไทย มีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์นี้ โดยร่วมมือกับกรมอนามัย ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการส่งเสริมด้านสุขภาพของประชาชนไทย นับเป็นก้าวสำคัญในการรวมพลังระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม สู่เป้าหมาย ‘เด็กไทยฟันดี ไม่มีฟันผุ’ ตามเจตนารมณ์ร่วมกัน ซึ่งบริษัท ไลอ้อนฯ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมทันตกรรมป้องกัน สำหรับเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ และดำเนินการอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศไทย โดยมีโครงการต่าง ๆ อาทิ Lion Kodomo School Roadshow ที่ดำเนินการต่อเนื่องมากว่า 30 ปี เพื่อให้ความรู้ในการแปรงฟันและสร้างเสริมพฤติกรรมดูแลสุขภาพช่องปากให้กับเด็ก ๆ ในโรงเรียนประถมทั่วประเทศ ปีละกว่าหนึ่งแสนคน โครงการไลอ้อนส่งเสริมการป้องกันและดูแลสุขภาพช่องปากให้กับประชาชนทั่วไป โครงการบริหารช่องปากสำหรับผู้สูงวัยด้วยเทคนิค Kenkobi เป็นต้น โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เป็นองค์กรธุรกิจคู่คุณธรรม ด้วยพันธสัญญาที่จะนำความดีสู่สังคม และพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภคทุกช่วงวัย

บริษัท ไลอ้อน มีเป้าประสงค์ ที่จะส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และสร้างความตระหนักในพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกต้องให้กับประชาชนทุกช่วงวัย ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ตลอดจนผู้สูงอายุ ซึ่งนอกจากการร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ “ไลอ้อน - กรมอนามัย เด็กไทยฟันดี” แล้ว ยังเปิดตัว โครงการ LION Smile Express ซึ่งปีนี้ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 เป็นโครงการที่ทางไลอ้อนจัดรถทันตกรรมเคลื่อนที่มาตรฐานความสะอาด ความปลอดภัย ความทันสมัย เสมือนยกคลินิกทำฟันระดับพรีเมียมมาไว้บนรถ บริการตรวจฟัน เคลือบฟลูออไรด์ อุดฟัน ขูดหินปูน ออกให้บริการตามแหล่งชุมชน โรงเรียน ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดโดยเน้นไปที่กลุ่มเสี่ยงหรือผู้ด้อยโอกาสที่ไม่สามารถเข้าถึงการตรวจ การดูแล และรักษาปัญหาในช่องปากได้ อาทิ กลุ่มเด็กเล็กในโรงเรียน กลุ่มเด็กด้อยโอกาส ผู้บกพร่องทางร่างกาย ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยในภาวะพึ่งพิง ชาวบ้านในชุมชนแออัด เป็นต้น

โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา โครงการ LION Smile Express ได้ออกให้บริการใน 31 สถานที่ 9 จังหวัด และให้บริการกลุ่มเป้าหมายถึง 2,687 คน โดยในปีนี้มีแผนจะออกให้บริการควบคู่กับการขยายผลโมเดลการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากไปยังทุกกลุ่มวัยในพื้นที่จัดบริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ เพื่อเพิ่มความรอ และสร้างสังคมแห่งสุขภาพช่องปากที่ดีให้กับคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม

ขวดและฝาผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงชนิดไร้กลิ่น คงความหอม และคุณภาพครบถ้วน เพิ่มโอกาสการแข่งขัน พร้อมส่งออกตลาดโลก

บทพิสูจน์แห่งองค์กรธุรกิจคู่คุณธรรม ไลอ้อนได้รับ 3 รางวัลแห่งความภาคภูมิใจล่าสุด ได้แก่ “ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่น” “ผลิตภัณฑ์ดีเด่นแห่งปี” “ความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน” จัดโดยโครงการหนึ่งล้านกล้าความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน มูลนิธิเพื่อสังคมไทย เป็นโครงการที่ส่งเสริมให้คนไทยประกอบคุณงามความดีกับตัวเองครอบครัว เพื่อน ครูอาจารย์ โรงเรียน สถาบันการศึกษา องค์กร สังคม และประเทศชาติ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม

บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจพัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดระยะเวลา 55 ปี  เปิดเผยว่า เป็นอีกความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน ประเทศไทย กับการได้รับการพิจารณารับ 3 รางวัล จาก โครงการหนึ่งล้านกล้าความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน มูลนิธิเพื่อสังคมไทย โดย พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุก องคมนตรี ประธานในพิธี ให้เกียรติมอบรางวัล พร้อมเผยผลงานโดดเด่นกับรางวัลต่าง ๆ ที่ได้รับในปี 2567

สำหรับ 3 รางวัล ที่ได้รับมีดังนี้ 1. รางวัล“Creative Thinking & Innovation of the year 2024” “ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่นแห่งปี” ประจำปี 2567 สาขา นวัตกรรมกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Process) ซึ่งเป็นรางวัลผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสารสกัดตรีผลาเข้มข้น สกัดด้วยวิธีจำเพาะสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก (Concentrated Triphala Extract, Processed Using a Specialized Method for Oral Care Applications) เป็นนวัตกรรมวิธีการสกัดตรีผลาให้มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในช่องปากที่ดี ทำงานร่วมกับฟลูออไรด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้สารสกัดจากธรรมชาติทดแทนสารสังเคราะห์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติมากขึ้น โดยนายชูชีพ อภิรักษ์ ผู้แทนรับรางวัล

2. รางวัล“Product of the year 2024” “ผลิตภัณฑ์ดีเด่นแห่งปี” ประจำปี 2567สาขาผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน ผลิตภัณฑ์ยาสีฟัน ซอลส์ คิง เฮิร์บ [SALZ King Herb Toothpaste] ผลิตภัณฑ์ยาสีฟันสมุนไพรสูตรเข้มข้นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ ใช้กรรมวิธีการผลิตด้วยการใช้สารสกัดพรีไบโอติกจาก “โมโรเฮยะ” ราชาแห่งผักและวิตามิน ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีเพื่อควบคุมจุลินทรีย์ที่ก่อโรค รวมถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ FSC ที่เป็นทรัพยากรหมุนเวียนไม่ทำลายป่าไม้โดยธรรมชาติ โดยนางสาวสรัลนุช แก้วเกียรติยศ ผู้แทนรับรางวัล

และ 3. รางวัล“Goodness Award 2024” รางวัล “ความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน” ประจำปี 2567สาขา องค์กรที่ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ จากการดำเนินโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้กับประชาชน อาทิ โครงการ Kodomo School Roadshow โครงการทันตกรรมป้องกันส่งเสริมการดูแลสุขภาพช่องปาก โครงการบริหารช่องปากผู้สูงวัยด้วยหลักการ Kenkobi  และโครงการ “LION Smile Express” รถทันตกรรมเคลื่อนที่บริการฟรีเพื่อรอยยิ้มที่สดใสของคนไทย เพื่อให้ความรู้และส่งเสริมให้ประชาชนทุกช่วงวัยมีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะสุขภาพช่องปากที่ดี จะนำไปสู่การมีสุขภาพร่างกายที่ดีโดยองค์รวม โดยนางสาวศศิธร โรจนศิรินทร์ ผู้แทนรับรางวัล

ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจคู่คุณธรรม “ไลอ้อน” มีความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภค รวมถึงโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม  โดยในปี 2567 มีผลงานมากมายที่โดดเด่นและได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ ไม่ว่าจะเป็น “รับประกาศนียบัตรรับรองการต่ออายุเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย” “รางวัลโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ” (Eco Factory) จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย “รางวัล Golden Award จากเวที Thailand Kaizen Award 2024” พัฒนายกระดับประสิทธิภาพกระบวนการผลิตด้วยเทคนิค Kaizen "รับโล่เกียรติยศ Saint Francis of Assisi Award” ประจำปี 2567 จัดโดยคณะอนุกรรมาธิการด้านคุณธรรมและจริยธรรมในคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภาร่วมกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย และสมาคมคาทอลิกแห่งประเทศไทย"  และ “อย.ควอลิตี้ อวอร์ด 2567” คุณภาพ ปลอดภัย ใส่ใจสังคม จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข

นับเป็นบทพิสูจน์แห่งความสำเร็จของการเป็นองค์กรคนดีของ ไลอ้อน ประเทศไทย ภายใต้วัฒนธรรมองค์กรในการยกย่องคนดี ส่งเสริมบุคลากรทุกระดับให้เป็นคนเก่ง เรียนรู้พัฒนาตลอดเวลา ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจคู่คุณธรรมด้วยคำมั่นสัญญาเราจะนำความดีสู่สังคม และสร้างสุขภาวะที่ดีสู่ผู้บริโภค

“ไลอ้อน ประเทศไทย” ส่งรถทันตกรรมเคลื่อนที่ “ไลอ้อน สไมล์ เอ็กซ์เพรส” ปักหมุด “วิหาร อี่ ทง เทียน ไท้” มอบสุขภาพช่องปากที่ดีและรอยยิ้มที่สดใส ให้กับชาวกบินทร์บุรี  ภายใต้โครงการ “ไลอ้อน สไมล์ เอ็กซ์เพรส” (LION Smile Express) เพื่อตอกย้ำถึงการเป็นองค์กรแนวหน้าในการเสริมสร้างสุขภาพช่องปากที่ดีและมอบรอยยิ้มที่สดใสให้คนไทยทุกคนมาตลอด 55 ปี

นายชาติ จันทร์วิจิตร ประธาน บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจ พัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดระยะเวลา 55 ปี กล่าวถึงการดำเนินโครงการ “ไลอ้อน สไมล์ เอ็กซ์เพรส” (LION Smile Express) ส่งรถทันตกรรมเคลื่อนที่ จำนวน 2 คัน มอบสุขภาพช่องปากที่ดีและรอยยิ้มที่สดใส ให้บริการตรวจฟันและทำฟันฟรี ให้กับประชาชนในหลายพื้นที่ ซึ่งได้เปิดตัวและเริ่มบริการตั้งแต่เมื่อกลางปี 2567 ที่ผ่านมาได้ให้บริการไปแล้วในหลายพื้นที่ โดยให้บริการทันตกรรมกับกลุ่มเด็ก ประชาชนทั่วไป กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุไปแล้วกว่า 2,600 คน 30 สถานที่  9 จังหวัด มูลนิธิคนพิการและทุพพลภาพ 9 แห่ง มูลนิธิเด็กกำพร้าและเด็กด้อยโอกาส 3 แห่ง สถานดูแลผู้สูงอายุ 4 แห่ง สถานศึกษา 2 โรงเรียน ศาสนสถาน 2 แห่ง และชุมชนทั่วไป 10 สถานที่ 

ล่าสุด ไลอ้อน ประเทศไทย ได้ส่งรถทันตกรรมเคลื่อนที่ “ไลอ้อน สไมล์ เอ็กซ์เพรส” นำสุขภาพช่องปากที่ดี และรอยยิ้มที่สดใส มอบให้กับประชาชนในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยการเปิดให้ใช้พื้นที่บริเวณวิหาร อี่ ทง เทียน ไท้ ซึ่งประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นจุดให้บริการสำหรับรถทันตกรรมเคลื่อนที่พร้อมทีมทันตแพทย์ที่มาให้บริการตรวจสุขภาพฟันฟรี ในวันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่ลงทะเบียนเข้ารับบริการเต็มจำนวน

นายวุฒิชัย ไผ่หล้า อายุ 32 ปี ประชาชนในพื้นที่ กล่าวว่า ได้เข้ารับบริการขูดหินปูน ซึ่งปกติเวลาพบแพทย์จะไปขูดหินปูนปีละหนึ่งครั้ง นับเป็นครั้งแรกที่ได้ใช้บริการกับรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีโดยอยากให้ทางไลอ้อนจัดแบบนี้อย่างต่อเนื่อง

นางดาวรุ่ง เทียมครู อายุ 52 ปี ประชาชนในพื้นที่ กล่าวว่า ได้เข้ารับบริการอุดฟันกับรถทันตกรรมเคลื่อนที่เป็นครั้งแรก รู้สึกประทับใจ ซึ่งภายในรถเองสามารถรองรับได้หลายคน นับเป็นบริการที่ช่วยเสริมนอกเหนือจากสวัสดิการของรัฐ และอยากให้ทางไลอ้อนจัดโครงการนี้อีก

นางสาวสกาวเดือน แสนหาร อายุ 34 ปี และ นางสาวจิรฐิติ จิตสงวนสุข อายุ 29 ปี กล่าวว่า ได้เข้ามารับบริการขูดหินปูน หลังจากการใช้บริการแล้วรู้สึกประทับใจและรู้สึกช่องปากสะอาดขึ้น โดยปกติจะพบทันตแพทย์ปีละครั้ง นับเป็นครั้งแรกที่ได้ใช้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ ขอขอบคุณทางไลอ้อน และอยากให้มีโครงการดี ๆ แบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ

“ตลอดระยะเวลา 55 ปีที่ผ่านมา ไลอ้อน ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมทันตกรรมป้องกันสำหรับผู้บริโภคทุกช่วงวัย ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีแคมเปญและกิจกรรมมากมาย อาทิ โครงการ Kodomo School Roadshow เพื่อให้ความรู้การแปรงฟันที่ถูกวิธีและสร้างเสริมสุขภาพช่องปากให้กับเด็ก ๆ ในโรงเรียนประถมทั่วประเทศปีละกว่าหนึ่งแสนคน ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องมากว่า 30 ปี  โครงการส่งเสริมทันตกรรมป้องกันและการดูแลสุขภาพช่องปากให้กับประชาชนทั่วไป  โครงการบริหารช่องปากสำหรับผู้สูงวัยด้วยเทคนิค Kenkobi เป็นต้น บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยคำมั่นสัญญาที่จะนำความดีสู่สังคม และพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกช่วงวัยมีการดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกต้อง นำไปสู่การมีสุขภาพร่างกายที่ดี” นายชาติ กล่าว

สำหรับรถทันตกรรมเคลื่อนที่ “ไลอ้อน สไมล์ เอ็กซ์เพรส” ให้บริการตรวจสุขภาพฟันและรักษาทางทันตกรรมฟรี ด้วยทีมทันตแพทย์มืออาชีพ ครบครันไปด้วยอุปกรณ์ทันตกรรมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด โดยได้นำ AI เทคโนโลยี มาใช้ในการตรวจสอบปัญหาสุขภาพช่องปาก เอ็กซเรย์ฟันเพื่อให้เห็นปัญหาลึกถึงรากฟัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยและรักษาได้ตรงจุด ด้วยมาตรฐานการรักษาระดับเดียวกันกับคลินิกทันตกรรมชั้นนำที่ครบวงจร

โครงการ LION Smile Express ผนึก 5 แบรนด์ใหญ่ภายใต้บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย ซิสเท็มมา ซอลส์  โคโดโม กู๊ดเอจ และไฮเฮิร์บ นำสุขภาพช่องปากที่ดีสู่คนไทยทั่วประเทศ รถทันตกรรมเคลื่อนที่ “ไลอ้อน สไมล์ เอ็กซ์เพรส” ยังคงเดินหน้าให้บริการอย่างต่อเนื่องไปทั่วประเทศ ในบางแห่งได้ร่วมกับบุคลากรด้านทันตสาธารณสุขท้องถิ่นมาร่วมดำเนินการ แสดงถึงการเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก Oral Care ที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่ จนถึงผู้สูงอายุ ในการเสริมสร้างสุขภาพช่องปากที่ดีและมอบรอยยิ้มที่สดใสให้คนไทยทุกคน

“ไลอ้อน ประเทศไทย” หนุน “ผักโมโรเฮยะ” ราชาแห่งผัก ดันเป็นพืชอัตลักษณ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น นำมาพัฒนาสารสกัดวัตถุดิบ ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อคนไทย เล็งขยายพื้นที่การเพาะปลูกเพิ่ม รองรับการขยายกำลังการผลิตในอนาคต

นายชูชีพ อภิรักษ์ ผู้จัดการส่วนวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจ พัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง เปิดเผยว่า ไลอ้อน ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างต่อเนื่อง ให้สอดรับกับพฤติกรรมและช่วงวัยของผู้บริโภค โดยเล็งเห็นความสำคัญของพืชพื้นถิ่น ไม่ว่าจะเป็น สารสกัดตรีผลาจากสมอไทยและสมอเทศ สารสกัดมะไฟจีน และสารสกัดผักโมโรเฮยะ เป็นต้น โดยดึงประโยชน์จากพืชพื้นถิ่น นำมาพัฒนาสารสกัดจนนำไปสู่ผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อคนไทย ทั้งยังสร้างประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน สิ่งแวดล้อมและสังคม (Sustainable R&D Direction)

“ผักโมโรเฮยะ ถูกขนานนามว่า เป็นพระราชาแห่งผัก ด้วยคุณประโยชน์ที่โดดเด่น มีสารพรีไบโอติกสูง สามารถสกัดนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ไลอ้อนได้ อีกทั้งยังเป็นผักที่เพาะปลูกง่ายมีวงจรการเพาะปลูกตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการเก็บเกี่ยวประมาณ 2 เดือนเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ไลอ้อน จึงส่งเสริมการเพาะปลูกผักโมโรเฮยะให้กับชุมชน เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับไลอ้อน โดยปัจจุบันมีแปลงสาธิตที่ภาคเหนือ จ.น่าน โดยร่วมมือกับศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ (ศนก.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ในการส่งเสริมการปลูก รวมไปถึงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลในการวิเคราะห์ตรวจสอบเกี่ยวกับค่าของการลดคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเราพบว่านอกจากจะเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว ยังสามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้อีกด้วย” นายชูชีพ กล่าว

ด้วยคุณประโยชน์เด่นที่รอบด้านของ “ผักโมโรเฮยะ” ปัจจุบันไลอ้อนได้นำมาพัฒนาผ่านกระบวนการพิเศษในการสกัดจนได้มาซึ่งสารสกัดที่มีคุณภาพ โดยทำการวิจัยและทดสอบอย่างรอบด้าน ผ่านความร่วมมือกับสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์กรมหาชน) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร (ศนส.) รวมทั้งผ่านมาตรฐานความปลอดภัย OECD จากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (The Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) จนได้มาเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก ที่ส่งเสริมจุลินทรีย์ที่ดีและปกป้องจากจุลินทรีย์ที่ไม่ดี ได้แก่ ยาสีฟัน Salz King Herb ผลิตภัณฑ์ Shokubutsu Facial gel และ Shower gel ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค การันตีด้วยการคว้ารางวัลด้านนวัตกรรมระดับโลกจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และรางวัลผลิตภัณฑ์นวัตกรรมด้านสุขภาพจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

นายวิเชียร โฆษิตวัฒน์ ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและธุรการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด ผู้ดูแลแปลงผักโมโรเฮยะ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เล่าถึงการดูแลแปลงผักโมโรเฮยะตั้งแต่เริ่มปลูกจนกระทั่งเก็บเกี่ยวว่า “ผักโมโรเฮยะเป็นพืชที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตตามธรรมชาติ ชอบแสงแดด ศัตรูพืชน้อย เมื่อโตเต็มที่ 45 วัน สามารถตัดยอดได้เลย โดยใช้ประโยชน์จากใบสดและตากแห้งนำมาทำเป็นใบชา สำหรับการเก็บเกี่ยวหลังจากตัดประมาณ 30 เซนติเมตร จากยอดลงมา ส่วนที่ตัดจะนำไปแจกจ่ายชุมชนหรือพนักงานในบริษัท เพื่อนำไปประกอบอาหาร โดยสามารถทำอาหารได้หลายรูปแบบ และหลังจากที่ตัดผักโมโรเฮยะไปแล้ว 30 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้อีกครั้ง โดยไม่ต้องใส่ปุ๋ย

เสียงตอบรับจากผู้บริโภคที่ได้รับประทานผักโมโรเฮยะ จนนำไปสู่ความมั่นใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของผักโมโรเฮยะ

นางรุ่งฤดี พรพัฒนไพโรจน์ ผู้ที่ได้บริโภค “ผักโมโรเฮยะ” กล่าวถึงความรู้สึกว่า “เราอยู่ในชุมชนรอบไลอ้อน ได้เห็นว่าทางไลอ้อนได้ปลูกผักโมโรเฮยะและมีการแจกจ่ายให้กับชุมชน จากที่ได้นำไปรับประทาน รู้สึกชอบ จึงได้หาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า เป็นผักที่มีประโยชน์เรียกว่า “ราชาผัก” และมีวิตามินมาก ๆ ซึ่งเป็นผักที่สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ผักโมโรเฮยะผัดไข่ แกงส้มผักโมโรเฮยะ แม้กระทั่งลวกจิ้มกับน้ำพริกก็อร่อย นอกจากการรับประทานผักแล้ว ยังมีโอกาสได้ใช้ผลิตภัณฑ์ไลอ้อน Salz King Herb ที่มีส่วนผสมของผักโมโรเฮยะ รู้สึกประทับใจในคุณภาพ ลมหายใจสดชื่นและปากสะอาดมาก นอกจากนี้ยังได้ใช้โฟมล้างหน้า Shokubutsu ก็ประทับใจเช่นกัน จึงอยากให้ทุกคนลองเปิดใจกับผักโมโรเฮยะและอยากให้ทุกคนได้ทดลองใช้”

นายเทวินทร์ อินทรสว่าง ที่ได้บริโภค “ผักโมโรเฮยะ” กล่าวเปิดใจว่า “ได้รู้จักผักโมโรเฮยะ จากผลิตภัณฑ์ Salz King Herb และโฟมล้างหน้า หลังจากที่ลองใช้ผลิตภัณฑ์ก็รู้สึกว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ หลังจากที่ใช้ยาสีฟัน Salz King Herb รู้สึกปากสะอาดและสดชื่น ในส่วนของตัวโฟมล้างหน้าหน้ารู้สึกสะอาด ไม่มันและไม่แห้ง และเมื่อได้มีโอกาสไปหาซื้อผักโมโรเฮยะนำมาประกอบอาหารแบบง่าย ๆ ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ใส่ผักโมโรเฮยะ และนำไปผัดใส่น้ำมัน รู้สึกว่ารสชาติของผักโมโรเฮยะไม่ขม และสามารถทานได้ทุกคนและทุกวัย”

“ผักโมโรเฮยะ” เป็นเพียงหนึ่งในจำนวนหลายพืชพื้นถิ่น ที่เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านและเป็นผลผลิตชุมชนของชาวบ้านในประเทศไทย ยังมีพืชพื้นถิ่นอีกจำนวนมากที่สามารถนำมาสกัดเป็นวัตถุดิบที่มีประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย คงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีพืชพื้นถิ่นใดอีกบ้าง ซึ่งไลอ้อน ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยการดึงประโยชน์จากพืชพื้นถิ่นทั่วประเทศ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน สิ่งแวดล้อมและสังคม

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click