December 05, 2025

การไฟฟ้านครหลวง (MEA) โดยฝ่ายการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ จัดงานสัมมนา “MEA Better Care 2025 : Powering Trust with CARE+” ณ ห้อง Jubilee Ballroom โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ โดยมีนายกิตติศักดิ์ เจือจันทนศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายงานธุรกิจ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน งานสัมมนานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ พร้อมเสริมสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจและอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการไฟฟ้าผ่านโครงการ MEA Better Care Service Plus โดยทีมวิทยากรจากฝ่ายธุรกิจบริการและคุณภาพไฟฟ้าของ MEA มุ่งเน้นให้ลูกค้าได้รับข้อมูลเชิงลึกและสามารถนำไปปรับใช้ในการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมงานสัมมนาจำนวนกว่า 100 ท่าน

 

นอกจากนี้ ภายในงานได้จัดแสดงบูทให้ข้อมูลและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับบริการของ MEA อาทิ MEA Better Care Service Plus บริการดูแลระบบไฟฟ้าภายในอาคารด้วยระบบ IoT อัจฉริยะตลอด 24 ชั่วโมง MEA Plug ME EV โซลูชันสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า อัตราค่าไฟฟ้า UGT (Utility Green Tariff) สำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาด และ MEA e-Service บริการออนไลน์ที่ช่วยให้ผู้ใช้ไฟสามารถเข้าถึงข้อมูลและทำธุรกรรมด้านไฟฟ้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทุกที่ทุกเวลา โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำตลอดช่วงการจัดงาน

 

โครงการ “MEA Better Care Service” เป็นบริการเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจและอุตสาหกรรม ที่ต้องการความมั่นใจในระบบไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าใต้ดิน และการบำรุงรักษาเชิงป้องกันแบบมืออาชีพ โดยมุ่งเน้นการให้บริการเชิงรุก เพื่อสร้างความมั่นใจในความต่อเนื่องทางธุรกิจของลูกค้า MEA

นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมพิธีเปิดโครงการติดตั้งและบํารุงรักษาอุปกรณ์ประหยัดพลังงานในระบบการผลิตไฟฟ้า หรือพลังงานทางเลือก (Solar Rooftop) โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานเปิดการใช้งานโครงการติดตั้ง และบำรุงรักษาอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ในระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนหรือพลังงานทางเลือก พร้อมด้วย พลเรือโท ประทีป ตังติสานนท์ เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ พลเรือตรีสมชาย จันทโรธร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของทั้งสองหน่วยงาน ร่วมให้เกียรติเป็นสักขีพยานในพิธี ณ ห้องประชุมแพทย์ทางไกล อาคารผู้ป่วยใน ชั้น 13 โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ

 

พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวเปิดโครงการว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เป้าหมายการเป็นประเทศที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 (พ.ศ.2593) โดยสนับสนุน และพร้อมส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น กองทัพเรือได้ตระหนักถึงความสำคัญของเป้าหมายนี้ และให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง โดยถือว่าเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐในการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านการบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเลือกใช้พลังงานสะอาด พลังงานทดแทนหรือพลังงานทางเลือก เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ดำเนินงานอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นหน่วยงานที่มีการปฏิบัติและบริหารงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่ 1 ของกองทัพเรือ คือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้พลังงาน โดยเน้นกลยุทธ์หลัก คือการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน

 

อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ถือเป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิชั้นสูงของกองทัพเรือ ซึ่งมีภารกิจหลักในการให้บริการตรวจรักษาด้านการแพทย์แก่กำลังพล ครอบครัวและประชาชนทั่วไป ตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน ด้วยบทบาทดังกล่าวโรงพยาบาลจึงมีความจำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับภารกิจด้านการแพทย์ การดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในการดูแลผู้ป่วยวิกฤต การผ่าตัด ตลอดจนระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศของโรงพยาบาล

 

นอกเหนือจากความตระหนักในต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นแล้ว โรงพยาบาลยังให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านพลังงาน การลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากฟอสซิล ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมก้าวสู่การเป็น “โรงพยาบาลสีเขียว” (Green Hospital) อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายการจัดการสิ่งแวดล้อมของกองทัพเรือภายใต้แนวคิด “Green Navy” และสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาลในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593)

ด้านผู้ว่าการ MEA กล่าวเสริมว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่ดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐด้านพลังงานหมุนเวียน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา MEA ได้ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสนับสนุนตามนโยบายลดการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ส่งเสริมให้หน่วยงานของรัฐ มีการใช้พลังงานอย่างประหยัด มีประสิทธิภาพ มีเป้าหมายตามแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี ตามมติคณะรัฐมนตรี กำหนดให้หน่วยงานราชการลดการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงลงร้อยละ 20 จึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ในครั้งนี้ โดยบทบาทของ MEA ครอบคลุมการสำรวจ ออกแบบ ติดตั้ง และบำรุงรักษา มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมโยงการมอนิเตอร์ปริมาณพลังงานจากแสงอาทิตย์ และระบบจำหน่ายของ MEA ผ่านระบบออนไลน์ แบบ Realtime ทั้งหมดนี้ นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญ โดย MEA พร้อมที่จะต่อยอด และขยายผลความร่วมมือในโอกาสต่อไป

 

โดยโครงการนี้ดำเนินการติดตั้งระบบ Solar Rooftop ของอาคารผู้ป่วยในโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ รวมกำลังการผลิตสูงสุด 1,780.64 กิโลวัตต์ คาดการณ์ผลประหยัดเฉลี่ย 4.7 ล้านบาทต่อปี ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่บรรยากาศได้เฉลี่ย 1,035.61 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี เทียบเท่ากับการปลูกต้นสักประมาณ 58,841 ต้น ปัจจุบัน MEA ดำเนินการติดตั้งระบบเสร็จเรียบร้อยเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา และมีความพร้อมในการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือแล้ว การจัดพิธีเปิดโครงการในครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ร่วมมือกันและมีเป้าหมายเดียวกันในการพัฒนาพลังงานสะอาด มุ่งเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และเป็นต้นแบบในการพัฒนาโครงการบริหารจัดการพลังงานสะอาดของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป

 

ทั้งนี้ ผู้สนใจจะติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยของ MEA สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ฝ่ายธุรกิจบริการและคุณภาพไฟฟ้า โทร. 0 2878 5385, 0 2878 5432, 0 2878 5433 และ 0 2878 5434 ระหว่างเวลา 07.30 - 15.30 น. ในวันเวลาทำการ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook: การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line: MEA Connect (@MEAthailand) สัญลักษณ์โล่เขียวนำหน้าชื่อบัญชีทางการ เลือกเมนู ติดต่อ MEA Call Center Online 1130 ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมกับ PWA หรือการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่ดูแลระบบความมั่นคงระบบไฟฟ้า และประปา ในพื้นที่ของประเทศไทย แนะเคล็ดลับประหยัดไฟ-น้ำ อย่างมีประสิทธิภาพ

MEA แนะเทคนิคประหยัดไฟในการใช้เครื่องทำน้ำอุ่น

  • ใช้เสร็จแล้วรีบปิดเครื่อง อย่าเปิดสวิตช์ทิ้งไว้
  • ไม่ควรปรับความร้อนเกินความจำเป็น
  • สวิตช์ และส่วนประกอบอื่น ๆ ต้องเป็นชนิดที่กันน้ำ
  • ต้องติดตั้งสายดิน และเครื่องตัดไฟรั่วที่ได้มาตรฐาน
  • ควรอ่านคู่มือก่อนการใช้งาน

PWA แนะเทคนิคประหยัดน้ำในการใช้เครื่องทำน้ำอุ่น

  • เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำ
  • ปิดฝักบัวทุกครั้งระหว่างทำความสะอาดร่างกาย อาทิ ขณะถูสบู่ สระผม
  • ใช้เวลาการอาบน้ำให้สั้นลง จะช่วยประหยัดน้ำได้มากขึ้น
  • เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นไม่เกิน 15 นาที/ครั้ง
  • ปรับระดับความแรงของน้ำปานกลาง
  • หมั่นตรวจการรั่วไหลน้ำจากฝักบัว เพราะทำให้สูญเสียน้ำโดยเปล่าประโยชน์

ทั้งนี้ ผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ สามารถติดต่อ MEA ได้ผ่าน MEA Smart Life Application หรือผ่านช่องทาง Line: MEA Connect (@MEAthailand) สัญลักษณ์โล่สีเขียวนำหน้าชื่อบัญชีทางการ เลือกเมนู ติดต่อ MEA Call Center Online 1130 ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ในส่วน กปภ. ให้บริการด้านน้ำประปา ในพื้นที่ 74 จังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ และพื้นที่ที่บริหารจัดการน้ำประปาโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถติดต่อ กปภ. ผ่านช่องทาง

PWA E-SERVICE ได้แก่

  1. PWA LINE Official : @pwathailand
  2. PWA Plus Life Application
  3. เว็บไซต์ www.pwa.co.th 

หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ PWA Contact Center 1662 ตลอด 24 ชั่วโมง

X

Right Click

No right click