February 23, 2025

“ธุรกิจคอนเทนต์ ต้องยอมรับว่ามีการแข่งขันสูงมาก การจะเป็นผู้นำวันนี้ก็ไม่ง่าย ต้องการสร้างแพลตฟอร์มของคนไทย เพื่อส่งออกคอนเทนต์ไทย วัฒนธรรมไทย เราให้ความสำคัญมากคือ การพัฒนาเพื่อเพิ่มความพึงพอใจของ Users เรา เพราะนี่คือหัวใจของธุรกิจ” วินท์รดิศ กลศาสตร์เสนี President TrueID ย้ำถึงธุรกิจคอนเทนต์ในปัจจุบัน

ที่มาที่ไปก่อนจะมาทํางานที่ TrueID? วินท์รดิศ กลศาสตร์เสนี ท้าวไปตั้งแต่จุดเริ่ม คือการมาทําธุรกิจออนไลน์มาจาก 3 ส่วน ส่วนแรกคือความชอบ ส่วนที่ 2 คือความชํานาญ และสุดท้ายนั้นคือความฝัน ผมเองจบด้าน Information Technology หรือ IT 10 กว่าปีแรกของการทํางาน ทํางานสายเทคมาตลอด ก็สั่งสมประสบการณ์เรื่องเทคโนโลยี เมื่อประมาณปี 2010-2011 ตอนนั้น Netflix เพิ่งจะเริ่ม 3 ปีเอง เราก็เลยเกิดความฝันว่า เราอยากจะสร้าง benchmark คล้ายๆ กับเซอร์วิส ผมก็เลยออกมาจากไมโครซอฟท์ แล้วก็มาสร้างบริษัทเองทางด้าน VDO streaming ซึ่ง ณ เวลานั้น เป็นอะไรที่ใหม่มาก ต้องยอมรับว่าโลกยังดูทีวีเป็นหลัก จนถึงจุดหนึ่งที่ผมได้โอกาสไปร่วมงานกับ Discovery ซึ่งก็เป็นแบรนด์มีเดียแบรนด์ใหญ่เจ้าหนึ่งของอเมริกา ไปเป็นสตาร์ทอัพสร้างธุรกิจ OTT ซึ่งกลายเป็น MAX ที่เรารู้จักกันวันนี้  พอมาถึงจุดที่เราโชคดีมากก็คือ ได้โอกาสเจอผู้บริหาร และ Founder ของ TrueID ต้องการสร้างแพลตฟอร์มของคนไทย เพื่อผู้บริโภคไทย เพื่อจะนําส่งออกสิ่งที่สําคัญอันดับต้นๆ ก็คือ คอนเทนต์ไทย วัฒนธรรมไทย ที่สามารถจะ impact คนทั้งประเทศ และกลับมาอยู่กับครอบครัวที่เมืองไทย นั่นคือเหตุว่า ทําไมถึงได้มาดู TrueID ประมาณสักปีครึ่งที่ผ่านมา

TrueID มีบริการอะไรบ้าง?

TrueID เป็นแพลตฟอร์มคนไทย เวลาเรามอง TrueID เราไม่สามารถจะบอกได้ว่า TrueID เป็นแพลตฟอร์มที่ทําเรื่องแค่ VDO streaming แต่เราอยากขยายความบริการอื่นๆ ซึ่งเป็นบริการที่ถูกสร้างมาตั้งแต่เริ่ม ถ้าถามคนที่ใช้บริการทรู หลายๆ คนจะบอกว่าผมมาเข้า TrueID เพราะต้องการ Privilege หลายอย่างที่ทรูให้ ผ่านทรูเรดการ์ดผ่านทรูแบล็กการ์ด คนหลายคนต้องบอกว่าจํานวน 1 ใน 3 ของ users เรา เข้ามาเพื่อหา Privilege ต่างๆ ภายในทรู นั่นเป็นหนึ่งใน used case ใหญ่ที่สุดของการใช้ TrueID

ส่วนที่ 2 ด้วยความที่เรามีคอนเทนต์เยอะ เราก็สามารถสร้าง community ของคนที่ชอบคอนเทนต์เหมือนๆ กัน 2 ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดใน community ของคนดูกีฬา ดูฟุตบอล ทุกๆ match เราจะมีการที่ทําเรื่อง live commenting ก็คือ สามารถ text คุยกันระหว่างมีการแข่ง อีก used case หนึ่งที่ผมว่าน่าสนใจก็คือ เรามี community ที่ใหญ่มากของธรรมะ ด้วยการที่ทรูทําสามเณรปลูกปัญญามานาน กลายเป็น community ที่คนเหนียวแน่นมาก

ข้อที่ 3 คือวิดีโอ เรามีคอนเทนต์มากมายที่เรามี ทั้งจัดสร้างเอง เรามีการซื้อลิขสิทธิ์เพิ่มจากคู่ค้าทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เราเองก็เอาคอนเทนต์ของบริษัททรูวิชั่นส์เข้ามาบรอดแคสต์อยู่บนแพลตฟอร์ม TrueID ลักษณะหรือพฤติกรรมของคนอยู่ใน TrueID จะขึ้นอยู่กับบริบทของคนๆ นั้น ณ เวลานั้นด้วย เพราะว่าเรามีลูกค้าที่ใช้ทั้ง 3 ส่วนนี้มากเหมือนกัน

ธุรกิจคอนเทนต์ ต้องยอมรับว่ามีการแข่งขันสูงมาก สิ่งที่สะท้อนคือ Content Cost การลงทุนคอนเทนต์มันก็สูงขึ้นตาม อันนี้ก็จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ถือว่ามีความยากมากในธุรกิจนี้ คือถ้าต้องการจะเป็นผู้นํา ไม่ต้องเอาระดับโลกนะ เอาแค่ในประเทศเรา วันนี้ก็ไม่ง่าย เพราะว่าทุกคนก็เล็งเห็นเลยว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มียุทธศาสตร์ที่สําคัญในการที่จะเป็นคอนเทนต์ซัพพลายเออร์ใหม่ของโลก ต่อจากสิ่งที่เกาหลีเป็น ณ วันนี้ ต้องยอมรับว่า OTT นี้ ถ้ามองในอุตสาหกรรมโดยตรงของ Content Business นี้ YouTube คือโฆษณา เอาคอนเทนต์มาใครก็สามารถโพสต์คอนเทนต์ได้ แล้วส่วนใหญ่เป็นเกี่ยวกับการหารายได้ผ่านโฆษณา Netflix เป็นช่องหนึ่งที่เอาคอนเทนต์ตัวเองใส่ แล้วต้องมีการ subscribe คนจึงสามารถดูได้ใช่ไหม เขาจะไม่ค่อยมีการรวมๆ กันสักเท่าไร ต้องยอมรับว่าในเอเชียเราค่อนข้างevolve กว่าเยอะ ประเทศที่ชัดที่สุดเริ่มจากจีน การที่จีนมี application ที่เป็น tech company ใหญ่ๆ 3-4 เจ้า ทําให้มีความเป็นลักษณะซุปเปอร์แอป WeChat มีทุกๆ service ที่อยู่ใน WeChat ตั้งแต่ streaming ยัน e-commerce ยัน delivery ยันทุกๆอย่างที่เราจะสรรหาได้ ซึ่ง TrueID จะมีความคล้ายคลึงกับโมเดลอย่าง WeChat มากกว่า ดังนั้นการที่มีหนึ่งบริการที่สามารถทําได้หลายๆอย่าง เพื่อ serve need ของผู้บริโภคเป็นจุดยืนที่เราอยากทํา และเป็นสิ่งที่เราทํามาตลอด แต่แน่นอนเราก็ยังมีสิ่งที่อยากทําเพิ่มอีกมหาศาล

 TrueID สร้างรายได้จากอะไรบ้าง?

ธุรกิจ OTT ทั้งหมด 80-90% ส่วนใหญ่คือ advertising base ถามว่าที่เราทําก็ไม่ต่างกันเท่าไร แต่วัตถุประสงค์เราค่อนข้างชัดเจน เพราะว่าอันหนึ่งที่แตกต่างชัดเจนคือ ถ้า OTT ฝรั่งส่วนใหญ่เขามี objective ชัดเจน ก็คือว่าถ้าไม่เป็นโฆษณา subscription เขาใช้โมเดลคือการที่เขาสามารถเอาคอนเทนต์ของเขา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าของคอนเทนต์เอง หนึ่งเซอร์วิสหนึ่งคอนเทนต์สามารถ 10 ประเทศ 100 ประเทศ What ever ตามแล้วแต่ ขณะเดียวกัน เราต้องการให้ประชากรไทยทั้ง 70 ล้านคน สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ที่มีคุณภาพได้ โดยที่ไม่ต้อง

จ่ายตังค์ นั่นคือวัตถุประสงค์หรือ vision แรกก่อนเลย ของ TrueID เพราะฉะนั้นการที่มี Free Tier คือ การที่มีโฆษณา วัตถุประสงค์คือเราต้องการให้คนเข้าถึงเยอะที่สุด แล้วก็สะท้อนถึงทําไมเราถึงเป็นแพลตพอร์ม ที่มีคนดูเยอะ เพราะไม่มีการคิดตังค์ คิดตังค์ไปคิดที่ฝั่งโฆษณา ที่แบรนด์ ที่ agency แทน แต่เราก็มีทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ไม่อยากดูโฆษณาทําอย่างไร ก็สามารถ subscribe ได้

หลายๆ คนน่าจะอยากรู้และอยากฟังจาก TrueID เรื่องของข้อพิพาทกับ Regulator ที่เป็นข่าวเมื่อไม่นานมานี้?

ผมเองก็เป็นคนดูภาคธุรกิจ ผมเชื่อว่าไม่ต้องเอาสตาร์ทอัพหรอก ไม่ว่าธุรกิจไหนก็ไม่อยากจะมีเรื่องหรือมีข้อพิพาทกับผู้คุมกฎ หรือผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองอยู่แล้ว ผมว่าไม่มีใครอยากมีอยู่แล้ว เพราะว่ามันไม่ได้ช่วยเอื้อในอะไรเลย แต่ความเป็นจริงคือ พอมีเรื่องจริงๆ เราเริ่มได้เอกสาร จริงๆต้องบอกว่าเราได้เอกสารจากคู่ค้าเรานะพอคู่ค้าส่งมาเราก็ตกใจ เราก็เลยทําหนังสือเหมือนกัน ทําหนังสือไปที่ กสทช ถึง 2 รอบด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้รับ feedback อะไร แต่พอเริ่มมี impact จริงๆกับธุรกิจ เราเองในฐานะผู้ให้บริการที่มีลูกค้า 30 กว่าล้านคน ทุกเดือน รวมถึงคู่ค้าของเรา เราต้องการให้ความมั่นใจว่าเราไม่ได้ทําผิดในเชิงกฎหมาย แน่นอนความเชื่อถือ trust เป็นสิ่งสําคัญในการสร้างทําธุรกิจ เราก็เลยจําเป็นที่จะต้องเอาเข้าสู่การฟ้องร้อง แต่จริงๆ อย่างที่ผมเรียน มันไม่ได้เป็นสิ่งที่เราอยากจะทํา แต่เรามองว่า เรามี obligation ในการเป็นแพลตฟอร์มต่อผู้บริโภค และต่อคู่ค้าเรา ทําให้เราต้อง take action ตรงนั้นไป ส่วนว่าเราเจาะจงอะไรยังไงไหม ผมว่าอย่างงี้ดีกว่า ตอนนี้ process ที่อยู่ในศาล แล้วก็สิ่งที่มีการพิจารณาผลคดีไปแล้ว แต่ fact คือว่า ตอนที่เราได้รับเอกสารตัวนี้ มีวิธีเดียวที่จะทําได้ คือเราก็ฟ้องคนที่ลงนาม ซึ่งวันนั้น คือเป็นรักษาการรองเลขาฯ ของ กสทช แต่พอมันเข้าสู่กระบวนการในการสืบพยานในส่วนของศาล ปรากฏว่าคนที่ลงนามไม่ได้เป็นคนสั่งการ เราก็เลยต้องเปลี่ยนจากการที่ฟ้องคนนั้นไปเป็นคนที่สั่งการ ก็จะเห็นเลยว่า fact ไม่ใช่สิ่งที่เรา pinpoint คน แต่คือการทําตามขั้นตอน แล้วก็อย่างที่เรียน คือผมว่าวัตถุประสงค์เรา คือการที่อยากจะสร้างสรรค์ร่วมมากกว่า สิ่งที่ทําวันนี้คือการที่แค่ต้องการเน้นว่าเราไม่ผิด ผมว่าวัตถุประสงค์ คือการที่อยากจะสร้างสรรค์ร่วมมากกว่า สิ่งที่ทําวันนี้คือการที่แค่ต้องการเน้นว่าเราไม่ผิด เราอยากจะให้มี fair competition แต่จุดประสงค์เราหลักคือว่า ข้างหน้าเราจะไปกันได้อย่างไร ผมว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นสิ่งที่หลายคนยังสงสัย ก็คือว่า ธุรกิจ OTT ยังไม่มีกฏหมายครอบคลุม แต่สิ่งที่ค่อนข้างยิ่งสะท้อนความเป็นจริงมากก็คือว่า พอไม่มีการควบคุม การที่เราเป็นบริษัทไทย เราเองก็อยากจะอยู่ภายใต้ความคุ้มครอง แต่ก็ควรจะมีความคุ้มครองที่มี benefit ชัดเจน วันนี้ ความคลุมเครือของการคุ้มครอง ทําให้การคุ้มครองไม่มีความเท่าเทียม เพราะว่าบริษัทฝรั่ง แพลตฟอร์มฝรั่งไม่ได้อยู่ในการคุ้มครอง แพลตฟอร์มไทยมองว่า วันนี้การคุ้มครองก็ไม่ได้ มีเอื้อของธุรกิจเลย ดังนั้นต้องกลับมาที่ว่าประเทศและเจ้าของนโยบาย ผู้คุมกฎทั้งหลาย มองธุรกิจนี้สําคัญขนาดไหน จะ impact อย่างไร เราเองในฐานะที่เป็น startup platform ใหญ่อันดับต้นๆของเมืองไทย เรายินดีและพร้อมที่จะเข้าไปร่วมเสวนาให้ความรู้ ให้จุดที่บาลานซ์ในการได้รับความสนับสนุน ในขณะเดียวกัน ปกครองถึงเรื่อง privacy เรื่องของการที่ผู้บริโภคควรจะพึงได้ในการที่มีการคุมกฎตรงนี้ เราพร้อมและยินดีเสมอในเรื่องนี้ เพราะว่า

แพลตฟอร์มไทยวันนี้มีน้อยมาก ไม่ใช่แค่ในอุตสาหกรรมคอนเทนต์ ทุกๆอุตสาหกรรม เราต้องการเป็นปลายน้ำหรือคนกลาง หรือต้นน้ำของธุรกิจ เรารู้อยู่แล้วว่าธุรกิจวันนี้คนกลางโดนบีบ มันจะไม่มีแล้ว งั้นภาครัฐและภาคเอกชนต้องการเป็นปลายน้ำคอยแต่ได้รับในส่วนของการเป็นผู้บริโภคที่ดี หรือต้องการเป็นต้นน้ำของธุรกิจและสร้างสรรค์อุตสาหกรรม ซึ่งสามารถ impact อีกหลาย industry ทั้งหมดเลย ทุกอย่างสามารถสื่อสารด้วย คอนเทนต์ มันคือทําไมทุกบริษัทเทคถึงทําคอนเทนต์ เพราะเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจโลกที่ใหญ่กว่า content business มาก

TrueID มีแผนพัฒนาคอนเทนต์ และแพลตฟอร์มอย่างไรบ้าง?

หนึ่งในสิ่งที่เราให้ความสําคัญมาก คือการพัฒนาเพื่อเพิ่มความพึงพอใจของ user วันนี้ผู้บริโภคทุกคนมีความ unique ของเขา งั้นแพลตฟอร์มอย่างเราจําเป็นต้องเข้าถึงและรู้ insight ของคน ด้วยจุดหมายคือเพิ่มความพึงพอใจของเขาในการใช้งานของเรา ไม่ว่าจะเป็นการดูคอนเทนต์ที่เขาชอบ การใช้บริการด้านอื่น การอยู่กับ community ของเขา

 ส่วนที่ 2 ที่เราต้องบอกว่าเป็น priority อีกอย่างหนึ่งที่สําคัญ คือการสร้าง ecosystem หรือ แพลตฟอร์ม ของไทยไปสู้ในธุรกิจ commerce ที่เรียกว่า social commerce แต่เป็นรูปแบบที่ unique กับประเทศ โดยใช้แพลตฟอร์ม TrueID เพราะแน่นอนวันนี้ สิ่งที่ disrupt แม้กระทั่ง global player คือ TikTok จากเมื่อก่อน short form เป็นสิ่งที่แบบไม่ได้มีใคร วันนี้ทุกคนมี short form มันเกิดจาก TikTok ถ้าเราจะไปก็อปปี้ TikTok เราก็คงสู้เขาไม่ได้ งั้นสิ่งหนึ่งที่เราพยายามทําคือ หาจุดลงตัวของ ecosystem ของ TrueID ร่วมกับพันธมิตรของเรา สร้างแพลตฟอร์มที่สามารถตอบโจทย์คนไทยได้ดีกว่าสิ่งที่แพลตฟอร์มต่างชาติทําวันนี้ เพราะฉะนั้นเกมนี้ ไม่ใช่เกมส์มอง short term มันคือการสร้างนวัตกรรมใหม่บนสิ่งที่เริ่มเห็นแล้วว่านี่คือโลกกําลังเปลี่ยนไป เพราะว่าโลก คอนเทนต์กับโลกขายของ มันเริ่มใกล้กันมาก แทบจะเป็นหนึ่งเดียวกัน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไม่มีใครเคยเห็นเลย งั้นวันนี้สิ่งที่เราทํา เราเริ่มมองไปถึงว่า ในยุคต่อไปโดยที่มี AI มาเป็นตัวกลาง ตัวแปลหลักสําคัญของธุรกิจ เราจะเป็นผู้นําได้อย่างไร แน่นอนงั้นรากฐานการพัฒนาเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจเป็นอย่างไร เรามุ่งทําทุกวันคือ product development มันไม่มีวันหยุด เพราะนี่คือหัวใจของธุรกิจ

WeTV ที่สุดความบันเทิงคุณภาพแห่งเอเชีย ครบรอบ 5 ปี ผู้นำอันดับ 1 ตลาดคอนเทนต์เอเชีย ที่มียอดผู้ใช้งานต่อเดือน หรือ MAU (Monthly active user) ในไทยรวมกว่า 13.5 ล้านบัญชี และคลังคอนเทนต์รวมกว่า 2,000 คอนเทนต์ ครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานแบบรับชมโฆษณา (Advertising Video On Demand - AVOD) พร้อมต้อนรับปีที่ 5 ด้วยการเตรียมส่งมอบ 5 ซีรีส์จีนฟอร์มยักษ์ และ 5 ซีรีส์ไทยคุณภาพจาก WeTV ORIGINAL เป็นของขวัญสุดพิเศษให้กับแฟนๆ พร้อมจัดงานฉลองอย่างยิ่งใหญ่ WeTV 'HI-FIVE' BIRTHDAY PARTY แฟนอีเวนต์ที่รวบรวมศิลปินจากไทยและจีนมาร่วมมอบความสุข ความสนุก และประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้กับแฟนๆ แบบใกล้ชิด อัดแน่นด้วยพื้นที่แฟนโซนที่เปิดให้แฟนๆ WeTV เข้ามาร่วมกิจกรรมเต็มอิ่มตลอดทั้งสองวัน (6 - 7 กรกฎาคม) ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์  

 

นางสาวกนกพร ปรัชญาเศรษฐ ผู้จัดการ WeTV ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “WeTV เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในไทยตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2562 เน้นนำเสนอคอนเทนต์เอเชียที่หลากหลาย คุณภาพระดับโลก ครอบคลุมทั้งซีรีส์ อนิเมะ รายการวาไรตี้ จากจีน ไทย เกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งคอนเทนต์จีนถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้ WeTV แจ้งเกิด และสามารถเข้าไปนั่งในใจผู้ใช้งานชาวไทยได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เรียกได้ว่า WeTV คือ ผู้จุดกระแสซีรีส์จีนและศิลปินจีนให้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในไทย อีกทั้งยังได้สร้างปรากฎการณ์และมอบประสบการณ์ความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ ครบรสให้กับผู้ใช้งานมาตลอด 5 ปี ส่งผลให้ปัจจุบัน WeTV ครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานแบบรับชมโฆษณา (Advertising Video On Demand - AVOD) โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา WeTV มุ่งพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านคอนเทนต์ แพลตฟอร์ม และประสบการณ์ความบันเทิงต่างๆ เพื่อส่งมอบที่สุดความบันเทิงให้กับผู้ใช้งานชาวไทยแบบเต็มอิ่ม 

 

ย่างก้าวของ WeTV ประเทศไทย ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา  

การเติบโตที่เกิดขึ้นตลอด 5 ปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากยอดผู้ใช้งานต่อเดือน หรือ MAU (monthly active user) ในไทยรวมกว่า 13.5 ล้านบัญชี สะท้อนความสำเร็จและความแข็งแกร่งของ WeTV ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นผลมาจาก          3   กลยุทธ์หลักคือ 1.กลยุทธ์ด้านคอนเทนต์ที่หลากหลาย ปัจจุบัน WeTV มีคลังคอนเทนต์รวมกว่า 2,000 คอนเทนต์ ครอบคลุมทุกความต้องการด้านความบันเทิงของผู้ใช้งานกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ประเภทซีรีส์จีนย้อนยุค ซีรีส์จีนโมเดิร์น อนิเมะจีน วาไรตี้ และ WeTV ORIGINAL กลุ่มซีรีส์วาย รวมถึงคอนเทนต์วาไรตี้ชื่อดังอย่าง CHUANG ทั้ง 3 ซีซั่น และล่าสุดกับ CHUANG ASIA THAILAND รายการไอดอลเซอร์ไววัลที่เป็นออริจินัลคอนเทนต์เรือธงของ WeTV ที่เพิ่มความแข็งแกร่งในด้านคอนเทนต์อย่างชัดเจน 2. กลยุทธด้านการสร้างประสบการณ์ WeTV เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม OTT ที่มีแนวทางการสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งานเพื่อเชื่อมบริการจากโลกออนไลน์สู่โลกออฟไลน์แบบครบวงจรและสร้างคอมมูนิตี้ให้แข็งแกร่ง โดยการจัดกิจกรรมแฟนอีเวนต์เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่สร้างและผลักดันการเติบโตตลอด 5 ปีที่ผ่านมา  3. กลยุทธ์ด้านความร่วมมือกับพันธมิตร WeTV ได้ร่วมมือกับพันธมิตรในหลากหลายแวดวงอุตสาหกรรม ทำให้ WeTV เป็นแบรนด์ที่เข้าไปอยู่ในทุกไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรกลุ่ม Telco ในการมอบแพคเกจพิเศษต่างๆ ให้กับผู้ใช้งาน การร่วมมือกับแบรนด์สมาร์ททีวีชั้นนำเพื่อขยายการเข้าถึงผู้ใช้งานตามแนวโน้มพฤติกรรมการเปิดรับชมคอนเทนต์ การจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ  

 

ต้อนรับปีที่ 5 ด้วย 5 ซีรีส์จีนฟอร์มยักษ์และ ซีรีส์ไทยคุณภาพจาก WeTV ORIGINAL  

สำหรับในปีนี้ WeTV เตรียมส่งมอบซีรีส์จีนฟอร์มยักษ์ 5 เรื่อง 5 สไตล์เป็นของขวัญสุดพิเศษให้แก่แฟนๆ WeTV ได้แก่ #1 มังกรหยก 2024 (The Legend of Heroes) การกลับมาอีกครั้งของซีรีส์จีนกำลังภายในที่หนึ่งในใจของชาวยุทธภพ พร้อมด้วยนักแสดงคุณภาพคับคั่ง มีให้เลือกรับชมทั้งแบบซับไทยและพากย์ไทย #2 ห้วงคำนึงดวงใจนิรันดร์ ภาค 2 (Lost You Forever 2) ซีรีส์จีนแนวย้อนยุคผลงานของนางเอกชื่อดังหยางจื่อ ที่ WeTV เสิร์ฟความสุขให้แฟนๆ ได้รับชมทั้ง 2 ภาคแบบต่อเนื่อง #3 เธอผู้เปล่งประกายกว่าแสงดาว (As beautiful as you) ซีรีส์ของพระเอกหนุ่ม สวีข่าย’ GLOBAL BRAND AMBASSDOR ของ WeTV ที่แท็กทีมนางเอกมากฝีมือถานซงอวิ๋น ส่งต่อเรื่องราวชีวิตที่ต้องพิสูจน์ความสำเร็จพร้อมฮีลใจด้วยความรักสุดโรแมนติก #4 ตำนานแม่ทัพหญิง (Legend of the female general) ดัดแปลงจากบทประพันธ์ชื่อดัง เหนือสมรภูมิที่ได้ดารายอดนิยมโจวเย่และเฉิงเหล่ย มาถ่ายทอดเรื่องราวของเหอเยี่ยนหญิงสาวที่อดีตเป็นแม่ทัพเฟยหงที่ได้รับความอยุติธรรม เธอจึงกลับมาแก้แค้นและทวงความเป็นธรรมให้กับตัวเอง และ #5 Hidden Charm  ดัดแปลงมาจากนิยาย ซ่อนรักชายาลับเรื่องราวของหญิงสาวที่สูญเสียความทรงจำแต่ต้องมาอยู่ร่วมชายคากับสามีหนุ่มจำเป็น อุปสรรคและความใกล้ชิดนำพาให้เกิดความรัก นำแสดงโดย จางหว่านอี้ และ หวังฉู่หรัน ในส่วนคอนเทนต์ไทย WeTV ORIGINAL ซีรีส์วาย 5 เรื่องสุดฟิน WeTV เตรียมเสิร์ฟความฟินตลอดปีให้กับแฟนๆ ได้แก่ Knock Knock Boys! บ้านหนุ่มโสดโหมดพร้อมเลิฟ’ ‘I saw you in my dream เธอ ฉัน ฝัน เรา’  ‘Monster Next door พี่เขาบุกโลกของผม’ ‘Caged Again และปิดท้ายปีด้วยซีรีส์วายสายแข็งแกร่งอย่าง ‘Knock Out’ ที่จัดเต็มทั้งด้านโปรดักชันและพล็อตเรื่องที่น่าติดตาม พร้อมเสิร์ฟให้แฟนๆ ได้รับชมตลอดทั้งปี 2024 

ในโอกาสครบรอบ 5 ปีของ WeTV เรายังได้จัดงานฉลองสุดเอ็กซ์คลูซีฟ WeTV ‘HI-FIVE’ BIRTHDAY PARTY เป็นของขวัญมอบให้กับแฟนๆ ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ในวันที่ 6 – 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยได้รับการสนับสนุนจากพาร์ทเนอร์มากมาย อาทิ  
พีจอย โคทาคอสเมติก และศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ภายในงานตลอดทั้งสองวันมีกิจกรรมให้แฟนๆ ได้ร่วมสนุกหลากหลายทั้งกิจกรรม Fan Event ที่เราได้พาศิลปินไทยและจีนมาพบปะกับแฟนคลับแบบเอ็กคลูซีฟพร้อมร่วมให้สัมภาษณ์พูดคุยและทำกิจกรรมกับแฟนคลับบนเวทีทั้งสองวันโดยวันแรกพบกับ ศิลปินสังกัด HEADLINER THAILAND 15 คน และ พระเอกหนุ่ม ‘ไต้เกาเจิ้ง’ (Dai Gaozheng) วันที่สอง นางเอกสาว ซิงเฟย’ (Xing Fei) และศิลปินไอดอล ออสการ์ หวัง’ (Ozcar Wang) กิจกรรม Fan Zone พื้นที่กิจกรรมที่เปิดให้แฟนๆ WeTV เข้ามาถ่ายรูปและร่วมกิจกรรมในพื้นตลอดทั้งสองวัน   

ก้าวต่อไปของ WeTV เรายังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาและนำเสนอคอนเทนต์คุณภาพระดับโลกให้แก่ผู้ใช้งาน ควบคู่ไปกับการผลิต WeTV ORIGINAL ที่มีคุณภาพ สอดรับกระแสความนิยมและความชื่นชอบคอนเทนต์ความบันเทิงที่หลากหลาย ตอบความต้องการของผู้ใช้งานทุกกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ เรายังคงเดินหน้าสานต่อพันธกิจในการผลักดันคอนเทนต์ไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์สู่เวทีโลก สร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญที่ส่งให้ WeTV สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่ง ตลาด OTT คอนเทนต์เอเชีย ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงที่สุดความบันเทิงคุณภาพแห่งเอเชียตัวจริงนางสาวกนกพร กล่าวทิ้งท้าย 

X

Right Click

No right click