มร.คาซึนาริ โอกาวะ (ที่3 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จํากัด ปลื้มกระแสตอบรับจากโครงการ ‘SBITO GAME OF TRADE ร่ายเวทย์ เทรดหุ้นให้เป็นโปร’ หลังจับมือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเหล่าพันธมิตรแบรนด์ ประกอบด้วย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และบริษัท เครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ปลุกกระแสการเทรดหุ้นออนไลน์ในไทย ผ่านรูปแบบการแข่งขันสไตล์เกมออนไลน์ e-sport หวังสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ด้านการเงินการลงทุนในไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ช่วยให้กลุ่มนักลงทุนมือใหม่ได้เข้าใจขั้นตอนและช่องทางการเทรดหุ้นขั้นพื้นฐานแบบครบครัน โดยการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศได้จัดขึ้นที่ AIS eSports Studio ชั้น 2 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ โดยผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ของการแข่งขันโครงการ ‘SBITO GAME OF TRADE ร่ายเวทย์ เทรดหุ้นให้เป็นโปร’ ในปีนี้ ได้แก่ คุณวัชรพงศ์ แก้วก่อศรี รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล ผู้สนใจสามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sbito.co.th/ หรือ https://www.facebook.com/Sbithaionline/
บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จํากัด ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สานต่อโครงการ ‘SBITO Joystick Click to Win จับเกมเมอร์ เจอเกมหุ้น’ ในปีที่ผ่านมา เดินหน้าปรับรูปแบบกิจกรรมหวังสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ด้านการเงินการลงทุนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ด้วยการสร้างสรรค์โครงการ ‘SBITO GAME OF TRADE ร่ายเวทย์ เทรดหุ้นให้เป็นโปร’ เกมออนไลน์ที่ตั้งเป้าช่วยให้กลุ่มนักลงทุนมือใหม่ ได้เข้าใจขั้นตอนและช่องทางการเทรดหุ้นขั้นพื้นฐานแบบครบครัน โดยกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ชั้นแนวหน้าของไทย ประกอบด้วย เอไอเอส, ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ และ เอส พลัส เปิดลงทะเบียนรับสมัครแล้ววันนี้ – 10 มี.ค. 2566
มร.คาซึนาริ โอกาวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จํากัด หรือ SBITO ผู้ให้บริการธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์แบบออนไลน์ชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า ความสำเร็จจากการริเริ่มนำเกมออนไลน์มาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเทรดหุ้นที่ SBITO ได้จัดทำโครงการร่วมกับ ตลท. ในปีที่ผ่านมา ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญให้แก่วงการเทรดหุ้นของไทย เพราะสามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ให้เข้ามาสู่ตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งยังช่วยสร้างให้เกิดการรับรู้เกี่ยวกับความสะดวกและความคุ้มค่า ด้วยการเลือกเทรดหุ้นผ่านระบบออนไลน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของนักลงทุนในปัจจุบันได้อย่างลงตัว
ล่าสุด SBITO ในฐานะผู้ให้บริการด้านการซื้อขายหุ้นผ่านออนไลน์ ได้สร้างสรรค์โครงการใหม่ในชื่อ ‘SBITO GAME OF TRADE ร่ายเวทย์ เทรดหุ้นให้เป็นโปร’ โดยได้ประสานความร่วมมือกับแบรนด์พันธมิตรชั้นแนวหน้า เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่แก่นักลงทุนในไทยให้ได้เปิดโลกการลงทุนยุคใหม่ผ่านโลกออนไลน์ “สำหรับคนไทยแล้วการใช้อินเทอร์เน็ตถือเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน ดังนั้น โอกาสในการใช้เวลาบนโลกออนไลน์เพื่อการลงทุนจึงมีความเป็นไปได้อย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่เหมาะกับการลงทุนในแบบ Day Trade ที่มีความรวดเร็วและน่าสนใจและมีโครงสร้างคล้ายกับการเล่นเกมออนไลน์ SBITO จึงเชื่อว่าหากคนรุ่นใหม่หรือผู้ที่สนใจได้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ น่าจะเกิดความตระหนักและเห็นโอกาสว่าการลงทุนซื้อขายหุ้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจและเป็นการลงทุนที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก โดยเรามั่นใจว่าการรุกหนักเพื่อสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง ช่วยเพิ่มพูนทักษะความรู้ความสามารถในการลงทุนเพื่อสร้างนักลงทุนคุณภาพสู่ตลาด จะส่งผลให้ตลาดหุ้นและตลาดทุนไทยเกิดการพัฒนาได้อย่างมาก ดังเช่นในหลายประเทศที่การซื้อขายหุ้นผ่านออนไลน์เป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มร.คาซึนาริ กล่าว
ทั้งนี้ โครงการ ‘SBITO GAME OF TRADE ร่ายเวทย์ เทรดหุ้นให้เป็นโปร’ เปิดโอกาสให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจด้านการลงทุนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปเข้าร่วมโครงการได้ โดยลงทะเบียนผ่าน https://www.sbito.co.th/game-of-trade ตามเวลาที่กำหนด ตั้งแต่วันนี้ – 10 มีนาคม 2566
และจะทำการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 31 มีนาคม 2566 ที่ AIS eSports Studio ชั้น 2 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์
โดยผู้สนใจสามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sbito.co.th/ หรือ https://www.facebook.com/Sbithaionline/
SBITO เดินหน้ารุกตลาดเทรดหุ้นออนไลน์ในไทย ตั้งเป้าก้าวสู่เบอร์ 1 ตลาดเตั้งเป้าก้าวสู่โบรกเกอร์ออนไลน์ที่ได้รับความไว้วางในอันดับ 1 ในใจนักลงทุนไทย เปิดสาขาใหม่เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงบริการ ชูจุดขายเรทค่าคอมที่เร้าใจ พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ของการลงทุนโลกออนไลน์ในไทย หวังดึงกลุ่มนักลงทุนหน้าใหม่สู่ตลาด
มร.คาซึนาริ โอกาวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด หรือ SBITO (สะไบโตะ) เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นโลกในช่วงที่ผ่านมาว่า แม้ผลกระทบของโควิด-19 จะลดลง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ยังคงส่งผลกระทบ อาทิ กรณีความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงภาวะเงินเฟ้อที่ทั่วโลกต่างต้องเผชิญ รวมถึงความไม่แน่นอนในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และปัจจัยอื่นๆ อีกมาก ทำให้หลายประเทศต่างปรับนโยบายเพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาด ส่งผลให้ตั้งแต่ปลายไตรมาส 3 ของปี 2565 เราเริ่มเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่เริ่มปรับตัวในทางบวกเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าจะยังสถานะดังกล่าวต่อไปในระยะยาว โดย SBITO คาดการณ์ว่าในปี 2566 ภาพรวมตลาดหุ้นไทยจะขยับตัวทางบวกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นหลังจากได้รับผลกระทบในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทในตลาดจะเริ่มกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ส่งผลให้ผลประกอบการเริ่มดีขึ้น นักลงทุนรายย่อยสามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพของบริษัทต่างๆ ในตลาดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนซื้อขายหุ้นในตลาดเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ด้านแนวโน้มภาพรวมของตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 4 ของปี 2565 มร.คาซึนาริ แสดงความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวว่า “หลังจากไทยเริ่มเดินหน้าปลดล็อกข้อจำกัดและผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 ทำให้สามารถกลับมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างเต็มศักยภาพอีกครั้ง เมื่อเศรษฐกิจและปัจจัยพื้นฐานภายในประเทศเริ่มดีขึ้น ก็จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นเช่นกัน SBITO คาดว่านักลงทุนจำนวนมากจะค่อยๆ กลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”
ส่วนมุมมองของต่างชาติต่อศักยภาพเศรษฐกิจของไทยในปี 2566 นั้น พบว่า ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการลงทุนที่ดี มีความแข็งแกร่งในฐานะฐานการผลิตของโลกที่มีแรงงานฝีมือด้านต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงการส่งเสริมจากภาครัฐในการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อเสริมศักยภาพด้านการผลิตและผ่อนปรนมาตรการต่างๆ เพื่อเอื้อต่อการลงทุนโดยมีเป้าหมายเพื่อดึงกลุ่มทุนต่างชาติในเข้ามาลงทุนในไทย ตลอดจนศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจท่องเที่ยวและการพักผ่อนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ไทยยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าลงทุนในปัจจุบัน
SBITO เชื่อว่าจากภาพรวมเศรษฐกิจที่เริ่มดีจะส่งผลให้การลงทุนในตลาดหุ้นเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการซื้อขายหุ้นผ่านออนไลน์ที่ SBITO ยังครองความเป็นผู้นำในตลาดโลกและในไทยก็จะยิ่งเติบโตเพิ่มขึ้นเพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักลงทุนยุคใหม่ที่หันมาทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ผ่านโลกออนไลน์ “ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนบัญชีนักลงทุนตลาดหุ้นผ่านระบบอินเทอร์เน็ตสูงถึง 5,222,983 บัญชี จากบัญชีนักลงทุนตลาดหุ้นทั้งหมด 5,536,637 บัญชี นั่นแสดงให้เห็นว่านักลงทุนตลาดหุ้นเกือบ 100% มีบัญชีซื้อขายหุ้นผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยปัจจุบันคนไทยในทุกช่วงวัยเริ่มหันมาเพิ่มความมั่นคงทางการเงินด้วยการลงทุนในตลาดหุ้น จากกระแสนิยมดังกล่าวทำให้ SBITO เชื่อว่านักลงทุนตลาดหุ้นผ่านระบบอินเทอร์เน็ตในไทยก็จะเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ดังเช่นในประเทศญี่ปุ่นที่มีบัญชีซื้อขายหุ้นทางอินเทอร์เน็ตสูงถึง 38 ล้านบัญชีในปัจจุบัน” มร.คาซึนาริ กล่าว
“ตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2565 SBITO ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการซื้อขายหุ้นผ่านออนไลน์ จะรุกขยายฐานนักลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่องและดูแลนักลงทุนของ SBITO โดยจะเพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้ผ่านการจัดสัมมนาให้ความรู้แก่นักลงทุนทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ การขยายสาขาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึง ร่วมสนับสนุนกิจกรรมกีฬากับสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เพื่อสร้างความรู้จักและความมั่นใจในแบรนด์ รวมทั้งประสานความร่วมมือกับแบรนด์พันธมิตรชั้นแนวหน้าเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่แก่นักลงทุนในไทยให้ได้เปิดโลกการลงทุนยุคใหม่ผ่านโลกออนไลน์ พร้อมมอบสิทธิประโยชน์จากการลงทุนเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับนักลงทุนของ SBITO ที่ยั่งยืน ที่สำคัญเรายังคงจุดขายในเรื่องอัตราค่าคอมมิชชั่นในเรทพิเศษ เชื่อว่า SBITO จะดึงดูดนักลงทุนรายใหม่สู่ตลาด โดยตั้งเป้าที่จะสร้างให้ SBITO ก้าวสู่การเป็นบริษัทหลักทรัพย์ออนไลน์สากลที่ได้รับความนิยมมากสุดในประเทศไทย” มร.คาซึนาริ กล่าวถึงแผนการรุกตลาดในไทยเพื่อก้าวสู่ผู้นำตลาด
สามารถชมข้อมูล SBITO เพิ่มเติมได้ที่ https://www.sbito.co.th/ หรือ https://www.facebook.com/Sbithaionline/