

เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) บริษัทด้านการลงทุนในเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก (Disruptive Technology) ภายใต้กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ (SCBX Group) ประกาศร่วมเป็นผู้นำการลงทุน (Co-Lead Investor) ร่วมกับ Point72 Ventures ในการระดมทุนรอบ Pre-Seed มูลค่า 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐของ Hearvana บริษัทผู้บุกเบิกเทคโนโลยี ‘Auditory Intelligence’ ที่ช่วยให้มนุษย์และอุปกรณ์สมองกลมีความสามารถในการฟังเหนือขีดความสามารถของมนุษย์ (Superhuman Listening Abilities) โดยการลงทุนรอบนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายสำคัญ ได้แก่ AI2 Incubator, SBI US Gateway Fund, Forston VC, Ascend, J4 Ventures, Pack Ventures, Moai Capital และ Amazon Alexa Fund
Hearvana กำลังพลิกโฉมวิธีที่ AI และมนุษย์รับรู้เสียง ด้วยแพลตฟอร์มของบริษัทที่เป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพ (Augmentation) และการทำความเข้าใจ (Comprehension) เสียงแบบเรียลไทม์บนอุปกรณ์ (on-device) ทำให้ผู้ช่วย AI (AI Assistant) อุปกรณ์ช่วยฟัง แว่นตาอัจฉริยะ และอุปกรณ์ที่ควบคุมด้วยเสียงต่างๆ สามารถฟัง ตีความ และประมวลผลเสียงได้อย่างมีคุณภาพสูงและตอบสนองได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วกว่าที่เคยเป็นมา เทคโนโลยีนี้ทำให้อุปกรณ์สามารถเข้าใจเจตนาและบริบทในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและมีเสียงรบกวนสูง ช่วยให้มนุษย์สื่อสารกันเองและกับอุปกรณ์สมองกลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Jeffrey Lu นักลงทุนจาก Point72 Ventures กล่าวว่า “เราเชื่อว่า Hearvana กำลังก้าวเข้าสู่จุดที่น่าตื่นเต้นของเทคโนโลยี AI โดยมุ่งเน้นไปที่ “วิธีการที่อุปกรณ์รับฟัง” เทคโนโลยีของ Hearvana ส่งเสริมศักยภาพด้าน Voice Interface ให้กับปัญญาประดิษฐ์ อุปกรณ์อัจฉริยะ และ แอปพลิเคชันช่วยฟัง เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนทีมนี้ในการนำเทคโนโลยีออกสู่ตลาด”
บริษัท Hearvana ก่อตั้งโดย ศาสตราจารย์ Shyam Gollakota จาก Paul G. Allen School of Computer Science and Engineering มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้าน Embedded Systems และ Audio AI ได้แก่ Malek Itani และ Tuochao Chen
นางสาวไพลิน วิชากูล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน (CIO) บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า “Hearvana ประกอบด้วยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญทางเทคนิคและความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทำให้บริษัทสามารถผสมผสานเทคโนโลยี AI การประมวลผลเสียง และ ฮาร์ดแวร์แบบฝังตัวอยู่ในอุปกรณ์สมองกล (Embedded Hardware) ได้อย่างลงตัว เพื่อสร้างสรรค์มิติใหม่ของเทคโนโลยีด้านเสียง (Auditory กับอุปกรณ์สมองกล (Human-Machine Interfaces) เพื่อยกระดับศักยภาพการได้ยินสำหรับ AI Agents ที่สามารถปรับให้เข้ากับแต่ละบุคคล”
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทีมงานได้บุกเบิกเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากมาย เช่น Target Speech Hearing, Sound Bubble, Full-Duplex Dialogue Agents และ Proactive Conversational Assistants ซึ่งช่วยขยายขอบเขตการรับรู้และปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับอุปกรณ์สมองกลผ่าน "เสียง" โดยทีมผู้ก่อตั้งได้นำความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมานานหลายทศวรรษในด้าน Auditory Computing, Embedded Intelligence และ Deep Learning มาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงวิทยาการล้ำสมัยเข้ากับการใช้งานจริงที่สามารถขยายผลได้
“เราให้ความสนใจในเทคโนโลยีของ Hearvana ที่ช่วยให้การโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับ AI เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น แนวทางของทีม Hearvana มุ่งทำให้เทคโนโลยีการฟังขั้นสูงถูกนำมาใช้ในวงกว้างผ่านการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ในชีวิตประจำวันที่มุ่งเน้นการตอบสนองผู้ใช้งานอย่างแท้จริง ด้วยต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ” กล่าวโดย Paul Bernard ผู้อำนวยการ จาก Alexa Fund
“ด้วยความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเชิงลึกและวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งมีความโดดเด่น Hearvana ได้นำผลงานวิจัยด้าน Audio AI ที่ล้ำสมัยมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้จริง และช่วยให้ AI เข้าใจและตอบสนองมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” กล่าวโดย Oren Etzioni จาก AI2 Incubator
Hearvana มีแผนที่จะนำเงินทุนที่ได้รับในรอบนี้ไปขยายทีมวิศวกรรม และทีมการตลาด (Go-to-market) รวมถึงโครงการนำร่องเชิงพาณิชย์ร่วมกับพันธมิตร (Commercial Pilots) ในอุตสาหกรรมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคและระบบนิเวศ AI
"Hearvana กำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่สร้างการฟังระดับ Superhuman เทคโนโลยีของเราครอบคลุมผู้ช่วย AI ที่ทำงานตั้งแต่อุปกรณ์ทั่วไป เช่น แล็ปท็อปและสมาร์ทโฟน ไปจนถึงอุปกรณ์สวมใส่ (wearables) เช่น หูฟังไร้สายและแว่นตาอัจฉริยะ เรามองเห็นอนาคตที่อุปกรณ์ไม่ได้เพียงแต่ได้ยินเท่านั้น แต่ยังเข้าใจและช่วยให้มนุษย์สื่อสารระหว่างกันและสื่อสารกับ AI ได้ดียิ่งขึ้น เงินทุนรอบนี้จะช่วยให้เราก้าวจากการพัฒนานวัตกรรมไปสู่การใช้งานจริงได้เร็วยิ่งขึ้น" กล่าวโดย Shyam Gollakota ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO ของ Hearvana
บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) บริษัทด้านการลงทุนในเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก (Disruptive Technology) ภายใต้กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ (SCBX Group) ประกาศเข้าร่วมลงทุนรอบ Seed มูลค่ารวม 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใน Pokee AI บริษัทผู้นำด้านการพัฒนา AI Agent อัจฉริยะ ซึ่งมีภารกิจในการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานในยุคดิจิทัลผ่าน AI Agent โดยมี Point72 Ventures เป็นผู้นำการลงทุน และได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนชั้นนำระดับโลก ได้แก่ Qualcomm Ventures, Salience Capital, Samsung NEXT Ventures, Jinqiu Capital, Aiconic Ventures, Sixty Degree Capital รวมถึงนักลงทุนรายบุคคลชื่อดังอย่าง Lip-bu Tan (CEO ของ Intel และประธานบริษัท Walden International) และ Abhay Parasnis (ผู้ก่อตั้ง Typeface และอดีต CTO ของ Adobe)
Pokee AI พัฒนาแพลตฟอร์ม AI ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเปิดใช้งาน “AI Agents” สำหรับทำงานอัตโนมัติในโลกออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องมีความรู้เทคนิคเชิงลึก ตัวแพลตฟอร์มสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมือดิจิทัลยอดนิยมอย่าง Google Workspace, Microsoft Office, Meta, LinkedIn, Reddit, YouTube, TikTok, Jira และ GitHub รองรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การสร้างคอนเทนต์ (ข้อความ, ภาพ, วิดีโอ, เสียง), การวิเคราะห์สเปรดชีต, การสร้างสไลด์, การวิจัยเชิงลึก และการจัดการเอกสาร PDF
“SCB 10X เชื่อมั่นและลงทุนในผู้ก่อตั้งที่มีวิสัยทัศน์ที่มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม” นางสาวไพลิน (พาย) วิชากูล Chief Investment Officer แห่ง SCB 10X กล่าว
“Pokee AI จะเป็นประตูสู่อนาคตที่ทุกคนสามารถใช้ AI agent เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างก้าวกระโดด SCB 10X เชื่อมั่นในศักยภาพของ Pokee AI ที่จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของการทำงานในยุคใหม่”
“วิสัยทัศน์ของเราคือการทำให้ทุกคนสามารถสร้างระบบอัตโนมัติสำหรับเวิร์กโฟลว์ออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ทั้งรวดเร็ว เชื่อถือได้ และรองรับการใช้งานได้อย่างกว้างขวาง” เจ๋อชิง (บิลล์) จู้ (Zheqing (Bill) Zhu) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง Pokee AI กล่าว “การระดมทุนครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอย่างลึกซึ้งของนักลงทุนที่มีต่อเทคโนโลยีและศักยภาพการเติบโตของเรา เราพร้อมเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จนี้เพื่อขยายขีดความสามารถของแพลตฟอร์ม และส่งมอบคุณค่าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนให้แก่ผู้ใช้งานของเรา”
เงินลงทุนรอบนี้จะช่วยเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีของ Pokee AI ขยายโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับการเติบโตในวงกว้าง และผลักดันการเข้าสู่ตลาดอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Google ที่จะนำ AI Agent ของ Pokee AI ไปใช้งานจริงกับผู้ใช้ในหลากหลายสายงาน เช่น การจัดการโซเชียลมีเดีย การตลาด และอื่นๆ
แพลตฟอร์ม Pokee AI เปิดให้ทดลองใช้งานเวอร์ชันเบต้าแล้วที่ http://pokee.ai โดยผู้ใช้งานกลุ่มแรกต่างเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนทั้งด้านความเร็ว ผลผลิต และความคล่องตัว
บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) บริษัทภายใต้กลุ่ม SCBX ที่มุ่งเน้นการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลง ประกาศแต่งตั้งนายกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) คนใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 นายกวีวุฒิจะรับภารกิจสำคัญในการสานต่อและนำพา SCB 10X สู่การเติบโตแบบก้าวกระโดดในระยะต่อไป โดยยังคงมุ่งมั่นลงทุนในเทคโนโลยีล้ำสมัยระดับโลก พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมให้กับองค์กร ปัจจุบัน SCB 10X มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการและลงทุนทั่วโลกมูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ นายกวีวุฒิยังดำรงตำแหน่ง Chief Innovation Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทแม่ของกลุ่ม SCBX ควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนและผสานการเชื่อมโยงกลยุทธ์ด้านนวัตกรรมระยะยาวของกลุ่ม SCBX และภารกิจการลงทุนของ SCB 10X ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงเสริมสร้างขีดความสามารถด้านนวัตกรรม เร่งการสร้างผลลัพธ์ และขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันของกลุ่ม SCBX ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ก่อนหน้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB 10X นายกวีวุฒิได้สั่งสมประสบการณ์ตลอดจนความเชี่ยวชาญในด้านนวัตกรรม การบุกเบิกสร้างธุรกิจใหม่ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งนวัตกรรม รวมถึงการบริหารกองทุนร่วมลงทุน ในองค์กรชั้นนำของประเทศทั้งภายในกลุ่ม SCBX และธุรกิจพลังงาน
นายกวีวุฒิสำเร็จการศึกษาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทบริหารธุรกิจ (MBA) จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยมีประสบการณ์อย่างกว้างขวางจาก Stanford d.school
Spacely AI สตาร์ทอัพแพลตฟอร์มที่นำ Generative AI มาช่วยในการออกแบบสถาปัตยกรรมภายในที่ได้รับการลงทุนระดับ Pre-Seed จาก SCB 10X บริษัทภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ซึ่งเป็นการสนับสนุนเป้าหมายของ Spacely AI ที่ต้องการสร้างโอกาสในการออกแบบให้กับทุกคน และมุ่งหวังเป็นแพลตฟอร์มหลักในอุตสาหกรรมการออกแบบเชิงพื้นที่ สอดรับกับยุทธศาสตร์ของกลุ่ม SCBX ในการมุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนาด้านเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
นางมุขยา (ใต้) พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และ Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า "SCB 10X มีความภูมิใจที่ได้สนับสนุน Spacely AI เพื่อปลดล็อกความสามารถในการออกแบบด้วยความก้าวหน้าของ visual-based generative AI และเพื่อต่อยอดความคิดสร้างสรรค์แก่นักออกแบบให้ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาของเทคโนโลยีนี้ โดย SCB 10X ร่วมสนับสนุน Spacely AI ทั้งด้านกลยุทธ์และการพัฒนาให้แก่แพลตฟอร์ม รวมถึงความพยายามในการผลักดัน Spacely AI ไปสู่วงการการออกแบบทั่วโลก"
นายพารวย อันอดิเรกกุล Chief Executive Officer Spacely AI กล่าวว่า "การสนับสนุนจาก SCB 10X ไม่ได้เป็นเพียงแค่การลงทุนทางธุรกิจ แต่เป็นความร่วมมือที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราในการพัฒนาวงการการออกแบบเชิงพื้นที่ และยังเน้นย้ำถึงความเชื่อร่วมกันในศักยภาพของ Generative AI ในการเปลี่ยนแแปลงมาตรฐานของการออกแบบระดับโลก"
Spacely AI กำลังขยายฐานผู้ใช้อย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 170 ประเทศทั่วโลก และยังได้รับการยอมรับจากสตาร์ทอัพคอมมูนิตี้ระดับสากล จากการชนะรางวัลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากรายการ “LabLab Stable Diffusion Hackathon 2023” ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขันกว่า 2,600+ ทีมทั่วโลก และได้รางวัลรองอันดับ 2 จากรายการ “Tech in Asia 2023 Regional Startup Competition” ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขันกว่า 200 ทีม
Spacely AI ได้สร้างผลงานด้วยระบบ AI ไปแล้วมากกว่า 1,000,000 รูป มีผู้ใช้กว่า 120,000 คนทั่วโลก และยังมีการพัฒนาฟีเจอร์การใช้งานอย่างต่อเนื่องกว่า 12 รายการ มีธีมห้องให้ผู้ใช้เลือกใช้กว่า 100 สไตล์ พร้อมรูปแบบห้องและพื้นที่มากกว่า 100 ประเภท ตั้งแต่ภายในไปจนถึงภายนอกอาคาร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการออกแบบเชิงพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน Spacely AI มีการร่วมมือกับบริษัทชั้นนำที่มีชื่อเสียงด้านการตกแต่งบ้านและอสังหาริมทรัพย์อย่าง Index Living Mall และ Proud Real Estate ซึ่งเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของ Spacely AI
![]()
ด้าน นายเอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ Senior Vice President Business Development YOUNIQUE & The Walk Line ผู้ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดเผยว่า "ในการเลือกใช้เทคโนโลยีของ Spacely AI ทาง Index Living Mall มุ่งหวังที่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ เพิ่มความสามารถในการทำงานให้แก่นักออกแบบ และยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ Spacely AI สามารถลดเวลาในกระบวนการออกแบบและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของดีไซน์เนอร์ นี่จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในความมุ่งมั่นของเราที่จะเป็นเลิศในด้านการบริการและการเติบโตทางธุรกิจ"
“ความร่วมมือระหว่าง Spacely AI ถือเป็นส่วนช่วยในการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ พร้อมสะท้อนความพิเศษที่มากกว่าของแบรนด์และโครงการของพราวได้เป็นอย่างดี โดยตลอด Customer Journey ลูกค้าจะสามารถต่อยอดไอเดียการออกแบบบนพื้นที่ภายในโครงการให้เป็นพื้นที่เสมือนจริงของตัวเองได้ด้วย AI” กล่าวโดย นายพสุ ลิปตพัลลภ Director Proud Real Estate ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทย
Spacely AI เปิดตัว Enterprise API ตัวใหม่สำหรับองค์กรและ SME ในอุตสาหกรรมการออกแบบ และที่อยู่อาศัย:
Enterprise API ช่วยส่งเสริมประสบการณ์การขาย และสร้างผลตอบรับให้กับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพใน 4 ด้าน:
นายพารวย อันอดิเรกกุล Chief Executive Officer Spacely AI กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเปิดตัว Enterprise API เป็นก้าวที่สำคัญสู่อุตสาหกรรมการออกแบบและเฟอร์นิเจอร์ แต่สิ่งนี้เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น Spacely AI มุ่งมั่นที่จะพัฒนาความสามารถของ Generative AI เพื่อให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกปัญหาของการออกแบบเชิงพื้นที่ พร้อมทั้งผลักดันขอบเขตของความคิดสร้างสรรค์ในโลกแห่งการออกแบบต่อไป”
มาเป็นส่วนหนึ่งกับ Spacely AI ในการยกระดับอุตสาหกรรมการออกแบบและค้นพบศักยภาพสูงสุดของ Generative AI ในการเปลี่ยนแปลงโลก และยกระดับมาตรฐานของการออกแบบ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดแก่องค์กรและเสริมความเป็นผู้นำในวงการธุรกิจของคุณ สามารถใช้ Spacely AI ได้แล้ววันนี้ที่ www.spacely.ai
เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) บริษัทภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) จับมือ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ร่วมกันศึกษาและพัฒนา WangChanGLM (วังช้างแอลเอ็ม) โมเดลภาษาที่เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยและสามารถรองรับภาษาอื่นๆ ได้ในรูปแบบ Generative AI และ Large Language Model ภายใต้ใบอนุญาตเชิงพาณิชย์ ด้วยจุดเด่นในการสรุปเนื้อหา คิดไอเดีย และเขียนบทความภาษาไทย ช่วยเพิ่มโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ได้อย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพ WangChanGLM เปิดให้ทดลองใช้และเสนอแนะความคิดเห็นเพื่อพัฒนาประสบการณ์ใช้งานโมเดลแล้ววันนี้ที่ https://www.wangchanglm.in.th โดยได้รับเกียรติจาก ดร. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร (กลาง) นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี พร้อมด้วย รศ.ดร.สรณะ นุชอนงค์ (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิสัย เอไอ จำกัด และคณบดีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) และนายกสิมะ ธารพิพิธชัย (ซ้าย) Entrepreneur in Residence บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) ร่วมงานเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี
รศ.ดร.สรณะ นุชอนงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิสัย เอไอ จำกัด และ และคณบดีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) กล่าวว่า “สถาบันวิทยสิริเมธี หรือ VISTEC เป็นมหาวิทยาลัยวิจัย (Research University) มุ่งเน้นงานวิจัยระดับแนวหน้าด้านวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับชั้นนำของโลก เปรียบเสมือนเมืองแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรม เราให้ความสำคัญในการผลิตงานวิจัยด้านเทคโนโลยีระบบปัญญาประดิษฐ์ เพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์คุณภาพสูง เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจได้ เราจึงได้สร้างและพัฒนา WangChanGLM (วังช้างแอลเอ็ม) AI ด้านโมเดลภาษาที่เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยและสามารถรองรับภาษาอื่นๆ ได้ในรูปแบบ Generative AI และ Large Language Model ภายใต้ใบอนุญาตเชิงพาณิชย์ขึ้นมา โดยเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ SCB 10X เข้ามาช่วยในการศึกษาและพัฒนา Demo Interface WangChanGLM ให้สามารถเข้าถึงภาคธุรกิจได้ง่ายขึ้น และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์โดยคนไทยอีกด้วย”
ด้าน นายกสิมะ ธารพิพิธชัย Entrepreneur in Residence บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า “SCB 10X เล็งเห็นถึงศักยภาพมหาศาลของเทคโนโลยี AI ในการรับมือกับความท้าทายทางการเงินทั่วโลก นอกเหนือจากภาคธุรกิจการเงินและธนาคาร เรายังให้ความสำคัญกับภาษา วัฒนธรรม และมรดกของไทย เป็นลำดับแรกๆ การร่วมมือกับ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ในการเปิดตัว Public Demo ของ WangChanGLM (วังช้างแอลเอ็ม) โดย SCB 10X ได้เข้าส่วนร่วมในการสร้างและพัฒนา Web Application ที่ง่ายต่อการใช้งานและมีเทคโนโลยี AI ที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยจุดเด่นในการสรุปเนื้อหา คิดไอเดีย และเขียนบทความภาษาไทยเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการปิดช่องว่างทางภาษาที่ส่วนใหญ่การวิจัย AI จะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ช่วยเพิ่มโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ได้อย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพ โดยความร่วมมือครั้งนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ SCB 10X ที่มุ่งเน้นสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด ผ่านการลงทุน และร่วมสร้างสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพสูง ในกลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งโลกอนาคต ที่จะนำมาซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีการเงินและการธนาคาร ในมีประสิทธิภาพที่ดีต่อไป”
![]()
นอกจากนี้ SCB 10X ยังได้ลงทุนรอบ Pre-Series A ใน วิสัย (VISAI) ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ครบวงจรสำหรับภาคธุรกิจ โดยในรอบนี้ได้ลงทุนร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์คุณภาพสูง และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์โดยคนไทย ผ่าน 3 บริการหลัก คือ AI Cloud Platform บริการโมเดลปัญญาประดิษฐ์คุณภาพสูงบนระบบคลาวด์ AI Solutions บริการให้คำปรึกษาและออกแบบปัญญาประดิษฐ์ไปใช้ในธุรกิจ และ AI Training บริการจัดอบรมความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์และวิทยาศาสตร์ข้อมูลให้ธุรกิจและองค์กร
WangChanGLM (วังช้างแอลเอ็ม) โมเดลภาษาที่เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยและสามารถรองรับภาษาอื่นๆ ได้ในรูปแบบ Generative AI และ Large Language Model ภายใต้ใบอนุญาตเชิงพาณิชย์ ใช้โมเดล XGLM ขนาด 7.5 พันล้านพารามิเตอร์จาก Meta โดยเปิดชุดข้อมูลและโมเดลแบบสาธารณะ (open source) ที่สามารถเข้าถึงได้ทั้งหมดบน GitHub และ Google Colab เพื่อให้นักพัฒนาสามารถนำไปใช้ต่อยอดและเทรนโมเดลได้ด้วยตนเอง พร้อมเปิดให้ผู้ที่สนใจทดลองใช้งานและเสนอแนะความคิดเห็นเพื่อพัฒนาโมเดลแล้ววันนี้ที่ https://www.wangchanglm.in.th