December 05, 2025

นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมพิธีเปิดโครงการติดตั้งและบํารุงรักษาอุปกรณ์ประหยัดพลังงานในระบบการผลิตไฟฟ้า หรือพลังงานทางเลือก (Solar Rooftop) โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานเปิดการใช้งานโครงการติดตั้ง และบำรุงรักษาอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ในระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนหรือพลังงานทางเลือก พร้อมด้วย พลเรือโท ประทีป ตังติสานนท์ เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ พลเรือตรีสมชาย จันทโรธร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของทั้งสองหน่วยงาน ร่วมให้เกียรติเป็นสักขีพยานในพิธี ณ ห้องประชุมแพทย์ทางไกล อาคารผู้ป่วยใน ชั้น 13 โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ

 

พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวเปิดโครงการว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เป้าหมายการเป็นประเทศที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 (พ.ศ.2593) โดยสนับสนุน และพร้อมส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น กองทัพเรือได้ตระหนักถึงความสำคัญของเป้าหมายนี้ และให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง โดยถือว่าเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐในการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านการบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเลือกใช้พลังงานสะอาด พลังงานทดแทนหรือพลังงานทางเลือก เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ดำเนินงานอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นหน่วยงานที่มีการปฏิบัติและบริหารงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่ 1 ของกองทัพเรือ คือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้พลังงาน โดยเน้นกลยุทธ์หลัก คือการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน

 

อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ถือเป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิชั้นสูงของกองทัพเรือ ซึ่งมีภารกิจหลักในการให้บริการตรวจรักษาด้านการแพทย์แก่กำลังพล ครอบครัวและประชาชนทั่วไป ตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน ด้วยบทบาทดังกล่าวโรงพยาบาลจึงมีความจำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับภารกิจด้านการแพทย์ การดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในการดูแลผู้ป่วยวิกฤต การผ่าตัด ตลอดจนระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศของโรงพยาบาล

 

นอกเหนือจากความตระหนักในต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นแล้ว โรงพยาบาลยังให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านพลังงาน การลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากฟอสซิล ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมก้าวสู่การเป็น “โรงพยาบาลสีเขียว” (Green Hospital) อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายการจัดการสิ่งแวดล้อมของกองทัพเรือภายใต้แนวคิด “Green Navy” และสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาลในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593)

ด้านผู้ว่าการ MEA กล่าวเสริมว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่ดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐด้านพลังงานหมุนเวียน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา MEA ได้ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสนับสนุนตามนโยบายลดการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ส่งเสริมให้หน่วยงานของรัฐ มีการใช้พลังงานอย่างประหยัด มีประสิทธิภาพ มีเป้าหมายตามแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี ตามมติคณะรัฐมนตรี กำหนดให้หน่วยงานราชการลดการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงลงร้อยละ 20 จึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ในครั้งนี้ โดยบทบาทของ MEA ครอบคลุมการสำรวจ ออกแบบ ติดตั้ง และบำรุงรักษา มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมโยงการมอนิเตอร์ปริมาณพลังงานจากแสงอาทิตย์ และระบบจำหน่ายของ MEA ผ่านระบบออนไลน์ แบบ Realtime ทั้งหมดนี้ นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญ โดย MEA พร้อมที่จะต่อยอด และขยายผลความร่วมมือในโอกาสต่อไป

 

โดยโครงการนี้ดำเนินการติดตั้งระบบ Solar Rooftop ของอาคารผู้ป่วยในโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ รวมกำลังการผลิตสูงสุด 1,780.64 กิโลวัตต์ คาดการณ์ผลประหยัดเฉลี่ย 4.7 ล้านบาทต่อปี ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่บรรยากาศได้เฉลี่ย 1,035.61 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี เทียบเท่ากับการปลูกต้นสักประมาณ 58,841 ต้น ปัจจุบัน MEA ดำเนินการติดตั้งระบบเสร็จเรียบร้อยเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา และมีความพร้อมในการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือแล้ว การจัดพิธีเปิดโครงการในครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ร่วมมือกันและมีเป้าหมายเดียวกันในการพัฒนาพลังงานสะอาด มุ่งเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และเป็นต้นแบบในการพัฒนาโครงการบริหารจัดการพลังงานสะอาดของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป

 

ทั้งนี้ ผู้สนใจจะติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยของ MEA สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ฝ่ายธุรกิจบริการและคุณภาพไฟฟ้า โทร. 0 2878 5385, 0 2878 5432, 0 2878 5433 และ 0 2878 5434 ระหว่างเวลา 07.30 - 15.30 น. ในวันเวลาทำการ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook: การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line: MEA Connect (@MEAthailand) สัญลักษณ์โล่เขียวนำหน้าชื่อบัญชีทางการ เลือกเมนู ติดต่อ MEA Call Center Online 1130 ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

BPS ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ โตไม่ต่ำกว่า 20% เล็งขยายธุรกิจ Solar rooftop และไฟเบอร์ออพติกเพื่อการสื่อสารเพิ่มรายได้และมาร์จิ้ พร้อมหาพันธมิตรเสริมความแข็งแกร่งต่อยอดนวัตกรรม SMART HOME

นายสุรพงษ์ สาเรชพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีพีเอส เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ BPS ผู้จำหน่ายอุปกรณ์เชื่อมต่อไฟฟ้าภายในอาคาร สินค้าเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อุปกรณ์โซลาร์เซล บริการจัดหา ออกแบบ ติดตั้ง โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากโซลาร์เซลแบบติดตั้งบนหลังคา ระบบควบคุมการจ่ายไฟฟ้า โครงข่ายไฟเบอร์ออพติกเพื่อการสื่อสาร และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกภายในที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์เปิดเผยว่าบริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยมีแผนที่จะขยายธุรกิจการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาสำหรับลูกค้าอสังหาริมทรัพย์แนวราบ และ โรงงาน รวมถึงองค์กรภาคเอกชน โดยตั้งเป้าติดตั้งและผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 30 เมกะวัตต์

นอกจากนี้จะนำเสนอนวัตกรรม Green Home Solutions เพื่อตอบสนองความต้องการและตอบโจทย์เทรนอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ ที่พร้อมอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยในทุกๆด้าน เช่น อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง บ้านประหยัดพลังงาน ซึ่ง BPS จะเป็นศูนย์ให้บริการแบบ One Stop Service ด้วยการให้บริการให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง พร้อมจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตลาดบ้านมือสอง และกลุ่มประชากรผู้สูงอายุที่ต้องการปรับปรุงที่พักอาศัยให้เหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบ้น พร้อมทั้งมองถึงการขยายโอกาส ให้สอดคล้องกับแนวคิด SMART HOME เช่น การติดตั้งโรงรถ (Garage Roof) พร้อมระบบ Solar Roof-Top การติดตั้งระบบระบายอากาศ (Airflow) และการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้า (EV Charger) ในอนาคตอีกด้วย

“บริษัทตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน ด้วยการขยายธุรกิจติดตั้ง Solar Rooftop ซึ่งเป็นธุรกิจที่โอกาสเติบโตและมีรายได้เข้ามาเพิ่มมากขึ้น และเริ่มรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ ส่วนการนำเสนอนวัตกรรม Green Home Solutions นั้น เป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง ตามความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทเติบโตตามเป้าหมาย” นายสรุพงษ์ กล่าว

สำหรับผลประกอบการ ปี 2566 บริษัทมีรายได้ 738.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.64% จากปีก่อนที่มีรายได้ 679.96 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 20.5 ล้านบาท โดยมีรายได้หลัก 87% เป็นงานจัดหาและจัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าภายในอาคาร รวมถึง อุปกรณ์เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องเช่น กล้องวงจรปิด เครื่องระบายอากาศ โดยที่ลูกค้าส่วนใหญ่ ได้แก่กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ พร้อมบริการแบบ One Stop Service โดยได้มีการพัฒนารูปแบบสินค้าเป็น Kitting Box ที่เหลือ 13% เป็นรายได้จากการให้บริการจัดหา ออกแบบ ติดตั้ง สำหรับโครงการพลังงานโซลาร์ และโครงการบริการอื่นๆ

จับมือเครือรพ.วิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล นำร่องติดตั้ง Solar Rooftop แห่งแรก ที่รพ.สาขาหนองแขม คาดลดใช้พลังงานได้ 20% และลดก๊าซคาร์บอนกว่า 170 ตัน/ปี

EXIM BANK สนับสนุนทางการเงินจำนวน 360 ล้านบาท ให้กลุ่มบริษัทอิมแพคท์ โซล่าร์ กรุ๊ป

พร้อมขึ้นทะเบียนขายคาร์บอนเครดิต ผลักดันเศรษฐกิจปลอดคาร์บอน ยกระดับมาตรฐานธุรกิจไทยด้านสิ่งแวดล้อม

X

Right Click

No right click