เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) บริษัทภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) จับมือ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ร่วมกันศึกษาและพัฒนา WangChanGLM (วังช้างแอลเอ็ม) โมเดลภาษาที่เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยและสามารถรองรับภาษาอื่นๆ ได้ในรูปแบบ Generative AI และ Large Language Model ภายใต้ใบอนุญาตเชิงพาณิชย์ ด้วยจุดเด่นในการสรุปเนื้อหา คิดไอเดีย และเขียนบทความภาษาไทย ช่วยเพิ่มโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ได้อย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพ WangChanGLM เปิดให้ทดลองใช้และเสนอแนะความคิดเห็นเพื่อพัฒนาประสบการณ์ใช้งานโมเดลแล้ววันนี้ที่ https://www.wangchanglm.in.th โดยได้รับเกียรติจาก ดร. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร (กลาง) นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี พร้อมด้วย รศ.ดร.สรณะ นุชอนงค์ (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิสัย เอไอ จำกัด และคณบดีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) และนายกสิมะ ธารพิพิธชัย (ซ้าย) Entrepreneur in Residence บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) ร่วมงานเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี

รศ.ดร.สรณะ นุชอนงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิสัย เอไอ จำกัด และ และคณบดีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) กล่าวว่า “สถาบันวิทยสิริเมธี หรือ VISTEC เป็นมหาวิทยาลัยวิจัย (Research University) มุ่งเน้นงานวิจัยระดับแนวหน้าด้านวิทยาศาสตร์

เทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับชั้นนำของโลก เปรียบเสมือนเมืองแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรม เราให้ความสำคัญในการผลิตงานวิจัยด้านเทคโนโลยีระบบปัญญาประดิษฐ์ เพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์คุณภาพสูง เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจได้ เราจึงได้สร้างและพัฒนา WangChanGLM (วังช้างแอลเอ็ม) AI ด้านโมเดลภาษาที่เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยและสามารถรองรับภาษาอื่นๆ ได้ในรูปแบบ Generative AI และ Large Language Model ภายใต้ใบอนุญาตเชิงพาณิชย์ขึ้นมา โดยเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ SCB 10X เข้ามาช่วยในการศึกษาและพัฒนา Demo Interface WangChanGLM ให้สามารถเข้าถึงภาคธุรกิจได้ง่ายขึ้น และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์โดยคนไทยอีกด้วย”

ด้าน นายกสิมะ ธารพิพิธชัย Entrepreneur in Residence บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า “SCB 10X เล็งเห็นถึงศักยภาพมหาศาลของเทคโนโลยี AI ในการรับมือกับความท้าทายทางการเงินทั่วโลก นอกเหนือจากภาคธุรกิจการเงินและธนาคาร เรายังให้ความสำคัญกับภาษา วัฒนธรรม และมรดกของไทย เป็นลำดับแรกๆ การร่วมมือกับ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ในการเปิดตัว Public Demo ของ WangChanGLM (วังช้างแอลเอ็ม) โดย SCB 10X ได้เข้าส่วนร่วมในการสร้างและพัฒนา Web Application ที่ง่ายต่อการใช้งานและมีเทคโนโลยี AI ที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยจุดเด่นในการสรุปเนื้อหา คิดไอเดีย และเขียนบทความภาษาไทยเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการปิดช่องว่างทางภาษาที่ส่วนใหญ่การวิจัย AI จะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ช่วยเพิ่มโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ได้อย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพ โดยความร่วมมือครั้งนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ SCB 10X ที่มุ่งเน้นสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด ผ่านการลงทุน และร่วมสร้างสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพสูง ในกลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งโลกอนาคต ที่จะนำมาซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีการเงินและการธนาคาร ในมีประสิทธิภาพที่ดีต่อไป”

นอกจากนี้ SCB 10X ยังได้ลงทุนรอบ Pre-Series A ใน วิสัย (VISAI) ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ครบวงจรสำหรับภาคธุรกิจ โดยในรอบนี้ได้ลงทุนร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์คุณภาพสูง และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์โดยคนไทย ผ่าน 3 บริการหลัก คือ AI Cloud Platform บริการโมเดลปัญญาประดิษฐ์คุณภาพสูงบนระบบคลาวด์ AI Solutions บริการให้คำปรึกษาและออกแบบปัญญาประดิษฐ์ไปใช้ในธุรกิจ และ AI Training บริการจัดอบรมความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์และวิทยาศาสตร์ข้อมูลให้ธุรกิจและองค์กร

WangChanGLM (วังช้างแอลเอ็ม) โมเดลภาษาที่เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยและสามารถรองรับภาษาอื่นๆ ได้ในรูปแบบ Generative AI และ Large Language Model ภายใต้ใบอนุญาตเชิงพาณิชย์ ใช้โมเดล XGLM ขนาด 7.5 พันล้านพารามิเตอร์จาก Meta โดยเปิดชุดข้อมูลและโมเดลแบบสาธารณะ (open source) ที่สามารถเข้าถึงได้ทั้งหมดบน GitHub และ Google Colab เพื่อให้นักพัฒนาสามารถนำไปใช้ต่อยอดและเทรนโมเดลได้ด้วยตนเอง พร้อมเปิดให้ผู้ที่สนใจทดลองใช้งานและเสนอแนะความคิดเห็นเพื่อพัฒนาโมเดลแล้ววันนี้ที่ https://www.wangchanglm.in.th

จุดพลังเทคโนโลยีสร้างมิติใหม่ให้อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยยุคดิจิทัล


ธนาคารไทยพาณิชย์ เดินหน้าปลุกวิสัยทัศน์ด้าน Digital Transformation แก่ผู้นำองค์กรขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมสำคัญของไทยอย่างต่อเนื่อง จับมือ สถาบันวิทยสิริเมธี หรือ VISTEC เปิดการอบรมหลักสูตร “MISSION X” The Boot Camp of Advanced Corporate Transformation รุ่นที่ 5 เจาะกลุ่มอุตสาหกรรมรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง มุ่งเน้นการบ่มเพาะวิสัยทัศน์สำหรับผู้นำองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่เร่งยกระดับศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมไทยด้วยการเปลี่ยนผ่านทางด้านดิจิทัล สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดฝ่าวิกฤติและความท้าทายรอบด้าน อัดแน่นด้วยเนื้อหาจากวิทยากรชั้นนำทางด้านเทคโนโลยีที่สำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย พร้อมด้วยกรณีศึกษาจากซีอีโอต้นแบบระดับประเทศ และการให้คำปรึกษาพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญแบบตัวต่อตัวสำหรับการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ดิจิทัลขององค์กรเพื่อการใช้งานจริง โดยมี ดร. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานหลักสูตร Mission X นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ดร. ยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wholesale และ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wealth ธนาคารไทยพาณิชย์ และ ศ.ดร.จำรัส ลิ้มตระกูล อธิการบดี สถาบันวิทยสิริเมธี ร่วมพิธีเปิดหลักสูตร เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่

ดร. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี กล่าวว่า ในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทในการดำเนินชีวิต ธุรกิจ และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ Digital Transformation เป็นทางเลือกสำคัญที่องค์กรขนาดใหญ่จะต้องให้ความสำคัญ การพัฒนา Digital Transformation ในทุกวันนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด และผลของการพัฒนาดังกล่าวทำให้ต้นทุนทางเทคโนโลยีถูกลง ดังนั้นคนที่ทำธุรกิจที่ผนวกเทคโนโลยีได้ก่อนจึงมีความได้เปรียบ องค์กรยุคใหม่จึงต้องมีความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงการให้ความสำคัญในการเป็นเจ้าของข้อมูล (Data) และรู้จักการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำมาใช้ตอบความต้องการของลูกค้าอันจะมีผลต่อการแข่งขันและสร้างโอกาสการเติบโตได้ต่อเนื่องในยุคดิจิทัล สำหรับอุตสาหกรรมการก่อสร้างนั้น ปัจจุบันเราเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแล้วในโลก เช่น การสร้างบ้านด้วยเทคโนโลยี 3D Printing หรือการใช้ Drone Survey สำรวจไซต์งานจากนอกสถานที่ ลดต้นทุน ลดแรงงานได้อย่างมหาศาล ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ทำธุรกิจนี้จึงต้องตื่นตัวเปิดรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและปรับความคิดให้เท่าทันกับอนาคตที่กำลังจะมาถึง ต่อยอดการพัฒนาขีดความสามารถให้กับทุกกระบวนการทำงานในโครงการ สร้างการเติบโตให้องค์กร ผลลัพธ์ที่ดีต่อลูกค้า รวมไปถึงคู่ค้าและซัพพลายเชนทั้งระบบ โดยเชื่อมั่นว่าหลักสูตร Mission X จะนำพาทุกท่านสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นกับธุรกิจ และเสริมศักยภาพในการสร้างความยืดหยุ่นให้ธุรกิจเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้อย่างยั่งยืน”

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานหลักสูตร “Mission X” The Boot Camp of Advanced Corporate Transformation กล่าวว่า “การวางกลยุทธ์ธุรกิจระยะยาวนั้นผู้ประกอบองค์กรควรมุ่งให้ความสำคัญกับเรื่องเมกะเทรนด์ที่กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างให้แก่เศรษฐกิจโลกอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ หากประเทศไทยสามารถสร้างโอกาสขึ้นมาได้ จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงได้ หรือแม้กระทั่งสงครามทางการค้าที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดการย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนมาสู่ประเทศไทยมากขึ้น ส่งผลที่เป็นบวกให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ โครงการ Mission X รุ่นที่ 5 นี้ ต้องการเน้นย้ำให้ผู้ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยได้จับตาเกี่ยวกับเทรนด์ต่างๆ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพื่อสามารถวางโรดแมปการทำ Digital Transformation ให้องค์กรได้อย่างครอบคลุม รวมถึงนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่สำคัญเข้ามาพัฒนาเพื่อดึงศักยภาพองค์กร โดยเฉพาะการบริหารจัดการต้นทุนทางด้านโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่จะสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากลได้”

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ “เป้าหมายสำคัญของการปรับองค์กรขนาดใหญ่ในยุคปัจจุบัน คือ ทำอย่างไรองค์กรจะยังยืนหยัดอยู่ได้ในโลกที่เต็มไปด้วยธุรกิจ Startup ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่ง Digital Disruption ที่สร้างความกังวลต่อผู้ประกอบการ แต่หากมองอีกนัยหนึ่ง นี่คือโอกาสผลักดันการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้กับธุรกิจ และองค์กรขนาดใหญ่สามารถปรับตัวเองได้เพียงเข้าใจในแนวคิดการปรับใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์สูงสุด แต่การทำ Digital Transformation ในองค์กรขนาดใหญ่นั้นไม่ใช่เพียงแต่การนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในกระบวนการดำเนินงานแต่เพียงเท่านั้น แต่รวมถึงการสร้าง Digital Mindset ให้เป็นวัฒนธรรมองค์กรให้เกิดขึ้นในทุกระดับ ธนาคารไทยพาณิชย์ และ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) มีความเชื่อมั่นร่วมกันในพลังแห่งเทคโนโลยีที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว ได้ร่วมดำเนินโครงการ “MISSION X” หลักสูตรลับคมวิสัยทัศน์ทางด้านดิจิทัลสำหรับผู้นำองค์กรธุรกิจแถวหน้าของประเทศ ได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นรุ่นที่ 5 มีผู้เข้าร่วมหลักสูตรรวมแล้วกว่า 120 บริษัท และมีเม็ดเงินลงทุนเพื่อ Digital Transformation ตลอดโครงการแล้วกว่า 1,800 ล้านบาท ในครั้งนี้มุ่งเน้นการปลูกวิสัยทัศน์ทางดิจิทัลให้แก่กลุ่มผู้นำองค์กรขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมผู้รับเหมาและวัสดุก่อสร้างชั้นนำของประเทศ ซึ่งเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจาก Digital Disruption แม้ในเมืองไทยอาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ในระยะยาวเรามองเห็นแนวโน้มของผลกระทบที่รวดเร็วและรุนแรง จากปัจจัยต่างๆ ทั้งทางด้านโครงสร้างประชากรที่อาจทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในอนาคต ค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น จึงมีความจำเป็นที่ผู้เล่นในอุตสาหกรรมนี้ต้องรีบปรับตัวให้พร้อมรับมือกับความท้าทายนี้แต่เนิ่นๆ เพื่อรักษาความแข็งแกร่งให้องค์กรและสร้างการเติบโตที่ต่อเนื่องและยั่งยืนในยุคแห่งความผันผวน”

X

Right Click

No right click