

KBTG ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก ล่าสุด ขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 3 องค์กรที่ดีที่สุดในโลก ที่สามารถนำข้อมูล (Data) และปัญญาประดิษฐ์ (AI)
KBTG ในฐานะผู้พัฒนาแอปพลิเคชันจัดการเงิน MAKE by KBank พบเทรนด์การเงินของคนไทยกำลังเปลี่ยนไปจากเดิมที่เน้นเพียงการออมเงิน โดยปัจจุบันผู้ใช้งานส่วนใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับการ “แบ่งเงินเพื่อคุมรายจ่ายในชีวิตประจำวัน” มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนถึงการมีวินัยทางการเงินที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตอกย้ำการพัฒนา Cloud Pocket ให้มีประสิทธิภาพ หนุนความนิยมต่อเนื่อง
นายเชษฐพันธุ์ ศิริดานุภัทร Managing Director กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานแอปพลิเคชัน MAKE by KBank ตั้งแต่เดือนมกราคม-เดือนกรกฎาคม 2568 พบว่า ผู้ใช้งานส่วนใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับวางแผนบริหารเงินอย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น โดยใช้วิธี “แบ่งเงินเพื่อคุมรายจ่ายในชีวิตประจำวัน” สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจาก “การออมเงินอย่างเดียว” ไปสู่ “การวางแผนใช้จ่ายอย่างมีระบบ” ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของวินัยทางการเงินที่ยั่งยืน
จากข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชัน MAKE by KBank พบว่าประเภท Cloud Pocket หรือ “กระเป๋าย่อย” ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปีนี้ ได้แก่ “เงินใช้รายวัน/สัปดาห์/เดือน” “เงินค่าการเดินทาง” “เงินเพื่อจ่ายหนี้” และ “ค่าเบี้ยประกัน” แทนที่ประเภท “เงินเก็บ” ซึ่งเคยเป็น Cloud Pocket ประเภทยอดนิยมในปี 2567 โดย 6 ใน 10 ของ Cloud Pocket ที่ถูกสร้างขึ้นจะเกี่ยวกับ “รายจ่าย” เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ และค่าไฟ ส่วน Cloud Pocket ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ได้แก่ หมวดค่าที่อยู่อาศัย ที่มีการสร้างเพิ่มขึ้นถึง 9 เท่า และหมวดเกี่ยวกับกิจกรรมวิ่ง เช่น “รองเท้า” หรือ “มาราธอน” ที่โตขึ้นกว่า 3 เท่า ซึ่งการแบ่งเงินก่อนใช้ด้วย Cloud Pocket ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมรายจ่ายได้ดีขึ้น แต่ยังมีผลต่อการออมโดยตรง ผู้ใช้สามารถสร้างกระเป๋าเงินแยกได้ไม่จำกัดตามเป้าหมายได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะแบ่งเก็บออม หรือแบ่งใช้ตามค่าใช้จ่ายที่มี จากสถิติสะท้อนว่า ผู้ที่ใช้ Cloud Pocket สามารถเก็บเงินได้มากกว่าผู้ที่ไม่มี Cloud Pocket ถึง 40% โดยกลุ่ม Gen Z นิยมแบ่งเงินแบบรายสัปดาห์ ขณะที่ Gen Y เลือกจัดการแบบรายเดือน

ทั้งนี้ ในปี 2568 แอปพลิเคชัน MAKE by KBank ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการจัดการการเงินด้วยการเปิดตัว Cloud Pocket ใหม่ 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. “Cloud Saving” หรือ Cloud ออมต่อเนื่อง ที่ออกแบบมาในรูปแบบปฏิทินออมเงิน สามารถกำหนดรูปแบบการออมได้แบบรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนได้ เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสร้างวินัยการออมหรือวางแผนออมเงินสำรองฉุกเฉิน 2. “Cloud Wishlist” หรือ Cloud เก็บเงินตามความฝัน ที่จะทำให้ทุกเป้าหมายใหญ่เป็นจริงได้ง่ายขึ้น ด้วยการตั้งระยะเวลาของเป้าหมายและเฉลี่ยจำนวนเงินที่ต้องเก็บแบบรายเดือน เหมาะสำหรับการเก็บเงินเพื่อเป้าหมายที่มีระยะเวลาที่ชัดเจน เช่น ท่องเที่ยว ซื้อของ หรือการเตรียมเงินเพื่อจ่าย 3. “Cloud Credit Card” หรือ Cloud เตรียมจ่ายบัตรเครดิต สำหรับแจ้งเตือนให้เตรียมเงินชำระบิลบัตรเครดิตอย่างเป็นระบบ สามารถเพิ่มรายการใช้บัตร และย้ายเงินเข้าตามรายการใช้บัตรพร้อมกันได้หลายรายการ ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถอัพเกรด Cloud Pocket เดิมมาใช้รูปแบบใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องลบหรือสร้างซ้ำ เพียงเข้าไปที่ Cloud Pocket ที่ต้องการ เลือกสัญลักษณ์สามจุดมุมขวาบน จากนั้นเลือก ตั้งค่า Cloud Pocket เพื่อเปลี่ยนประเภท
นายเชษฐพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแบ่งเงินอย่างมีระบบเป็นจุดเริ่มต้นของความมั่นคงทางการเงินที่แท้จริง MAKE by KBank จึงมุ่งมั่นพัฒนาฟีเจอร์และประสบการณ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการขยายพันธมิตรด้านการทำธุรกรรมทั้งการเติมเงิน-จ่ายบิล ครอบคลุมทั้งค่าสาธารณูปโภค ค่าโทรศัพท์มือถือ ค่าอินเทอร์เน็ต และจ่ายชำระเงินบัตรเครดิต เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานให้การจัดการเงินในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องง่ายและสนุก สามารถวางแผน จัดการรายรับรายจ่าย และบรรลุเป้าหมายทางการเงินของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพในแอปเดียว
ผู้ที่สนใจต้องการเริ่มวางแผนบริหารจัดการการเงินผ่านแอป MAKE by KBank สามารถดาวน์โหลดแอปได้ทาง App Store และ Google Play คลิก https://makebykbank.onelink.me/v9lf/MAKE2025 หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้ที่ https://makebykbank.kbtg.tech/
ข้อมูลล่าสุดจากธนาคารแห่งประเทศไทย เผยให้เห็นความจริงที่น่าตกใจของคนไทยกับการเงิน โดยจาก 130 ล้านบัญชีเงินฝากทั่วประเทศ มีถึง 123 ล้านบัญชีที่มีเงินฝากไม่ถึง 50,000 บาท ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงวิกฤตเงินออมของคนไทย นอกจากนี้ ดีลอยท์ ประเทศไทย ยังเผยว่าคนไทยรุ่นใหม่ทั้ง Gen Y และ Gen Z กว่า 63% ใช้เงินแบบเดือนชนเดือน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 52% ด้วยภาระค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพที่สูงขึ้น และความจำเป็นต้องใช้เงินมาตอบสนองไลฟ์สไตล์ บ่อยครั้งเราจึงได้ยินประโยคที่ว่า “เงินเดือนออกไม่กี่วัน ไม่รู้หายไปไหนหมด”![]()
อยากใช้เงินอย่างมีสติ แต่ทำไม่ได้สักที
คนรุ่นใหม่จำนวนมาก อยากรู้ว่าแต่ละเดือนเงินหายไปกับอะไรบ้าง เพื่อที่จะลดหรือตัดค่าใช้จ่ายบางประเภท แต่ก็ยังไม่มีเครื่องมือที่ช่วยให้เห็นภาพรวมการใช้จ่ายอย่างชัดเจน แถมการสร้างตารางจดรายจ่ายด้วยตนเองนั้นยุ่งยาก ใช้เวลา และต้องมีวินัยสูง แม้จะรู้ว่าสำคัญ แต่พอต้องจดทุกวัน ทุกยอดในหลายแอปธนาคาร ก็ทำให้ท้อ จนกลายเป็นว่า เราไม่เคยมีภาพรวมการเงินที่ชัดเจน
KBTG บริษัทเทคโนโลยีในเครือธนาคารกสิกรไทย เข้าใจ Pain Point นี้ดี จึงดึงอินไซต์ของคนรุ่นใหม่มาพัฒนา "เหมียวจด" แอปพลิเคชันจดรายจ่ายอัตโนมัติ ที่จะเปลี่ยนวิธีการจดรายจ่ายให้เป็นเรื่องง่ายและตอบโจทย์ทุกคนที่อยากเข้าใจรายจ่ายของตนเอง
เหมียวจดทำงานด้วยหลักการง่าย ๆ คือ อ่านข้อมูลจากสลิปการโอนเงินในแอปธนาคารแล้วจดบันทึกรายจ่ายให้อัตโนมัติ ปัจจุบันรองรับการอ่านข้อมูลจาก 19 แอปธนาคารชั้นนำ รวมถึง Truemoney Wallet และจะรวมสรุปรายจ่ายทุกธนาคารไว้ในที่เดียว ทั้งแบบรายวันและรายเดือนในรูปแบบกราฟที่แสดงสัดส่วนการใช้จ่ายแต่ละหมวดหมู่ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เลือกหมวดหมู่อัตโนมัติจากฐานข้อมูลกว่า 500,000 ร้านค้าในระบบเหมียวจด และยังจดจำ
พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้ใช้แต่ละคน เช่น เมื่อโอนเงินไปร้านกาแฟประจำ แอปจะจำได้ว่านี่คือค่ากาแฟ พอครั้งต่อไปโอนไปร้านเดิม ระบบจะจัดหมวดหมู่ให้อัตโนมัติ ทำให้ประหยัดเวลาในการจดรายจ่าย
![]()
ฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อชีวิตคนยุคใหม่
นอกจากการจดอัตโนมัติแล้ว เหมียวจดยังมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง เช่น การตั้งรายการ "จดซ้ำ" สำหรับค่าใช้จ่ายประจำเดือน อย่างค่าเช่าบ้าน ผ่อนรถ หรือค่า Subscription ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั้งยังมีระบบ “กราฟเปรียบเทียบ” ช่วยให้เห็นแนวโน้มการใช้จ่ายแบบรายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี ทำให้รู้ได้ว่าเดือนไหนใช้เงินเกิน เดือนไหนประหยัดได้ พร้อมด้วยการใส่ #tag ช่วยแยกหมวดหมู่ได้ละเอียดมากขึ้น เช่น #ค่ากาแฟ #ทริปญี่ปุ่น #ซื้อของฝาก ทำให้วิเคราะห์รายจ่ายได้ตรงจุด และสำหรับคนที่ต้องการข้อมูลเพื่อวางแผนการเงินต่อ เหมียวจดสามารถส่งออกข้อมูลเป็นไฟล์ Excel หรือ CSV ได้ง่าย ๆ
นายเชษฐพันธุ์ ศิริดานุภัทร Managing Director กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยีกรุ๊ป (KBTG) เล่าว่า “เราเล็งเห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ต้องการให้สุขภาพทางการเงินคล่องตัวมากขึ้น แต่เครื่องมือที่มีอยู่ยังซับซ้อนเกินไป เราจึงออกแบบ เหมียวจด มาให้เป็น 'เพื่อนคู่ใจ' เป็นฟินเทคสายซอฟต์ที่เฟรนลี่ ใช้ง่าย และช่วยให้ทุกคนเริ่มวางแผนการเงินได้ง่าย ๆ เราเชื่อว่าเทคโนโลยีที่ดีต้องทำให้ชีวิตง่ายขึ้น มั่นใจว่าผู้ใช้งานเหมียวจด จะเข้าใจภาพรวมค่าใช้จ่าย และสร้างวินัยทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
สบายใจกับความปลอดภัยระดับธนาคาร
ในยุคนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นของมีค่า ความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เหมียวจดพัฒนาโดย KBTG และใช้มาตรฐานความปลอดภัยระดับเดียวกับแอปธนาคาร แอปจะเข้าถึงเฉพาะภาพสลิปการโอนเงินจากแอปธนาคารเท่านั้น ไม่แตะต้องภาพอื่น ๆ หรือข้อมูลส่วนตัวในโทรศัพท์ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าความเป็นส่วนตัวได้รับการปกป้อง นอกจากนี้ เหมียวจด ยังได้รับการยอมรับในเวทีระดับสากล โดยได้รับรางวัล Demark 2025 Winner ในสาขา Design Excellent Award – System, Service and Digital Platform และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง UX Design Award 2025 จากประเทศเยอรมนี
“เหมียวจด” เชื่อมั่นผู้ใช้งานลดค่าใช้จ่ายได้จริง หลังเห็นภาพรวมรายจ่าย
เมื่อเราเห็นภาพรวมการใช้จ่ายอย่างชัดเจน เราก็สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นว่า ควรลดค่าใช้จ่ายส่วนไหน หรือควรเพิ่มการออมในส่วนไหน เหมียวจดช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น เมื่อทุกการโอนเงินถูกจดบันทึกอัตโนมัติและจัดหมวดหมู่อย่างชัดเจน การวางแผนการเงินจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป โดยจากภาพรวมการใช้งาน ผู้ใช้มีบัญชีที่มีรายรับ-รายจ่ายอยู่หลายบัญชี เฉลี่ยอยู่ที่ 2-3 บัญชี ในกลุ่มวัยทำงานช่วงอายุ 20-40 ปี มักมีรายการใช้จ่ายหลักอยู่ในหมวดค่าอาหาร ค่าการเดินทาง และการช้อปปิ้ง โดยจากการใช้งานต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน ผู้ใช้หลายคนพบว่าสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายในหมวดความบันเทิงและการช้อปปิ้งได้ง่ายขึ้น
เหมียวจดให้บริการฟรีสำหรับผู้ใช้ใหม่ที่ต้องการใช้ฟีเจอร์พื้นฐาน สำหรับคนที่ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูงมากขึ้น มีแพ็กเกจเหมียวซิลเวอร์ที่เพิ่มฟีเจอร์อัตโนมัติและข้อมูลเชิงลึกพื้นฐาน และแพ็กเกจเหมียวโกลด์สำหรับนักวางแผนการเงินที่ต้องการจัดการข้อมูลได้ละเอียดที่สุด
จดรายจ่ายกับเหมียวจดได้แล้ววันนี้ที่ www.meowjot.com หรือดาวน์โหลดได้ที่ meowjot.com/link/install
KBTG Techtopia ปี 3 กลับมาเขย่าโลกเทคโนโลยีอีกครั้ง โดยมาในธีม At World’s Beginning เมื่อโลกใบเดิมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเวทีงานประชุมด้านเทคโนโลยีระดับนานาชาติ ที่รวมตัวผู้ทรงอิทธิพลและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำกว่า 80 คนจากทั่วโลก เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทรงพลังที่สุดแห่งปี เตรียมพบกัน 2 กันยายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและซื้อบัตรร่วมงานได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/kbtg-techtopia-2025
นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า จากงาน KBTG Techtopia สองปีที่ผ่านมาได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 2,500 คนในปี 2567 และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิกว่า 70 ท่านจากทั่วโลก แต่ด้วยวิกฤตในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นมรสุมภูมิรัฐศาสตร์ พิษเศรษฐกิจ สงครามภาษี ปัญหาด้านสาธารณสุขและการแพทย์ ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ไปจนถึงภัยธรรมชาติที่นับวันยิ่งใกล้ตัว ล้วนเป็นเสียงเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันก็มีเทคโนโลยีเกิดใหม่มากมาย โดยเฉพาะ AI ที่มีการแข่งขันอย่างสูสีและการพัฒนาแบบก้าวกระโดด หลายครั้งคนในวงการเองยังวิ่งตามเทรนด์ไม่ทัน ไม่รู้ว่าจุดโฟกัสอยู่ตรงไหน ก่อให้เกิดคำถามต่างๆ ตามมามากมาย รวมถึงผลกระทบในแง่บวกและลบต่อชีวิตและสังคมในวงกว้าง

ด้วยเหตุนี้ KBTG จึงเล็งเห็นความสำคัญในการจัดงาน KBTG Techtopia ปีที่สาม ในธีม At World’s Beginning เมื่อโลกใบเดิมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ชวนทุกคนหันกลับมามองจุดเริ่มต้น สำรวจปัญหาและทรัพยากรโลก กับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนด้วยเทคโนโลยี ภายในงานจะได้พบกับผู้เชี่ยวชาญชั้นนำจากทั่วโลกกว่า 80 คนที่จะมาแชร์ความรู้และโชว์เทคโนโลยีเพื่อมนุษยชาติ (Technology for Humanity) พร้อมกับมุมมองและแนวทางแก้ปัญหาที่จับต้องได้ ปลุกการตื่นรู้สู่การเปิดใจ ปรับตัว และขับเคลื่อนให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่นำโดยคนและทำเพื่อคนอย่างแท้จริง
พลาดไม่ได้! กับไฮไลท์สุดพิเศษในงาน:
นายเรืองโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า KBTG Techtopia ไม่ใช่เพียงการโชว์นวัตกรรมล้ำสมัย แต่เป็นเวทีที่นำเสนอแนวทางแก้ปัญหาที่นำโดยคนและเพื่อคนอย่างแท้จริง ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 2 กันยายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจำหน่ายบัตรในราคา 1,800 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 2 กันยายน 2568 หรือจนกว่าบัตรจะหมด ผู้ที่สนใจร่วมงานสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและซื้อบัตรเข้าร่วมงานได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/kbtg-techtopia-2025