December 05, 2025

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดงาน Thailand E-Commerce Expo 2025 งานอีคอมเมิร์ซใหญ่ที่สุดของไทย จัดระหว่างวันที่ 15–16 สิงหาคม 2568 ณ ทรูไอคอนฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม เพื่อเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยในยุคดิจิทัล เชื่อมโยงความรู้ เทคโนโลยี และเครื่องมือใหม่ๆ พบอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังกว่า 50 ชีวิต พร้อม 50 แพลตฟอร์มชั้นนำ และไฮไลท์การมอบรางวัล Thailand e-Commerce Genius 2025 เพื่อเชิดชูผู้ประกอบการ อีคอมเมิร์ซรุ่นใหม่ที่เติบโตจากการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ คาดสร้างมูลค่าการค้าได้กว่า 200 ล้านบาท
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน Thailand E-Commerce Expo 2025 ณ ทรูไอคอนฮอลล์ ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ว่า ในวันนี้ (15 สิงหาคม 2568) กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัดงานดังกล่าวขึ้นระหว่างวันที่ 15–16 สิงหาคม 2568 เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยในยุคดิจิทัลให้สามารถแข่งขันในตลาดออนไลน์อย่างยั่งยืน เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า และขยายโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับธุรกิจรายย่อยทั่วประเทศ
รมว.พณ. กล่าวเพิ่มเติมว่า “งานนี้ถือเป็นงาน E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ จัดต่อเนื่องขึ้นเป็นปีที่ 6 โดยปีนี้จะเน้นการเชื่อมต่อองค์ความรู้ด้านการค้าออนไลน์ เทคโนโลยี และเครื่องมือดิจิทัล ผ่านเวทีสัมมนาและกิจกรรมเชิงปฏิบัติการจากอินฟลูเอนเซอร์และ Creator ชื่อดังกว่า 50 ราย รวมถึงแพลตฟอร์มด้านอีคอมเมิร์ซชั้นนำกว่า 50 ราย ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ตรง แชร์เทคนิคสร้างยอดขายผ่านตลาดออนไลน์ แนะนำการใช้ AI และเครื่องมือใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ ตลอดจนเปิดพื้นที่ทดลองใช้งานจริงจากแพลตฟอร์มชั้นนำ อาทิ Shopee, Lazada, TikTok Shop, LINE, Meta และอีกมากมาย

 

ภายในงานประกอบไปด้วย 6 กิจกรรมได้แก่ 1) Guru Talk เวทีถ่ายทอดความรู้จากอินฟลูเอนเซอร์และ Content Creator ชั้นนำกว่า 50 ราย ที่จะเล่าถึงวิธีการสร้างแบรนด์ สร้างไวรัลคอนเทนต์ การใช้ AI เสริมยอดขาย และการทำ Affiliate Marketing อาทิ โอม ค็อกเทล (นักร้องและนักธุรกิจชื่อดัง) ซีเค เจิง (เจ้าของแพลตฟอร์ม Fastwork), หยกทอง แม่ค้าออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ, ทีม The Driver (โอ๊ต ปราโมทย์/พิชญ์ กาไชย/พลอย หอวัง) เจ้าของรายการที่สร้างคอนเทนต์ได้น่าสนใจ, นัทนิสา (จากอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังจนกลายเป็นเจ้าของแบรนด์ Lip It), iHaveCPU (จากแบรนด์เล็กๆ สู่ยอดขายร้อยล้าน), จือปาก (อินฟลูเอนเซอร์ที่ครองใจชาวเน็ตสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ) , RAD Cosmetics (พิม พิมประภา นักแสดงและเจ้าของแบรนด์ ที่มียอดขายอันดับ 1 ใน Tiktok), ฝ้าย ใช้เท้าแต่งหน้า (บิวตี้ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามกว่า 6 ล้านราย) และแบงค์กิ (อินฟลูเอนเซอร์ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เปลี่ยนอาหารให้เป็นรายได้ จนมีผู้ติดตามกว่า 9 ล้านคน) 2) Pain-Point Fixer โซนที่รวมแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั่วไทยกว่า 50 แห่ง อาทิ Lazada, Meta, NocNoc, NextGenCommerce, Shopee และ TikTok Shop พร้อมโซลูชันแก้ปัญหาเฉพาะทาง ทั้งเรื่องโลจิสติกส์ การวิเคราะห์ข้อมูล การปิดการขาย และการชำระเงิน
3) Business Consult โซนให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัวจากผู้เชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซกว่า 20 ราย ครอบคลุมทุกขั้นตอนการทำตลาดออนไลน์ 4) Review and Reward โซนจัดแสดงสินค้าออนไลน์แบรนด์ไทยจากผู้ประกอบการที่ผ่านหลักสูตร Online Marketing Genius รุ่นที่ 5 พร้อมโค้ดส่วนลดและโอกาสเข้าร่วม Affiliate กับครีเอเตอร์ 5) E-Commerce Lab พื้นที่ทดลองและ Workshop การขายออนไลน์จริง เสริมสร้างทักษะผู้ประกอบการผ่านการจำลองสถานการณ์ และ6) DBD Online Mega Sale โปรโมชันพิเศษบน Shopee ผ่านหน้าแลนดิ้งเพจ “สุขใจซื้อของไทย” พร้อมคูปองส่วนลดภายใต้โค้ด “DBD50” รวมมูลค่ากว่า 205,000 บาท ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้

 

ประกอบการเข้าร่วมงานทั้งออฟไลน์และออนไลน์รวมกว่า 10,000 ราย สร้างมูลค่าการค้ากว่า 200 ล้านบาท โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยจะได้รับแรงบันดาลใจในการขยายตลาดและพัฒนาธุรกิจออนไลน์ พร้อมทั้งได้เชื่อมโยงกับพันธมิตรใหม่ๆ และเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
ในวันนี้ยังมีกิจกรรมไฮไลท์อีกหนึ่งกิจกรรมคือ การมอบรางวัล Thailand e-Commerce Genius 2025 ซึ่งเป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากโครงการ Online Marketing Genius รุ่นที่ 5 (OMG#5) หลักสูตรเข้มข้นที่จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 โดยผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยี AI การทำคลิปวิดีโอ การปักตะกร้า และกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ก่อนจะผ่านกระบวนการคัดกรองอย่างเข้มข้น จนได้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม One-on-One Coaching ระยะเวลา 1 เดือนเต็มกับผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง จำนวน 50 ราย และคัดเหลือ 10 รายสุดท้าย สู่รอบชิงชนะเลิศครั้งนี้
การมอบรางวัลในวันนี้ประกอบไปด้วย 3 ประเภทรางวัลคือ 1) รางวัลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มูลค่ารวม 100,000 บาท พร้อมโล่ ใบประกาศนียบัตร และรางวัลสนับสนุนจากหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ AIS, Flash Express, LINE และ Shopee มูลค่ารวม 579,476 บาท โดยแบ่งเป็น รางวัลชนะเลิศ คือ คุณอิทธิกร เทพมณี แบรนด์ JAIKLA ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท โล่ พร้อมประกาศนียบัตร สิทธิพิเศษจาก Flash Express แพคเกจส่งเสริมธุรกิจ (ส่งสินค้าในราคาพิเศษ) กับช่องทางประชาสัมพันธ์ธุรกิจผ่าน Flash Express และสิทธิพิเศษจาก AIS ซิมเป็นหนึ่งพร้อมแพกเกจมูลค่า 749 บาท จำนวน 6 เดือน รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ คุณซูลกิฟลี มะเต๊ะ แบรนด์ Hobee ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท โล่ พร้อมใบประกาศนียบัตร และสิทธิพิเศษจาก AIS ซิมเป็นหนึ่งพร้อมแพกเกจมูลค่า 499 บาท จำนวน 6 เดือน รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ คุณอนุวัช อินปลัด แบรนด์ไทยทิชชู ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท โล่ พร้อมใบประกาศนียบัตร และสิทธิพิเศษจาก AIS ซิมเป็น

 

หนึ่งพร้อมแพกเกจมูลค่า 499 บาท จำนวน 6 เดือน และรางวัลชมเชย คือ คุณดวงสมร ผุดผ่อง แบรนด์ Fur a Friend ได้รับโล่ พร้อมใบประกาศนียบัตร และสิทธิพิเศษจาก AIS ซิมเป็นหนึ่งพร้อมแพกเกจมูลค่า 499 บาท จำนวน 6 เดือน
2) รางวัลพิเศษจาก LINE ร่วมสนับสนุนให้เป็น Success Case ซึ่งจะได้รับการโปรโมทผ่านช่องทางของ LINE พร้อมของที่ระลึกผ้าห่มลิขสิทธิ์ LINE Friends จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ คุณดวงสมร ผุดผ่อง แบรนด์ Fur a Friend, คุณณัฐพร กิตติพงษ์ถาวร แบรนด์ Mami Cover และคุณจิณณ์ณณัช ธนะพิทักษ์ แบรนด์ Grase และ 3) รางวัล Shopee Awards for Thailand E-commerce Genius จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ คุณอิทธิกร เทพมณี แบรนด์ JAIKLA ได้รับพื้นที่ในการโปรโมทร้านค้าบนแลนดิ้งเพจ “สุขใจซื้อของไทย” ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2568 พร้อม Shopee Voucher มูลค่า 3,000 บาท, คุณธนวชร หนูแสง แบรนด์ Muscle Chef ได้รับ Shopee Voucher มูลค่า 2,000 บาท และคุณดวงสมร ผุดผ่อง แบรนด์ Fur a Friend ได้รับ Shopee Voucher มูลค่า 1,000 บาท
รมว.พณ. กล่าวปิดท้ายว่า “โอกาสนี้ผมขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ และเป็นกำลังใจกับผู้ประกอบการไทย ขอให้มีพลังสร้างสรรค์ธุรกิจสู่อนาคต และภูมิใจในตัวเองว่าท่านคือแรงสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยประกอบกับขอให้ความสำคัญกับการค้าออนไลน์ที่จะไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป แต่คือโอกาสในการเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้ผลักดันและเสริมปัจจัยต่างๆ ให้ผู้ประกอบการมีความรู้ที่ทันสมัย และมีเครื่องมือทางการตลาดที่ดี โดยงานนี้แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพสูงมาก พร้อมที่จะพัฒนาไปสู่แบรนด์ระดับประเทศ และเติบโตอย่างมั่นคงในตลาดโลก”

LINE ประเทศไทย และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ (DBD) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เดินหน้าส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทั่วประเทศ โดยมุ่งให้ความรู้ที่จำเป็น การสนับสนุนด้านการตลาด และเครื่องมือดิจิทัลจาก LINE ผ่านโครงการที่ดำเนินงานร่วมกันในปี 2568 เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการ ตอกย้ำบทบาทของ LINE ในฐานะเพื่อนร่วมทางเคียงข้าง SMEs ไทย ในการสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล

 

นายรัฐธีร์ ฉัตรดำรงค์ศักดิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ความร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในโลกยุคดิจิทัล โดยอาศัยศักยภาพของ LINE ที่มีความพร้อมด้านโซลูชันดิจิทัลที่ครอบคลุมทั้งด้านการตลาด การสื่อสาร และการวิเคราะห์ข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น LINE Official Account และ LINE Ads รวมถึงโซลูชันต่อยอดอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเข้าใจลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งและสื่อสารได้อย่างตรงจุด ร่วมกับเครือข่ายและช่องทางของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ช่วยขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ เครื่องมือ และการสนับสนุนด้านการตลาดได้อย่างครอบคลุม เพื่อปูรากฐานธุรกิจ SMEs ไทยให้ยืนหยัดได้ด้วยศักยภาพของตัวเอง สู่การต่อยอดโอกาสใหม่ ๆ และสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงใยระยะยาว”

 

ด้าน นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า “ผู้ประกอบการ SMEs ไทยในปัจจุบัน เริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจกันมากขึ้น แต่ต้องเผชิญข้อจำกัดในหลายด้าน ทั้งงบประมาณที่จำกัด ความยุ่งยากในการใช้เครื่องมือ และทักษะด้านดิจิทัลที่ยังต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงจับมือกับ LINE ประเทศไทย เร่งเดินหน้าเพิ่มองค์ความรู้ ควบคู่กับการสนับสนุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน ให้ผู้ประกอบการเข้าถึงเครื่องมือที่ใช้งานได้จริงและเหมาะสมกับธุรกิจ ผ่านการอบรมให้ความรู้ และเพิ่มพูนทักษะที่จำเป็น พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้ลงมือปฏิบัติจริง เพื่อนำไปปรับใช้กับธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทั้งการบริหารจัดการ การขยายฐานลูกค้า และสร้างการเติบโต

ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ LINE ประเทศไทย และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ อาทิ

· UPSKILL SME ธุรกิจโตไว ทำกำไรด้วย LINE Solution: กิจกรรมสัมมนาและเวิร์กช้อปเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้โซลูชันต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม LINE จากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ที่ได้รับการรับรองโดย LINE ประเทศไทยอย่าง LINE Certified Coach เพื่อกระจายความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจด้วย Chat Commerce อย่างรอบด้านให้ผู้ประกอบการทั่วไทย โดยจัดขึ้นที่จังหวัดอุดรธานี และราชบุรี

· Online Marketing Genius (OMG) หลักสูตรปั้นร้านค้าออนไลน์ขั้นเทพ: โครงการอบรม SMEs รุ่นใหม่ พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ร่วมจาก LINE อาทิ คูปองส่วนลด LINE Ads มูลค่า 2,000 บาท และกิจกรรมอบรมเวิร์คช้อปเชิงลึกโดย LINE Certified Coach เพื่อคัดเลือก SME ดาวรุ่งด้านอีคอมเมิร์ซแห่งเมืองไทยในงานสัมมนาครั้งใหญ่แห่งปี Thailand E-Commerce Expo

· Digital Village: โครงการเวิร์กช้อปเพื่อชุมชนท้องถิ่นใน 4 ภูมิภาค มุ่งเน้นฝึกอบรมด้าน Social Commerce พร้อมกิจกรรมสนับสนุนช่วยโปรโมตร้านค้า ทั้งแผนจัดทำหน้ารวมสินค้าจากร้านค้า SME ในโครงการฯ ที่ใช้งานเครื่องมือ MyShop ได้อย่างเต็มศักยภาพ และแคมเปญโปรโมชันอีกมากมาย ให้ผู้บริโภคชาวไทยได้เข้าถึงและเลือกช้อปสินค้าท้องถิ่นผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว

LINE ประเทศไทย กำหนดภาระกิจเป็นกำลังสำคัญให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยในทุกพื้นที่ ด้วยโซลูชันที่พัฒนามาเพื่อคนไทย เพื่อให้การทำธุรกิจออนไลน์มีประสิทธิภาพ สร้างการเติบโตได้จริง

สนใจศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ LINE OA: @linebizth เฟซบุ๊ก LINE for Business

รวบรวมกูรูมากความสามารถไว้ในงานเดียว พบกัน 21 – 22 สิงหาคมนี้!

เพื่อส่งต่อธุรกิจครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยกลยุทธ์ “คิดให้ไกล - ไปให้เป็น – เห็นโอกาส” ทำให้ขยายฐานธุรกิจจากเดิมที่เป็น “เสือภูธร” ขายข้าวสารแค่ 3 อำเภอในจ.ชลบุรีเป็น “เสืออินเตอร์” ขยายตลาดข้าวสารไก่แจ้สู่ตลาดโลก ทำยอดขายจากกว่า 10 ล้านบาทเป็นกว่า 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ คุณสุนทร ธัญญวัฒนกุล ที่ปรึกษาสภาหอการค้าไทย และ ผู้ก่อตั้งธุรกิจข้าวสารบรรจุถุงตราไก่แจ้ และ คุณ ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารตราไก่แจ้ และ บริษัท เคเจ เวิลด์ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ส่งออกข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการโรงสีข้าวได้ร่วมกันเปิดเผยถึงกลยุทธ์การเติบโตของ “ข้าวสารไก่แจ้” จากการจัดเสวนาเรื่อง “กลยุทธ์การตลาดกับการเติบโตแบบธุรกิจครอบครัว” จากงาน “มหกรรมรวมพลัง SMEs ไทย”

ซึ่งจัดโดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และ รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ ผู้ก่อตั้ง FAMZ บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจครอบครัวเป็นผู้ดำเนินรายการ โดยได้รับเกียรติจาก คุณอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดี กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มาร่วมงานเสวนา

Page 1 of 4
X

Right Click

No right click