กรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง (KRUNGSRI PRIVATE BANKING) นำโดย นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล พาลูกค้าคนสำคัญดื่มด่ำอรรถรสอาหารไทยสูตรต้นตำรับจากต้นเครื่อง รังสรรค์อย่างพิถีพิถันโดย เชฟวิชิต มุกุระ คลอเคล้าด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมสไตล์ไทยวิจิตร โมเดิร์น ณ ห้องอาหารรอยัล โอชา การันตีด้วยรางวัลมิชลินไกด์ถึงห้าปีซ้อน อีกหนึ่งกิจกรรมสุดพิเศษที่ กรุงศรี คัดสรรมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับแก่ลูกค้าคนพิเศษ
ดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ โดย กรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง ครั้งนี้ จัดขึ้นที่ รอยัล โอชา ร้านอาหารไทยที่ได้รับมิชลินไกด์ต่อเนื่องถึงห้าปีซ้อน (ปี 2563, 2564, 2565, 2566 และ 2567) นำเสนอเรื่องราวของวัฒนธรรมไทยด้วยเมนูอาหารไทยสุดประณีตที่ผ่านการสร้างสรรค์โดย เชฟวิชิต มุกุระ สุดยอดเชฟระดับแถวหน้าที่มากด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี ที่ไม่เพียงพิถีพิถันในการปรุงอาหารแต่ละจานให้ได้สัมผัสอรรถรสทั้งรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส แบบครบรส หากยังแฝงด้วยเสน่ห์ปลายจวักของอาหารไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในบรรยากาศสไตล์ไทยสุดวิจิตร
สำรับไทยที่เสิร์ฟในมื้ออาหารค่ำสุดหรูครั้งนี้ สะท้อนถึงความโดดเด่นและเอกลัษณ์ของอาหารไทยที่มีครบทั้งรสชาติ และสีสัน ผ่านการสร้างสรรค์โดยเชฟวิชิต ที่คงคุณค่าความเป็นอาหารไทยดั้งเดิม แต่เสริมในเรื่องการพรีเซนต์ให้ดูร่วมสมัยด้วยความตั้งใจที่จะสื่อสารอาหารไทยสู่ระดับสากล ทั้งยังคงคอนเซปต์ของ รอยัล โอชา ที่เลือกใช้วัตถุดิบในการปรุงอาหารที่มีตามฤดูกาลต่าง ๆ เพื่อคงคุณค่าและรสชาติที่ดีที่สุดของวัตถุดิบ และยังคงความสมดุลให้ระบบนิเวศอีกด้วย โดยเสิร์ฟเป็นสำรับครบครันแบบไทยแท้ครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม ขม ปร่า มัน และฝาด เริ่มมื้อด้วยปลาแห้งแตงโม ม้าฮ่อ และกุ้งโสร่ง อาหารเรียกน้ำย่อยแบบชาววังที่หารสชาติแบบดั้งเดิมได้ยากในปัจจุบัน เป็นการจับคู่รสสดชื่นของผลไม้เมืองร้อนกับอาหารคาวได้อย่างลงตัว ต่อด้วยจานหลัก ที่แม้จะเป็นเมนูที่คุ้นเคยแต่กลับพรีเซนต์ออกมาได้อย่างเหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็น ไข่ลูกเขยฝรั่ง ยำผักชีกับหมูสันในย่าง ไก่ทอดกับต้มขมิ้น กุ้งแม่น้ำผัดไหลบัว และปอเปี๊ยะปลาเก๋าแดงกับซอสพริกสดใบโหระพา ตบท้ายด้วยเมนูของหวานสไตล์ฟิวชันทั้ง เปียกปูนอ่อน ให้กลิ่นรสใบเตยหอมละมุน วุ้นกาแฟหยกมณีสตรอว์เบอร์รี และขนมบ้าบิ่นกับซอร์เบต์มะพร้าวอ่อน โดยระหว่างมื้ออาหารยังได้รับความเพลิดเพลินจากการแสดงนาฏศิลป์ไทยทั้งการรำและหุ่นละครเล็ก ประกอบดนตรีอันไพเราะ
งานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำสุดพิเศษ ณ ร้านอาหารรอยัล โอชา นี้ นับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์เหนือระดับที่ทางกรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง ตั้งใจคัดสรรมาเป็นพิเศษแทนคำขอบคุณในความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้กับกรุงศรี
กรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง นำโดย นางสาวกนกวรรณ ศุภนันตฤกษ์ (กลาง) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) และพันธมิตรด้านการลงทุนชั้นนำระดับโลก แบล็คร็อค จัดสัมมนาพิเศษสำหรับลูกค้ากรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง ในหัวข้อ ‘The Prime Time of PRIVATE CREDIT’ แนะโอกาสการลงทุนในตราสารหนี้นอกตลาด ผ่านกองทุนเปิดกรุงศรี Private Credit - ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KFPCD-UI) ซึ่งบริหารโดย BlackRock สำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น โดยได้รับเกียรติจาก Mr. George Maltezos (ที่ 1 จากขวา), Managing Director, Head of Alternatives Specialist Team – Asia Pacific of BlackRock มาร่วมแบ่งปันมุมมองการลงทุน พร้อมเจาะลึกสถานการณ์และความเคลื่อนไหวของกองทุนตราสารหนี้นอกตลาด งานสัมมนาดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ
สำหรับกองทุน KFPCD-UI เป็นการลงทุนผ่านกองทุน BlackRock Private Credit Fund (Institutional Shares) (กองทุนอ้างอิง) ที่บริหารโดย BlackRock บริษัทจัดการที่เป็นหนึ่งในผู้เล่นชั้นนำในตลาด Private Credit เน้นลงทุนด้วยการปล่อยกู้นอกตลาด (Private credit) ประมาณ 80% ของมูลค่าทรัพย์สินกองทุนให้แก่บริษัทขนาดกลางในประเทศสหรัฐอเมริกา เสนอขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 2 – 9 กรกฎาคม 2567
กรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง นำโดย นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร (กลาง) ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล นางสาวกนกวรรณ ศุภนันตฤกษ์ (ซ้าย) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านเครือข่ายการขาย และนายวิน พรหมแพทย์, CFA (ขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธ รับรางวัล ‘LAUNCH OF THE YEAR’ จากเวที Private Banker International Global Wealth Awards 2023 ซึ่งเกิดจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาโซลูชันด้านการลงทุนเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง (Ultra High Net Worth) อาทิ บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ การลงทุนตรงในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนรวมต่างประเทศ หุ้นต่างประเทศ และพันธบัตรต่างประเทศ รวมทั้งหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง หรือ Structured Notes ที่ออกในสกุลดอลล่าร์ เป็นต้น โดยในปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จจากการลงทุนในหุ้นนอกตลาด (Private Equity) ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดีด้วยอัตราผลตอบแทนที่โดดเด่น ทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่การเป็น Investment Wealth Advisory Bank หรือธนาคารที่ลูกค้านึกถึงเมื่อต้องการคำแนะนำการลงทุนอย่างแท้จริง
กรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง นำโดย นายวิน พรหมแพทย์ (กลาง) CFA ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเวทีสัมมนาเพื่ออัปเดตสถานการณ์ภาพรวมของเศรษฐกิจโลก พร้อมชี้โอกาสในการต่อยอดความมั่งคั่งผ่านการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศให้กับกลุ่มลูกค้ากรุงศรี ไพรเวท แบงก์กิ้ง เมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ในหัวข้อ Global Fixed Income Outlook - Bonds are Back? โดยได้รับเกียรติจาก Ms. Tina Adatia (ซ้าย) Executive Vice President, Fixed Income Strategist of PIMCO และ Ms. Clara Ng (ขวา) Vice President, Account Manager of PIMCO มาร่วมแบ่งปันมุมมองการลงทุน พร้อมเจาะลึกสถานการณ์และความเคลื่อนไหวของกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ลงทุนในตราสารต่างประเทศทั่วโลก
โดยความเห็นส่วนหนึ่งของ Ms. Tina Adatia ระบุว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตามอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดย PIMCO มองว่าเฟดน่าจะใกล้ยุติการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย แต่จะยังคงตรึงไว้ในกรอบเดิมสักระยะหนึ่งเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ และคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า สำหรับตลาดตราสารหนี้ มีการปรับขึ้น Yield ครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น โดยปัจจุบันตราสารหนี้สามารถให้อัตราผลตอบแทนที่เทียบเท่ากับตราสารทุนที่ 5-7% โดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงที่สูงจนเกินไป เราจึงมีมุมมองเชิงบวกต่อการเข้าสะสมตราสารหนี้ โดยเฉพาะตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนที่มีคุณภาพสูง และลงทุนในจังหวะช่วงที่เฟดใกล้จะยุติการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแล้ว