×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 10972

ธนาคารทิสโก้ จับมือ กรุงเทพประกันชีวิต เดินหน้าสร้างความมั่นคงให้คนไทย ด้วยการ “พลิกโฉมวางแผนเกษียณสู่เมกะเทรนด์”

กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นายโชน โสภณพนิช (ที่ 3 จากขวา) กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. กรุงเทพประกันชีวิต และนายประพัทธ์ รัตนอรุณ (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานกรรมการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสุราษฎร์ธานี จำกัด นายอรุณ ตั้นจัด (ซ้ายสุด) ผู้จัดการสหกรณ์ ออมทรัพย์ครูสุราษฎร์ธานี จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงประกันชีวิตกลุ่ม ให้ความคุ้มครองสมาชิกและครอบครัวสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสุราษฎร์ธานี จำกัด ผู้เอาประกันกว่า 13,000 ราย รวมทุนประกันทั้งสิ้นกว่า 12,000,000,000 บาท (หนึ่งหมื่นสองพันล้านบาท) ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2566 โดยมี นางลัดดาวัลย์ สิทธิวรนันท์ (ที่ 2 จากขวา) ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายช่องทางสถาบันการเงินและพันธมิตรทางธุรกิจ บมจ. กรุงเทพประกันชีวิต และทีมงานจากสหกรณ์ฯ ร่วมให้เกียรติเป็นสักขีพยาน เมื่อเร็ว ๆ นี้

กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ม.ล. จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คือหนึ่งในผู้ที่แวดวงประกันภัยรู้จักกันเป็นอย่างดี ทั้งด้านการตลาด การประกันชีวิต การประกันวินาศภัย ตลอดจนความเชี่ยวชาญด้านการเงิน

การมารับตำแหน่งที่กรุงเทพประกันชีวิตครั้งนี้เขามาพร้อมกับแผนงานที่จะทำให้บริษัทเติบโต ตามทิศทางเศรษฐกิจและตลาดประกันชีวิตในประเทศไทยที่ยังมีโอกาสอยู่อีกมาก แยกเป็น  4 ด้านประกอบด้วย

BE A LEADER ก้าวแรกที่จะนำพาให้องค์กรเดินหน้าสู่ความสำเร็จ คือการพัฒนาองค์กรให้มีความพร้อมในด้านต่างๆ มากยิ่งขึ้นมีความคล่องตัวและทันสมัยอยู่เสมอ รวมทั้งนำนวัตกรรมมาช่วยในการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภค  โดยตั้งเป้าหมายให้กรุงเทพประกันชีวิตเป็น Top of Mind ในใจของผู้บริโภค โดยอาศัยความเป็นมืออาชีพของบุคลากรในองค์กร

BE A PROFESSIONAL โดยจะร่วมมือกับพันธมิตร  การปรับกลยุทธ์ทางการตลาดและช่องทางการขายเพื่อให้มีประสิทธิผลมากขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมากรุงเทพประกันชีวิตมีการพัฒนาช่องทางการขายทั้งช่องทางธนาคาร ช่องทางออนไลน์ ช่องทางขายตรง โดยเฉพาะช่องทางตัวแทนที่บริษัทฯ มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเครื่องมือการขายต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการให้บริการของตัวแทนและที่ปรึกษาการเงินกรุงเทพประกันชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพของที่ปรึกษาการเงินร่วมกับพันธมิตร และมีขั้นตอนการอบรมอย่างเป็นระบบ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีจำนวนนักวางแผนการเงินที่ได้รับคุณวุฒิ CFP® และ AFPT™ มากกว่า 100 คน

 โดยบริษัทฯ ร่วมผนึกกำลังกับ 3 พันธมิตร  ได้แก่ กรุงเทพประกันชีวิต กรุงเทพประกันภัย และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมการให้ความรู้แก่ที่ปรึกษาการเงิน ให้มีความเชี่ยวชาญ มีความรู้ทันสถานการณ์ต่างๆ ของโลกที่เปลี่ยนไป รวมถึงพัฒนาเครื่องมือการขายเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และความแม่นยำในการวางแผนการเงินให้แก่ลูกค้า อาทิ แอปพลิเคชัน 3B LINK การวางแผนการลงทุนคู่ความคุ้มครอง

BE CUSTOMER CENTRIC ด้วยแนวคิดสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และเจาะกลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้น   อาทิ “บีแอลเอ เพรสทีจ ไลฟ์” ซึ่งออกแบบสำหรับลูกค้าที่มีความต้องการ ได้รับความคุ้มครองระดับสูงที่ครอบคลุมแผนด้านมรดก “ห่วงรัก สมาร์ท” สำหรับประชาชนทั่วไปที่เพิ่มความคุ้มครองด้านอุบัติเหตุ หรือแบบประกันที่ให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับโรคร้ายแรง เช่น บีแอลเอ อุ่นใจ โรคร้าย และบีแอลเอ ซูเปอร์ แคร์ คุ้มครองกลุ่มโรคร้ายแรงอย่างครอบคลุม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย

BE INNOVATIVE   โดยการพัฒนาแอปพลิเคชันหลากหลายเพื่อให้พนักงาน ตัวแทน และลูกค้า ได้ใช้งานสะดวกสบายมากที่สุด กลุ่มแรกคือกลุ่มสมาร์ทแอปพลิเคชันและเครื่องมือออนไลน์ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทั้งตัวแทนและลูกค้า เช่น BLA Smart Customer ที่ออกแบบเพื่อให้ลูกค้าทำธุรกรรม ต่างๆ เกี่ยวกับกรมธรรม์ที่ตนเองถือครองอยู่ได้ง่ายๆ BLA Smart Fund แอปพลิเคชันที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนที่ลงทุนผ่านที่ปรึกษาการเงินกรุงเทพประกันชีวิต สามารถติดตามดูข้อมูลกองทุนที่สนใจ จัดทำพอร์ตการลงทุนจำลอง และเข้าถึงข้อมูลพอร์ตจริงที่ซื้อกับกรุงเทพประกันชีวิตได้ง่ายกว่าเดิม หรือ BLA Smart Agent และ BLA Smart FA ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทำงานของตัวแทนและที่ปรึกษาการเงินกรุงเทพประกันชีวิต เพิ่มเติมด้วย BLA Smart GO ตัวล่าสุดที่ออกมาเพื่อรองรับการทำงานของฝ่ายขายได้วางแผนให้ลูกค้าอย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น

 นอกจากนี้ยังได้ออกแอปพลิเคชันใหม่เพื่อให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของตัวเอง เช่น ประวัติและสถานะการเคลม ตรวจสอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ และรับทราบกิจกรรมพิเศษประจำเดือนจากกรุงเทพประกันชีวิตได้ง่ายดายยิ่งขึ้นผ่านสมาร์ทโฟน กับแอปพลิเคชัน BLA Happy Life และเพิ่มช่องทางนไลน์ออฟฟิเชียลแอคเคาท์ BangkokLife Assurance เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการของกรุงเทพประกันชีวิต อัพเดทข่าวสาร รวมถึงสามารถสื่อสารกับผู้ใช้แต่ละคนได้แบบเฉพาะเจาะจงอีกด้วย   

         

 

 

 

 

 

 วิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต มองปัจจัยที่ส่งผลต่อการวางแผนกลยุทธ์ในปี 2561 ของบริษัทว่า มีปัจจัยหลัก 6 ประการประกอบด้วย

1.ผลจากการที่ธนาคารกรุงเทพมีพันธมิตรด้านประกันชีวิตรายใหม่ที่จะเริ่มเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อบริษัทไม่มากนัก

2.ความกดดันจากข้อกำหนดทางกฎเกณฑ์ เช่นการเปลี่ยนอัตรามรณะ ซึ่งจะส่งผลให้เบี้ยประกันชีวิตต่ำลง เป็นความท้าทายต่อทั้งอุตสาหกรรมประกันชีวิตในการดำเนินงาน รวมถึงการเตรียมพร้อมใช้มาตรฐานทางบัญชีใหม่ที่จะส่งผลต่อการออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต การตั้งสำรอง และการบันทึกบัญชีของบริษัทประกันชีวิต

3.เศรษฐกิจยังเติบโตไม่เต็มที่ อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ  โดยบริษัทเตรียมผลักดันผลิตภัณฑ์ระยะยาวเพิ่มมากขึ้น

4.การแข่งขันที่สูงมากในอุตสาหกรรมประกันชีวิต โดยจะเห็นทิศทางการเปิดขายแบบ Open Platform เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามา ซึ่งอาจจะส่งผลให้บริษัทประกันชีวิตรายเล็กมีการควบรวมกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งมากขึ้น

5.กระแสเทคโนโลยีดิจิทัลที่เข้ามาในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคและธุรกิจต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว

และ6. การเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ที่จะส่งผลในอนาคตทำให้จำนวนประชากรลดลง

โดยกรุงเทพประกันชีวิตวางแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2561 ประกอบด้วย กลยุทธ์หลัก 5 ด้าน คือ

1.การเน้นพัฒนาคุณภาพตัวแทน ให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และแบ่งกลุ่มตัวแทนให้ตรงกับระดับความเข้าใจทางการเงินของลูกค้ามากขึ้น ช่องทางธนาคารจะมีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และวิธีการขายเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน ช่องทางอื่นๆ กำลังอยู่ระหว่างการเจราจาเพื่อหาช่องทางที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้จำนวนมาก  

2.การรับมือกับกระแสดิจิทัล โดยบริษัทจะปรับเข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้น เพื่อรักษาฐานลูกค้าที่มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปใช้ช่องทางดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น มีการพัฒนานวัตกรรม เปิดรับเทคโนโลยีใหม่ เตรียมความพร้อมและพัฒนาแพลตฟอร์ม เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางการขายประกันออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้เกิดขึ้น การพัฒนาระบบบริการลูกค้า และช่องทางออนไลน์อื่นๆ เช่น แอพพลิเคชั่นสำหรับลูกค้าและตัวแทน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

3.การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ตั้งแต่ยังไม่เป็นลูกค้าของบริษัท โดยจะต้องสร้างประสบการณ์ที่ดีจนครบทุกกระบวนการ โดยยึดหลักการดำเนินงานให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางการเปลี่ยนแปลง มุ่งมั่นตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่าง

4.ผลิตภัณฑ์ จะมีการปรับวิธีการคิด ให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านดิจิทัล กฎระเบียบใหม่ๆ และความต้องการของลูกค้า ปรับปรุงผลิตภัณฑ์เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจนมาก การสร้างความแข็งแกร่งร่วมกับพันธมิตรในช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งการให้ความรู้ด้านการวางแผนการเงินแก่ผู้บริโภค เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการวางแผนการเงินอย่างรอบด้าน

5.ด้านบุคลากร บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างทีม และสร้างที่ปรึกษาการเงินที่มีคุณภาพ มีความเชี่ยวชาญ พร้อมพัฒนาตนเองให้ทำงานในแนวทางของนักวางแผนการเงิน และยังได้พัฒนาหลักสูตรการอบรมให้ความรู้ด้านต่างๆ เพื่อผลักดันศักยภาพบุคลากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด  

กลยุทธ์ทั้งหมดนี้กำหนดขึ้นตามแนวคิดMake a Change เปลี่ยนเพื่อชีวิตที่แตกต่าง”  โดยบริษัทฯ เชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงใหม่ในตลาดปี 2561 ที่จะทำให้ กรุงเทพประกันชีวิต บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาความยั่งยืนของบริษัท ไปพร้อมกับคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2560 วิพลเปิดเผยว่าบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในหลายด้านอาทิ เบี้ยประกันภัยใหม่จากแบบประกันหลักเติบโตร้อยละ 18 จากปีก่อนหน้า สามารถสร้างที่ปรึกษาทางการเงินเติบโตมากกว่า ร้อยละ 10 โดยปัจจุบันมีนักวางแผนทางากรเงินที่ได้รับคุณวุฒิ CFP® และ AFPT™ มากกว่า 100 คน และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง 252 เปอร์เซ็นต์

X

Right Click

No right click