มูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เติบโตขึ้นเป็นเลขสองหลักใน 10 ตลาด ส่วนทุนตามมูลค่าธุรกิจประกันภัย (EV EQUITY) เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ก่อนหักส่วนที่คืนผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นจำนวน 5.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ต่อหุ้น; เงินปันผลรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ต่อหุ้น

กลุ่มบริษัทเอไอเอ (“เอไอเอ” หรือ “บริษัท”; รหัสหลักทรัพย์: 1299) เปิดตัวโครงการการแข่งขัน AIA Healthiest Schools – สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี” เพื่อสนับสนุนความมุ่งมั่นของเอไอเอที่มีความตั้งใจจะสนับสนุนผู้คนหลายล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives พร้อมสร้างผลกระทบเชิงบวกในวงกว้างต่อชุมชนในภูมิภาคเอเชีย

โครงการการแข่งขัน AIA Healthiest Schools สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance - ESG) ของเอไอเอ ที่ตั้งใจจะเสริมสร้างและปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพของนักเรียนอายุระหว่าง 5 - 16 ปี โดยส่งเสริมให้นักเรียนได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทำกิจกรรมที่กระฉับกระเฉง มีสุขภาพจิตที่ดี ตลอดจนมีสุขภาพกายที่ดีและเกิดเป็นความยั่งยืนขึ้นในโรงเรียน ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน เด็ก ๆ ทั่วโลกต้องเผชิญกับความเสี่ยงมากมายที่เกิดจากการใช้ชีวิตและทานอาหารที่ผิดหลักโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ มลภาวะ การบาดเจ็บ ความรุนแรง และความไม่เท่าเทียม โดยงานวิจัยขององค์การอนามัยโลกแสดงให้เห็นว่าการลงทุนในสุขภาพ การศึกษา และความเป็นอยู่ที่ดีของเยาวชน จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อสังคมและชุมชน

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทเอไอเอได้ตั้งปณิธานที่จะช่วยให้ผู้คนกว่าพันล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ภายในปี ค.ศ. 2030 ผ่านพันธกิจ AIA One Billion ซึ่งโครงการการแข่งขัน AIA Healthiest Schools จะช่วยส่งเสริมเป้าหมายนั้น ด้วยการสร้างการมีส่วนร่วม สร้างแรงบันดาลใจ และให้ความรู้แก่ชุมชนเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น

นายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า "การช่วยเหลือผู้คนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น เป็นคำมั่นสัญญาที่เรายึดเป็นหลักในการทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อผู้คนทั่วโลก ด้วยพลังแห่งการศึกษา ผ่านโครงการการแข่งขัน AIA Healthiest Schools จะช่วยปลูกฝังพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพให้แก่เยาวชนตั้งแต่เล็ก ๆ และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนเพื่อพัฒนาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนรุ่นต่อไป”

นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทย เป็น 1 ใน 4 ตลาดที่ได้เข้าร่วมโครงการการแข่งขัน AIA Healthiest Schools – สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี ที่ทางกลุ่มบริษัทเอไอเอริเริ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นการจุดประกายให้โรงเรียนใส่ใจและดูแลสุขภาพของนักเรียนมากขึ้นอย่างเป็นระบบแบบแผน พร้อมทั้งยังจะได้รับองค์ความรู้มากมายที่จะส่งเสริมให้คุณครูและนักเรียนดูแลพฤติกรรมการใช้ชีวิต ทั้งทางด้านการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทำกิจกรรมที่แอคทีฟ รวมถึงกิจกรรมที่ทำให้มีสุขภาพจิตที่ดี นั่นจะเป็นการวางรากฐานให้เยาวชนไทยแข็งแรงสมบูรณ์พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ”

กลุ่มบริษัทเอไอเอได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา EVERFI เพื่อออกแบบโครงการการแข่งขัน AIA Healthiest Schools เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา EVERFI ได้ทำการวิจัยครู 800 คนจากประเทศออสเตรเลีย ฮ่องกง ไทย และเวียดนาม ผลการวิจัยพบว่า 89% เห็นด้วยว่า จำเป็นต้องมีทรัพยากรและการศึกษาที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ครอบคลุมสุขภาพทั้งทางกาย ใจ และสภาพแวดล้อม อีกทั้ง ครู 87% ยังชี้แนะว่า โรคระบาดสร้างผลกระทบในแง่ลบต่อจิตใจของนักเรียน

โครงการนี้จะจัดขึ้นในรูปแบบการแข่งขันระหว่างโรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้โรงเรียนที่เข้าร่วมแสดงผลงานและความสำเร็จของแต่ละโรงเรียนในการผลักดันผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่ดีขึ้นของนักเรียน การแข่งขันจะมีแพลตฟอร์มให้กับโรงเรียนไว้สำหรับแบ่งปันวิธีการที่ยอดเยี่ยมที่สุดและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีภายในชุมชนการศึกษา โรงเรียนที่ชนะทั่วทั้งภูมิภาคจะได้รับรางวัลเป็นอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพของนักเรียนในแต่ละโรงเรียน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยผลักดันด้านการศึกษาและสนับสนุนกิจกรรมด้านสุขภาพต่อไป

โครงการการแข่งขัน AIA Heathiest Schools จะมอบองค์ความรู้ที่น่าสนใจ ใช้ง่าย และเชื่อมโยงกับหลักสูตรให้กับครูอาจารย์เพื่อนำไปปรับใช้กับแผนการสอนที่มีอยู่แล้ว ซึ่งพัฒนาโดยนักการศึกษา ความรู้เหล่านี้จะช่วยให้ครูอาจารย์สามารถดึงดูดความสนใจของนักเรียนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาด้านสุขภาพของทั้งชุมชนในโรงเรียนให้ดีขึ้น อีกทั้งสโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ หนึ่งในทีมฟุตบอลชั้นนำของพรีเมียร์ลีก พร้อมด้วยเอไอเอแอมบาสเดอร์ทั่วทั้งภูมิภาคจะมาร่วมแบ่งปันวิธีออกกำลังกาย สูตรอาหาร และคำแนะนำด้านสุขภาพของแต่ละคน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนอีกด้วย

โครงการการแข่งขัน AIA Healthiest Schools จะเปิดรับสมัครโรงเรียนประถมและมัธยม เข้าร่วมโครงการในปีการศึกษา 2565/2566 ในประเทศออสเตรเลีย ฮ่องกง ไทย และเวียดนาม โดยตั้งเป้าที่จะขยายโครงการไปยังตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ ahs.aia.com  

กลุ่มบริษัทเอไอเอ (“เอไอเอ” หรือ “บริษัท” รหัสหลักทรัพย์: 1299) ประกาศแต่งตั้ง นิคฮิล แอดวานี ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย แทน กฤษณ์ จันทโนทก ซึ่งประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย คนปัจจุบัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 หลังจากได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการ

บิล ไลส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาค และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารช่องทางการขาย กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “ผมมีความยินดีที่จะประกาศว่า คุณนิคฮิล แอดวานี จะเข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอไอเอ ประเทศไทย คนใหม่ โดยปัจจุบันคุณนิคฮิลดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ศรีลังกา ตั้งแต่ปี 2562 ภายใต้การบริหารของคุณนิคฮิล เอไอเอ ศรีลังกา ประสบความสำเร็จในการสร้างความเติบโตด้านยอดขายและมีผลงานที่ดีเยี่ยมทั้งในแง่ของการสร้างมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) และดัชนีวัดผลทางการเงินอื่น ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับเปลี่ยนต่อสภาวการณ์ในช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์ของเศรษฐกิจของประเทศศรีลังกา ในการก้าวเข้ามารับตำแหน่งใหม่ในครั้งนี้ คุณนิคฮิลมาพร้อมกับประสบการณ์ทางการเงินและประกันภัยในเชิงลึกที่สั่งสมมามากกว่าสองทศวรรษ โดยคุณนิคฮิลได้เข้ามาร่วมงานกับกลุ่มบริษัทเอไอเอ ในปี 2554 ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการตลาดช่องทางการจัดจำหน่ายของกลุ่มบริษัทเอไอเอ (Group Head of Channel Marketing) และรับตำแหน่งที่ เอไอเอ ศรีลังกา เมื่อปี 2559 ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและผู้อำนวยการกลยุทธ์ลูกค้าและการปฏิรูปด้านลูกค้า (Director of Customer Strategy & Transformation) ก่อนหน้าที่จะร่วมงานกับ เอไอเอ คุณนิคฮิลได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ที่นิวยอร์คไลฟ์ บริษัทการเงินเจนเวอร์ธ (Genworth Financial) แจ็คสัน แนชชั่นเนลไลฟ์ ในสหรัฐอเมริกา และบริษัทบริหารจัดการกองทุน ไอซีไอซีพรูเด็นเชียล ในประเทศอินเดีย ซึ่งผมมั่นใจว่าคุณนิคฮิลจะสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้กับเอไอเอ ประเทศไทย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจและความเป็นเลิศขึ้นอีกระดับ”

“อย่างไรก็ตาม ผมขอขอบคุณ คุณกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย คนปัจจุบัน หลังจากทุ่มเทให้กับ เอไอเอ ประเทศไทย ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา และได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปร่วมงานที่ใหม่ โดยคุณกฤษณ์จะยังคงอยู่ช่วยถ่ายทอดงานให้เป็นไปอย่างราบรื่นตลอดเดือนเมษายนนี้ ซึ่งในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา คุณกฤษณ์ได้แสดงถึงความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม โดยได้สร้างผลงานที่ดีเยี่ยมในการบริหารธุรกิจในประเทศไทย ทั้งการเสริมความแข็งแกร่งให้กับพลังตัวแทน การสร้างความเติบโตต่อพันธมิตรธุรกิจ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในหลากหลายรูปแบบ พร้อมกันนี้คุณกฤษณ์ยังมีบทบาทสำคัญในการริเริ่มทางด้านเทคโนโลยี ดิจิทัล และการวิเคราะห์ (TDA) และการปรับเปลี่ยนองค์กรไปสู่อนาคต ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้เป็นส่วนสำคัญยิ่งต่อกลยุทธ์ Ascend 200 ของเรา ผมในฐานะตัวแทนของกลุ่มบริษัทเอไอเอ ขอร่วมอวยพรให้คุณกฤษณ์ประสบความสำเร็จในอนาคตต่อไป” บิล กล่าวทิ้งท้าย

 

กลุ่มบริษัทเอไอเอ (“เอไอเอ” หรือ “บริษัท” รหัสหลักทรัพย์: 1299) ประกาศดัชนีชี้วัดธุรกิจใหม่ที่สำคัญสำหรับ 9 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2564

สรุปสาระสำคัญทางการเงิน

อัตราการเติบโตรายงานจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ตามรายละเอียดด้านล่าง

  • มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เป็น 2,549 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เป็น 4,309 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) เพิ่มขึ้น 5.1 จุด เป็นร้อยละ 58.9
  • เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เป็น 27,463 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า

เอไอเอมีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ที่แข็งแกร่งถึงร้อยละ 15 ในช่วง 9 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน เรารักษาแรงขับเคลื่อนได้ดี และสามารถสร้างการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ซึ่งแข็งแกร่งมากที่ร้อยละ 20 เมื่อเทียบเคียงกับพื้นฐานเดิม ยกเว้นในฮ่องกงที่ยอดขายให้นักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงถูกจำกัดจากมาตรการด้านการเดินทางอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัทเอไอเอมีอัตราการเติบโตที่มากกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาดในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562

ในจีนแผ่นดินใหญ่ เรากำลังมีความก้าวหน้าในการสร้างการเติบโตให้แก่ พรีเมียร์ เอเจนซี่ ของเราในเมืองใหม่ได้เป็นอย่างดี และผมมีความยินดีที่ล่าสุดเอไอเอ ประเทศจีน ได้รับการอนุมัติด้านการกำกับดูแลเพื่อเริ่มดำเนินธุรกิจในอู่ฮั่น หูเป่ย์ นอกจากนี้ผมยังได้รับกำลังใจจากผลประกอบการในระยะเริ่มต้นที่เป็นบวก จากการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารแห่งเอเชียตะวันออก (The Bank of East Asia) ในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง

ทั่วทั้งกลุ่มบริษัทของเรากำลังใช้ประโยชน์จากพลังของเทคโนโลยี ดิจิทัล และการวิเคราะห์ เพื่อให้สามารถดำเนินการตามลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ที่ได้วางไว้และขยายความได้เปรียบในการแข่งขันของเราออกไป ในขณะที่การระบาดใหญ่ยังคงส่งผลกระทบต่อตลาดบางส่วนของเรา ผลการดำเนินงานของเอไอเอแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายและยืดหยุ่นทั่วทั้งเอเชียของเราซึ่งได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี

“ผมมั่นใจว่าเราจะยังคงมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการตามกลยุทธ์เพื่อการเติบโตของเรา และส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดของเรา พร้อมกับช่วยให้ผู้คนอีกหลายล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น”

สรุปผลการดำเนินงานในช่วงระยะเวลา 9 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2564

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) มีมูลค่า 2,549 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโตขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2563 เอไอเอสามารถคงความแข็งแกร่งของการเติบโตในมูลค่าธุรกิจใหม่ได้อย่างดี โดยเติบโตถึงร้อยละ 20 บนพื้นฐานที่เหมือนกัน มูลค่าธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัทนอกฮ่องกงยังคงสามารถเติบโตได้เหนือกว่าช่วงเวลาก่อนสถานการณ์โรคระบาดในปี 2562

เอไอเอ ประเทศจีน ยังคงเป็นตลาดที่สร้างมูลค่าธุรกิจใหม่ให้กับกลุ่มบริษัทเอไอเอมากที่สุดด้วยมูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตคิดเป็นตัวเลข 2 หลักในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 บนพื้นฐานเหมือนกัน ด้วยความแตกต่างของโปรแกรมพรีเมียร์ เอเจนซี่ ที่สามารถผลักดันให้ตัวแทนสร้างผลงานได้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2563 รายได้โดยเฉลี่ยของตัวแทนสูงขึ้นกว่าเมื่อช่วงก่อนมีสถานการณ์โรคระบาดในปี 2562 ซึ่งช่วยสนับสนุนในด้านการรับสมัครตัวแทนใหม่และรักษาตัวแทนเดิม ผลิตภัณฑ์ประกันที่มอบความคุ้มครองแบบดั้งเดิมยังคงได้รับความนิยม โดยสร้างมูลค่าธุรกิจใหม่ได้สูงที่สุด ซึ่งเราประสบความสำเร็จอย่างมากกับผลงานการขายจากการขยายผลิตภัณฑ์ประกันเพื่อการออมระยะยาว ทำให้เราสามารถได้ส่วนแบ่งเงินในกระเป๋าของลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถสร้างความก้าวหน้าอย่างโดดเด่นจากการที่เราริเริ่มและพัฒนาโปรแกรมพรีเมียร์ เอเจนซี่ ในเมืองใหม่ๆ ของเอไอเอ ประเทศจีน เราเพิ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับดูแลการธนาคารและการประกันภัยแห่งประเทศจีน ในการดำเนินธุรกิจในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์

ธุรกิจของเราในฮ่องกงได้รับรายงานถึงมูลค่าธุรกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมจากการแบ่งกลุ่มลูกค้าในประเทศ ยอดขายจากนักท่องเที่ยวในจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงมีข้อจำกัดเนื่องมาจากมาตรการจำกัดการเดินทางที่ยังดำเนินอยู่ ตลอด 9 เดือนแรกของปีนี้ ตัวแทนในพรีเมียร์ เอเจนซี่ ได้ส่งมอบมูลค่าธุรกิจใหม่ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องไตรมาสต่อไตรมาส เรายังประสบผลสำเร็จในช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ที่มีการเติบโตอย่างดีเยี่ยม โดยมีแรงสนับสนุนจากพันธมิตรใหม่ของเรา นั่นก็คือ The Bank of East Asia เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา

เอไอเอ ประเทศสิงคโปร์ และเอไอเอ ประเทศมาเลเซีย สร้างมูลค่าธุรกิจใหม่ที่มีการเติบโตอย่างดีใน 9 เดือนแรกของปี 2564 ในขณะที่ช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี มาตรการการจำกัดจากสถานการณ์โรคระบาดส่งผลกระทบต่อมูลค่าธุรกิจใหม่ที่ลดลงเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของทั้ง 2 ตลาดในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2563 อย่างไรก็ดี เราได้พัฒนาเครื่องมือดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของตัวแทนในการสร้างผลผลิตของพรีเมียร์ เอเจนซี่ ในทั้ง 2 ประเทศ

นอกจากเอไอเอ ประเทศเวียดนาม ตลาดอื่นๆ ที่มูลค่าธุรกิจใน 9 เดือนแรกของปี 2564 มีอัตราเติบโตที่สูงขึ้นจากปี 2563 เปรียบเทียบบนพื้นฐานเดียวกัน ผลกระทบจากโรคโควิด 19 สายพันธุ์เดลต้า ซึ่งมีผลกระทบรุนแรงต่อหลายๆ ตลาดในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 เอไอเอ เวียดนาม ได้รับผลกระทบจากยอดผู้ติดเชื้อและมาตรการล็อคดาวน์อย่างคาดไม่ถึง ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงมาจนถึงไตรมาส 3 ของปีนี้ อย่างไรก็ดี การปรับตัวในด้านกระบวนการขายโดย Remote sales process ช่วยบรรเทาผลกระทบจากโรคระบาดให้ลดลง มูลค่าธุรกิจในตลาดอื่นๆ ลดต่ำลงอย่างเล็กน้อยในช่วงระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2564 บนพื้นฐานเหมือนกัน

เอไอเอ ประเทศไทย มีมูลค่าธุรกิจที่เติบโตอย่างยอดเยี่ยม โดยมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจากทั้งช่องทางตัวแทนและแบงก์แอสชัวรันส์ และมีการเติบโตจากครึ่งปีแรกของปี 2564 ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาสที่ 3

กำไรจากมูลค่าธุรกิจใหม่โดยภาพรวมตลอดระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2564 เพิ่มขึ้น 5.1 จุด (pps) คิดเป็นร้อยละ 58.9 จากการปรับรูปแบบการผสมผสานผลิตภัณฑ์ ลดค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มสูงขึ้น กำไรจากมูลค่าธุรกิจใหม่มาจากการจัดการด้านค่าใช้จ่ายและการลงทุนระยะยาว โดยผลตอบแทนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากที่แสดงในรายงานประจำปี 2563 ในส่วนของกำไรได้ถูกรายงานเป็นมูลค่าปัจจุบันของเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ คิดเป็นร้อยละ 10 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9 ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 เบี้ยประกันภัยรับปีแรก เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เป็น 4,309 ล้านเหรียญสหรัฐ และเบี้ยประกันภัยรับรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เป็น 27,463 ล้านเหรียญสหรัฐ

ภาพรวม

รายได้ที่เพิ่มขึ้น การเข้าถึงประกันภาคเอกชนที่อยู่ในระดับที่ต่ำ และความคุ้มครองสวัสดิการสังคมที่จำกัดยังคงเป็นตัวผลักดันความต้องการในผลิตภัณฑ์ประกันของเอไอเอทั่วเอเชีย ข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญของเราช่วยให้เราสามารถต่อยอดความต้องการเหล่านี้เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืน แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2564 แต่ผลกระทบต่อเนื่องของโรคระบาดได้ชะลอการเติบโตในไตรมาสที่ 3 เรายังคงเห็นข้อจำกัดจากมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดและการเรียกร้องสินไหมประกันที่เพิ่มขึ้นในบางตลาดของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีระดับการได้รับวัคซีนต่ำ แม้จะมีความไม่แน่นอนในระยะสั้น แต่เรามั่นใจว่าการดำเนินการตามลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของเราจะสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว

ความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยน

เอไอเอได้รับเบี้ยประกันภัยส่วนใหญ่เป็นเงินสกุลท้องถิ่น ซึ่งทำให้สินทรัพย์และหนี้สินของเรามีมูลค่าใกล้เคียงกัน ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ ในรายงานงบการเงินรวมของกลุ่มที่มีการแปลเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เกิดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน  ดังนั้น เราจึงมีการเปรียบเทียบอัตราการเติบโตจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ เว้นแต่ระบุเป็นอย่างอื่น เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนของผลการดำเนินธุรกิจ


หมายเหตุ

  1. ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของเอไอเอปี 2564 และปี 2563  สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 และวันที่ 30 กันยายน 2563 ตามลำดับ
  2. ตัวเลขทั้งหมดแสดงในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนตามจริงในรอบปี (AER) เว้นแต่ระบุไว้เป็นอย่างอื่น การเปลี่ยนแปลงที่แสดงโดยเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนคำนวณโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (CER) เว้นแต่ระบุไว้เป็นอย่างอื่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนคงที่คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่เฉลี่ยสำหรับปี 2564 และ 2563
  3. สมมติฐานเชิงเศรษฐกิจระยะยาวที่ใช้ในการคำนวณหามูลค่าธุรกิจสำหรับไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 เหมือนกันกับที่แสดงไว้เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อมูลมูลค่าธุรกิจที่แทรกไปกับรายงานประจำปี 2563 สมมติฐานอื่นที่ไม่ใช่ในเชิงเศรษฐกิจคำนวณตามข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ที่มีการปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับข้อมูลล่าสุด
  4. มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) คิดจากสมมติฐานที่เกี่ยวข้อง ณ เวลาขาย โดยเริ่มในปี 2564 อัตราความเสี่ยงที่รวมอยู่ในการคำนวณมูลค่าธุรกิจใหม่ถูกกำหนดที่ระดับของผลิตภัณฑ์ เพื่อสะท้อนความเสี่ยงที่เกี่ยวเนื่องกับความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เสนอขายในช่วงของการรายงานผลประกอบการประจำปี 2563

มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ของกลุ่มบริษัท ไม่รวมในส่วนของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม

เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) และมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) สำหรับตลาดอื่น รวมร้อยละ 49 ซึ่งเป็นผลมาจากการร่วมหุ้นในประเทศอินเดีย บริษัท ทาทา เอไอเอ ประกันชีวิต จำกัด (ทาทา เอไอเอ ประกันชีวิต)

  1. มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) รวมธุรกิจการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) และอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) ไม่รวมธุรกิจการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและก่อนการหักส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม
  2. การประกาศธุรกิจใหม่รายไตรมาส การเติบโตแบบเทียบเคียงกัน อ้างอิงถึงการยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย 5% ที่บังคับใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 สำหรับเอไอเอ ประเทศจีน ไม่รวมถึงกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวจากจีน แผ่นดินใหญ่ ในธุรกิจของเราที่ฮ่องกง และไม่รวมถึงการจ่ายครั้งเดียวให้กับ Commonwealth Bank of Australia (CBA) ในไตรมาสแรก
    ของปี 2563 สำหรับตลาดอื่นๆ
  3. เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) คำนวณจากร้อยละ 100 ของเบี้ยประกันภัยรายปีในปีแรก และร้อยละ 10 ของเบี้ยประกันภัยแบบชำระเบี้ยประกันภัยครั้งเดียวก่อนการเอาประกันภัยต่อ และไม่รวมถึงการประกอบธุรกิจการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  4. เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) ประกอบด้วยร้อยละ 100 ของเบี้ยประกันภัยปีต่ออายุ ร้อยละ 100 ของเบี้ยประกันภัย
    ปีแรก และร้อยละ 10 ของเบี้ยประกันภัยแบบชำระเบี้ยประกันภัยครั้งเดียว ก่อนการเอาประกันภัยต่อ
  5. ในรายงานของเรา ฮ่องกงหมายถึงการดำเนินงานในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (SAR) และเขตบริหารพิเศษมาเก๊า สิงคโปร์หมายถึงการดำเนินงานในสิงคโปร์และบรูไน และตลาดอื่น ๆ หมายถึงการดำเนินงานในออสเตรเลีย กัมพูชา อินเดีย อินโดนีเซีย เมียนมาร์ นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ศรีลังกา ไต้หวัน (จีน) และเวียดนาม
  6. ผลประกอบการของทาทา เอไอเอ ประกันชีวิต นับรวมในช่วงระยะเวลาสามเดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ในผลประกอบการรวมของเอไอเอสำหรับไตรมาสสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 เพื่อความเข้าใจ เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) ไม่ได้นับรวบในผลประกอบการจากทาทา เอไอเอ ประกันชีวิต

 

กลุ่มบริษัทเอไอเอ (“เอไอเอ” หรือ “บริษัท” รหัสหลักทรัพย์: 1299) กลุ่มบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดที่จดทะเบียนในภูมิภาคเอเชีย ประกาศความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click