December 05, 2025

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้จัดงาน USO Connected for All : เชื่อมต่อชีวิต เชื่อมโยงอนาคต ณ ลานกิจกรรม Gallery 1 ชั้น M ศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์ กรุงเทพมหานคร และถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ (Webex) ไปยังศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (USO Net) และห้องบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (USO Wrap) จำนวน 2,184 แห่งทั่วประเทศ โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงานจำนวนกว่า 20,000 คน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ได้เข้าถึงการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลหรือชนบท ตามนโยบายของ กสทช. ที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างเท่าเทียม ผ่านโครงการต่าง ๆ ของสำนักงาน กสทช. เช่น USO Net (ศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ) USO Wrap (ห้องบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ) และบริการอื่น ๆ ทางด้านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง

ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เข้าร่วมเป็นประธานในการเปิดงาน และเสวนาในหัวข้อ “บทบาทของ กสทช. ในการเดินหน้า เพื่อสร้างอนาคตในการสื่อสารผ่านยุคดิจิทัล” กล่าวว่า Universal Service Obligation หรือ USO เป็นหัวใจและจิตวิญญาณของสำนักงาน กสทช. ที่จะนำพาประชาชนคนไทยก้าวข้าม ทุกข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจ เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิในการเข้าถึงการสื่อสารอย่างเท่าเทียมกัน USO จึงไม่เป็นเพียงโครงสร้างพื้นฐาน แต่คือรากฐานของสังคมแห่งโอกาสที่เท่าเทียม ปลดล็อกศักยภาพของทุกคน ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างทัดเทียมกับคนในเมือง กสทช. มีหน้าที่ต้องร่วมกันในการเปลี่ยน ‘ความเหลื่อมล้ำ’ ให้กลายเป็น ‘ความเสมอภาค’ เปลี่ยน ‘พื้นที่ห่างไกล’ ให้เป็น ‘พื้นที่แห่งโอกาส’ และเปลี่ยน ‘การเชื่อมต่อ’ ให้กลายเป็น ‘โอกาส’

“โลกของเราทุกวันนี้หมุนเร็วจนน่าตกใจ การสื่อสารกลายเป็นเหมือนลมหายใจ และการเชื่อมต่อคือ พลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุด แต่ในระหว่างที่หลายคนกำลังพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง กลับมีประชาชนอีกหลายคนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ยังคงอยู่ห่างไกลจากโลกดิจิทัลที่เปี่ยมด้วยโอกาส สิ่งที่เรากำลังพูดถึงไม่ใช่แค่เรื่อง ของสัญญาณโทรศัพท์หรือความเร็วอินเทอร์เน็ต แต่เป็นเรื่องของโอกาสที่เท่าเทียม โอกาสที่เด็กคนหนึ่งในพื้นที่ห่างไกลจะเข้าถึงความรู้จากห้องเรียนที่ดีที่สุด โอกาสที่ผู้ป่วยในชนบทจะได้รับการวินิจฉัยและรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยไม่ต้องเดินทางไกล และโอกาสที่เกษตรกรจะสามารถยกระดับผลผลิตของตนเองด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย การลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลไม่ใช่ทางเลือก แต่คือภารกิจและพันธกิจของเราทุกคน สำนักงาน กสทช. มุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ให้ความเชื่อมั่นว่า ทุกการเชื่อมต่อที่สร้างขึ้นในวันนื้ จะเป็นดั่งเส้นใยที่ถักทออนาคตของประเทศไทยให้แข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมา เริ่มต้นยุคใหม่ ยุคที่ชีวิตของเราทุกคนเชื่อมต่อถึงกัน และอนาคตของเราทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ใด จะถูกเชื่อมโยงไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์” ประธาน กสทช. กล่าว

ทั้งนี้ เพื่อให้สร้างการรับรู้ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้อย่างทั่วถึง ภายในงาน สำนักงาน กสทช. ได้จัดแสดงผลงานการดำเนินงานและบริการของ USO ที่มีอยู่ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย รวมถึงการแสดงนวัตกรรมที่โครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของ USO สามารถให้บริการกับประชาชนทั้งในวันนี้และอนาคต รวมถึงกิจกรรมการเสวนาในหัวข้อต่าง ๆ ที่น่าสนใจทั้งเรื่อง Cyber Security และ หัวข้อ “เชื่อมโยงลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยโครงข่าย USO” ที่จะร่วมเสวนาโดย ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ทางการศึกษา ด้านการแพทย์ระยะไกล (Telehealth) และด้านการพัฒนาสื่อการเรียนออนไลน์ โดย Influencer ด้านการศึกษาชั้นนำของประเทศไทย และภายในงานยังมีบริการ ตรวจเบาหวานจอประสาทตา ซึ่งให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ผู้แทนจากสำนักงาน กสทช. และตัวแทนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้เข้าร่วมการซ้อมใหญ่ระบบเตือนภัย Cell Broadcast ณ ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ (BNIC) ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยผลการทดสอบออกมามั่นใจและเป็นที่น่าประทับใจตามคาดหมาย และพร้อมนำมาใช้เตือนภัยได้จริงเพื่อประชาชนคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติกรณีเกิดเหตุด่วนและภัยพิบัติ

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า "ผมมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งหลังจากได้มาร่วมการทดสอบเสมือนจริงของ Cell Broadcast กับทรู คอร์ปอเรชั่นในวันนี้ ซึ่งผลลัพธ์ออกมาตามความคาดหมาย สามารถกระจายข้อความได้อย่างรวดเร็วครอบคลุมพื้นที่ตามที่กำหนด โดยระบบ Cell Broadcast เป็นความหวังสำคัญในการพัฒนาระบบเตือนภัยของประเทศไทยให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพเทียบเท่ามาตรฐานสากล ในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เรากำลังเร่งดำเนินการพัฒนาในส่วนของ CBE (Cell Broadcast Entity) ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญฝั่งหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่ออกประกาศเตือนภัย เรามีเป้าหมายชัดเจนที่จะผลักดันให้ระบบ Cell Broadcast สามารถนำมาใช้งานจริงได้เร็วที่สุด เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนชาวไทยในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย การร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในครั้งนี้จะช่วยยกระดับการบริหารจัดการภัยพิบัติของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น"

นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "จากการที่ ปภ. กสทช. และตัวแทนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้เกียรติมาร่วมซ้อมใหญ่เตือนภัย ณ ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ (BNIC) อาคารทรูทาวเวอร์ เพื่อเป้าหมายในการนำมาใช้กับประชาชนอย่างเร่งด่วนที่สุด ทรู คอร์ปอเรชั่นได้จัดการซ้อมแบบจำลองสถานการณ์การใช้งานจริง มีการส่งสัญญาณเตือนภัยทดสอบภายในอาคารทรู เพื่อให้ทุกท่านที่มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์และเข้าใจกลไกการทำงานของระบบ Cell Broadcast Service พร้อมกัน วันนี้ทรูมีความพร้อมให้บริการระบบ Cell Broadcast ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบจริงหรือระบบเสมือน (Virtual Cell Broadcast) หากเกิดภัยพิบัติหรือเหตุฉุกเฉิน สามารถนำมาใช้แจ้งเตือนภัยแก่ลูกค้าทรูและดีแทคผ่านระบบนี้ทันที”

ทรู คอร์ปอเรชั่นห่วงใยเร่งติดตั้งระบบเตือนภัยทั่วประเทศ

เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดที่สร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชนทั่วประเทศไทย ได้ตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนของระบบแจ้งเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพและทันท่วงที ด้วยความตระหนักถึงภารกิจสำคัญนี้ ทรูจึงได้เร่งดำเนินการติดตั้งระบบ Cell Broadcast ให้ครอบคลุมทุกเสาสัญญาณ 4G และ 5G ทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อยรายแรก โดยปัจจุบันพร้อมใช้งานแล้วในรูปแบบ Virtual Cell Broadcast

"เราได้ติดตั้งระบบนี้เรียบร้อยแล้วในทุกสถานีฐานทั่วประเทศ นับเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายแรกของไทยที่มีความพร้อมให้บริการระบบนี้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยตระหนักถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ" นายจักรกฤษณ์ กล่าวเสริม

การทำงานของระบบแจ้งเตือนภัยผสานร่วมกัน

ระบบ Cell Broadcast จะทำงานได้อย่างสมบูรณ์ต้องอาศัยสององค์ประกอบหลักทำงานประสานกัน:

1. CBC (Cell Broadcast Center) - ส่วนที่อยู่ฝั่งผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ อย่างเช่น ทรู และดีแทค

2. CBE (Cell Broadcast Entity) - ส่วนที่อยู่ฝั่งหน่วยงานภาครัฐที่เป็นผู้ออกประกาศเตือน (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.)

ปัจจุบัน ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมดำเนินการตามคำสั่งจากภาครัฐได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนชาวไทย โดยเป็นผู้ให้บริการรายแรกของประเทศที่มีความพร้อมให้บริการระบบแจ้งเตือนภัยที่ทันสมัยนี้อย่างเต็มรูปแบบ

1 เมษายน 2568 - บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แสดงจุดยืนในการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะครั้งที่ 2 ต่อร่างประกาศเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล สนับสนุน กสทช. นำคลื่นตามแผน IMT Spectrum Roadmap มาจัดประมูลตามกำหนดเดิม

นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะด้านโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ เราต้องรักษาความได้เปรียบนี้ด้วยการมองไปข้างหน้าและเร่งสร้างโอกาสใหม่ๆ การประมูลครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยจะเป็นประเทศชั้นนำด้านดิจิทัลหรือจะล้าหลัง การประมูลคลื่นความถี่ครั้งนี้มีส่วนสำคัญในการผลักดันโครงสร้างดิจิทัลของประเทศ ดังนั้น กสทช. จึงควรเร่งให้เกิดการประมูลคลื่นความถี่ตามแผนเดิม"

โดย ทรู คอร์ปอเรชั่น สนับสนุนให้ กสทช. จัดการประมูลตามแผนการจัดสรรคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลของประเทศไทย ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2567-2571) หรือแผน IMT Spectrum Roadmap ที่ กสทช. เห็นชอบ และเผยแพร่ให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปตั้งแต่ปี 2567 อันประกอบด้วยคลื่นที่กำลังจะหมดอายุทั้งในปีนี้และอีก 2 ปีข้างหน้า รวมถึงคลื่นความถี่ที่ว่าง เพื่อให้เกิดการนำคลื่นไปใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเห็นว่า กสทช. ควรเร่งให้เกิดการประมูลคลื่นตามแผน IMT Spectrum Roadmap เพื่อลดผลกระทบอันเกิดจากการจัดสรรคลื่นไม่ทันท่วงที นอกจากนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังสนับสนุนการประมูลคลื่นในรูปแบบที่นำคลื่นมาประมูลพร้อมกัน ซึ่งเป็นวิธีการที่เป็นที่ยอมรับว่ามีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับแนวโน้มในการจัดสรรคลื่นทั่วโลก นอกจากนี้ในประเด็นการกำหนดราคาขั้นต่ำ ทรู เห็นด้วยกับวิธีการกำหนดราคาที่อ้างอิงหลักการสากล ไม่ใช่การนำราคาตามข้อตกลงระหว่างเอกชนในอดีตที่ไม่ได้สะท้อนมูลค่าคลื่นความถี่เพียงอย่างเดียว

นอกจากนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคลื่น 3500 MHz แม้จะเป็นอีกหนึ่งคลื่นที่มีความสำคัญ แต่ขณะนี้ทรู คอร์ปอเรชั่นยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ อีกทั้ง หากนำมาร่วมประมูล กสทช. ควรพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล และผู้รับชมโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมระบบ C band ก่อนดำเนินการประมูล

ทรู คอร์ปอเรชั่นเน้นย้ำว่า คลื่นความถี่คือทรัพยากรสำคัญของประเทศที่เปรียบเสมือนรากฐานในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การจัดสรรคลื่นอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ไทยแข่งขันได้ในเวทีโลก และสนับสนุน

การเติบโตของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทั้ง 5G ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) บริษัทฯ แสดงความเชื่อมั่นว่า กสทช. จะดำเนินการประมูลคลื่นความถี่ครั้งนี้ด้วยความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว

วันที่ 17 – 18 มีนาคม 2568 สำนักงาน กสทช. ร่วมกับองค์การโทรคมนาคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก (APT) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเตรียมการภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกครั้งที่ 3 สำหรับการประชุมใหญ่ระดับโลกว่าด้วยการพัฒนาโทรคมนาคม ค.ศ.2025 (The 3rd Meeting of the APT Preparatory Group for the World Telecommunication Development Conference 2025 : APT WTDC25-3) โดยมีศาสตราจารย์คลินิก นพ. สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดการประชุม และได้กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการให้บริการด้านโทรคมนาคมให้มีความทั่วถึงและเท่าเทียม รวมไปถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลซึ่งถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเนื่องจากปัญญาประดิษฐ์ได้เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากนาย Masanori Kondo เลขาธิการองค์การโทรคมนาคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก (APT) นาย Kila Gulo-Vui ประธานการประชุม APT WTDC-25 นายพชร นริพทะพันธุ์ ที่ปรึกษาประธาน กสทช. และ นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการโทรคมนาคม ให้เกียรติเข้าร่วมในพิธีเปิดการประชุม

วันที่ 19 มีนาคม 2568 สำนักงาน กสทช. ร่วมกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ITU Regional Development Forum for Asia-Pacific (RDF-ASP) โดยมีศาสตราจารย์คลินิก นพ. สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ได้ให้เกียรติกล่าวเปิดการประชุมฯ และทำหน้าที่ประธานการประชุม RDF-ASP ในครั้งนี้ และยังได้เข้าร่วมเป็น panelist ในช่วง Roundtable One ในหัวข้อ State of Digital Development and Trends Challenges and Opportunities โดยได้แลกเปลี่ยนกับ panelist จากหลากหลายประเทศ เกี่ยวกับแนวโน้มการพัฒนาด้านดิจิทัลของไทย นอกจากนั้นในการประชุมดังกล่าว นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. ได้เข้าร่วมจับมือเพื่อรับการแสดงความขอบคุณจาก Dr.Cosmas Luckyson Zavazava ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาโทรคมนาคม (Telecommunication Development Bureau: BDT) ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 6 ปี ความร่วมมือระหว่างสำนักงาน กสทช. และ ITU ในการจัดการประชุม Girls in ICT Day ซึ่งเป็นการประชุมที่ร่วมส่งเสริมบทบาทของเด็กและผู้หญิงในการนำ ICT ไปใช้ต่อยอดในการเรียนและประกอบอาชีพในอนาคต

วันที่ 20-21 มีนาคม 2568 สำนักงาน กสทช. ร่วมกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Regional Preparatory Meeting for Asia and the Pacific for WTDC-25 (RPM-ASP) โดยนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. ได้ให้เกียรติกล่าวเปิดการประชุมฯ ร่วมกับ Dr. Cosmas Luckyson Zavazava ผู้อำนวยการสำนักการพัฒนาโทรคมนาคม (Telecommunication Development Bureau: BDT) ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU)  ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ นายเสน่ห์ สายวงศ์ วิศวกรเชี่ยวชาญพิเศษ ได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่ง ประธานการประชุม RPM ในนามสำนักงาน กสทช. และในฐานะประเทศเจ้าภาพ การประชุมครั้งนี้ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากผู้เข้าร่วมการประชุม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการจัดงานและความตั้งใจในการดำเนินการต่าง ๆ ที่ส่งผลให้การประชุมในครั้งนี้สามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังไว้

กรุงเทพฯ 20 พฤศจิกายน 2567 – ทรู คอร์ปอเรชั่น สนับสนุน สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ ให้ความร่วมือในปฎิบัติการบุกทลายบริษัทผี โทรตุ๋นเหยื่อเสียหายทั่วไทยกว่า 40 ล้านบาท โดย นายวันชัย ฉัตรฐิติ ผู้แทนจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมแถลงข่าวกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท. และนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. จากกรณีที่มีการตรวจพบกลุ่มบุคคลใช้โทรศัพท์ ติดต่อหลอกลวงประชาชนในลักษณะอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จนนำไปสู่การสืบสวนและปฎิบัติการจับกุมได้ในที่สุด โดยทรูให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐทั้งในด้านการปราบปราม ด้วยการให้ข้อมูลเบาะแสของมิจฉาชีพ พร้อมร่วมกำหนดมาตรการเชิงป้องกันต่างๆ กับสำนักงานกสทช. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อป้องกันและปิดโอกาสของมิจฉาชีพที่สร้างความเดือดร้อน และความเสียหายแก่ประชาชน

ทั้งนี้ แก๊งมิจฉาชีพมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นข้อมูลเบาะแสจากประชาชนจึงเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้หน่วยงานรัฐและผู้ให้บริการมีข้อมูลเบาะแส ทราบพฤติกรรมและรูปแบบของมิจฉาชีพที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนที่ได้รับ SMS หรือสายโทรเข้าหลอกลวง แจ้งเบาะแส ผ่านสายด่วน 9777 เพื่อทรูจะเร่งประสานงานกับ สำนักงาน กสทช. , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในการตรวจสอบ สืบสวนและดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

Page 1 of 4
X

Right Click

No right click