September 25, 2024

ความสำเร็จของธุรกิจ SMEs ไทยบนโลกอีคอมเมิร์ซ: เจาะลึกกลยุทธ์จากผู้ชนะ

ในยุคที่การค้าออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างมหาศาล โดยมีการคาดการณ์ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซจะมีมูลค่าสูงถึง 750,000 ล้านบาทภายในปี 2568 การเติบโตนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจ SMEs สามารถก้าวเข้าสู่ตลาดดิจิทัลได้อย่างแข็งแกร่ง

ล่าสุด ช้อปปี้ ผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ได้จับมือกับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) เปิดตัวโครงการ "The Influencer Journey TiJ#1" ที่มุ่งเสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ SMEs ผ่านการเรียนรู้การตลาดออนไลน์ และการใช้เครื่องมือดิจิทัลอย่าง Shopee Live ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เพิ่มยอดขายและการเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หัทยา คัมบารา กรรมการผู้จัดการของแบรนด์ ส้มใส (SOMSAI) ผู้ชนะรางวัล DBD Influencer Awards 2024 ได้แชร์ประสบการณ์ในการปรับตัวจากการตลาดแบบดั้งเดิมไปสู่โลกออนไลน์ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าและใช้ฟีเจอร์ไลฟ์สตรีมมิ่งในการดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค จนทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 150%

นอกจากนี้ กษิรา ขันติศิริ เจ้าของแบรนด์ เผือกกรอบ ทันจิตต์ ยังเล่าว่า การไลฟ์สตรีมมิ่งผ่าน Shopee Live เป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้แบรนด์สามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายขึ้นกว่า 200% ในช่วงการเข้าร่วมโครงการ Influencer Journey​

เคล็ดลับสำหรับ SMEs มือใหม่: หากคุณกำลังมองหาช่องทางขยายธุรกิจบนโลกดิจิทัล ช้อปปี้เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ไม่ควรพลาด เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการเข้าเรียนรู้ใน Shopee University เพื่อพัฒนาทักษะด้านการตลาดออนไลน์และสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจของคุณ

SABINA ย้ำความมั่นใจ ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ โดยยังคงรักษาตำแหน่งแบรนด์แฟชั่นอันดับหนึ่งในช่องทางขายที่ไม่มีหน้าร้าน (NSR) ได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีผู้เล่นใหม่เข้ามาในตลาด นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท เปิดเผยว่า SABINA ไม่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีจุดแข็งในเรื่องคุณภาพสินค้า ราคา และบริการทั้งก่อนและหลังการขาย ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

SABINA ใช้ 3 ปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนความสำเร็จ ได้แก่ การพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการลูกค้า การให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว และการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ SABINA ตั้งเป้ายอดขาย NSR เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ในปีนี้

ปัจจุบัน SABINA ขายสินค้าผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ ช่องทางค้าปลีก (Retail), ช่องทางที่ไม่มีหน้าร้าน (NSR), และรับจ้างผลิต (OEM) ซึ่งในครึ่งปีแรกของปี 2567 ช่องทาง NSR เติบโตถึง 31.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จและความพึงพอใจของลูกค้า

นอกจากนี้ SABINA ยังไม่หยุดที่จะหาช่องทางการตลาดใหม่ ๆ และการพัฒนาธุรกิจในช่องทาง NSR ซึ่งเชื่อว่าจะขยายฐานลูกค้าออนไลน์ได้มากขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ ซึ่งบริษัทได้เข้าถือหุ้นใน Moda ฟิลิปปินส์ ทำให้ยอดขายออนไลน์ในประเทศนั้นเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากเดิมไม่ถึง 1% เพิ่มเป็น 8% ในปัจจุบัน ซึ่งยังมีโอกาสเติบโตต่อไป

SABINA ยังคงมุ่งเน้นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าผ่านการให้บริการที่ดีและการรักษาคุณภาพสินค้า ซึ่งช่วยให้แบรนด์ยังคงเป็นที่ยอมรับในตลาดออนไลน์และมีความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว

X

Right Click

No right click