การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ได้ว่าจ้าง บริษัท เวิร์ล บริดจ์ เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้รับจ้างดำเนินการก่อสร้าง งานปรับปรุงรอยต่อผิวจราจรบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร (Site 3 และทางขึ้น-ลงเพชรบุรีคลองตัน) และทางพิเศษฉลองรัช บริเวณ กม.22+100 ทิศทางจตุโชติ-รามอินทรา ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องปิดการจราจรบริเวณทางต่างระดับท่าเรือ มุ่งหน้าดินแดง ถ.พระราม 9 แจ้งวัฒนะ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง โดยผู้ที่จะต้องใช้เส้นทางดังกล่าว ให้ใช้ทางออกถนนพระราม 4 เป็นการทดแทน
ทั้งนี้ ผู้รับจ้างได้ทำการติดตั้งป้ายแจ้งการจราจรก่อนถึงพื้นที่ก่อสร้างและติดตั้งไฟสัญญาณไฟจราจรต่าง ๆ ป้ายประชาสัมพันธ์การเบี่ยงจราจรพร้อมไฟวับวาบ เพื่อให้ผู้ใช้เส้นทางได้ทราบ
กทพ. ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ และขอความร่วมมือผู้ที่ใช้เส้นทางบริเวณดังกล่าวโปรดสังเกตป้ายเตือน สัญญาณจราจรต่าง ๆ โดยปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของท่านและผู้อื่น และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้
หากมีข้อร้องเรียนแจ้งเหตุ หรือ ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์สามารถแจ้งได้ที่ 085-346-8455 นายปฏิภาณ ไทรงาม (วิศวกรคุมงานของ กทพ.) และ 086-306-0666 นายยุทธพงษ์ ภู่งาม (วิศวกรคุมงาน ของผู้รับจ้าง)
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กทพ. ขอระงับการให้บริการเติมเงินบัตร Easy Pass จุดให้บริการ "Lotus’s" เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป เนื่องจาก บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด มีแผนการควบบริษัทและจดทะเบียนบริษัทใหม่ โดยบริษัทฯ แจ้งว่า มีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจภายในกลุ่มบริษัทโดยการควบบริษัทระหว่าง บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจกิจค้าส่ง "แม็คโคร" และบริษัท เอก-ชัยฯ ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีก "โลตัส" เป็นบริษัทใหม่ และจากการควบบริษัทและจดทะเบียนบริษัทใหม่ส่งผลให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจบริการชำระเงิน (Bill Payment License) จะสิ้นอายุลงในวันที่ 30 กันยายน 2567 และบริษัทฯ จะต้องขอใบอนุญาตฯ ใหม่ภายใต้ชื่อบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ดังนั้น บริษัทฯ จึงไม่สามารถให้บริการรับเติมเงินบัตร Easy Pass ได้ จึงขอระงับการให้บริการรับเติมเงินบัตร Easy Pass เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไปจนกว่าบริษัทฯ จะได้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจบริการชำระเงิน (Bill Payment License) ใหม่จากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 90 วัน
กทพ. ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ด้วย
เมื่อเร็วๆ นี้ ณ หอประชุม 0101 ชั้น 1 อาคารศูนย์บริหารทางพิเศษ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. เป็นประธานในพิธีเปิดตัว Application EXAT Portal และระบบสะสมแต้ม EXAT Reward พร้อมทั้งบรรยายเกี่ยวกับ Application EXAT Portal และระบบสะสมแต้ม EXAT Reward
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า กทพ. ได้เปิดบริการ Application EXAT Portal ให้ผู้ใช้บริการทางพิเศษได้ดาวน์โหลด มาตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งในปัจจุบันมียอดผู้ใชงาน Application มากกว่า 1,000,000 บัญชี และเพื่อยกระดับการให้บริการ อำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการ Easy Pass ให้ได้รับประสบการณ์ใหม่ ที่ทำให้การใช้บริการทางพิเศษสะดวกยิ่งขึ้น กทพ. จึงพัฒนา Application EXAT Portal เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งให้ความสำคัญในการพัฒนา 3 ส่วน ประกอบด้วย
1) การออกแบบที่ให้เข้าถึงเมนูต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ใช้งานง่าย ทันสมัย แก้ปัญหาจากผู้ใช้บริการ
2) การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า Easy Pass มากยิ่งขึ้น
3) ระบบการขอความช่วยเหลือ SOS และระบบการแจ้งเตือนต่าง ๆ
นอกจากนี้ยังได้มีการปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ ปรับเปลี่ยนหน้าตา User Interface มีจัดวางเมนูใหม่ ให้ใช้งานง่ายขึ้นมีทั้งหมด 5 เมนู ได้แก่
(1) เมนูบัตร Easy Pass เป็นหน้าแรก มีฟีเจอร์เมนูที่เกี่ยวข้องกับการใช้บัตร Easy Pass เช่น การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว การแสดงยอดเงินคงเหลือ การแสดงหมายเลขบัตร Easy Pass เมนูการเติมเงินที่รองรับการเติมเงินทั้งบัตรเดบิต และบัตรเครดิตได้ทุกธนาคาร รวมถึงการเติมเงินแบบรายครั้ง (On Demand) หรือการเติมเงินแบบอัตโนมัติ (Auto Top Up) เมนูการแสดงประวัติการใช้งาน และการเติมเงิน
(2) เมนูขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS ปรับเปลี่ยนหน้าตา User Interface ให้ใช้ง่ายขึ้น สามารถเลือกสาเหตุฉุกเฉิน และใส่เบอร์โทรเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ หรือกดโทร EXAT Call Center 1543 ได้ทันที
(3) เมนูข่าวสาร ที่รวมข่าวสาร กิจกรรมและโปรโมชั่นต่าง ๆ ของ กทพ.
(4) เมนูบริการด้านต่าง ๆ เช่น EXAT E-Service รายงานภาพการจราจร สมัคร Easy Pass Plus EXAT Reward และ EXAT-Chatbot
(5) การแจ้งเตือนต่าง ๆ เช่น การแจ้งอุบัติเหตุ การแจ้งเตือนข่าวสาร รายการผ่านทาง และยอดการเติมเงิน
และในวันนี้ กทพ. ยังได้เปิดตัวโครงการสะสมคะแนน “EXAT REWARD” โดยเพียงชำระค่าผ่านทางพิเศษด้วยบัตร Easy Pass ทุก 5 บาท จะได้รับ 1 คะแนน ใช้แลกรับสินค้า บริการ หรือส่วนลดร้านค้า และร้านอาหารที่ร่วมรายการกว่า 30 ร้านค้า และพิเศษ Easy Pass Easy Point “สะสมแต้มแลกสุข X3” ระหว่างวันที่ 9 ก.ย. 2567 ถึงวันที่ 30 พ.ย. 2567 ดังนี้
Special 1 Welcome Point
สมัคร EXAT Reward ครั้งแรกรับคะแนนสะสมฟรี 200 คะแนน โดยสมาชิกบัตร Easy Pass สามารถสมัคร และล็อกอิน EXAT Reward ผ่าน Line@exatsociety หรือ Application EXAT Portal
Special 2 Easy Pass Easy Point
ใช้ Easy Pass ผ่านทางพิเศษทุก 5 บาท รับ 1 คะแนน สะสมครบ 5,000 คะแนน แลกรับเงินคืนเข้า บัตร Easy Pass จำนวน 100 บาท (จำนวน 10,000 สิทธิ์ต่อเดือน)
พิเศษรับ Easy Point คูณ 2 เมื่อใช้ Easy Pass ผ่านทางพิเศษเฉลิมมหานคร ช่วงเวลา 05.00 น.- 07.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. 67 - 30 พ.ย. 67
Special 3 Special Day Special Deal
ทุกวันที่ 1 ของเดือน ใช้ 1 คะแนน แลกรับส่วนลดสินค้า และบริการเช่น Shopee Grab Food Tops Food Hall Tops และ S&P
ทุกวันที่ 16 ของเดือน ใช้ 99 คะแนน แลกรับชุดแมคไก่ทอด McDonald's มูลค่า 139 บาท
“ในโอกาสนี้ ขอเชิญชวนให้มาสมัครใช้บัตร Easy Pass กันเยอะ ๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการชำระค่าผ่านทางพิเศษแล้วยังสามารถสะสมแต้ม แลกรับส่วนลดสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้อีกด้วย ผู้ใช้ทางพิเศษสามารถอัปเดต และดาวน์โหลด Application EXAT Portal เวอร์ชั่นใหม่ได้ที่ App Store หรือ Google Play Store และลงทะเบียน EXAT Reward ได้ผ่าน Line@exatsociety หรือ Application EXAT Portal” นายสุรเชษฐ์ฯ กล่าวในท้ายที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaieasypass.com reward.exat.co.th www.exat.co.th หรือ EXAT Call Center โทร. 1543 ตลอด 24 ชั่วโมง”
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ลงนามในสัญญาจ้างงานจ้างก่อสร้างโครงการทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา) โดยมี นายสุเมธ สุรบถโสภณ รองประธานบริหารอาวุโสบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามในสัญญา ณ ห้องประชุม 2801 ชั้น 28 อาคารศูนย์บริหารทางพิเศษ กทพ.
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า สืบเนื่องจากการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ได้มีมติอนุมัติให้ กทพ. ดำเนินโครงการทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา) ระยะทาง 16.21 กิโลเมตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการให้บริการด้านการจราจรและขนส่ง ให้สอดคล้องกับการพัฒนาและการเจริญเติบโตของพื้นที่ตัวเมือง ที่มีแนวโน้มพัฒนาไปทางทิศตะวันออกของกรุงเทพมหานคร อย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถ ในการแข่งขันของไทย ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และสามารถรองรับการขนส่งและการเดินทางต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ รวมทั้งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 ด้าน การสร้างความสามารถในการแข่งขัน สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 พ.ศ. 2566-2570 โดยรายละเอียดโครงการฯ เป็นงานก่อสร้างทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร (ไป-กลับ) ตั้งแต่ทางพิเศษฉลองรัช บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษจตุโชติ มี ระยะทางประมาณ 16.21 กิโลเมตร รวมทางขึ้น-ลง
นายสุเมธ สุรบถโสภณ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อิตาเลียนไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา) เป็นหนึ่งในโครงการที่มีความสำคัญมาก ในการพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่ง โครงการนี้ เป็นทางพิเศษ ยกระดับ ขนาด 6 ช่องจราจร โครงสร้างเป็นรูปแบบ Slab on Girder ส่วนโครงสร้างเสาเป็นเสาเดี่ยว ก่อสร้างบนระบบฐานราก ที่เป็นเสาเข็มเจาะขนาดใหญ่ ซึ่ง บริษัท อิตาเลียนไทยฯ มีประสบการณ์ ในการก่อสร้างทางยกระดับประเภทนี้มานาน จำนวนหลายโครงการต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ มีความพร้อมด้านบุคลากร ทั้งวิศวกรและทีมงานที่มีประสบการณ์และความชำนาญสูง และมีการจัดหา เครื่องจักรทันสมัยที่เหมาะสมสำหรับการก่อสร้าง บริษัทฯ ยังมี โรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีต ที่มีคุณภาพสูง สำหรับใช้งานก่อสร้าง บริษัทฯ จะยึดมั่นในมาตรฐานการทำงานให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพดี และมีความปลอดภัยสูงสุด จึงขอให้มั่นใจได้ว่า บริษัทฯ มีความพร้อม ในการทำงานทุกด้าน และมีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานนี้ ให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ และในโอกาสนี้ต้องขอขอบคุณ กทพ. ที่ไว้วางใจให้บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการนี้ บริษัทฯ จะมุ่งมั่นปฏิบัติงานนี้ อย่างเต็มที่ เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด
“ปัจจุบันการเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปยังอำเภอธัญญะบุรี หรืออำเภอองค์รักษ์ จังหวัดนครนายก จะใช้ถนนรังสิต-นครนายก และถนนพหลโยธินเป็นเส้นทางหลัก ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณการจราจรหนาแน่น เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักที่สามารถเดินทางสู่ภาคกลางตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่ตลอดแนวเส้นทาง นอกจากนี้ เส้นทางดังกล่าวยังมีปริมาณรถบรรทุกขนาดใหญ่ใช้สัญจร เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความล่าช้าในการเดินทาง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดและช่วงเทศกาลจะเกิดปัญหาการจราจรติดขัดตลอดแนวเส้นทาง ดังนั้น ความพยายามในการดำเนินการแก้ไขปัญหาจราจรดังกล่าว ของการทางพิเศษฯ จึงเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นภารกิจหลักของหน่วยงานเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครนายก จากการต่อขยายโครงข่ายทางพิเศษฉลองรัช ไปยังถนนลำลูกกา เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว และเป็นการเพิ่มโครงข่ายถนน เพื่อแบ่งเบาปริมาณจราจรบนถนนปัจจุบัน อีกทั้งช่วยในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครนายกอีกด้วย จึงเป็นที่มาของพิธีลงนามในสัญญาจ้างในวันนี้” นายสุรเชษฐ์ฯ กล่าวในท้ายที่สุด
ดร.วรปรัชญ์ พ้องพงษ์ศรี รองผู้ว่าการ (กฎหมาย) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม เป็นประธานในกิจกรรมการให้ความรู้และฝึกซ้อมการป้องกันและระงับอัคคีภัย และกิจกรรมการสร้างชุมชนเครือข่ายเป็นมิตรกับทางพิเศษในเขตทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ประจำปี ๒๕๖๗ และกิจกรรมรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ณ บริเวณโรงเรียนคลองบางปิ้ง ตำบลบางเมือง อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
ดร.วรปรัชญ์ พ้องพงษ์ศรี รองผู้ว่าการ (กฎหมาย) กทพ. กล่าวว่า นอกจากภารกิจหลักในการให้บริการทางพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางของประชาชนรวมถึงการขนส่ง และเป็นทางเลือกในการเดินทางของพี่น้องประชาชนแล้ว กทพ. ยังได้ตระหนักถึงความสำคัญของคุณภาพชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะชุมชนรอบเขตทางพิเศษ จึงได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์มาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญอีกภารกิจหนึ่ง การจัดกิจกรรมการให้ความรู้การป้องกันและระงับอัคคีภัย และกิจกรรมการสร้างชุมชนเครือข่ายเป็นมิตรกับทางพิเศษในเขตทางพิเศษเฉลิมมหานครในวันนี้ นับเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นระหว่าง กทพ. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชุมชนรอบเขตทางพิเศษ โดยในวันนี้ ได้รับความร่วมมือจาก เทศบาลตำบลบางเมือง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ชุมชนคลองบางปิ้ง ชุมชนมิตรไมตรี 1 ชุมชนมิตรไมตรี 2 ชุมชนราชศุภนิมิต 1 ชุมชนราชศุภนิมิต 2 โรงเรียนคลองบางปิ้ง เข้าร่วมกิจกรรม โดยในวันนี้ ได้มีการให้ความรู้พร้อมทั้งสาธิตการฝึกซ้อมการป้องกันและระงับอัคคีภัย รวมถึงการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การช่วยฟื้นคืนชีพ (First Aid & CPR) ให้กับชาวชุมชนรอบเขต ทางพิเศษ ในการป้องกันและระงับอัคคีภัยรวมถึงให้ความช่วยเหลือในกรณีเกิดอัคคีภัย นอกจากนี้ยังมีการอบรมหลักสูตรการขับขี่ปลอดภัย จาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมทั้งได้นำเครื่องจำลองการขับขี่ มาให้ให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทดลองขับขี่ ในการนี้ กทพ. ได้มอบถังดับเพลิง รวมจำนวน 50 ถัง อุปกรณ์กีฬา จำนวน 1 ชุด และมอบอุปกรณ์ป้องกันอันตรายหมวกนิรภัย จำนวน 80 ใบ อีกด้วย
“การทางพิเศษฯ ได้ทำการฝึกซ้อมการป้องกันและระงับอัคคีภัยใต้ทางพิเศษ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานใกล้เคียง ในการรองรับหากเกิดอัคคีภัยในเขตทางพิเศษ หรือในชุมชนใกล้เคียง แสดงให้เห็นว่าการทางพิเศษฯ กับชุมชนรอบเขตทางพิเศษมีความร่วมมือที่ดีต่อกัน ผมหวังว่ากิจกรรมในวันนี้จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างการทางพิเศษฯ และชุมชนรอบเขตทางพิเศษ ก่อให้เกิดความเข้าใจที่ดีและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ลดพื้นที่เสี่ยงเพื่อให้ชุมชนช่วยกันดูแลพื้นที่รอบเขตทางพิเศษ โดยการทางพิเศษฯ จะจัดกิจกรรมดี ๆ อย่างนี้ต่อไป” ดร.วรปรัชญ์ฯ กล่าวในท้ายที่สุด