November 21, 2024

คาปาลิกโก้ (Kapalikko) แบรนด์สินค้าแฟชั่นสายมู จากบริษัทอะแมส มี (Amass Me) เปิดตัวมาสคอตแบรนด์ ชวนทำความรู้จัก Lucky Monster น้องมาชี่ (Marshy) ที่มาพร้อมรอยยิ้มอันสดใส พร้อมจะเป็นเพื่อนและแจกความโชคดีให้กับทุกๆ คนในทุกๆ ราศี ด้วยสัญลักษณ์คาปาลิกโก้ (Kapalikko) มหายันต์นำโชค ภายใต้คอนเซปต์ A good day begins with Kapalikko กันได้แล้วที่อะแมส มี ทุกสาขา

นางสาวยุฤดี ธนะกิตติภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อะแมส มี จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันสินค้าแฟชั่นจากคาปาลิกโก้ (Kapalikko) เป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกระแสแฟชั่นสายมูที่มีมาอย่างต่อเนื่องและเติบโตอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังมีการประยุกต์ความเชื่อเข้ากับธุรกิจต่างๆ ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้คนในสังคมอย่างไม่สามารถแยกออกจากกันได้

“อะแมส มี คว้ายอดขายในส่วนของคาปาลิกโก้ (Kapalikko) โตขึ้นจากปีที่ผ่านมาพุ่งทะลุ 100% เนื่องจากสินค้าที่มีความหลากหลาย เช่น กระเป๋า หมวก พวงกุญแจหอมมงคล และ Griptok ติดโทรศัพท์สำหรับสายมู ซึ่งแต่ละชิ้นถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยคำนึงถึงความสวยงาม ความหมาย และความโชคดีผ่านสัญลักษณ์ยันต์คาปาลิกโก้ (Kapalikko) ใส่แนวคิด ทัศนคติ ความเชื่อ อารมณ์ ความเป็นอิสระ เพื่อให้ลูกค้าผู้ใช้งานและผู้สวมใส่รู้สึกสนุกกับการมิกซ์แอนด์แมทช์สไตล์ในแต่ละวัน จุดนี้จึงทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเป็นเหตุผลให้ยอดขายขยับขึ้นมา” ยุฤดี กล่าว

ยุฤดี กล่าวต่อว่า จากความนิยมและกระแสที่มีมากขึ้น คาปาลิกโก้ (Kapalikko) จึงเปิดตัวมาสคอตไว้ต่อยอดกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ โดยเฉพาะการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้า โดยให้ชื่อว่า มาชี่ (Marshy) ซึ่งเป็นตัวแทนของพลังงานบวกและโชคลาภ มาช่วยเสริมสร้างการจดจำและสร้างความน่าสนใจให้กับสินค้ามากขึ้น ผ่านการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจและเชื่อมโยงกับความเชื่อเรื่องการเสริมพลัง ความโชคดี และความเป็นสิริมงคล ถือเป็นการใช้กลยุทธ์การตลาดในการสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้บริโภค โดยใช้มาสคอตเป็นส่วนหนึ่งในการสื่อสารความคิดสร้างสรรค์ของแบรนด์

สำหรับกลุ่มลูกค้าหลักของคาปาลิกโก้ (Kapalikko) คือคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ที่ต้องการแสดงออกถึงตัวตนและสไตล์ผ่านแฟชั่นที่มีเอกลักษณ์และผสมผสานความเชื่อในชีวิตประจำวัน ดั่งคอนเซปต์ของแบรนด์ที่ว่า A good day begins with Kapalikko

มาสคอตชื่อน้องมาชี่ (Marshy) ซึ่งมาจากคำว่า Mars คือดาวอังคาร ผสานกับคำว่า Lucky ที่แปลว่าโชคดี รวมกันเป็นชื่อมาชี่ มีลักษณะโดดเด่นทางกายภาพ คือผิวสีชมพูอ่อน คล้ายสีของทะเลทรายบนดาวอังคาร ดวงตาโตเป็นประกาย เปี่ยมล้นไปด้วยพลังงานบวกและความกระตือรือร้น และจะสวมเครื่องประดับเล็กๆ ของคาปาลิกโก้ (Kapalikko) ซึ่งเชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดของพลังงานโชคดี เครื่องประดับนี้จะเปล่งแสงระยิบระยับ ทำให้เป็นเอกลักษณ์จดจำได้ไม่ยาก

ในส่วนของคาแรกเตอร์และบุคลิกภาพของน้องมาชี่มีความเชื่อมโยงกับความเป็นคาปาลิกโก้ (Kapalikko) คือ มีนิสัยเป็นมิตร อ่อนโยน จิตใจดี มีความซื่อสัตย์ และเข้ากับคนง่าย เต็มใจช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ และมักจะแสดงกิริยาท่าทางออกมาแทนคำพูดเพื่อคอยสร้างกำลังใจให้กับทุกคน นอกจากนี้มาชี่ยังมีความอยากรู้อยากเห็นสูง และชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ บนโลกมนุษย์ จะชื่นชอบวัฒนธรรม อาหาร และประเพณีต่างๆ ของมนุษย์ และมักจะแสดงความประหลาดใจและความตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ ที่ได้พบเจอเสมอ

แม้จะดูไร้เดียงสา แต่มาชี่มีความฉลาดหลักแหลม และสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจที่คอยให้กำลังใจ และนำพาความโชคดีมาสู่ทุกคน

“คาปาลิกโก้ (Kapalikko) มั่นใจว่ามาชี่จะสามารถสร้างความสนใจและให้ความรักกับผู้คนที่มาพบได้อย่างแน่นอน ผ่านเอกลักษณ์ความเป็น Lucky Monster ที่มีเอกลักษณ์ แปลกใหม่ ดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้ไม่ยาก โดยเฉพาะจากเรื่องการทำนายทายทักจักรราศีดวงดาวที่มีผลต่อชีวิตประจำวัน ส่งเสริมในแง่ของการกระทำที่สร้างแรงบันดาลใจ สร้างกำลังใจ พร้อมมอบความโชคดีให้กับผู้คน นอกจากนี้ในเรื่องของการทำกิจกรรมและการสื่อสารทางการตลาดร่วมกันของแบรนด์ ผ่านทางน้องมาชี่ Lucky Monster จากแบรนด์คาปาลิกโก้ (Kapalikko) ได้แก่ กิจกรรมการถ่ายรูปร่วมกันกับลูกค้า มีการแจกของขวัญ หรือการพูดคุย ตั้งคำถามตอบคำถามต่างๆ แก่ลูกค้า เพื่อสร้างความใกล้ชิดและความผูกพันให้กับลูกค้าที่พบเห็น อีกทั้งยังมีการออกแบบท่าเต้นและเพลงประจำตัวให้กับน้องมาชี่ พร้อมสร้างการจดจำ ผ่านโซเชียลในแพลตฟอร์มสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาพ วีดีโอ หรือการ์ตูน”

น้องมาชี่ Lucky Monster กำลังรอพบทุกท่านอยู่ที่ป๊อปอัพสโตร์ใหม่! สยาม ดิสคัฟเวอรี่ ชั้น G ถึง 30 พ.ย. นี้ โดยล่าสุดคาปาลิกโก้ (Kapalikko) เปิดตัวมาสคอตมาชี่อย่างเป็นทางการ ผ่านกิจกรรม Amass Me Street: Lucky Meet-Up มาชี่ x มายยู เปิดป๊อปอัพใหม่ที่สยาม ดิสคัฟเวอรี่ ชั้น G เป็นครั้งแรก โดยมาชี่ได้เดินทางมาจากดวงดาวพร้อมสร้างรอยยิ้ม ส่งมอบความโชคดีให้แก่ลูกค้ามากมายหน้าร้าน และยังมอบของรางวัล แจกโปรโมชั่นพิเศษ รวมทั้งยังประชันเวทีกิจกรรมสัมภาษณ์ Lucky Talk พร้อมกับคู่ขวัญศิลปิน น้องมายยู “กวิสรา สิงห์ปลอด” และยังร่วมถ่ายภาพกับแขกภายในงาน ซึ่งเรียกความสนใจให้แก่ผู้เข้าร่วมงานอย่างมาก

“จากกระแสการตอบรับแบรนด์คาปาลิกโก้ (Kapalikko) ทำให้มีแนวทางในการขยายตลาดเพิ่มขึ้นในต่างประเทศ พร้อมยังมีแผนที่จะเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เพื่อขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ ตอบสนองไลฟ์สไตล์หลากหลายสำหรับลูกค้ามากขึ้น โดยเราจะยังคงมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี ตั้งแต่การเลือกใช้ผ้าที่มีคุณภาพสูง การตัดเย็บที่ประณีต รวมถึงเทคนิคที่ทันสมัย ไปจนถึงดีไซน์ที่โดดเด่น ซึ่งเรายังคงตั้งใจที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ที่สามารถเชื่อมโยงผู้คนผ่านสไตล์ ความเชื่อ และพลังแห่งมหายันต์คาปาลิกโก้ (Kapalikko) ให้เป็นแฟชั่นที่มีเอกลักษณ์ต่อไป” ยุฤดี กล่าวสรุป

 

 
 
 

Amass me (อะแมส มี) ผู้นำเข้าสินค้าแฟชั่น มัลติ ลักซ์ชัวรี แบรนด์ เจ้าแรกในไทย ปล่อยตัวแบรนด์ Kapalikko (คาปาลิกโก้) คอลเลกชันใหม่ 7 DAYS GOD’S ภายใต้คอนเซปต์ ‘God's Grace collection’ ถ่ายทอดเรื่องราว 7 ทวยเทพกรีก ผสานศาสตร์แห่งความเชื่อเข้ากับโลกแฟชั่น เปิดขายวันแรกหมดเกลี้ยงทั้งออนไลน์ และหน้าช้อปสินค้า

นางสาวยุฤดี ธนะกิตติภูมิ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท อะแมส มี จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา Amass me (อะแมส มี) เป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำเข้าสินค้าแฟชั่น มัลติ ลักซ์ชัวรี แบรนด์ที่มีความหลากหลาย กระทั่งได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในสัดส่วนของเสื้อผ้า Multi Luxury Brands ที่สามารถดันยอดขายได้มากขึ้นถึง 100% จึงทำให้ Amass me (อะแมส มี) มีความมั่นใจและต่อยอดความสำเร็จในก้าวต่อไป โดยการเพิ่มไลน์ผลิตในส่วนของ Amass me Street ขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่เพิ่มมากขึ้นของลูกค้า โดยปล่อยแบรนด์ Kapalikko (คาปาลิกโก้) ออกมาปลุกกระแสแฟชั่นสายมู นอกจากนี้ยังเพิ่มในส่วนของมัลติ ลักซ์ชัวรี แบรนด์ ที่นำเข้ามาจาก ดีไซน์เนอร์ดังต่างประเทศ อาทิ แบรนด์ TSMLXLT, แบรนด์ Yedcrew, แบรนด์ Empty Referencer เป็นต้น ซึ่งเป็นแบรนด์สัญชาติอเมริกา

สำหรับยอดขายทางการตลาดของ Amass me street มีการเติบโตขึ้นทุกปี เพราะสินค้าที่บริษัทนำเข้าหรือผลิตจะมีความโดดเด่นในการผสมผสานระหว่าง Street และความ Creativity ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เหตุผลที่ Amass me street นำเข้าแบรนด์ต่างๆ เพื่อเจาะกลุ่ม Target ที่กว้างขึ้น จึงทำให้ แบรนด์ Amass me street เติบโตขึ้นทุกปี จนสินค้าทุกคอลเลกชันกลายเป็นสินค้า rare item ในเวลาต่อมา

“Amass me (อะแมส มี) ยังคงมุ่งมั่นในการเป็น มัลติ ลักซ์ชัวรี แบรนด์ ที่รวบรวมแบรนด์นำเข้าที่มีเอกลักษณ์และสไตล์ที่แตกต่างกันออกไปมานำเสนอลูกค้าในเมืองไทย เปรียบเสมือนตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ให้สำหรับทุกคนที่มีเสื้อผ้าหลากหลายแบบ หลากหลายสไตล์รวมกันอยู่ ให้ทุกคนมาเลือกชม ซึ่งไฮไลท์ในซีซั่นนี้ที่ Amass me (อะแมส มี) นำเสนอ คือแบรนด์ Kapalikko (คาปาลิกโก้) บนคอลเลกชันใหม่ 7 DAYS GOD’S ที่เพิ่งเปิดตัวไป เพียงวันแรกก็สามารถทำยอดขายถล่มทลายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งในออนไลน์ และช้อปหน้าร้านค้าที่มีลูกค้าเข้าคิวยาวเหยียดเพื่อตั้งตารอจับจองคอลเลกชันใหม่ อาจเนื่องจากความเป็นเสื้อผ้า Street ของ kapalikko บนคอลเลกชันใหม่ที่ผสานศาสตร์แห่งความเชื่อเข้ากับโลกแฟชั่นจึงทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย”  ยุฤดี กล่าว

รู้จักแบรนด์ Kapalikko (คาปาลิกโก้) เป็นแบรนด์สัญชาติไทย จาก Amass me (อะแมส มี) ที่ตั้งใจทำแบรนด์ใหม่ให้เป็นดั่งตัวแทนสะท้อนภาพของการเชื่อมโยงโลกแห่งความเชื่อและโลกแฟชั่นเข้าไว้ด้วยกัน โดยที่มาของแบรนด์ Kapalikko (คาปาลิกโก้) นั้นเริ่มต้นมาจากสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่ใช้ชื่อเดียวกันนี้ เป็นสัญลักษณ์ของมหายันต์ที่นำพาซึ่งความโชคดีมาให้กับผู้ครอบครอง โดยสัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์แห่งความเชื่อที่สืบทอดกันมาในแถบยุโรปตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังแผ่ขยายไปยังประเทศต่างๆ จนมีชื่อเรียกขานอย่างเป็นทางการตามแต่ละประเทศไม่ว่าจะเป็น ยันต์ “St John’s Arms” หรือยันต์ “Hannunvaakuna” นอกจากนี้ยันต์ Kapalikko (คาปาลิกโก้) ยังปรากฏอยู่บนปุ่ม Command บนคีย์บอร์ดของ Apple อีกด้วย ซึ่งสัญลักษณ์นี้เป็นเครื่องรางแห่งการเรียกความโชคดี ทั้งยังช่วยเสริมในเรื่องการเงิน ดึงดูดทรัพย์จากทั้ง 4 ทิศ 8 ทาง เสริมเรื่องการงาน เมตตามหานิยม พร้อมป้องกันจากสิ่งที่เป็นอัปมงคลตามความเชื่อ นับได้ว่าเป็นยันต์ที่เปรียบดั่งแม่เหล็กในการดึงดูดสิ่งมงคลเข้าหาผู้ครอบครอง จากกระแสในความเชื่อดังกล่าวทำให้ทาง Amass me (อะแมส มี) หยิบนำยันต์ความเชื่อนี้มาใส่เข้าไปกับความเป็นแฟชั่นเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการกำหนดของราคาอย่างเช่น คอลเลกชันเสื้อผ้าที่ออกมาใหม่ ราคาจะอยู่ที่ราว 3,500 – 6,000 บาท ต่อชุด ซึ่งยังคงเป็นราคาที่ลูกค้าจับต้องได้ พร้อมกับสามารถสวมใส่รู้สึกโชคดีไปในทุกๆ วัน

นางสาวยุฤดี กล่าวต่อว่า ปัจจุบันการเสริมโชคและความเชื่อเกี่ยวกับดวงเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง นอกจากจะทำให้รู้สึกสบายใจในการดำเนินชีวิต ยังเป็นการช่วยเสริมความมั่นใจกับเหตุการณ์ที่จะต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน เช่นเดียวกับในโลกของแฟชั่นที่ไม่ต่างกับการสร้างความมั่นใจด้วยการแต่งตัวด้วยไอเท็มชิ้นที่สวมใส่ เพราะสามารถบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนได้อย่างเด่นชัด ดังนั้นในฤดูกาลนี้ Kapalikko (คาปาลิกโก้) จึงเลือกปล่อยผลงานคอลเลกชัน “7 DAYS GOD’S เสื้อผ้าที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อทุกเพศทุกวัย นำมามิกซ์แอนด์แมตช์เพื่อสร้างสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนผ่านเสื้อผ้าแฟชั่น คอลเลคชัน 7 DAYS GOD’S โดยได้รับแรงบันตาลใจและถ่ายทอดเรื่องราว ทวยเทพ ทั้ง 7 เทพกรีก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ และเป็นเทพประจำวันต่างๆ ทั้ง 7 วัน  ที่จะทำให้คุณโชคดีไปในทุกๆ วัน กับ Kapalikko (คาปาลิกโก้) ได้แก่

วันอาทิตย์ (Sunday) : เทพเฮลิออส (อะพอลโล่) เทพผู้ขับรถเคลื่อนดวงอาทิตย์ผ่านฟากฟ้า เป็นเทพแห่งศิลปะวิทยาการและการดนตรี

วันจันทร์ (Monday) : เทพเซลีนี (อาร์เทมิส) เทพีแห่งดวงจันทร์

วันอังคาร (Tuesday) : เทพแอรีส เทพแห่งสงครามและความแข็งแกร่ง

วันพุธ (Wednesday) : เทพเฮอร์มีส เทพแห่งการสื่อสาร การค้า การแพทย์ วิทยาการลึกลับ

วันพฤหัสบดี (Thursday) : เทพซุส ซึ่งเป็นมหาเทพสูงสุดของโอลิมปัส เป็นเทพแห่งสายฟ้า ปกครองพื้นที่ท้องฟ้าทั้งหมด และยังเป็นบิดาของเทพองค์สำคัญอีกหลายองค์ด้วย

วันศุกร์ (Friday) : เทพอะโฟรไดต์ ซึ่งเป็นตัวแทนของความรักและความงามผู้ถือกำเนิดมาจากฟองคลื่นในมหาสมุทร เป็นตัวแทนของความปรารถนา

วันเสาร์ (Saturday) : เทพโครนัสหรือโครนอส เป็นเทพแห่งกาลเวลาและการชราภาพ อีกทั้งยังเป็นไททันที่เป็นบิดาของโดไซดอน ซุส และฮาเดสอีกด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันสินค้ามัลติ ลักซ์ชัวรี แบรนด์ ภายใต้การจำหน่ายของ Amass me (อะแมส มี) นั้นได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่หลากหลายทั้งในกลุ่มไฮเอนด์ ครอบคลุมถึงกลุ่มลูกค้าแมส คนรุ่นใหม่วัยทำงาน ซึ่งบนความตั้งใจของ Amass me (อะแมส มี) คือการสนับสนุนผลักดันการเปิดตัวตนและไลฟ์สไตล์ผ่านแฟชั่นในชีวิตประจำวัน ให้ทุกคนมีความกล้าในการถ่ายทอดอัตลักษณ์ของตนเอง โดย Amass me (อะแมส มี) จะไม่หยุดคัดสรรแบรนด์ที่มีคุณภาพ มีสไตล์ และมีเอกลักษณ์ เพื่อทำให้ตู้เสื้อผ้าใบนี้เป็นตู้เสื้อผ้าใบโปรดและสามารถตอบโจทย์ลูกค้าทุกคนทั้งไทยและทั่วโลกได้ นอกจากนี้ล่าสุด Amass me (อะแมส มี) มีการเปิดแพลตฟอร์มนำส่งสินค้า Kapalikko (คาปาลิกโก้) ขยายออกไปยังแพลตฟอร์มประเทศจีน ญี่ปุ่น และดูไบ เป็นต้น สำหรับเป้าหมายต่อไปคือ บริษัทต้องการผลักดัน Kapalikko (คาปาลิกโก้) ไปสู่กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่มีความเชื่อร่วมกันในเร็วๆ นี้ด้วยเช่นกัน

ท่านใดที่ชื่นชอบและรักในแฟชั่น พบกันได้ที่ Amass me (อะแมส มี) ซึ่งมีช้อปหน้าร้านเพื่อจำหน่ายสินค้าแล้ว 9 สาขา ได้แก่ เดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ ชั้น 1, เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา ชั้น 1, เซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 1, เซ็นทรัล ชิดลม ชั้น 2 และชั้น 3, เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 1, เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ชั้น 1, เดอะ พรอมานาด ชั้น 1, เทอร์มินอล 21 พระราม 3, ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ชั้น 1 ยุฤดี กล่าวทิ้งท้าย

X

Right Click

No right click