November 08, 2024

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ก.ค. 2565 – 30 ก.ย 2565 จำนวน 4 กองทุน และจ่ายเงินลดทุนจำนวน 1 กองทุน โดยกำหนดจ่ายให้นักลงทุนในวันที่ 19 และ 28 ธันวาคม 2565 นี้

สำหรับกองทุนที่จะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 ธ.ค. 2565 ประกอบด้วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี.ทาวน์เวอร์โกรท (CPTGF) ลงทุนในสิทธิการเช่าในที่ดิน และอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า รวมถึงส่วนควบงานระบบที่จำเป็น เป็นระยะเวลา 30 ปีนับแต่วันที่จดทะเบียนการเช่า ใน 3 ทำเล ได้แก่ อาคาร ซี.พี ทาวเวอร์ 1 (สีลม) อาคารซีพีทาวเวอร์ 2 (ฟอร์จูน ทาวน์) และอาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ 3 (พญาไท) กำหนดจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 35 ในอัตรา 0.1660 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท (TTLPF) เป็นการลงทุนในสิทธิการเช่า สิ่งปลูกสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก (บางส่วน) ในโครงการตลาดไท มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 170,033.54 ตารางเมตร กำหนดจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 48 ในอัตรา 0.4220 บาทต่อหน่วย

กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลครบุรี (KBSPIF) ลงทุนในผลประโยชน์จากการประกอบกิจการไฟฟ้าของบริษัทผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด ในอัตราร้อยละ 62 ของรายได้ค่าไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กำหนดจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 9 ในอัตรา 0.2410 บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGATIF) ลงทุนในรายได้ค่าความพร้อมจ่ายในอนาคตของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 670 เมกะวัตต์ เป็นระยะเวลา 20 ปี โดยกำหนดจ่ายเงินปันผล ครั้งที่ 27 ในอัตรา 0.0850 บาทต่อหน่วย พร้อมทั้งจ่ายเงินลดเงินทุนจดทะเบียน ครั้งที่ 7 ในอัตรา 0.1200 บาทต่อหน่วย

นอกจากนี้ ยังได้กำหนดจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมอีก 1 กองทุน ในวันที่ 28 ธันวาคม 2565 นี้ ได้แก่ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) ที่ลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน อันได้แก่ สิทธิที่จะได้รับรายได้ร้อยละ 45 ของรายได้ค่าผ่านทางรวมสุทธิที่จัดเก็บได้จากเส้นทางในปัจจุบันของโครงการทางพิเศษของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย 2 โครงการ ได้แก่ ทางพิเศษฉลองรัช และรทางพิเศษบูรพาวิถี โดยกำหนดจ่ายปันผลเป็นครั้งที่ 16 ในอัตรา 0.1003 บาทต่อหน่วย

คำเตือน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

KTAM เผยยุทธศาสตร์การลงทุนครึ่งปีหลัง แนะนำการลงทุนในตลาดจีน หลังจากความเสี่ยงลดลงมาก ภาพรวมการส่งออกดีขึ้น ประกอบกับการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐช่วยปลุกเศรษฐกิจ ชู 3 กองทุนเด่น ลงทุนในตลาดหุ้นจีน KT-Ashares, KT-CHINA และ KT-CHINABOND

X

Right Click

No right click