December 05, 2025

 บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดย ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญเพื่อยกระดับการบริการให้ลูกค้าทรูและดีแทคอย่างเป็นทางการ ในการรับมอบใบอนุญาตคลื่นความถี่ใหม่ คือ คลื่น 2300 MHz จำนวน 70 MHz และคลื่น 1500 MHz จำนวน 20 MHz จากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นระยะเวลา 15 ปี

ความสำเร็จนี้ส่งผลให้ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้บริการที่มีชุดคลื่นความถี่ครอบคลุมและครบที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งหมด 8 คลื่นความถี่ ทั้งคลื่นความถี่ต่ำ กลาง และสูง ได้แก่ 700 MHz, 900 MHz, 1500 MHz, 1800 MHz, 2100 MHz, 2300 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz ซึ่งสามารถนำมาบริหารจัดการเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดสู่อนาคต เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งาน 5G และ 4G เหนือระดับให้กับคนไทย   การลงทุนเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ทรู คอร์ปอเรชั่น ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้ใช้งาน และเตรียมพร้อมรับมือกับการเติบโตของเทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AI (ปัญญาประดิษฐ์), IoT (อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง) และเทคโนโลยีดิจิทัลอื่นๆ ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันและการพัฒนาประเทศ

การมอบใบอนุญาตคลื่นอย่างเป็นทางการได้จัดขึ้นที่สำนักงาน กสทช. โดยศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ (กลาง) ประธาน กสทช. เป็นผู้มอบ พร้อมด้วยนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล (ที่ 6 จากซ้าย) รองเลขาธิการ กสทช. และรักษาการเลขาธิการ กสทช. และนายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน (ที่ 7 จากซ้าย) รองเลขาธิการ กสทช.สายงานกิจการโทรคมนาคม โดยมี นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ (ที่ 4 จากซ้าย) หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับมอบใบอนุญาต พร้อมด้วย นายนฤพนธ์ รัตนสมาหาร (ที่ 3 จากซ้าย) หัวหน้าสายงานรัฐกิจสัมพันธ์และกำกับดูแล นางสาวกนกพร คุณชัยเจริญกุล (ที่ 2 จากซ้าย) หัวหน้าสายงานกลยุทธ์กฎระเบียบการกำกับดูแลกิจการ

การเพิ่มคลื่นความถี่ใหม่นี้จะเปิดประสบการณ์ใหม่โดยตรงต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตดิจิทัลของลูกค้าทรูและดีแทคในทุกมิติ ดังนี้ :

· ความเร็วและความเสถียรที่เหนือกว่า: คลื่น 2300 MHz ที่มีความกว้างถึง 70 MHz สามารถนำมาให้บริการ 4G ได้อย่างต่อเนื่องด้วยการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว รวมทั้งสามารถพัฒนาสู่การ

ให้บริการ 5G ต่อไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปโหลดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ทำให้เพิ่มศักยภาพการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือ อาทิ ดูวิดีโอความละเอียดสูง ติดตามข่าวสาร เล่นเกมออนไลน์ ทำการค้าและประชุมออนไลน์ เป็นต้น

· รองรับการใช้งานดาต้าสู่อนาคต: คลื่น 1500 MHz เป็นคลื่นความถี่ใหม่ที่เหมาะสำหรับการพัฒนาเครือข่ายสู่อนาคต สามารถนำมาเพิ่มความจุของเครือข่ายในช่วงดาวน์โหลดร่วมกับคลื่นความถี่ต่ำและคลื่นความถี่กลางแบนด์อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และช่วยขยายเครือข่ายให้สามารถรองรับการใช้งานมือถือในทุกพื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

· ครอบคลุมทั่วถึงทุกพื้นที่: คลื่นความถี่ใหม่ทั้ง 2300 MHz และ 1500 MHz จะถูกนำมาช่วยเสริมศักยภาพให้เครือข่าย 5G และ 4G ของทรูมีความครอบคลุมพื้นที่ใช้งานมากยิ่งขึ้น ทั้งในพื้นที่ชุมชนเมืองที่มีผู้ใช้งานหนาแน่นและพื้นที่ห่างไกลในต่างจังหวัด ทำให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

ทรู คอร์ปอเรชั่น มุ่งมั่นที่จะใช้คลื่นความถี่ทั้งหมดที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสนับสนุนภารกิจการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กรธุรกิจ และส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งและยั่งยืน

29 กรกฎาคม 2568 - ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่นชำระค่าคลื่นความถี่ย่าน 2300 MHz งวดที่ 1 จำนวน 11,646,950,089.88 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และชำระค่าคลื่นความถี่ย่าน 1500 MHz งวดที่ 1 จำนวน 2,489,868,689.88 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมนำส่งหนังสือค้ำประกันการชำระเงินประมูลคลื่นความถี่งวดที่เหลือแก่ สำนักงาน กสทช. ตามเงื่อนไขการดำเนินการก่อนรับใบอนุญาตครอบคลุมระยะเวลาการอนุญาต 15 ปี นับตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2568 โดยมีนายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ (ที่ 2 จากซ้าย) หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร พร้อมด้วย นายนฤพนธ์ รัตนสมาหาร (ที่ 6 จากซ้าย) หัวหน้าสายงานรัฐกิจสัมพันธ์และกำกับดูแล และนางสาวกนกพร คุณชัยเจริญกุล (ซ้ายสุด) หัวหน้าสายงานกลยุทธ์กฎระเบียบการกำกับดูแลกิจการ และ นางสาววีณา จ่างเจริญ (ขวาสุด) ผู้เชี่ยวชาญสายงานกลยุทธ์กฎระเบียบการกำกับดูแลกิจการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนบริษัทฯ ในการชำระค่าคลื่นความถี่ โดยมีนายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน (กลาง) รองเลขาธิการ กสทช.สายงานกิจการโทรคมนาคม พร้อมด้วยนางพุธชาด แมนมนตรี (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้อำนวยการสำนัก สำนักการอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม 1 (ปท.1) และนายประถมพงศ์ ศรีนวล (ที่ 5 จากซ้าย) ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและการจัดการทรัพยากรโทรคมนาคม สำนักงาน กสทช. ร่วมรับมอบ ณ สำนักงาน กสทช.

จากการประมูลครั้งนี้ ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล ชนะการประมูลใบอนุญาตคลื่น 2300 MHz จำนวน 70 MHz ด้วยราคา 21,770,000,168 บาท และคลื่น 1500 MHz จำนวน 20 MHz ด้วยราคา 4,653,960,168 บาท ทำให้ ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล เป็นผู้ให้บริการที่มีชุดคลื่นความถี่ครอบคลุมและครบที่สุดในไทย รวม 8 คลื่นความถี่ ทั้งคลื่นความถี่ต่ำ-กลาง-สูง คือ คลื่น 700 MHz, 900 MHz, 1500 MHz, 1800 MHz, 2100 MHz, 2300 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz เพื่อการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยและยกระดับประสบการณ์การใช้บริการดิจิทัลของผู้ใช้งานในประเทศไทย

การลงทุนเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการจัดการคลื่นความถี่ที่มุ่งรองรับการเติบโตของเทคโนโลยี 5G, AI และ IoT คลื่น 2300 MHz สามารถให้บริการได้ทั้ง 5G และ 4G โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้ว เพื่อส่งมอบความเร็ว ความครอบคลุม และประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม สำหรับคลื่น 1500 MHz เป็นคลื่นใหม่ที่เหมาะสำหรับการพัฒนาเครือข่ายสู่อนาคต สามารถเพิ่มความจุของเครือข่ายและความครอบคลุมในช่วงดาวน์โหลด รองรับการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นทั้งในพื้นที่หนาแน่นและนอกเมือง

ทั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำคลื่นความถี่ที่ได้จากการประมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งการขยายพื้นที่ให้บริการ เพิ่มประสิทธิภาพความเร็วและความเสถียรของเครือข่าย ตลอดจนการเสริมศักยภาพในการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งาน รองรับภารกิจการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลขององค์กรธุรกิจ และส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในระยะยาว

29 มิถุนายน 2568 - ทรู มูฟ เอช ประกาศคว้าชัยการประมูลคลื่นความถี่ครั้งล่าสุด จากผลการประมูลอย่างไม่เป็นทางการ ทรูสามารถประมูลใบอนุญาตคลื่น 2300 MHz จำนวน 70 MHz และ 1500 MHz จำนวน 20 MHz ทำให้ทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้ให้บริการที่มีชุดคลื่นความถี่ (Spectrum Portfolio) ครอบคลุมและครบมากที่สุดในไทย รวม 8 คลื่นความถี่ ทั้งคลื่นความถี่ต่ำ-กลาง-สูง ที่จะสามารถนำมาต่อยอดจากการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย (Network Modernization) เพื่อประสบการณ์การใช้บริการดิจิทัลของผู้ใช้งานในไทย

นายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ผลการประมูลคลื่นความถี่ครั้งนี้เป็นไปตามความสำคัญของการลงทุนเชิงกลยุทธ์ และเป้าหมายการจัดการคลื่นความถี่ที่มุ่งรองรับการเติบโตของเทคโนโลยี 5G, AI IoT และเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อคุณภาพชีวิตของคนไทย ยกระดับคุณภาพโครงข่ายเพื่อให้บริการลูกค้าทั่วประเทศให้ได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด รองรับภารกิจการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital transformation) ขององค์กรธุรกิจ และส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในระยะยาว”

คลื่น 2300 MHz ที่ทรู มูฟ เอช ชนะการประมูลจำนวน 70 MHz ด้วย ราคา 21,770,000,168 บาท จะนำมาให้บริการได้ทั้ง 5G และ 4G โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์ที่ทรูมีอยู่แล้ว เพื่อส่งมอบความเร็ว ความครอบคลุม และประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม พร้อมทั้งสามารถรวมกับคลื่นย่านอื่นเพื่อให้บริการที่เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถนำมาเพิ่มศักยภาพ 5G ของคลื่น 2600 MHz ให้เป็น 5G เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับคลื่น 1500 MHz จำนวน 20 MHz ของทรู มูฟ เอช ประมูล ด้วยราคา 4,653,960,168 ล้านบาท เป็นคลื่นใหม่ที่เหมาะสำหรับการพัฒนาเครือข่ายสู่อนาคต มีจุดเด่นในการเสริมประสิทธิภาพเทคโนโลยี 5G และต่อยอดการใช้งาน 4G สามารถนำมาใช้งานเพื่อเพิ่มความจุของเครือข่ายและเพิ่มความครอบคลุมในช่วงดาวน์โหลด รองรับการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นทั้งในพื้นที่หนาแน่นและนอกเมือง โดยสามารถนำคลื่น 1500 MHz รวมกับคลื่นอื่น หรือ เทคโนโลยี Carrier Aggregation ส่งผลให้ผู้ใช้งานได้รับอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้นแม้อยู่ในพื้นที่แออัด มีสัญญาณเสถียรและลดปัญหาเน็ตช้าในช่วงเวลาพีค

8 คลื่นความถี่ของทรู คอร์ปอเรชั่น “ไม่หยุด…เพื่อสัญญาณความสุขให้ทุกคน”

· คลื่นความถี่ต่ำ (Low-band): 700 MHz : 2x20 MHz, 900 MHz : 2x15 MHz

· คลื่นความถี่กลาง (Mid-band): 1500 MHz : 20 MHz, 1800 MHz : 2x20 MHz, 2100 MHz : 2x30 MHz, 2300 MHz : 70 MHz, 2600 MHz : 90 MHz

· คลื่นความถี่สูง (High-band): 26 GHz : 1000 MHz

นอกจากนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ชูแนวคิด "ไม่หยุด…เพื่อสัญญาณความสุขให้ทุกคน" หรือ "TOGETHER WE ARE UNSTOPPABLE" สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเพื่อลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ที่มุ่งสร้างประสบการณ์เชื่อมต่อดิจิทัลที่ไร้ขีดจำกัด รวมถึงการเป็นผู้ให้บริการที่มีชุดคลื่นความถี่ครบทุกย่าน 8 คลื่น ตั้งแต่คลื่นต่ำ-กลาง-สูง (Low-band, Mid-band, High-band) เป็นพลังสำคัญที่ทำให้ทรูสามารถมอบ "สัญญาณความสุข" ผ่านการบริการที่รวดเร็ว และครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้สามารถให้บริการที่หลากหลายทั้ง 5G, 4G พร้อมรองรับ IoT และ AI ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด

ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่นชำระค่าคลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz งวดที่ 2 จำนวน 2,868,598,666.52 บาท และ ค่าคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz (ช่วง 905-915 MHz คู่กับ 950-960 MHz) งวดสุดท้าย จำนวน 8,163,886,000 บาท พร้อมนำส่งหนังสือค้ำประกันการชำระเงินประมูลคลื่นความถี่ที่เหลือแก่สำนักงาน กสทช. โดยมีนายนฤพนธ์ รัตนสมาหาร (ที่ 3 จากซ้าย) หัวหน้าสายงานรัฐกิจสัมพันธ์และกำกับดูแล และนางสาวกนกพร คุณชัยเจริญกุล (ที่ 2 จากซ้าย) หัวหน้าสายงานกลยุทธ์กฎระเบียบการกำกับดูแลกิจการ และ นางสาววีณา จ่างเจริญ (ซ้ายสุด) ผู้เชี่ยวชาญสายงานกลยุทธ์กฎระเบียบการกำกับดูแลกิจการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนบริษัทฯ ในการชำระค่าคลื่นความถี่ โดยมีนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล (ที่ 4 จากซ้าย) รองเลขาธิการ กสทช. และรักษาการเลขาธิการ กสทช. พร้อมด้วยนายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน (ที่ 5 จากซ้าย) รองเลขาธิการ กสทช.สายงานกิจการโทรคมนาคม และนายวีรพนธ์ ศรีนวล (ขวาสุด) ผู้อำนวยการส่วนจัดให้มีบริการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์ทางสังคม ร่วมรับมอบ ณ สำนักงาน กสทช.

ทั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำคลื่นความถี่ที่ได้จากการประมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งการขยายพื้นที่ให้บริการ เพิ่มประสิทธิภาพความเร็วและความเสถียรของเครือข่าย ตลอดจนการเสริมศักยภาพในการรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น 5G, IoT และ AI เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งาน และยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้ทัดเทียมมาตรฐานระดับโลก

สำหรับคลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz และ 900 MHz เป็นคลื่นสำคัญในการพัฒนาเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยรองรับการใช้งานดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนมือถือ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต รวมถึงนำไปใช้เชื่อมต่อโซลูชันอัจฉริยะในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และบริการภาครัฐ ทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย

8 มกราคม 2568 – บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ผู้ได้รับจัดสรรคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 700 MHz ช่วงความถี่ 713-723 MHz คู่กับ 768-778 MHz (เดิมเป็นของบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด) ได้ดำเนินการชำระค่าใบอนุญาตคลื่น 700 MHz งวดที่ 5 เป็นจำนวนเงิน 1,881,488,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมยื่นหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินสำหรับการชำระเงินค่าคลื่นความถี่ในส่วนที่เหลือ ให้แก่สำนักงาน กสทช. ตามเงื่อนไขที่กำหนด เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 โดยมีนายนฤพนธ์ รัตนสมาหาร (ที่ 3 จากซ้าย) หัวหน้าสายงานรัฐกิจสัมพันธ์และกำกับดูแล และนางสาววีณา จ่างเจริญ (ขวาสุด) ผู้เชี่ยวชาญสายงานกลยุทธ์กฎระเบียบการกำกับดูแลกิจการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนบริษัทฯ ในการชำระค่าคลื่นความถี่ โดยมีนายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน (ที่ 2 จากซ้าย) รองเลขาธิการ กสทช.สายงานกิจการโทรคมนาคม เป็นผู้รับมอบ พร้อมด้วยนางพุธชาด แมนมนตรี (ซ้ายสุด) ผู้อำนวยการสำนัก สำนักการอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม 1 (ปท.1) ณ สำนักงาน กสทช.

ทรู คอร์ปอเรชั่น มุ่งพัฒนาบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ครอบคลุมทุกย่านคลื่นความถี่ ทั้งคลื่นความถี่ต่ำ กลาง และสูง โดยได้นำคลื่น 700 MHz ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ต่ำมาพัฒนาการให้บริการและขยายโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สัญญาณครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมนำอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสู่ผู้ใช้บริการทุกคน เพื่อมอบประสบการณ์การใช้เทคโนโลยี 5G และ 4G ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลให้ลูกค้าทั้งทรูและดีแทคได้ใช้บริการที่มีคุณภาพยิ่งขึ้นจากการพัฒนาโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง

X

Right Click

No right click