งานเทคโนโลยีชั้นนำในยุโรป ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีจากทั่วโลกมากกว่า 14,000 คนเข้าร่วมงาน ซิสโก้ (NASDAQ: CSCO) ได้ประกาศความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

มีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเพียงไม่กี่อย่างที่ก่อให้เกิดความสนใจอย่างกว้างขวางแบบ AI รวมไปถึงเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Generative AI (GenAI) องค์กรต่างๆ ทั่วโลกกำลังค้นหาวิธีการใหม่ๆ ที่น่าสนใจเพื่อรองรับการทำงานร่วมกัน จัดการแอปพลิเคชั่นต่างๆ ปรับปรุงความปลอดภัยด้านดิจิทัล และพลิกโฉมประสบการณ์ของลูกค้า อย่างไรก็ตาม แต่ละแง่มุมเหล่านี้ก่อให้เกิดความกังวลใจมากขึ้นเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายและการเข้าถึงข้อมูล ความถูกต้องแม่นยำ ความเป็นส่วนตัว และการใช้ AI อย่างมีจริยธรรมและมีความรับผิดชอบ

เป็นที่คาดการณ์ว่า GenAI จะช่วยเพิ่มจีดีพีทั่วโลกได้ราว 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความท้าทายมากมายที่จะทำให้บริษัทต่างๆ ไปถึงจุดนั้นได้ รายงาน Cisco AI Readiness Index ฉบับล่าสุด ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารฝ่ายธุรกิจและฝ่ายไอทีในภาคเอกชนมากกว่า 8,000 คนใน 30 ประเทศ พบว่า 95 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามมีกลยุทธ์ด้าน AI อยู่แล้วหรืออยู่ระหว่างการพัฒนา แต่มีเพียง 14 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มีความพร้อมที่จะบูรณาการ AI เข้ากับธุรกิจของตน

“โอกาสในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าจะไม่มีมากไปกว่านี้อีกแล้ว ในโลกที่ไม่อาจคาดเดาได้ เทคโนโลยีถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาท้าทายต่างๆ ที่เราอาจเผชิญ เทคโนโลยี AI ทำให้เรามองเห็นความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุด รวมถึงอนาคตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างสรรค์มากขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ที่ซิสโก้ เรารู้สึกตื่นเต้นกับบทบาทการทำงานของเรา เรามีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการขับเคลื่อน AI รวมไปถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ระบบการตรวจสอบและเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด และความเชี่ยวชาญที่จะช่วยให้ลูกค้าของเราได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการ ในรูปแบบที่ไม่มีใครสามารถทำได้” — โอลิเวอร์ ทัสซิก รองประธานอาวุโสและประธานประจำภาคพื้นยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาของซิสโก้

 

ปัจจุบัน ซิสโก้นำเสนอฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ และการบริการลูกค้า และเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสำหรับโครงสร้างพื้นฐานแบบ AI-ready ที่งาน Cisco Live Amsterdam ซิสโก้ได้ประกาศกลยุทธ์ในการปรับใช้และบูรณาการ AI ที่จะเป็นประโยชน์แก่ลูกค้าดังนี้:

· ซิสโก้และเอ็นวิเดีย (NVIDIA) ช่วยให้องค์กรต่างๆ ปรับใช้และจัดการโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ปลอดภัยได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย บริษัททั้งสองได้ประกาศแผนการส่งมอบโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐาน AI สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งสามารถติดตั้งใช้งานและจัดการได้อย่างง่ายดาย รองรับพลังประมวลผลจำนวนมหาศาลที่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ ประสบความสำเร็จในยุค AI

· Cisco Identity Intelligence ป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใน Cisco Security Cloud มีการนำเสนอนวัตกรรม AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วย AI แบบ cross-domain ที่ครบวงจรนวัตกรรมที่ว่านี้ได้แก่ ระบบวิเคราะห์แบบใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับ Cisco Identity Intelligence รวมไปถึง Cisco AI Assistant for Security ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด เพิ่มขีดความสามารถของเครื่องมือ และปรับเปลี่ยนการทำงานที่ซับซ้อนให้เป็นแบบอัตโนมัติ

· ซิสโก้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่บน Cisco Observability Platform เพื่อเสริมศักยภาพให้แก่ลูกค้าด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความสามารถในการตรวจสอบ ข้อมูลเชิงลึก และการดำเนินการที่ดีขึ้น ตอนนี้ Cisco Observability Platform นำเสนออินเทอร์เฟซภาษาธรรมชาติเพื่อเพิ่มความสะดวกในการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ แอปพลิเคชั่นใหม่ Cisco AIOps ยังช่วยลดความยุ่งยากในการตรวจสอบสถานะทางธุรกิจแบบเรียลไทม์ ช่วยปรับเปลี่ยนกระบวนการด้านไอทีให้เป็นแบบอัตโนมัติ และช่วยให้ทีมงานฝ่ายปฏิบัติการสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองได้อย่างฉับไว

· ซิสโก้เผยโฉมผลิตภัณฑ์ SaaS ตัวแรกที่รองรับการปรับใช้ GenAI ที่น่าเชื่อถือภายในองค์กร Motific ซึ่งเปิดตัวในวันนี้ ให้มุมมองจากส่วนกลางที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนการใช้งาน GenAI เพิ่มขีดความสามารถของทีมงานฝ่ายไอทีและฝ่ายรักษาความปลอดภัยส่วนกลาง เพื่อส่งมอบความสามารถด้าน GenAI ที่น่าเชื่อถืออย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทั่วทั้งองค์กรด้วยการควบคุมด้านค่าใช้จ่าย ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน และความปลอดภัย

· ซิสโก้ช่วยให้ลูกค้าปรับใช้ AI ได้เร็วยิ่งขึ้น ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งาน ซิสโก้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจพัฒนาและปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับ AI รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ Cisco X-Series Direct ซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับสภาพแวดล้อมที่ลูกค้าต้องการการเชื่อมต่อและพลังประมวลผลที่ส่วนขอบของเครือข่าย (Edge) เพื่อรองรับแอปพลิเคชั่นที่เพิ่มมากขึ้นโดยใช้โครงสร้างพื้นฐานน้อยลง และยังมีบริการเพิ่มเติมในส่วนของการออกแบบระบบ Converged และ Hyperconverged ที่ผ่านการรับรอง ซึ่งพัฒนาต่อยอดจาก Cisco Validated Solutions ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ รวมถึงพิมพ์เขียว AI/ML สำหรับเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์

· Webex by Cisco ประกาศความพร้อมใช้งานของฟีเจอร์ AI ตามที่คาดการณ์ไว้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Webex by Cisco ในการนำเสนอความสามารถที่แข็งแกร่งเพื่อให้แก่บุคลากรทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยซิสโก้ได้ประกาศความพร้อมใช้งานทั่วไป รวมถึงการทดลองใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ของ Cisco AI Assistant บน Webex Suite และ Contact Center เช่น ฟีเจอร์การประชุมและสรุป Vidcast เปลี่ยนโทนเสียงข้อความ การแปลข้อความ การตรวจจับความเหนื่อยล้าของเจ้าหน้าที่ และสรุปการสนทนา

เคทีซีตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีบัตรเครดิต เปิดตัว “บัตรเครดิตเคทีซี ดิจิทัล” ครั้งแรกในไทยกับนวัตกรรมความปลอดภัยขั้นกว่าทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์ เอาใจสมาชิกสายออนไลน์ด้วยฟีเจอร์ Digital First และ Dynamic CVV เปิดให้สมาชิกเลือกรับบัตรพลาสติกใสไม่มีหมายเลขบนหน้าบัตรและแถบแม่เหล็ก ไร้กังวลจากการถูกโจรกรรมข้อมูลสำคัญ พร้อมพัฒนาช่องทางสมัครบัตรฯ ด้วยตัวเองผ่านแอป KTC Mobile และช่องทางออนไลน์ มั่นใจสิ้นปีมีจำนวนสมาชิกถือบัตรเครดิตเคทีซี ดิจิทัลไม่ต่ำกว่า 100,000 ใบ นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการศึกษาพฤติกรรมสมาชิกพบว่ามีการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์สูงขึ้นทุกปีและคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีสัดส่วนจำนวนรายการใช้จ่ายออนไลน์ทั้งสิ้นประมาณ 55% ของยอดรายการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ทั้งพอร์ต และสิ่งที่เป็นกังวลที่สุดของสมาชิกคือเรื่องความปลอดภัยในการใช้บัตรฯ ที่สมาชิกต้องกรอกข้อมูลสำคัญบนหน้าบัตรฯ ให้กับร้านค้าออนไลน์ หรือเมื่อต้องยื่นบัตรฯ ให้กับร้านค้ากรณีชำระค่าสินค้าและบริการ เพื่อให้สมาชิกผู้ถือบัตรฯ รู้สึกปลอดภัยเมื่อมีการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เคทีซีจึงได้เปิดตัว “บัตรเครดิตเคทีซี ดิจิทัล” (KTC DIGITAL CREDIT CARD) นวัตกรรมของความปลอดภัยขั้นกว่าครั้งแรกในประเทศไทยด้วย 3 จุดเด่น ดังนี้

1) Digital First สมาชิกสามารถใช้จ่ายได้ทันทีหลังได้รับการอนุมัติกับการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงการสแกนจ่ายด้วย QR Pay และผูกบัตรฯ กับระบบชำระเงินบนอุปกรณ์ต่างๆ เช่น กูเกิล เพย์ (Google Pay) หรือสวอทช์ เพย์ (Swatch Pay) เป็นต้น

2) Dynamic CVV ตัวเลขหลังบัตรฯ ที่เป็นรหัสความปลอดภัย จะเปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่มีการร้องขอ และสามารถใช้งานได้ภายใน 24 ชั่วโมงต่อการขอ 1 ครั้ง (ไม่จำกัดจำนวนการขอ) เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกเมื่อใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์หรือผูกบัตรฯ ที่ร้านค้าออนไลน์ ด้วยเลขหลังบัตร (CVV) เพื่อยืนยันการชำระค่าสินค้าหรือบริการ

3) Numberless Card บัตรพลาสติกใสโปร่งแสง ไม่มีหมายเลขบนหน้าบัตร และไร้แถบแม่เหล็ก เพื่อเสริมความปลอดภัยเมื่อสมาชิกใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ที่ร้านค้าทั่วไป โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกขโมยข้อมูลส่วนตัวบนหน้าบัตรฯ ขณะที่นางสาวสุชชวี บรรจบดี ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดดิจิทัล “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดตัว “บัตรเครดิตเคทีซี ดิจิทัล” ในครั้งนี้ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับสมาชิก ด้วยจุดเด่นความเป็น Digital First จึงสามารถตอบโจทย์สมาชิกที่นิยมใช้จ่ายออนไลน์ด้วยความปลอดภัยขั้นสุด แต่หากสมาชิกต้องการบัตรพลาสติกก็สามารถแสดงความประสงค์ขอรับบัตรฯ ผ่านแอป KTC Mobile ได้ด้วยตนเอง ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่โหลดแอป KTC Mobile ทั้งสิ้น ประมาณ 2.2 ล้านราย คิดเป็น 88% ของจำนวนสมาชิกทั้งพอร์ต โดยแอป KTC Mobile จัดเป็นช่องทางที่สมาชิกเข้ามาใช้บริการอย่างสม่ำเสมอ สะท้อนพฤติกรรมของสมาชิกที่มีความคุ้นชินกับดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ดังนั้นแอป KTC Mobile จึงถูกออกแบบให้เป็นช่องทางในการขอเพิ่ม “บัตรเครดิตเคทีซี ดิจิทัล” สำหรับสมาชิกปัจจุบัน เพียงกดปุ่มสมัครบัตรฯ และเมื่อได้รับการอนุมัติ ก็สามารถใช้จ่ายทางออนไลน์ได้ทันที

ด้านนางสาวสิริกัลยา สุธัญญพฤทธิ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายบริหารช่องทางขายออนไลน์ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เคทีซีมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการตอบสนองประสบการณ์ของสมาชิก (Customer Experience) เป็นหลัก สำหรับกลยุทธ์การรับสมัครสมาชิก “บัตรเครดิตเคทีซี ดิจิทัล” ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือ คนรุ่นใหม่ที่คุ้นชินกับการทำธุรกรรมดิจิทัลด้วยตนเอง เคทีซีจึงได้พัฒนาช่องทาง Electronic Application บุคคลที่สนใจสามารถยื่นเอกสารสมัครบัตรฯ ด้วยตัวเองทางออนไลน์ ผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยสามารถดำเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ทุกที่ทุกเวลา ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของมนุษย์เงินเดือน หรือคนทำงานรุ่นใหม่ที่มีเวลาน้อย สามารถเลือกที่จะดำเนินการทุกอย่างด้วยตนเอง อีกทั้งยังเสริมความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะเอกสารที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนตัว สามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ของเคทีซีหรือที่ KTC LINE Official account (@ktc_card) ขั้นตอนการสมัครบัตรฯ ง่ายและกระชับ ลดระยะเวลาการส่งเอกสาร เพียงกรอกข้อมูลและโหลดเอกสารครบถ้วน ฝ่ายอนุมัติก็พร้อมที่จะพิจารณาใบสมัครทันทีและจะส่งผลการพิจารณาผ่าน SMS ตามเบอร์ที่ได้แจ้งไว้ หรือสามารถเข้ามาตรวจสอบผลด้วยตนเองผ่านช่องทางที่ได้สมัครไว้

สำหรับการเปิดตัวในครั้งนี้ สมาชิกสามารถเลือกสมัคร “บัตรเครดิต เคทีซี ดิจิทัล แพลทินัม วีซ่า” (KTC DIGITAL PLATINUM VISA) หรือ “บัตรเครดิตเคทีซี ดิจิทัล แพลทินัม มาสเตอร์การ์ด” (KTC DIGITAL PLATINUM MASTERCARD) ได้ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2567 เป็นต้นไป โดยเคทีซีมั่นใจว่า

เทคโนโลยีและความปลอดภัยขั้นกว่าของบัตรเครดิตดังกล่าวจะแก้ปัญหาด้านความกังวลต่างๆ ให้กับสมาชิก และส่งผลให้มีจำนวนผู้ถือ “บัตรเครดิตเคทีซี ดิจิทัล” รวม 100,000 ใบภายในสิ้นปีนี้

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE 02 123 5000 หรือติดตาม โปรโมชันของเคทีซีได้ที่ https://www.ktc.co.th

มุ่งเป้ายกระดับทักษะบุคลากรเอไอเอส ให้เติมศักยภาพ พร้อมก้าวสู่ Cognitive Tech-Co

X

Right Click

No right click